เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 12, 2024, 09:30:44 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มีข่าวลือว่าไทยสั่งF18เข้ามา  (อ่าน 18900 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #30 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 08:46:25 AM »

ขออนุญาติถามต่อหน่อย ครับ เรือดำน้ำในไทยมีไหมครับ Huh

เคยมี 4 ลำ  สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการศึกษาความคุ้มค่า   เพราะการใช้เรือดำน้ำ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
บันทึกการเข้า
pong1
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

กระทู้: 131



« ตอบ #31 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 08:47:51 AM »

รอยึดทรัพย์คนที่อยู่อังกฤษก่อน เพราะราคาลำละ 2,000ล้าน ถ้ายึดได้ 70,000ล้าน
ซื้อได้สบายเลยครับ

อย่าดีกว่าม้ายงั้นเราก้อไม่ต่างจากโจรชั่ว..ที่ชอบไปจี้ปล้นเงินเขาหาเอาดัวยปัญญาดีกว่า
บันทึกการเข้า
C.J. - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 314
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5383


ขอ...นัดเดียว


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 09:41:35 AM »

F-18 ที่เราจะซื้อคงสั่งพร้อมๆ กับขอมาเล.. แต่เราฟองสบู่แตก เลยอด...

เรือดำน้ำ สำหรับ ไทย ผมว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก อ่าวไทย ลึกสุด ประมาณ 100 เมตร เฉลี่ยอยู่ที่ ~ 75 เมตร เอาเรือดำน้ำเขามาผมว่าคงถูกตรวจจับและจมได้ง่าย...

สำหรับ ฝั่งอันดามัน.. คงพอเป็นประโยชน์ แต่ทะเลลึก.. ก็อยู่ไกลฝั่งออกไปค่อนข้างมาก...

ซื้อเครื่องบิน สำหรับ ปราบเรือดำน้ำ ทิ้งบอม ได้ด้วย ผมว่าคุ้มกว่า...

ผมอยากให้บ้านเรา เสริมแสนยานุภาพ ทาง ขีปนาวุธ มากกว่า... แต่การติดตั้ง ขีปนาวุธ คงยากกว่าซื้อเครื่องบินเยอะ..

ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นสวนตัว.. ไม่มีข้อมูลอ้างอิงใดๆ Grin

บันทึกการเข้า

ธรรมของสัตบุรุษ

๑. ธัมมัญญุตา - รู้จักเหตุ ๒. อัตตัญญุตา - รู้จักผล ๓. อัตตัญญุตา - รู้จักตน ๔. มัตตัญญุตา - รู้ประมาณ ๕. กาลัญญุตา - รู้จักกาล ๖. ปริสัญญญุตา - รู้จักประชุมชน ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา - รู้จักเลือกบุคคล

http://www.dopaservice.com/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&gro
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 09:53:40 AM »

รอยึดทรัพย์คนที่อยู่อังกฤษก่อน เพราะราคาลำละ 2,000ล้าน ถ้ายึดได้ 70,000ล้าน
ซื้อได้สบายเลยครับ

อย่าดีกว่าม้ายงั้นเราก้อไม่ต่างจากโจรชั่ว..ที่ชอบไปจี้ปล้นเงินเขาหาเอาดัวยปัญญาดีกว่า

มาแล้วพวกบัวพิทักษ์นาย  หากมีปัญญาก็คิดออก
จากคนทีเกือบล้มละลายแล้วมีเงินเป็นแสนล้าน เงินที่ได้มานั้นเพราะ
เขาโกงจากภาษีเรา และทำธุรกิจผูกขาดเพราะอำนาจตน
หรือจะให้พวกทรราชใช้เงินจ่ายลิ่วล้อ ทำลายชาติล้มสถาบัน
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
กาสะลอง
Hero Member
*****

คะแนน 255
ออฟไลน์

กระทู้: 4752


ย่อง


« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 10:03:15 AM »

Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 10:21:40 AM »

แล้ว JAS39 นี่จะมาถึงเมื่อใหร่ครับ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
nick
Hero Member
*****

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 1587


« ตอบ #36 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 10:57:55 AM »

Eurofighter ก็ขายเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีส่วนร่วมพัฒนาเท่านั้น


