เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 15, 2024, 09:20:52 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอคุยเรื่อง จิต วิญญาณ เวียนว่ายตายเกิด ภพภูมิ กฎแห่งกรรม  (อ่าน 11670 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 13 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
babygun
Full Member
***

คะแนน 57
ออฟไลน์

กระทู้: 402


« ตอบ #30 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 02:28:11 AM »

แม่ผมก็เสียไปได้สองปีกว่าแล้ว ตอนนี้ผมก็ยังคิดถึงท่านอยู่ตลอดไม่รู้เป็นไง ผมไม่รู้ว่าแม่ผมยังอยู่ไหม แต่ที่แน่ๆ พี่สาวผมที่เสียไปก่อนแม่หลายปีตอนนี้ยังอยู่แน่นอน(อยู่ในบ้านผมนี่แหละ) เพราะมีคนเคยทักว่า พาพี่สาวมาด้วยเหรอ(พอดีไปเที่ยวบ้านพี่เขยที่เพชรบุรี) ไอ้เราก็หันหลังไปดูไม่มีใคร เลยถามลักษณะที่เห็น เต็มๆเลยพี่ครับ ตามไปถึงเพชรบุรี แต่ผมไม่กลัวหรอกเพราะเป็นพี่ผม เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เป็นธรรมดาไปเสียแล้วครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
Mango
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 352


"รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต"


« ตอบ #31 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 02:59:21 AM »

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่สูยเสียคุณแม่ไป พอได้ยินเจ้าของกระทู้พูดเกี่ยวกับการใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้พ่อแม่ให้มากที่สุด
ผมก็ต้องสะเทือนใจตัวเองเพราะไม่ได้กลับบ้านไปหาท่านทั้งสองเกือบปีแล้ว สงสัยคงต้องยื่นเรื่องลากลับไปหาท่านสักอาทิตย์สองอาทิตย์
ซะแล้ว พี่ณัฐพูดดดนใจผมมากเลยตรงที่ว่า อย่ารอวันหน้า...
บันทึกการเข้า
A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง
สัตว์ โลก เดิน ไป ตาม แรง กรรม ดี ชั่ว อยู่ ที่ ใจ ตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 206
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6399


มี ศัตรู เป็น บัณฑิต ดีกว่ามี มิตร เป็น ค น พ า ล


เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 06:47:57 AM »


ครับ
ขอแสดงความเสียใจครับ
ผมเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เชื่อเรื่องวิญญาณ
และก้อเคยเห็นกับตามาแล้ว
 ทุกชีวิตเกิดมาเพื่อสร้างบุญทำความดี แต่ส่วนมากจะลืมว่า ต้องมาทำอะไร
เพราะเนื้อหนัง กายหยาบพาไป
ในชีวิตคนสามารถทำได้ทุกสิ่งที่เหลือเชื่อ
ใครผู้ใดทำปฏิษัติก้อเห็นเฉพาะตัวครับ
อาหารตักใส่ที่ช้อนแล้ว  ไม่ใส่ปาก ก้อไม่ได้  ถึงใส่ปากแล้วถ้าไม่เคี้ยวไม่กลืน ก้อยังไม่ลงกระเพาะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2008, 09:17:53 AM โดย DawJone ๒๔๙๙ » บันทึกการเข้า

babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 08:02:13 AM »


ขอแสดงความเสียใจ และขอเป็นกำลังใจให้ครับพี่ณัฐ
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 08:05:05 AM »


คุณแม่ท่านจากไปอย่างสงบ นับว่าเป็นคนมีบุญครับ
บันทึกการเข้า
เอ.เค.
Full Member
***

คะแนน 15
ออฟไลน์

กระทู้: 122


« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 08:09:52 AM »


ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านครับที่กรุณาแสดงความเสียใจในการจากไปของคุณแม่ผม

มาต่อครับ

จากการที่ผมสูญเสียคุณแม่ไปทำให้ผมเกิดฉุกคิดหันมามองเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องวิญญาณ

