เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 15, 2024, 03:22:49 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คำทำนายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ  (อ่าน 10968 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 10:02:35 AM »

นายสมชายแก้ไขใหม่... เอามาจากเว็บไซต์ของวันจันทาราม(ท่าซุง)...
ที่นี่ครับ... http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680

โดยตัดมาเฉพาะส่วนที่ทำนายบ้านเมือง กับส่วนที่ทำนายทรัพยากรน้ำมันฯ...

เชื่อหรือไม่ต้องพิจารณาเองครับ... เย้

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน บรรยายเรื่อง "อนาคตของประเทศชาติ" จากธัมมวิโมกข์

เรื่อง : อนาคตของประเทศชาติ

(อ้างอิงจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๓๒๐ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ หน้า ๔๓-๕๒ "ธรรมกถา")

บรรยายโดย..

พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

เมื่อวันพุธที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๘

มัชฌิมา : ผู้คัดลอก

เรื่องมีอยู่ว่า... ท่านพลตรียุทธศิลป์ เกสรศุกร์ ผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ (ยศและตำแหน่งสมัยนั้น) ได้นิมนต์ หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พร้อมด้วยพระเถระรวม ๖ รูป เพื่อไปบำรุงขวัญของทหารในเขตกองทัพภาคที่ ๒ โดยนำ "ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม" และ "เหรียญเอกราช" ไปแจกให้แก่ทหารตามฐานปฏิบัติการชายแดน ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๘ และในวันสุดท้ายคือวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๘ ได้ทำการแจกให้แก่ทหาร ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา และก่อนทำการแจกได้แสดงธรรมิกถาพิเศษ เรื่อง “อนาคตของชาติ” ณ พุทธศาสนสถาน ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา

มูลเหตุที่มาแจกวัตถุมงคล

“..เจริญสุข แก่บรรดาทหารของชาติทุกท่าน อาตมาได้ไปทำการจากจ่ายผ้ายันต์และเหรียญแก่ทหารทางภาคเหนือมาแล้ว ๓ ครั้ง ต่อมาได้ทราบจากข้าหลวงของสมเด็จพระบรมราชินีนาถว่า “...สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงปรารภว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านไม่ห่วงทหารภาคอีสานหรืออย่างไร จึงไม่ไปแจกของแก่ทหารทางภาคอีสานบ้าง..”

ความจริงอาตมาห่วงทหารทางภาคอีสานเช่นเดียวกับทหารทางภาคเหนือ เมื่อท่านผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ รับจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาแจกจ่าย จึงได้นำสิ่งของมาแจกให้ครั้งนี้

ขั้นแรกอนุศาสนาจารย์ได้อาราธนาให้แสดงธรรม ต่อมาท่านผู้บัญชาการกองพลได้อาราธนาให้เล่าเรื่องของที่นำมาแจกจ่ายว่าทรงคุณค่าอย่างไรบ้าง ผู้ที่ได้รับแจกไปจะได้เกิดศรัทธาความเชื่อมั่น

เพื่อสนองเจตนาของอนุศาสนาจารย์และท่านผู้บังคับบัญชากองพลที่ ๓ ได้อาราธนาจึงขอพูดเรื่องธรรมะก่อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงจะพูดถึงเรื่องสิ่งของที่นำมาแจกจ่าย

เราทุกคนอยากมีความดีด้วยกันทั้งนั้น แม้บางคนนึกว่าตนเองอยากมั่งอยากมี อยากมียศมีอำนาจ แต่ความจริงแล้วก็คืออยากมีดีนั่นเอง

แม้เราจะมียศสูง แต่ถ้าใครมาว่าเราเป็นคนไม่ดี เราก็ไม่ชอบ เพราะฉะนั้นใครจะอยากอะไรก็ตามเถอะ แต่ที่สุดของความอยากนั้นก็คือความดีนั่นเอง