ไม่จริงครับ ซาอุดิอารเบีย สั่งซื้อ Eurofighter 72 ลำ ตอนนี้รอส่งมอบ

Saudi Arabia has confirmed it is to buy 72 Eurofighter Typhoon aircraft, in a deal that could end up being worth more than £6bn.



http://news.bbc.co.uk/1/hi/business/5262120.stm

ขอนำมาทดลองประสิทธิภาพสักฝูงกับเขมรก่อน  แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ  Grin  Grin
บันทึกการเข้า
C.J. - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 314
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5383


ขอ...นัดเดียว


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 11:00:14 AM »

แล้ว JAS39 นี่จะมาถึงเมื่อใหร่ครับ

 Grin
http://www.rtaf.mi.th/news/n07/gripen/rtaf_whitebook_f5_replacement.pdf

http://www.flightglobal.com/articles/2008/02/15/221552/thailand-signs-contract-for-six-saab-gripen-fighters.html
บันทึกการเข้า

ธรรมของสัตบุรุษ

๑. ธัมมัญญุตา - รู้จักเหตุ ๒. อัตตัญญุตา - รู้จักผล ๓. อัตตัญญุตา - รู้จักตน ๔. มัตตัญญุตา - รู้ประมาณ ๕. กาลัญญุตา - รู้จักกาล ๖. ปริสัญญญุตา - รู้จักประชุมชน ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา - รู้จักเลือกบุคคล

http://www.dopaservice.com/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&gro
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #38 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 11:11:56 AM »

ผู้การสุพินท์ครับ ผมอยากได้ข้อมูลเรือดำน้ำ 4 ลำที่เราเคยใช้ตอนสงครามโลกครับ

มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ปัจจุบันอายุ 84 ปี เป็น ขรก.บำนาญ ท่านเล่าให้ผมฟังเมื่อประมาณ 25-27 ปีก่อนว่า

ตอนนั้น เรามีเรือดำน้ำ 4 ลำ ชื่อ รล.มัจฉานุ รล.สินสมุทร และอีก 2 ลำผมจำชื่อไม่ได้ ท่านว่าตอนนั้นท่านกำลังเรียน "ยุวชนนายทหารอยู่"  น่าจะเทียบได้กับ รด.ปี 4-5 ในปัจจุบัน โดยวิชาสามัญท่านกำลังเรียนที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย โดยมีคุณพระเจริญวิศวกรรมเป็นคณบดี

ท่านบอกว่า เวลาเรือดำน้ำของเราจะดำน้ำต้องหยุดเรือก่อน ดูดน้ำเข้าให้มันจม แล้วจึงวิ่งต่อ ไม่สามารถวิ่งไปดำไปได้ แม้เป็นอดีตกว่า 65  ปีแล้ว  ก็น่าศึกษาไว้ครับ
บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #39 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 11:48:59 AM »


เซฟเลย ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
cups
ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 532


ความสวยเราสร้างได้


« ตอบ #40 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 12:05:38 PM »

จะซื้อF18ของ Hazagawa หรือ Acadamy และมาตราส่วน 1:72 หรือ 1:48 ผมว่า F18 Hazagawa เนื้อพลาสติกและรายละเอียดดีกว่านะครับ แล้วจะซื้อกี่ลำครับ
บันทึกการเข้า
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #41 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 01:50:24 PM »

จากเวปไซต์ กองทัพเรือครับ

http://www.navy.mi.th/navalmuseum/002_history/html/his_od_submarine_thai.htm


เรือดำน้ำของไทยในอดีต 
 
     
   ประวัติเรือดำน้ำในกองทัพเรือไทย
 
 
กองทัพเรือได้มีแนวความคิดที่จะปรับปรุงและสร้างกำลังรบทางเรือให้เข้มแข็ง และทันสมัยขึ้น ในระยะแรกนั้น เรือดำน้ำเป็นกำลังรบที่ใหม่ ทรงอานุภาพทางทะเลมากที่สุด เพราะสามารถกำบังตัว หรือหลบหนีด้วยการดำน้ำ สามารถเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ซึ่งเรือผิวน้ำไม่สามารถเข้าไปได้ และมีอาวุธตอร์ปิโดอันเป็นอาวุธสำคัญที่เป็นอันตรายแก่เรือผิวน้ำมากที่สุด ไม่มีเครื่องมือค้นหา และอาวุธปราบเรือดำน้ำที่จะทำอันตรายแก่เรือดำน้ำได้ ดังเช่นปัจจุบันนี้ จึงนับได้ว่าเรือดำน้ำ เป็นกำลังสำคัญในการป้องกันประเทศทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง เรือดำน้ำได้อยู่ในแนวความคิดของกองทัพเรือไทยมาตั้งแต่ พ.ศ.2453 แล้ว ดังจะเห็นได้จากโครงการจัดสร้างกำลังทางเรือ
 