ผมพยายามจะหาคำตอบในข้อสงสัยหลายๆข้อ เช่น

1. ตายแล้วไปไหน

2. ตายแล้วสูญไหม

3. ถ้าไม่สูญ เราจะติดต่อคนที่ตายแล้วได้อย่างไร

4. ถ้าเกิดชาติหน้าจะจำกันได้ไหมหรือทำอย่างไรจะได้จำกันได้

5. ทำไมคนเราถึงไม่มีอายุขัยที่ตายตัว เช่น ทุกคนอายุขัยที่ 100 ปี เท่ากันหมด

6. การที่เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนทีล่วงลับไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาได้รับแล้ว

7. อีกหลายปีถัดมา เมื่อผมตายไป ผมจะได้พบคนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหรือไม่

ที่กล่าวมาทั้ง 7 ข้อ เป็นเพียงตัวอย่างคำถามที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดตั้งแต่คุณแม่ผมเสียไป

ว่าทำอย่างไรถึงจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง

ลืมอีกข้อครับ ถ้าเราคิดว่าการตายเป็นสุขจริงๆ หมายถึงหมดทุกข์ หมดโศก หมดกรรม  ทำไมเราไม่จัดงานฉลองครับ

ทำไมจัดงานไว้อาลัยให้เศร้าศร้อย

ขอพักสัก 2 วัน เดี๋ยวต่อครับ


คำตอบของทุกคำถามมีอยู่ในพระพุทธศาสนาครับ
ตอบให้แคบที่สุดก็ต้องบอกว่า "กมฺมุนา วตตีโลโก แปลว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
ถ้าตราบใดที่ยังมีความยึดมั่นถือมั่นอยู่(ยังไม่หลุดพ้น) ตราบนั้นก็ยังต้องเกิดต่อไป
โดยมีกรรมเป็นตัวนำไปเกิด เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภูมิทั้ง  3
1. เทวภูมิ พวกเทวดา พรหม
2. มนุษภูมิ คน
3. อบายภูมิ ได้แก่ เปรต อสูรกาย ยักษ์ สัตว์นรก

คติที่ว่าตายแล้วสูญ และตายแล้วไม่สูญ ทางพุทธศาสนาถือว่าเป็นคติที่สุดโต่งทั้ง 2 ด้าน ไม่ให้ยึดถือ

สำหรับคำถามที่ว่า เจอกันอีกจะจำได้ไหม ให้ลองนึกถึงตัวเราเองว่าจำเรื่องราวของตัวเองชาติที่แล้วได้ไหม
ไม่ต้องเอาตนเองไปเทียบกับคนอื่น

ส่วนเรื่องอายุขัยแต่ละคนก็มีกรรมเป็นตัวกำหนด แต่อายุกัป(อายุขัยของมนุษย์ตามปกติในช่วงเวลานั้นๆ)
เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้วายชนม์นั้น เราผู้เป็นปุถุชนธรรมดา ไม่ได้มีอภิญญา ไม่มีทางรู้ได้ว่าผู้นั้นได้รับหรือไม่
แต่ตามคำภีร์ทางพุทธศาสนาบอกไว้ว่าผู้ที่จะได้รับส่วนกุศลที่มีคนอุทิศให้นั้นต้องไปเกิดเป็นปรทัตตูปชีวีเปรต(เปรตชนิดหนึ่ง) เท่านั้น จึงจะรับได้ เพราะถ้าเกิดในภพภูมิอื่นที่สูงหรือต่ำกว่าจะไม่อยู่ในภาวะที่รับได้ เช่น ถ้าไปเกิดเป็นเทวดาซึ่งมีสภาวะที่ละเอียดมากๆ จะมีสุขที่ละเอียดยิ่งกว่า ไม่สามารถรับสิ่งที่หยาบกว่าได้ หรือ ในกรณีที่เกิดเป็นสัตว์นรก ก็ต้องรับกรรมตามแบบของสัตว์นรก ไม่สามารถรับส่วนกุศลได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สามารถรับส่วนกุศลได้ บุญกุศลที่เราทำนั้นก็ยังคงเป็นของเราอยู่ไม่ได้หายไปไหน

รายละเอียดลึกซึ้งกว่านี้มาก ต้องศึกษาเอาจากพระไตรปิฎกครับ อย่าไปเชื่อ(พวกที่ตั้งตัวว่าเป็น)อาจารย์มากนัก เพราะบางส่วนก็ถูก บางส่วนก็ไม่ถูก เชื่อพระไตรปิฎกดีที่สุดครับ