รักษาศีล 5 ให้ได้

ความดีนั้นมีกฏเกณฑ์ที่เราจะต้องทำเป็นเบื้องต้น 5 ประการ คือ
1. เราไม่อยากให้ใครมาฆ่า รังแก ข่มเหงเรา เราก็อย่าไปฆ่า ไปรังแก ไม่ข่มเหงเขา
2. เราไม่อยากให้ใครมาลักของๆ เรา เราก็อย่าไปลักของๆ เขา
3. เราไม่อยากให้ใครมาผิดลูกผิดเมียเรา เราก็อย่าไปผิดลูกผิดเมียเขา
4. เราไม่อยากให้ใครมาโกหกเรา เราก็อย่าไปโกหกเขา
5. เราไม่อยากเป็นคนบ้า ก็อย่าไปดื่มสุราเมรัย เพราะถ้าเราดื่มสุรามากๆ เราจะกลายเป็นคนบ้า

เจริญพรหมวิหาร ๔ ไว้

ความดีที่สูงขึ้นไปอีกที่เราควรประพฤติเป็นหลักในการดำรงชีวิต เพื่อความสุขความเจริญแก่ตนเองคือ พรหมวิหาร มี ๔ ประการคือ
1. เมตตา ความรัก เราต้องรักตัว รักครอบครัว รักญาติพี่น้องหมู่คณะ ตลอดจนถึงรักประเทศชาติ
2. กรุณา ความสงสาร ที่มีต่อบุคคลที่ตกทุกข์ได้ยาก อยากให้เขาพ้นจากความทุกข์ทรมานที่เขารับอยู่
3. มุทิตา ยินดีด้วยเมื่อบุคคลอื่นได้ดีมีความสุข ไม่ริษยาเขา เขาได้ดีก็ชื่นชมอนุโมทนาด้วย
4. อุเบกขา วางเฉย เช่น เมื่อลูกของเรา ญาติพี่น้อง หรือพรรคพวกของเราไม่ทำผิด เราต้องวางตัวเป็นกลาง เมื่อเขาจะได้รับโทษก็ถือเป็นกรรมของเขา ไม่ช่วยเหลือเขาในทางที่ผิด

เว้นจากความลำเอียงทั้ง ๔ ประการ

ผู้ที่จะมีคุณธรรมในข้อที่ ๔ นี้จำเป็นจะต้องมีคุณธรรมข้ออื่นสนับสนุน คือเราต้องเว้นจาก อคติ คือ
๑. ความลำเอียงเพราะความรัก
๒. ความลำเอียงเพราะความชัง
๓. ความลำเอียงเพราะความหลง
๔. ความลำเอียงเพราะความกลัว

ทหารแปลว่าคนหนุ่ม

ทหารทุกคนต้องเป็นคนหนุ่ม แม้จะแก่อายุมากแล้วก็ต้องทำตัวเป็นคนหนุ่ม เพราะคำว่า ทหาร แปลว่า คนหนุ่ม

คนหนุ่มนั้นจะต้องเป็นคนแข็งแรงว่องไวกล้าหาญบึกบึน มีไหวพริบปฏิภาณดี มีความสามัคคีรักใคร่กัน ไม่ทอดทิ้งกันเมื่อมีภัย ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท

และข้อสำคัญที่สุดนั้นต้องยอมตายเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองเมื่อถึงคราวจำเป็น นี้พูดอย่างทหาร เพราะอาตมาเคยเป็นทหารเรือมาแล้ว ย่อมรู้จักชีวิตวิญญาณของทหารดี

ทหารไปรบถือว่าทำเพื่อชาติบ้านเมือง

ทหารที่ไปราชการสงครามเพื่อป้องกันอริราชศัตรูนั้น หากไปฆ่าข้าศึกศัตรูก็ไม่ถือว่าเป็นความชั่ว แต่เป็นการทำดีต่างหาก เพราะเราทำหน้าที่ป้องกันสิ่งที่ดีงามเอาไว้

ความดีนั้นคือความอยู่รอดของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของปวงชนในผืนแผ่นดินไทยทุกคน

ความสงบสุขนั้นเป็นยอดของความดีทั้งมวล การที่เรายอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของเราเพื่อรักษาความดีทั้งหลายดังกล่าวมาแล้วนั้นไว้

จึงได้ชื่อว่าเราทุกคนได้ทำความดี สมศักดิ์ศรีของทหารไทย จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นบาปกรรม