 
โครงการจัดสร้างกำลังทางเรือ พ.ศ.2453
 
 
โครงการจัดสร้างกำลังทางเรือนี้มีคณะกรรมการอันประกอบด้วย นายพลเรือตรี พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ (ต่อมาเป็น นายพลเรือเอก กรมหลวงฯ) นายพลเรือตรี พระยาราชวังสวรรค์ (ฉ่าง แสง-ชูโต ต่อมาเป็นนายพลเรือเอก พระยามหาโยธา) และนายพลเรือตรี พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร (ต่อมาได้เป็นนายพลเรือเอก กรมหลวงฯ) ได้จัดทำขึ้นถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต (ต่อมาเป็น จอมพลเรือ สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระฯ) เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ และเสนาบดีฯ ทรงนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 18 มกราคม ร.ศ.129 (พ.ศ. 2453) โครงการนี้ได้กำหนดให้มี “เรือ ส.(1) จำนวน 6 ลำ” ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้อธิบายไว้ว่า “เรือ ส. คือเรือดำน้ำสำหรับลอบทำลายเรือใหญ่ข้าศึก….. แต่ยังกล่าวให้ชัดไม่ได้เพราะยังไม่เคยลงแลลอง แต่ที่พูดถึงด้วยนี้โดยเห็นว่าต่อไปภายหน้าการศึกษาสงครามจะต้องใช้เป็นมั่นคง แต่ไม่ใช่เดี๋ยวนี้” เวลานั้นเรือดำน้ำเป็นอาวุธที่นาวีของมหาอำนาจในยุโรปกำลังพัฒนาและทดลองใช้อยู่
 
 
 
 
ต่อมาใน พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ออกจากประจำการ และต้องจ้าง นายนาวาเอก ชไนด์เลอร์ (J.Schneidler) นายทหารเรือชาติสวีเดนเข้ามาเป็นที่ปรึกษาการทหารเรือ ในวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455 นายนาวาเอก ชไนด์เลอร์ ได้เสนอโครงการจัดสร้างกำลังทางเรือสำหรับป้องกันประเทศ และได้กล่าวถึง “เรือดำน้ำ” ว่า “เป็นเรือที่ดีมากสำหรับป้องกันกรุงเทพฯ แต่จะผ่านเข้าออกสันดอนลำบาก ถ้าเก็บไว้ในแม่น้ำก็ไม่คุ้มค้า” และได้เสนอไว้ในโครงการให้มีเรือดำน้ำ 8 ลำ สำหรับประจำอยู่กับกองทัพเรือที่จันทบุรี
 
ทหารเรือไทยและคนไทยได้มีโอกาสเห็นเรือดำน้ำจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ไซ่ง่อน ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2454 ในโอกาสที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสอินโดจีนฝรั่งเศส ได้จัดเรือดำน้ำมาแล่น และดำถวายให้ทอดพระเนตรในบริเวณที่เรือพระที่นั่งมหาจักรีเทียบท่าอยู่
 
เรือเหล่านี้ขึ้นระวางประจำการแล้วได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญคือ เมื่อเกิดกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส หลังจากที่ ร.ล.ธนบุรี และเรือตอร์ปิโดถูกเรือรบฝรั่งเศสยิงจมแล้ว เรือดำน้ำ 4 ลำได้ลาดตระเวนเป็นแถว อยู่หน้าบริเวณฐานทัพเรือของอินโดจีนฝรั่งเศส ใช้เวลาอยู่ใต้น้ำทั้งสิ้นลำละ 12 ชั่วโมงขึ้นไป นับเป็นการดำน้ำที่นานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมี หมวดเรือดำน้ำเป็นต้นมา
 