หวังว่าคำตอบนี้จะพอเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านบ้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2008, 08:14:20 AM โดย เอเค » บันทึกการเข้า
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #36 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 08:57:58 AM »

เกิด แก่ เจ็บ ตาย หลีกหนีไม่พ้น

ขอให้ท่านสู่สุขคติ ครับ

ผมก็มีแผลใจ กับพ่อที่เสียไปแล้ว เพียงแค่ได้ดูแลท่านบ้าง ตอนที่ท่านเจ็บป่วยอยู่ แต่ ก็ไม่ได้เต็มที่


แนะนำหนังสือ ครับ "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" นักเขียน "ดั่งตฤน" ผมน่าจะสกดผิด แต่ อ่านว่า ดั่ง -ตะ-รน ลองหาอ่านกันดูครับ
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
อู๋ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1666



« ตอบ #37 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 09:25:38 AM »

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ไหว้

ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านครับที่กรุณาแสดงความเสียใจในการจากไปของคุณแม่ผม

มาต่อครับ

จากการที่ผมสูญเสียคุณแม่ไปทำให้ผมเกิดฉุกคิดหันมามองเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องวิญญาณ

ผมพยายามจะหาคำตอบในข้อสงสัยหลายๆข้อ เช่น

1. ตายแล้วไปไหน

2. ตายแล้วสูญไหม

3. ถ้าไม่สูญ เราจะติดต่อคนที่ตายแล้วได้อย่างไร

4. ถ้าเกิดชาติหน้าจะจำกันได้ไหมหรือทำอย่างไรจะได้จำกันได้

5. ทำไมคนเราถึงไม่มีอายุขัยที่ตายตัว เช่น ทุกคนอายุขัยที่ 100 ปี เท่ากันหมด

6. การที่เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนทีล่วงลับไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาได้รับแล้ว

7. อีกหลายปีถัดมา เมื่อผมตายไป ผมจะได้พบคนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหรือไม่

ที่กล่าวมาทั้ง 7 ข้อ เป็นเพียงตัวอย่างคำถามที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดตั้งแต่คุณแม่ผมเสียไป

ว่าทำอย่างไรถึงจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง

ลืมอีกข้อครับ ถ้าเราคิดว่าการตายเป็นสุขจริงๆ หมายถึงหมดทุกข์ หมดโศก หมดกรรม  ทำไมเราไม่จัดงานฉลองครับ

ทำไมจัดงานไว้อาลัยให้เศร้าศร้อย

ขอพักสัก 2 วัน เดี๋ยวต่อครับ


คำตอบของทุกคำถามมีอยู่ในพระพุทธศาสนาครับ
ตอบให้แคบที่สุดก็ต้องบอกว่า "กมฺมุนา วตตีโลโก แปลว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
ถ้าตราบใดที่ยังมีความยึดมั่นถือมั่นอยู่(ยังไม่หลุดพ้น) ตราบนั้นก็ยังต้องเกิดต่อไป
โดยมีกรรมเป็นตัวนำไปเกิด เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภูมิทั้ง  3
1. เทวภูมิ พวกเทวดา พรหม
2. มนุษภูมิ คน
3. อบายภูมิ ได้แก่ เปรต อสูรกาย ยักษ์ สัตว์นรก

คติที่ว่าตายแล้วสูญ และตายแล้วไม่สูญ ทางพุทธศาสนาถือว่าเป็นคติที่สุดโต่งทั้ง 2 ด้าน ไม่ให้ยึดถือ

สำหรับคำถามที่ว่า เจอกันอีกจะจำได้ไหม ให้ลองนึกถึงตัวเราเองว่าจำเรื่องราวของตัวเองชาติที่แล้วได้ไหม
ไม่ต้องเอาตนเองไปเทียบกับคนอื่น