อนาคตของชาติ

อาตมาได้ถวายพระพรพระองค์ว่า “ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะไม่ตกเป็นทาสของใคร อาตมาขอถวายชีวิตเป็นประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ความเยือกเย็นจะเริ่มปรากฏ ความมั่งคั่งสมบูรณ์จะมีขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน แต่จะยังไม่ปรากฏชัดนัก แต่เราจะมองเห็นได้ชัดๆ ก็ต้องปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เปรียบเหมือนอรุณได้ขึ้นดีแล้วและเริ่มฉายแสงให้เห็นความมืดหมดไป”

ที่อาตมากล้ายืนยันต่อพระองค์เช่นนั้น ก็เพราะเหตุผลหลายประการ คือ

คำทำนายของพระพุทธโฆษาจารย์

ในประการแรก อาตมาได้พบและได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นสมุดข่อย ซึ่งพระอรหันต์ในอดีตนามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) เขียนไว้ ทำนายชะตาบ้านเมืองก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกเสียอิสรภาพแก่พม่า ก่อนที่กรุงเทพฯ ยังไม่ปรากฏ

โดยท่านได้เขียนทำนายไว้ว่า

“กรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกข้าศึกตีแตก แจ่จะเสียอิสรภาพไม่นานนัก จะมีคนดีของกรุงศรี
อยุธยามากู้ชาติ แต่เมื่อกู้ชาติได้แล้วจะต้องไปตั้งเมืองหลวงอยู่ใหม่”
และเหตุการณ์ต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาก็ได้เป็นจริงตามคำทำนายทุกอย่าง

ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล

ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้

รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์

รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม

รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด

รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม

รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด

รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร

รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์

รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ

รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว

รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล

ความแม่นยำของคำทำนาย

เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด

รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ

รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่

รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้

รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน

รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้

รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร

ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก

รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน

พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์

รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต

รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น

สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย

ราชวงศ์จักรีจะมีเพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้นรึ?

ปัญหาที่น่าคิดต่อไปก็คือว่า

ทำไมพระพุทธโฆษาจารย์จึงทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองไว้เพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้น? กรุงเทพมหานครจะมีพระมหากษัตริย์เพียง ๑๐ พระองค์เท่านั้นหรือ?

เป็นเรื่องที่อาตมาสนใจเป็นพิเศษ

จึงได้สอบถามเรื่องนี้กับ หลวงพ่อปาน และพระอาจารย์ต่างๆ ซึ่งจิตของท่านเป็นสมาธิเข้าถึงขั้นอภิญญา สามารถที่จะรู้จริงในเรื่อง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็ยังมีอยู่หลายๆ องค์ในขณะนี้

ทุกๆ รูปที่อาตมาสอบถามจากท่าน ต่างก็ยืนยันตรงกันว่า

พระมหากษัตริย์จะยังคงมีอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไปอีกนาน มิใช่เพียงแค่ ๑๐ พระองค์เท่านั้น แต่ที่พยากรณ์ไว้เพียงแค่นั้นก็เพราะว่าเริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ ๑๐. เป็นต้นไป บ้านเมืองจะมั่งคั่งสมบูรณ์ ร่มเย็นผาสุก ประชาชนในชาติจะร่ำรวย ประเทศไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ซึ่งจะมีแต่ความเจริญตลอดไป ไม่ล้มลุกคลุกคลานดังที่แล้วมา จึงไม่จำเป็นจะต้องพยากรณ์ต่อไปอีก”

พระพุทธทำนายเหตุการณ์ของโลก

ประการที่ ๒. ที่ยืนยันว่าประเทศไทยจักไม่ตกเป็นทาสของใครๆ นั้นคือ พระพุทธทำนายเหตุการณ์ของโลก พระพุทธทำนายนี้ก็มีปรากฏในสมุดข่อยของพระพุทธโฆษาจารย์เช่นเดียวกัน ซึ่งมีข้อความปรากฏโดยสังเขปดังนี้