เรือดำน้ำในกองทัพเรือไทย (มี 4 ลำ)
1. ร.ล.มัจฉาณุ ลำที่สอง (ร.ล.มัจฉาณุ ลำที่หนึ่ง เป็นเรือในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว)
2. ร.ล.วิรุณ
3. ร.ล.สินสมุทร
4. ร.ล.พลายชุมพล
 
 
เรือหลวงมัจฉาณุ (ลำที่สอง) 
 
ประเภท : เรือดำน้ำ
ระวางขับน้ำ : น้ำหนักบนผิวน้ำ 374.5 ตัน น้ำหนักขณะดำ 430 ตัน
ขนาด : ความยาวตลอดลำ 51 เมตร ความกว้างสุด 4.1 เมตร สูงถึงหลังคาหอเรือ 11.65 เมตร
กินน้ำลึก : กินน้ำลึก 3.6 เมตร
อาวุธ : ปืนใหญ่ 76 มม. 1 กระบอก ปืน 8 มม. 1 กระบอก ตอร์ปิโด 45 ซม. 4 ท่อ
เครื่องจักร : เครื่องจักรใหญ่ชนิดดีเซล 2 เครื่อง ๆ ละ 8 สูบ กำลัง 1,100 แรงม้า เครื่องไฟฟ้ากำลัง 540 แรงม้า (ใช้เดินใต้น้ำ)
ความเร็ว : ความเร็วมัธยัสถ์ 10 นอต
รัศมีทำการ : รัศมีทำการ 4,770 ไมล์
ทหารประจำเรือ 33 คน (นายทหาร 5 พันจ่า-จ่า 28)
 
เรือนี้ต่อที่อู่ บริษัท มิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ.2479 มีอยู่ 4 ลำด้วยกัน คือ เรือหลวงมัจฉาณุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และ เรือหลวงพลายชุมพล
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูกงูพร้อมกับ เรือหลวงวิรุณ
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2479 ลงน้ำพร้อมกับ เรือหลวงวิรุณ
วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2479 เรือหลวงมัจฉาณุ (ลำที่สอง) และเรือดำน้ำอีก 3 ลำ ออกจากน่านน้ำประเทศญี่ปุ่น เดินทางมายังประเทศไทย โดยไม่มีเรือพี่เลี้ยง ซึ่งแสดงถึงความสามารถของทหารเรือไทย
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
เมื่อครั้งกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส หลังจาก เรือหลวงธนบุรี และเรือตอร์ปิโด ถูกเรือฝรั่งเศส ยิงจมแล้ว เรือหลวงมัจฉาณุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล ได้ไปลาดตระเวนเป็น 4 แนว อยู่หน้าบริเวณฐานทัพเรือเรียมของอินโดจีนฝรั่งเศส ใช้เวลาดำอยู่ใต้น้ำทั้งสิ้นลำละ 12 ชั่วโมง ขึ้นไป นับเป็นการดำที่นานที่สุด ตั้งแต่ได้เริ่มมีหมวดเรือดำน้ำมาจนกระทั่งได้ถูกยุบเลิกไป
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
 
 
เรือหลวงวิรุณ
 
เรือนี้เป็นเรือพี่น้องของ เรือหลวงมัจฉาณุ สร้างแห่งเดียวกัน โดยสัญญาเดียวกัน
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูงู
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2479 เรือลงน้ำ
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
 
เรือหลวงสินสมุทร
 
เรือนี้เป็นเรือพี่น้องของ เรือหลวงมัจฉาณุ สร้างแห่งเดียวกัน โดยสัญญาเดียวกัน
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูงูพร้อมกับ เรือหลวงพลายชุมพล
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 เรือลงน้ำพร้อมกับ เรือหลวงพลายชุมพล
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
 
เรือหลวงพลายชุมพล
 
เรือนี้เป็นเรือพี่น้องของ เรือหลวงมัจฉาณุ สร้างแห่งเดียวกัน โดยสัญญาเดียวกัน
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูงู
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 เรือลงน้ำ
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
C-bird รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 34
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 412



« ตอบ #42 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 04:35:58 PM »

เรือดำน้ำ สำหรับ ไทย ผมว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก อ่าวไทย ลึกสุด ประมาณ 100 เมตร เฉลี่ยอยู่ที่ ~ 75 เมตร เอาเรือดำน้ำเขามาผมว่าคงถูกตรวจจับและจมได้ง่าย...