ส่วนเรื่องอายุขัยแต่ละคนก็มีกรรมเป็นตัวกำหนด แต่อายุกัป(อายุขัยของมนุษย์ตามปกติในช่วงเวลานั้นๆ)
เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้วายชนม์นั้น เราผู้เป็นปุถุชนธรรมดา ไม่ได้มีอภิญญา ไม่มีทางรู้ได้ว่าผู้นั้นได้รับหรือไม่
แต่ตามคำภีร์ทางพุทธศาสนาบอกไว้ว่าผู้ที่จะได้รับส่วนกุศลที่มีคนอุทิศให้นั้นต้องไปเกิดเป็นปรทัตตูปชีวีเปรต(เปรตชนิดหนึ่ง) เท่านั้น จึงจะรับได้ เพราะถ้าเกิดในภพภูมิอื่นที่สูงหรือต่ำกว่าจะไม่อยู่ในภาวะที่รับได้ เช่น ถ้าไปเกิดเป็นเทวดาซึ่งมีสภาวะที่ละเอียดมากๆ จะมีสุขที่ละเอียดยิ่งกว่า ไม่สามารถรับสิ่งที่หยาบกว่าได้ หรือ ในกรณีที่เกิดเป็นสัตว์นรก ก็ต้องรับกรรมตามแบบของสัตว์นรก ไม่สามารถรับส่วนกุศลได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สามารถรับส่วนกุศลได้ บุญกุศลที่เราทำนั้นก็ยังคงเป็นของเราอยู่ไม่ได้หายไปไหน

รายละเอียดลึกซึ้งกว่านี้มาก ต้องศึกษาเอาจากพระไตรปิฎกครับ อย่าไปเชื่อ(พวกที่ตั้งตัวว่าเป็น)อาจารย์มากนัก เพราะบางส่วนก็ถูก บางส่วนก็ไม่ถูก เชื่อพระไตรปิฎกดีที่สุดครับ

หวังว่าคำตอบนี้จะพอเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านบ้าง


เห็นด้วยครับ
บันทึกการเข้า

Life was like a box of chocolate. You never know what You're gonna get.
Apichaij
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 1


« ตอบ #38 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 09:29:09 AM »

1. ตายแล้วไปไหน
แล้วแต่กรรมส่งผลครับ โดยเฉพาะนิมิตก่อนตาย (กรรมจะเป็นตัวกำหนดนิมิต)

2. ตายแล้วสูญไหม
เหมือนความเห็นของคุณเอเคครับ
คติที่ว่าตายแล้วสูญ และตายแล้วไม่สูญ ทางพุทธศาสนาถือว่าเป็นคติที่สุดโต่งทั้ง 2 ด้าน ไม่ให้ยึดถือ

3. ถ้าไม่สูญ เราจะติดต่อคนที่ตายแล้วได้อย่างไร
แล้วแต่ภพภูมิของคนที่ตายไปแล้วว่าเกิดเป็นอะไร ความสามารถของผู้ต้องการติดต่อ ความจำได้

4. ถ้าเกิดชาติหน้าจะจำกันได้ไหมหรือทำอย่างไรจะได้จำกันได้
ต้องฝึกสมถะกรรมฐาน จนได้จุตูปปาตญาณ หรือจักษุทิพย์ เห็นการเกิดดับของสัตว์อื่น และ ต้องมี ปุพเพนิวาสนสติ ซึ่งเป็นญาณที่ทำให้ระลึกชาติของตัวเองได้ครับ

5. ทำไมคนเราถึงไม่มีอายุขัยที่ตายตัว เช่น ทุกคนอายุขัยที่ 100 ปี เท่ากันหมด
มีกรรมนำมาเกิด และมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ครับ

6. การที่เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนทีล่วงลับไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาได้รับแล้ว
เหมือนความเห็นคุณเอเคครับ แล้วแต่ภพภูมิ บางภพภูมิแผ่ส่วนกุศลได้(เช่นเปรต) บางภพภูมิแผ่เมตตาได้(เช่นสัตว์) บางภพภูมิให้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย(เช่นอสุรกาย
แต่ได้รับหรือไม่ ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และทำจิตระลึกถึงด้วยใจที่เป็นกุศล ไม่เสียหายอะไร

7. อีกหลายปีถัดมา เมื่อผมตายไป ผมจะได้พบคนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหรือไม่
แล้วแต่กรรมจะซัดพาไปครับ ทำเหตุปัจจัยให้เหมาะสมอาจจะได้พบ
บันทึกการเข้า
Choro - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3853