“..อานันทะ ดูก่อน อานนท์ โลกต่อไปจะเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ประมาณ พ.ศ.๒๔๘๕) จะมีฝนเหล็กตกจากอากาศ จะมีไฟลุกจากอากาศ เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำมาทำลายมนุษย์ มนุษย์และสมณะชีพราหมณ์จะตายกันมาก

แต่ว่า.. อานนท์ ความเร่าร้อนก่อนกึ่งพุทธกาลนั้น ยังมีความเร่าร้อนน้อยกว่า ความเร่าร้อนหลังกึ่งพุทธกาล

หลังกึ่งพุทธกาลจะมีความร้ายแรงยิ่งไปกว่านั้น ยักษ์หินที่ถูกสาปจะลุกขึ้นมาอาละวาดสมณะชีพราหมณ์จะล้มตาย ยักษ์นอกพระพุทธศาสนาทั้งหลายจะฆ่าฟันกันและกัน จะตายกันไปคนละครึ่ง จึงจะหยุดยั้งเลิกรบกัน

แต่ทว่าประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น จะมีภัยเช่นนี้เหมือนกัน แต่ไม่มากนัก”

ความแม่นยำของพุทธทำนาย

จากพระพุทธเจ้าทำนายนี้เราก็จะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นความจริงทุกอย่าง ก่อนพุทธกาลได้เกิด สงครามโลกครั้งที่ ๒. ลูกระเบิดต่างๆ ซึ่งเป็นเหล็กเป็นไฟได้หลั่งไหลลงมาจากอากาศพิฆาตมนุษย์

หลังกึ่งพุทธกาลได้เกิดสงครามลัทธิคือพวกยักษ์นอกศาสนา เพิ่งจะเลิกรากันไป แต่เมืองไทย ก็ยังได้รับผลกระทบกระเทือนมาจนกระทั่งบัดนี้

มีเพียงไทยที่นับถือพุทธอย่างมั่นคง

ตามพระพุทธทำนายนั้นได้บ่งชี้ชัดว่าประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาจะมีภัยบ้างแต่ไม่มากนัก หากเราพิจารณาให้ดีๆ ก็จะเห็นเด่นชัดว่า ประเทศไทย นี้เท่านั้นที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง และเป็นประเทศสุดท้ายที่พระพุทธศาสนายังเหลืออยู่ในท้องถิ่นบริเวณนี้ ประเทศอื่นๆ รอบบ้านเราก็กลายเป็นพวกเดียรถีย์นอกศาสนาพุทธไปเกือบหมดแล้ว

เพราะฉะนั้น ประเทศไทยจึงเป็นเมืองสุดท้ายที่พระพุทธศาสนาจะสถิตสถาพรอยู่ได้ตลอดไป

พระเจ้าอังครัฐตั้งจิตขอพบพระอรหันต์

ในพระพุทธทำนายซึ่งปรากฏในตำนานบางแห่งได้เล่าไว้ว่า

พระเจ้าอังครัฐ เจ้าเมืองอังครัฐ ซึ่งเป็นเมืองที่ประดิษฐาน พระธาตุจอมทอง อยู่ในขณะนี้ ได้ทรงตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ได้พบพระอรหันต์ ขอให้พระอรหันต์เสด็จมาโปรด

พระพุทธองค์ทรงทราบวาระจิตของพระเจ้าอังครัฐ จึงทรงส่งพระโมคคัลลาน์ พร้อมด้วยพระเถระรวม ๔ รูป เดินทางมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่เมืองอังครัฐก่อน

ศาสนาจะอยู่ในเมืองไทยครบ ๕,๐๐๐ ปี

ส่วนพระองค์ได้เสด็จมาภายหลัง เมื่อเสด็จมาถึงเมืองนั้น ได้ทรงพยากรณ์เกี่ยวกับความเป็นไปในอนาคตของพระพุทธศาสนาไว้ว่า “พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นอยู่ในท้องถิ่นนี้ถึง ๕,๐๐๐ ปี”

เมื่อพระพุทธศาสนายังตั้งมั่นอยู่ได้ในผืนแผ่นดินไทยตามพระพุทธทำนาย ก็หมายความว่าเมืองไทยจะต้องไม่ตกเป็นทาสของใครๆ เพราะความมั่นคงของชาติและพระพุทธศาสนาเป็นของคู่กันมาแต่บรรพกาล เมืองไทยจะไม่ตกเป็นทาสของใคร