สำหรับ ฝั่งอันดามัน.. คงพอเป็นประโยชน์ แต่ทะเลลึก.. ก็อยู่ไกลฝั่งออกไปค่อนข้างมาก...

ฝั่งอ่าวไทยเจอลากเดี่ยว ลากคู่ อวนล้อม และอวนลอย ของเรือประมงไทยก็ไม่รู้จะซ่อนตรงไหนแล้วครับ เรือปลาไทยแต่ละลำติดตั้งเอกโคซาวเดอร์หาปลากันเกือบทุกลำ บางลำเพิ่มสแกนนิ่งโซนาร์เข้าไปอีก  เยาะเย้ย เยาะเย้ย เยาะเย้ย เพียงแต่ถ้าตีกันจริง ๆ พวกเพื่อน ๆ เรือปลาจะไม่กล้าออกหาปลาเท่านั้นเอง  อ๋อย อ๋อย อ๋อย แต่ฝั่งอันดามันมีไว้ก็ดี เพราะน้ำแถวนั้นลึกมากวิ่งออกไปแค่30-40 ไมล์ทะเล นำลึกเกิน 100 เมตรแล้ว เคยออกไปสุดเขต EEZ ไทย เจอเรือดำน้ำไม่ทราบสัญชาติวิ่งอยู่ที่ผิวน้ำด้วยครับ ตกใจหมดเลย แต่ยังอุ่นใจเพราะเคยเห็นดอร์เนียร์ 228 บินลาดตระเวณสุดเขตแดน 200 ไมล์ทะเลครับ  เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยมแต่มาเลย์เขาก็มีเรือดำน้ำประจำการตั้ง 2 ลำ ที่ฐานทัพเรือรัฐเปรัค (เห็นกับตา เพราะพาเรือไปจอดและซื้อกับข้าว) กับเรือฟรีเกตสุดทันสมัยอีก 2 ลำ (สงสัยว่าชั้นเมโก ของเยอรมัน) ตอนเรือวิ่งทำงานแถวปีนังยังโดน F18 จากฐานทัพอากาศบัตเตอร์เวริท บินข้ามหัวไปข้ามหัวมาอีก  แบร่ แบร่ แบร่
บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #43 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 06:52:27 PM »

ฟริเกทของมาเลเซีย ถ้าทันสมัยสุดก็ต้องเป็นชั้นลิเคียวของเขาครับ  ชั้นจี้จิ๋วแจ๋วเจาะโลกจริงๆ แค่ 2700 ตันเท่านั้น แต่ก็รบได้ สามมิติเลย เรือนี้ต่อจากอู่เรือที่เมืองกลาสโกว์ครับ

อ่าวไทยดูไม่ลึก ไม่เหมาะสมกับการปฏิบัติการด้วยเรือดำน้ำ ก็จริงส่วนหนึ่งครับ หมายถึงเรือลำใหญ่ๆ แต่ลองหันมาดูเจ้าเรือดีเซล-ไฟฟ้า ขนาดย่อมๆ ลงมา ก็เป็นทางเลือกที่ดีเลยครับในการที่นำมาใช้ เพราะมันถือว่าเป็นการป้องปรามที่ดีอย่างหนึ่งด้วย

ตอนนี้ผมรอดูเรือจักรา ชั้น อาคูลา 2 ของอินเดียครับ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
JC
...พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว...
Sr. Member
****

คะแนน 12
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 590



« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2008, 08:24:49 PM »

ความรู้สึกผมช่วงนี้.. ยังไง.. ก็รักทหารครับ เรื่องรอบประเทศทุกทิศเลย.. ต้องพึ่งพาผู้กล้าทั้งหลายทั้งสิ้น ใต้ ตะวันออก ตะวันตก รวมถึงใจกลางเมืองหลวง

ปล. ไม่ใช่รักแบบเกย์นะคับ อิอิอิ
บันทึกการเข้า

ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ....JC
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 22 คำสั่ง