« ตอบ #39 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 12:25:29 PM »

ขอแสดงความเสียใจกับท่าน จขกท ด้วยครับ
บันทึกการเข้า

สุดท้ายชีวิตไม่ขอรวย ขอแค่ไม่ป่วยก็พอแล้ว
@สิบฤทัย@
###คาสโนว่า ฆ่าไม่ตาย###
Sr. Member
****

คะแนน 30
ออฟไลน์

กระทู้: 914


นักบุญคนบาป (ซุ้มเสือโหย)#วิมานดิน#


« ตอบ #40 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 12:40:05 PM »

1. ตายแล้วไปไหน
แล้วแต่กรรมส่งผลครับ โดยเฉพาะนิมิตก่อนตาย (กรรมจะเป็นตัวกำหนดนิมิต)

2. ตายแล้วสูญไหม
เหมือนความเห็นของคุณเอเคครับ
คติที่ว่าตายแล้วสูญ และตายแล้วไม่สูญ ทางพุทธศาสนาถือว่าเป็นคติที่สุดโต่งทั้ง 2 ด้าน ไม่ให้ยึดถือ

3. ถ้าไม่สูญ เราจะติดต่อคนที่ตายแล้วได้อย่างไร
แล้วแต่ภพภูมิของคนที่ตายไปแล้วว่าเกิดเป็นอะไร ความสามารถของผู้ต้องการติดต่อ ความจำได้

4. ถ้าเกิดชาติหน้าจะจำกันได้ไหมหรือทำอย่างไรจะได้จำกันได้
ต้องฝึกสมถะกรรมฐาน จนได้จุตูปปาตญาณ หรือจักษุทิพย์ เห็นการเกิดดับของสัตว์อื่น และ ต้องมี ปุพเพนิวาสนสติ ซึ่งเป็นญาณที่ทำให้ระลึกชาติของตัวเองได้ครับ

5. ทำไมคนเราถึงไม่มีอายุขัยที่ตายตัว เช่น ทุกคนอายุขัยที่ 100 ปี เท่ากันหมด
มีกรรมนำมาเกิด และมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ครับ

6. การที่เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนทีล่วงลับไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาได้รับแล้ว
เหมือนความเห็นคุณเอเคครับ แล้วแต่ภพภูมิ บางภพภูมิแผ่ส่วนกุศลได้(เช่นเปรต) บางภพภูมิแผ่เมตตาได้(เช่นสัตว์) บางภพภูมิให้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย(เช่นอสุรกาย
แต่ได้รับหรือไม่ ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และทำจิตระลึกถึงด้วยใจที่เป็นกุศล ไม่เสียหายอะไร

7. อีกหลายปีถัดมา เมื่อผมตายไป ผมจะได้พบคนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหรือไม่
แล้วแต่กรรมจะซัดพาไปครับ ทำเหตุปัจจัยให้เหมาะสมอาจจะได้พบ

สรุปแล้วทั้งหมดที่ว่ามานี้ถ้าอยากรู้ต้องตายก่อนอ่ะดิ  งั้นผมไม่อยากรู้แล้วอ่ะครับ
บันทึกการเข้า

รับซื้อ,ขายที่ดินเขตปริมณฑลและภาคกลาง-ต่างจังหวัดรับซื้อ,ขายเฉพาะเขตเมืองและแหล่งท่องเที่ยว:รับถมที่ในเขตภาคกลาง:รับซื้อ,ขายรถยนต์  สนใจเชิญ PMครับ(ปรีชา)
sopon7
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 139
ออฟไลน์

กระทู้: 1095


« ตอบ #41 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 02:20:08 PM »

- ขอแสดงความเสียใจกับ จขกท. ด้วย
- ผมเองก็เสียทั้งพ่อและแม่ไปหลายปีแล้ว เข้าใจความรู้สึกดี โดยเฉพาะแม่ลูก ๆให้อาหารทางสายยางที่บ้านถึง 4 เดือน กว่าท่านจะเสีย
- และขณะนี้ผมต้องเป็นผู้นอนเฝ้าแม่ยายที่โรงพยาบาลเป็นคืนที่ 17 แล้ว ด้วยโรคชลา ส่วนแฟนผมเฝ้าตอนกลางวัน ...ยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าสิ้นเดือนนี้โรงเรียนเปิดเทอมจะทำอย่างไรดี
บันทึกการเข้า
supreme
Hero Member
*****