จากคำพยากรณ์ของพระพุทธโฆษาจารย์ก็ดี คำบอกเล่าของพระเถระผู้ได้ฌานสมาบัติก็ดี และจากพระพุทธทำนายก็ดี เป็นหลักชี้ชัดให้เรามั่นใจได้ว่า

“เมืองไทยเรานี้จะต้องเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป ไม่ตกเป็นทาสของใครๆ พวกนอกศาสนาจะไม่สามารถย่ำยีเมืองไทยได้

แต่ข้อสำคัญนั้น เราทุกคนอย่าประมาท ต้องรักกัน สามัคคีกันไว้ ไม่แตกแยกกันและไม่ลุ่มหลงไปกับคำยุแหย่ของบุคคลผู้มุ่งร้ายต่อชาติบ้านเมือง”

ดวงทหารคู่กับดวงเมือง

ขอให้ทหารทุกคนจงสำนึกตนเองว่า เราต้องมีความสามัคคี-เด็ดเดี่ยว-ไม่ประมาท-กล้าหาญ-และพร้อมที่จะยอมตายเพื่อชาติบ้านเมืองและพระบวรพุทธศาสนา เมื่อถึงคราวจำเป็น

เพราะบ้านเมืองจะอยู่รอดปลอดภัยก็เพราะทหารเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑. เมื่อพระองค์จะเริ่มสร้างเมืองหลวงใหม่ ได้ทรงผูกดวงเมืองและวางลัคนาดวงเมืองไว้ให้คู่กับดวงทหาร โดยให้ทหารเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองบ้านเมือง บ้านเมืองจึงจะอยู่รอด

ที่พูดนี้มิใช่จะมายุยงให้ท่านทั้งหลายกระด้างกระเดื่อง ทำการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจจากใครๆ เพียงแต่...ขอให้เราทุกคนช่วยกันควบคุมสถานการณ์ไว้ให้บ้านเมืองสงบสุขเท่านี้ก็ได้ชื่อว่าทหารควบคุมรักษาเมืองแล้ว

ดวงชะตาของทหารนั้น เข้าเกณฑ์ "ราชาโชค" ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๑๘ แล้ว และจะโคจรเข้าควบคู่กับดวงเมืองตั้งแต่ เดือนมกราคม ๒๕๑๙ เป็นต้นไป ซึ่งจะมีอิทธิพลให้ประเทศชาติบ้านเมืองค่อยคลี่คลายไปในทางดีขึ้น ขณะนี้บ้านเมืองของเราอยู่ในสภาพป่วยไข้ จำเป็นจะต้องได้รับการเยียวยารักษาหรืออาจจะต้องถึงกับผ่าตัดบ้าง อาการของบ้านเมืองจึงจะดีขึ้น

เมืองไทยมีขุมทรัพย์มหาศาล

สภาพการณ์ของบ้านเมืองจะคลี่คลายไปในทางดี เริ่มแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นต้นไป และตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ประเทศชาติและประชาชนจะเริ่มพบกับความสุขสบายขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่มากนัก แต่จะปรากฏเด่นชัดว่าประเทศชาติและประชาชนจะร่ำรวยขึ้น มีความสุขสมบูรณ์ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นต้นไป

เพราะเรามีทรัพยากรมากมายมหาศาลล้วนแต่เป็นของมีค่าทั้งสิ้น อาทิเช่น น้ำมัน แร่ทองคำ แร่ยูเรเนียม วัตถุธาตุต่างๆ เหล่านี้มีอยู่พร้อมในเมืองไทย และเราก็ได้พบแล้ว แต่เรายังไม่สามารถจะนำเอาออกมาใช้ได้ เพราะเรามีขีดความสามารถอันจำกัด

ทรัพยากรน้ำมันในประเทศไทย

อย่าง น้ำมัน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและมีค่าที่สุดของคนทั้งโลกนั้น ในเมืองไทยเรามีมากมาย น้ำมันที่ใช้อยู่ในโลกขณะนี้มีไม่ถึงหนึ่งในสามที่มีในเมืองไทยเรา

