เพื่อนใครเอ่ยออกหนังสือด้วย
นพดล เปิดตัวหนังสือ ผมไม่ได้ขายชาติ
โดย กรุงเทพธุรกิจ วัน ศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551 14:04 น.
อดีตรมว.บัวแก้ว ใช้พอกเก็ตบุ๊คแจงผลงาน-ปมประสาทเขาพระวิหาร ยันทำถูกต้อง ระบุถ้าลามถึงอาเซียน-ยูเอ็นหรือศาลโลก ไทยเสียเปรียบเขมร "จาตุรนต์"หนุนไม่ผิด ถูกลัทธิคลั่งชาติเล่นงาน
นายนพดล ปัทมะที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ เมื่อเวลา 10.00 น. นายนพดล ปัทมะ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ "ผมไม่ได้ขายชาติ" ความหนา 233 หน้า โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวเป็นผลงานการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องปราสาทพระวิหาร
อย่างไรก็ตาม ในการเปิดตัวหนังสือครั้งนี้มีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมแสดงความยินดีด้วย เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา
นายนพดล กล่าวว่าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีปัญหาปราสาทเขาพระวิหาร ว่าตนเป็นเหยื่อทางการเมือง และการจ้องทำลายจากฝ่ายต่าง ๆ ที่ไม่พอใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเป็นประเด็นการเมือง
"ผมจึงต้องชี้แจงผ่านตัวหนังสือ หากทุกฝ่ายดำเนินการตามแนวทางที่ตนได้ไปเจรจาแก้ไขในสมัยเป็น รมว.การต่างประเทศ คงจะไม่ทำให้ปัญหาลุกลามบานปลาย และยืนยันว่าไม่ได้ขายชาติ เพราะในการเจรจากับกัมพูชานั้นประเทศไทยไม่ได้เสียพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรจากการลงนามในแถลงการร่วมไทย-กัมพูชา
ถึงแม้รัฐบาลไทยพยายามคัดค้าน แต่กัมพูชายังสามารถขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารได้ จึงไม่เกี่ยวกับการที่ผมไปดำเนินการเจรจาพูดคุย เพราะการทำงานของผมมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องดินแดนไทยด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะข้าราชการการเมือง และทหารให้การสนับสนุนโดยไม่ได้คัดค้านใด ๆ"
นายนพดล กล่าวยืนยันว่าข้อมูลในหนังสือเล่มนี้เป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งมีเอกสารทางราชการ จึงไม่กลัวหากใครจะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการแก้ตัว ฝ่ายค้านหรือ พันธมิตร จะนำไปเป็นประเด็นเพื่อใช้โจมตี ก็ไม่กังวล ถ้าใครจะไม่ชอบตน แต่ก็หนีความเป็นจริงไม่พ้น ต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ตนนำมาเปิดเผยในหนังสือนี้
เขาระบุอีกว่า ขณะนี้ปัญหาเรื่องปราสาทพระวิหาร ทางออกที่ดีที่สุดคือทั้งไทยและกัมพูชาต้องเจรจากันแบบทวิภาคี เจรจาเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่ทับซ้อน 4.6 และให้ทหารตรึงกำลังในพื้นที่ให้น้อยที่สุดเพื่อเลี่ยงการปะทะ รวมทั้งวางกรอบการจัดทำเรื่องแผนที่ให้เป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยกำหนดช่วงเวลาให้เป็นรูปธรรม เพราะถ้าปัญหาลุกลามถึงระดับอาเซียน หรือไปจนถึงสหประชาชาติ หรือศาลโลก ประเทศไทยจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน จึงอยากให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญจุดนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมจึงเปิดตัวหนังสือในช่วงเวลาที่กำลังเกิดปัญหาความขัดแย้ง นายนพดล กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ขั้นตอนการจัดทำหนังสือเสร็จในช่วงนี้พอดี เมื่อถามว่า การเปิดตัวหนังสือนั้นได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่ได้ปรึกษาอะไร เพียงแค่พูดคุยกันเป็นปกติ เรื่องนี้ต้องนำเสนอความจริงให้ปรากฏเพราะเมื่อความจริงปรากฏแล้วตนจะได้เป็นอิสระจากการที่ถูกกล่าวหา
เมื่อถามว่า คิดว่าหนังสือเล่มนี้จะกระทบต่อการเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา หรือไม่ อดีตรมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากไทย-กัมพูชานั้นเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาตลอด การเจรจาจากนี้ไปต้องอยู่บนสันติ ประชาธรรม ต่อข้อถามว่า ได้ให้ข้อมูลกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศคนปัจจุบันหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า แนวทางของตน กับ นายสมพงษ์ อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องรายละเอียดบ้าง ซึ่งตนคงไม่ต้องไปแนะนำนายสมพงษ์แต่อย่างใด
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า นายนพดลไม่ได้ทำอะไรผิดในการปฏิบัติหน้าที่รมว.การต่างประทศ เพราะเป็นการปกป้องรักษาประเทศตามหลักวิชาการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายนพดลนั้นมาจากความพยายามนำชาตินิยมแบบคลั่งชาติมาใช้โจมตีรัฐบาล และที่สำคัญคือเป็นเหยื่อของรัฐธรรมนูญมาตร 190 ที่ทำให้ถูกโจมตี การทำหน้าที่ของนายนพดลเป็นการปกป้องรักษาอธิปไตยประเทศไว้
นายสมชายก็เหมือนเดิมอีกแหละครับ...
ตรงตัวสีแดง... ก็ในเมื่อเขมรจะขึ้นทะเบียนได้อยู่แล้วโดยไม่เกี่ยวกับไทย...
แล้วทำไมไปยุ่งเกี่ยวอะไรเขมรด้วย...
แต่เชื่อแมะ... มีคนอยู่กลุ่มใหญ่ยังเชื่อนายนี่อยู่ครับ...
ฮาแตกเลยจริงเชียว...