คะแนน 127
ออฟไลน์

กระทู้: 1187



« ตอบ #42 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 02:38:17 PM »

 ไหว้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ  และขอตอบคำถามตามความเข้าใจของผมนะครับ

1. ตายแล้วไปไหน

ตายแล้วก็ไปเกิด แต่จะเกิดเป็นอะไรขึ้นอยู่กับว่าวินาทีก่อนตาย จิตเป็นอย่างไร ในชาดกมีคนที่อิจฉาสุนัขของเศรษฐีที่ไม่ต้องลำบากอดยาก  วินาทีที่อิจฉานั้นได้กินอาหารติดคอตาย แล้วไปเกิดเป็นสุนัขของเศรษฐีทันที
หรือคนที่ทำกรรมชั่วมามากจิตก็มีแต่อกุศลก็ไปจุติในนรกทันที   หรือคนที่ยึดติดผูกพันกับสิ่งใดก็จะวนเวียนอยู่กับเรื่องนั้นๆ สถานที่นั้นๆ
ด้วยความเชื่อทำนองนี้ คนสมัยก่อนญาติคนป่วยใกล้ตายก็มักจะมาเฝ้า แล้วบอกคนป่วยให้นึกถึงพระบ้าง ถึงกุศลที่ทำไว้บ้าง  เพื่อหวังให้ปลายทางเป็นที่สุข แต่ในพุทธศาสนายกให้การเกิดเป็นมนุษย์ดีกว่าการเกิดอื่นใด เพราะบางอย่างก็มีแต่สัญชาติญาณเรียนรู้ธรรมได้ยาก บางอย่างก็สุขจนมองไม่เห็นสภาวะทุกข์  แต่ก็มีที่ตายแล้วไม่เกิดใหม่ คือ พระอรหันต์

2. ตายแล้วสูญไหม

เป็นได้ทั้งสูญและไม่สูญ  ลองหาอ่านใน ทิฐิ ๖๒ กับ ปฏิจจสมุปบาท ครับ


5. ทำไมคนเราถึงไม่มีอายุขัยที่ตายตัว เช่น ทุกคนอายุขัยที่ 100 ปี เท่ากันหมด

ก่อนเกิดขึ้นอยู่กับเหตุกรรมเป็นพื้นฐานของแต่ละคน  พอเกิดเป็นคนแล้วก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่ทำด้วย  บางคนด้วยกรรมทำให้เกิดในสกุลที่ร่างกายอ่อนแอจนหมอดูทายว่าอายุจะสั้น  แต่เจ้าตัวดูแลตัวเองเป็นอย่างดีก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงอายุยืนกว่าใครในสกุล  กรรมเก่าใหม่ไม่เหมือนกัน

6. การที่เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนทีล่วงลับไปแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาได้รับแล้ว

คิดว่าอย่างเราๆท่านๆคงไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่า ได้รับจริงหรือไม่  คิดไปก็ไม่สิ้นสงสัยทำให้ทุกข์เปล่าๆ   ทำไปเถิดครับ ทำด้วยความศรัทธา ทำด้วยความปรารถนาดี  การทำบุญมีถึงสิบวิธีเลือกได้ตามโอกาสต่างๆครับ  ไม่ต้องรอตักบาตรตอนเช้าเท่านั้น  และพุทธศาสนาก็มุ่งให้ทำเอง(ได้รับเองแน่นอน)มากกว่ารอรับ(ซึ่งไม่แน่นอนเพราะมีเหตุปัจจัยสารพัด)


7. อีกหลายปีถัดมา เมื่อผมตายไป ผมจะได้พบคนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหรือไม่

เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้อยู่กับเหตุปัจจัย  บางทีพบก็เหมือนไม่ได้พบ และอาจจะไม่ใช่ชาติถัดไปก็ได้  ชีวิตไม่เหมือนในหนังที่ชาติถัดไปก็เจอกันได้ง่ายๆ  เจอกันแล้วจำกันได้อีก    ในพุทธศาสนากล่าวถึงความสัมพันธ์ในชาติก่อน(ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นชาติที่แล้ว แต่เป็นชาติก่อนโน้น)ส่งผลต่อความรู้สึกถึงชาติปัจจุบันให้ชอบไม่ชอบ  แต่เราก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนเรามีฐานะต่อกันแบบไหน และเวรกรรมทำให้วนเวียนสลับศักดิ์กันหาจุดเริ่มจุดจบไม่เจอ และเรื่องชาติภพ เรื่องกรรม นั้นปุถุชนไม่สามารถรู้และจบด้วยการ พูด คุย คิด กันเองครับ(คิดมากก็ทำให้บ้าได้) แต่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า มีชาติภพ มีเวรกรรม จริง

ถ้าเราคิดว่าการตายเป็นสุขจริงๆ หมายถึงหมดทุกข์ หมดโศก หมดกรรม  ทำไมเราไม่จัดงานฉลองครับ ทำไมจัดงานไว้อาลัยให้เศร้าศร้อย

ทุกข์สุขคืออะไร  ในพุทธศาสนาคำว่าทุกข์มีเป็นสิบๆความหมาย ตามแต่บริบท วาระ  ความสุขก็มีหลายแบบ  แต่ความสุขแบบปุถุชนพระท่านว่าไม่ใช่สุข ท่านว่าเป็นแต่ทุกข์มากกับทุกข์น้อย  ทุกข์มีไว้ให้กำหนดรู้ไม่ได้มีไว้ให้เป็นทุกข์ แต่คนที่ไม่เคยฝึกมาจะให้หายทุกข์ทันใจคงยาก  เรื่องทางโลกนั้นสับสน หาความจริงได้ยาก เพราะแตกต่างทั้ง มารยาท วัฒนธรรม ชนชาติ ต่างกรรมต่างวาระ ศัพท์ที่บรรยัติ ที่เคลือบความรู้สึกเอาไว้  ทุกข์ของคนหนึ่งอาจเป็นธรรมดาของอีกคนก็ได้  ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวถ้าจะหาเหตุผลของแต่ละคน  แต่ถ้าคิดแบบพุทธศาสนาก็จบตั้งแต่เรื่องทุกข์แล้วครับ  แต่จะทำใจยอมรับได้ไหม  ส่วนแผลในใจผมเชื่อว่าทุกคนมี  ทุกคนที่มีมโนธรรมแม้เพียงเล็กน้อยสามารถรู้สึกได้เมื่อย้อนคิดถึง แต่ขอให้มันเป็นแค่เครื่องเตือนความจำเท่านั้น  อย่าเอามาเป็นอารมณ์คิดฟุ้งนานๆบันทอนจิตใจเลยครับ  วัฏสงสารนี้อีกยาวไกล มีโอกาสอีกมากที่จะให้เราแก้ไขด้วยการชดเชยเริ่มใหม่ไม่ทำอีก  แต่ไม่ใช่แก้ไขเรื่องที่เกิดผ่านไปแล้วไม่ให้เกิดแบบย้อนเวลา แม้ในพระไตรฯก็ไม่มีกล่าวถึงการย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตได้ มีเร่งให้มุ่งทำปัจจุบันเท่านั้น 

บันทึกการเข้า

การศึกษาโดยไม่คิด ไร้ประโยชน์    การคิดโดยไม่ศึกษา เป็นอันตราย
โอรสเยาวราช-รักในหลวง
ใครจะใหญ่เกินกรรม
Full Member
***

คะแนน 11
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 313


ผยองในความเป็นไทย


« ตอบ #43 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 04:41:13 PM »

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับพี่ณัฐ

ได้คุยกับพี่เรื่องคุณแม่ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยา

ไม่คิดว่าท่านจะจากพี่ณัฐไปเร็วขนาดนี้
บันทึกการเข้า

โพธิญาณ
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2008, 09:56:34 PM »

หนังสือน่าอ่าน

อัลเบิร์ต ไอสไตส์พบ พระพุทธเจ้าเห็น
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.111 วินาที กับ 22 คำสั่ง