ที่อาตมาพูดเช่นนี้มิได้กล่าวเกินความจริง แต่เป็นการกล่าวที่เกิดจากประสบการณ์ที่พอเชื่อถือได้ กล่าวคือ

เมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๑๗ อาตมาพร้อมด้วย พล.อ.ต.มรว. เสริม สุขสวัสดิ์ เจ้ากรมการสื่อสารทหารอากาศ ได้เดินทางไปยังจังหวัดชุมพร พักอยู่ ณ บ้านพักหลังหนึ่ง หลังจากคุยกันประมาณห้าทุ่มเศษก็เข้านอน

พอไฟดับลงเท่านั้น ก็มองเห็นภาพคนดำใหญ่เดินเข้ามาในห้องโดยไม่เปิดประตู เขาเดินเข้าเดินออกโดยไม่ต้องเปิดประตู

จึงถามเขาไปว่า อยู่ที่ไหน

เขาบอกว่า อยาในห้องนี้แหละ

แล้วก็คุยกันด้วยเรื่องต่างๆ เจ้าเทวดาดำใหญ่ได้เล่าให้ฟังว่า

“เมืองไทยเรานี้มีน้ำมันมากมายมหาศาลเป็นลำธารกว้างขนาด ๑ กิโลเมตร และยาวหลายร้อยกิโลเมตร ไหลผ่านประเทศไทยไปลงทะเล

เมื่อใดที่ผู้บริหารดีทรัพยากรจะปรากฏขึ้น

เขาบอกว่า

น้ำมันนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะขุดนำมาใช้เพราะฝ่ายบริหารยังไม่ดีพอ หากปรากฏขึ้นในขณะนี้ พวกทุจริตก็จะงุบงิบเอาไปเป็นผลประโยชน์ส่วนตนหมด

เมื่อใดผู้บริหารประเทศมีมือสะอาดซื่อสัตย์สุจริต เห็นแก่ประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ ขุมทรัพย์มหาศาลในเมืองไทย
เช่น บ่อน้ำมัน ก็จะค่อยผุดขึ้นมาให้เห็นเรื่อยๆ ไป ซึ่งจะนำผลรายได้อันมหาศาลมาให้เมืองไทย ทำให้เมืองไทยกลายเป็นเศรษฐีมีชื่อเสียงระบือไปทั่วโลก และจะได้เป็นมหาอำนาจประเทศหนึ่งในเอเชีย”

ไปพิสูจน์สถานที่มีน้ำมันอยู่

เจ้าเทวดาดำใหญ่ให้หลักฐานยืนยันคำพูดของตนว่า หากอยากข้อเท็จจริงเกี่ยวกับน้ำมัน ให้ไป ดูบ่อน้ำมันที่เมืองมะริด ในเขตพม่า ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันสายเดียวกันอยู่ห่างจากผืนแผ่นดินไทยประมาณ ๓๐ กิโลเมตร

ณ. ที่นั้นจะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่ง มีน้ำมันลอยฟ่องเต็มไปหมด ถ้าอยากเห็นให้ไปดูด้วยตนเอง

อาตมาอยากพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงได้เดินทางไปดูสถานที่แห่งนั้น เมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๑๘ นี้เอง ปรากฏว่าเป็นความจริงทุกอย่าง

บริเวณนั้นมีหนองน้ำซึ่งมีน้ำมันลอยเต็มไปหมด ชาวบ้านนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี จึงมั่นใจได้ว่าเทวดาดำองค์นั้นไม่โกหก เมืองไทยเรามีน้ำมันแน่ๆ

ต่อเมื่อใดผู้บริหารใจซื่อมือสะอาดมาบริหารชาติบ้านเมือง ทรัพยากรเหล่านี้ก็จะปรากฏให้เห็น และนำมาใช้ให้บ้านเมืองเรามีความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวแล้ว

(อ้างอิงจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๓๒๐ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ หน้า ๔๓-๕๒ "ธรรมกถา")

--------------------------------------------------------------------------------

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2008, 01:35:14 PM โดย นายสมชาย(ฮา) » บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 10:16:55 AM »

ขอบคุณครับ พี่
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 10:17:03 AM »

ไม่ได้่กระผีกของพระพุทธศาสนา ... อย่าคิดมากครับ  Grin

พี่สมชายแก้ ... ผมก็แก้บ้าง .... Grin Grin

เมื่อเด็กผมฟังธรรมะของหลวงพ่อเหมือนฟังนิทาน เพราะท่านชอบเล่าชาดกให้ฟัง บางครั้งท่านก็เล่าเรื่องต่างๆ ที่ต้องไปพิสูจน์กันเอง ... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านไม่เคยละทิ้งการสอนหลักของพระพุทธศาสนาเลย ....  ไหว้

 Grin

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2008, 04:31:35 PM โดย jakrit » บันทึกการเข้า

Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 10:25:51 AM »

ไม่ได้่กระผีกของพระพุทธศาสนา ... อย่าคิดมากครับ  Grin

เห็นด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 10:49:51 AM »

 "ฤาษีลิงดำ"ทำนายแม่นหรือไม่ ไม่ทราบ.......   แต่"ลิงเผือก"ทั้งหลายทำนายว่า เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะย่ำแย่ อันนี้น่ากลัว.....   อ๋อย ตกใจ
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
จู
Jr. Member
**

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 31



« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 11:14:07 AM »

ข้อความที่เขียนเกี่ยวกับรัชกาลที่6   ผมว่าไม่เหมาะสม  ลบออกเถอะครับ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 11:16:37 AM »

ข้อความที่เขียนเกี่ยวกับรัชกาลที่6   ผมว่าไม่เหมาะสม  ลบออกเถอะครับ

ขอบคุณครับ...
บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 11:17:48 AM »

พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงพระราชทานในโอกาสทรงครงสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดย 4 ประการที่ว่านั้น ได้แก่          

ประการที่ 1 คือ การให้ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน            

ประการที่ 2 คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงานประสานประโยชน์กันให้งานที่ทำสำเร็จผลทั้งแก่ตนเอง แก่ผู้อื่น และแก่ประเทศชาติ            

ประการที่ 3 คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกา และในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน            

ประการที่ 4 คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำ นำความคิดเห็นของตนให้ถูกต้องเที่ยงตรงอยู่ในเหตุและผล            


 Smiley "ดีชั่วอยุ่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว"

สิ่งที่ต้องทำ   คือ    ความดี

สิ่งที่ต้องมี     คือ    คุณธรรม

สิ่งที่ต้องจำ   คือ    ผู้มีพระคุณ
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 11:26:02 AM »

เศร้า ปน สุข
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
สราโท
ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอน
Full Member
***

คะแนน 28
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 282


ถิ่นภูเขาไฟ


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 12:50:20 PM »

มีมืดมีสว่างรู้แล้วป้องกัน
บันทึกการเข้า
..GlockGlack..
ทำดีไว้ไม่ขาดทุน..... ขาว อวบ. อิอิอิ
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3569


ใช้ปืนดี มีพระคุ้มครอง


« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 12:52:43 PM »

วันที่ 22 ต.ค. 2551

เรียน สมาชิกทุกท่าน

ตามที่มีข้อความกล่าวอ้างถึงคำทำนาย "อนาคตของประเทศไทย" เวลานี้มีการนำไปโพสแพร่หลายอยู่ในเว็บไซด์ ซึ่งมีข้อผิดพลาดในการคัดลอกต่อๆ กันมาตลอด ทางเว็บมาสเตอร์ "วัดท่าซุง" เกรงว่าจะเสียหายถึงชื่อเสียงและเกียรติคุณของหลวงพ่อวัดท่าซุง ตลอดถึงความไม่เข้าใจของคณะศิษย์ที่เคารพนับถือในองค์ท่าน ซึ่งเป็นบทกลอนที่ต่อเติมไปจากคำพูดของหลวงพ่อฯ ดังนี้

๐ คำทำนายที่เคยมีมาช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้

หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ..


"คณะทีมงานเว็บวัดท่าซุง" จึงขอชี้แจงว่า "บทกลอน" บทนี้ท่านไม่เคยพูดไม่เคยกล่าวไว้ที่ไหนเลย ส่วนข้อความที่กล่าวไว้จริงๆ นั้นได้โพสอยู่ในเว็บวัดท่าซุง เมื่อวันที่ 21/7/08 ดังที่ได้แนบ URL มาให้ตรวจสอบดูต้นฉบับนี้ จะเห็นว่าไม่มีบทกลอนอยู่ในเนื้อหาเลย ซึ่งมีหลักฐานวันเวลาที่โพสอยู่ สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้จากเว็บของ "วัดท่าซุง" ดังนี้

http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680

ฉะนั้น จึงขอความกรุณาช่วยแก้ข่าวนี้ให้ด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง เพื่อความสบายใจแก่คณะศิษย์ฯ ที่เคารพนับถือท่านทั่วประเทศ จึงเรียนมาเพื่อทราบ.

ขอได้รับความนับถือ

"คณะทีมงานเว็บวัดท่าซุง"

(หมายเหตุ บันทึกนี้ได้แจ้งไปทุกเว็บไซด์ พร้อมกับ นสพ.ไทยโพสต์ ที่ลงข้อความเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2551 โดย คุณเปลว สีเงิน อีกด้วย)
บันทึกการเข้า

ขอสักกระทู้ที่ไม่เลอะเทอะเลื่อนเปื้อน จนเสียคุณค่าเนื้อความในกระทู้นะครับ Cheesy
C.J. - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 314
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5383


ขอ...นัดเดียว


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 01:04:30 PM »

"ฤาษีลิงดำ"ทำนายแม่นหรือไม่ ไม่ทราบ.......   แต่"ลิงเผือก"ทั้งหลายทำนายว่า เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะย่ำแย่ อันนี้น่ากลัว.....   อ๋อย ตกใจ

"ลิงเผือก" ทำนายน่ากลัว.... แต่ลิงสามตัว ทำน่าเกรียด... Cheesy
บันทึกการเข้า

ธรรมของสัตบุรุษ

๑. ธัมมัญญุตา - รู้จักเหตุ ๒. อัตตัญญุตา - รู้จักผล ๓. อัตตัญญุตา - รู้จักตน ๔. มัตตัญญุตา - รู้ประมาณ ๕. กาลัญญุตา - รู้จักกาล ๖. ปริสัญญญุตา - รู้จักประชุมชน ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา - รู้จักเลือกบุคคล

http://www.dopaservice.com/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&gro
NatthaphoN_
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13071

https://lh5.googleusercontent.com/-3fxkffwgtBc/AAA


« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 01:09:02 PM »

"ฤาษีลิงดำ"ทำนายแม่นหรือไม่ ไม่ทราบ.......   แต่"ลิงเผือก"ทั้งหลายทำนายว่า เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะย่ำแย่ อันนี้น่ากลัว.....   อ๋อย ตกใจ

"ลิงเผือก" ทำนายน่ากลัว.... แต่ลิงสามตัว ทำน่าเกรียด... Cheesy
หา! ไอ้สามหน่อนั่นนะหรือ... Grin
บันทึกการเข้า
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 01:24:34 PM »

   ดูขำกลิ้งลิงกับหมายังดีกว่า ลิงสามตัวคุยการเมือง ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

ตึก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 150
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2042


บิดามารดาคือพระประจำตัวลูก


« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 01:29:37 PM »

 ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากมายเข้าสมอง

ในตอนสุดท้ายเรื่องแร่ที่เราจะค้นพบนี่ผมเชื่อนะ เพราะผมชอบจินตนาการถึงแร่ชนิดนึงที่จะมาทดแทนพลังงานที่คนใช้ในปัจจุบัน
ให้พลังงานมหาศาลในจำนวนที่น้อย (อาจจะเป็นเร่ไทบีเรี่ยมก็ได้ใครเล่นCommand & Conquer 3 Tiberium Warsจะทราบเหอๆเพ้อไปใหญ่)
อาจมีแร่จากนอกโลกลอยอยู่ในอวกาศแล้วตกลงมาบนประเทศไทยก็เป็นได้

อย่าหาว่าผมบ้านะครับ><
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.1 วินาที กับ 21 คำสั่ง