เย้ยฟ้า-ท้าดิน"โฟนอิน ภาค ๒" 11 พฤศจิกายน 2551 กองบรรณาธิการ
ผมไม่กลัวความแก่ แต่กลัวที่แก่แล้วจะเป็นอย่างพวกข้าราชการใหญ่ๆหลังเกษียณ เช่นพวกปลัดกระทรวง พวกอธิบดี พวกผู้ว่าราชการจังหวัด
โดยเฉพาะพวกนายพลตำรวจ นายพลทหารบางคน ที่บ้านเมืองมากด้วยปัญหาอยู่เวลานี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากพวก"แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน"หลังเกษียณเหล่านี่แหละ!
ความคิดนี้ เกิดขึ้นหลังจากอ่านคำสัมภาษณ์ของ"พลเอกพัลลภ ปิ่นมณี "ทหารชรารุ่นเดียวกับพลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่ไปพบปะพูดจากับพ.ต.ท.ทักษิณที่จีนเพิ่งกลับมา
คนว่างงานด้วยวัยหลังเกษียณก็น่ารักอย่างนี้ คือจะวนกลับไปตั้งต้นเป็นเด็กอีกครั้ง คือวัยเด็กนี่..จะเป็นวัยไร้เดียงสา ซื่อ ใส บริสุทธิ์ สมองและชีวิตจะเหมือนกระดาษซับ
ใครทำอะไรให้เห็น ก็ซับจำไว้เป็นแบบอย่าง ใครพูดอะไรให้ฟัง ก็ซับจำไว้เป็นความเชื่อ ใครเอาอุจจาระมาให้ดมแล้วบอกว่า..นี่ หอม ก็เชื่อว่ากลิ่นนี้คือกลิ่น หอม
ใครเอากุหลาบมาให้ดม แล้วบอกว่า..นี่ เหม็น ก็เชื่อว่ากลิ่นแบบนี้คือกลิ่นเหม็น
นี่คือวัยซึมซับ"ใต้กระลาครอบคือโลกกว้าง"ของเด็กกลับวัยไงล่ะ!
พลเอกพัลลภบอกว่าไม่เคยเห็นกำแพงเมืองจีน ก็ชวนพวกทหารชรารุ่นจปร.๗ สาม-สี่คนไปดูกัน แล้วก็ถือโอกาสไปถามพ.ต.ท.ทักษิณที่พักอยู่ที่เมืองจีน ด้วยเรื่องที่ คาใจ ๒ เรื่อง คือ
๑.เรื่องมีคนกล่าวหาว่าไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
๒.เรื่องถูกหาว่าอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในประเทศวันนี้
แล้วคนในยศพ.ต.ท.ก็ตอบให้คนในยศพล.อ.เชื่ออย่างสนิทใจ เชื่อจนต้องรีบนำความเชื่อมาบอกปวงชนชาวไทยให้เชื่อตาม โดยพลเอกพัลลภนำความเชื่อที่ซับมาจากปากทักษิณบอกนักข่าวว่า
"พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และผมก็เชื่ออย่างนั้น เพราะพวกเราที่จบมาจากโรงเรียนทหาร ตำรวจ ถูกหล่อหลอมมาให้ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ และท่านก็ถามผมกลับมาว่า เชื่อหรือไม่
ซึ่งจากการที่ผมสังเกตจากคำพูด สีหน้า และลักษณะท่าทาง ผมมีความเชื่อ และมีอย่างหนึ่งท่านก็บอกว่า กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ และพ.ต.ท.ทักษิณยังย้ำอีกว่า
มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ๑๐๐%อยู่แล้ว เพราะจบมาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เคยสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน"
ครับ..นี่คือคำตอบข้อสงสัยแรก ส่วนคำตอบในข้อสงสัยที่สอง คือเรื่องการอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในประเทศ"พล.อ."นำคำตอบของ"พ.ต.ท." มาป่าวร้องสู่สามัญชนผู้ไร้ยศ-ไร้ศักดิ์ว่า
"ผมถามไปว่าจะยุติปัญหาได้อย่างไร โดยพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่ามีทางเดียว ถ้ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยุติบทบาท ก็จะทำให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ก็จะยุติบทบาทลง ทุกอย่างก็จะยุติลง
แต่ปัญหาขณะนี้อยู่ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาลก็จะต้องบริหารประเทศไป เพราะว่ารัฐบาลเข้ามาตามคัลลองของระบอบประชาธิปไตย และได้รับการโปรดเกล้าฯจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างถูกต้อง
ถ้าไม่ไว้ใจรัฐบาล องค์กรตรวจสอบในวันนี้มีเยอะ ก็สามารถตรวจสอบและดำเนินคดีได้ นี่คือคำตอบที่พ.ต.ทักษิณได้บอกกับผม"
ทั้งหมดนี้"เท็จ-จริง"อยู่กับสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจนะครับ เพราะผมลอกเขามา ไม่ได้ฟังจากปากพลเอกพัลลภเอง ขณะลอก ดวงตาผมก็เริ่มเห็นสัจธรรม หมดความสงสัยที่ว่า
"ทำไมรากหญ้าจึงเชื่อถือ-ศรัทธาทักษิณ?"
ก็ยอดยางขนาดนายพลยังเหมือนคนไขลาน
ก็ทักษิณ เป็นทั้งรัสปูติน เป็นทั้งฮูดินี่ นอกจากมีเงินแล้ว ยังมีมนต์วาจา ใครฟังแล้วเหมือนต้องนะจังงัง จากที่ฉลาดจะกลายเป็น"ไอ้งั่ง"ไปทันที-ทันใด
ฉะนั้น จึงอย่าแปลกใจที่เห็นคนจากทุกระดับชั้น ทุกระดับอาชีพ ตั้งแต่การศึกษาอภิมหาดอกเตอร์เรื่อยลงมาเลย ให้ทักษิณเป่าขม่อม-ล้างสมองพักเดียว จะเหมือนแมวถูกตัดไข่
พันแข้ง-พันขา เอาแต่หาช่องโดดขึ้นมานอนตักท่าเดียว!
สังคมไทย"ยุคต่อไป"ถ้าใครมีอำนาจวาสนานำพาชาติ ผมขอฝากอีกซักเรื่องคือช่วยออกระเบียบทีเถอะว่า บรรดาข้าราชการที่มี"ยศ"นำหน้าทั้งหลาย เมื่อเกษียณ หรือพ้นจากราชการไป
ไม่ต้องคืนยศ แต่ห้ามใช้ยศนำหน้าชื่ออีก!
ก็ผู้ใหญ่ที่คืนวัยสู่ทารก ขืนให้เอายศตำแหน่งใช้เรียกหาเปรอะไป มันก็คล้ายเอาไม้ขีดไฟให้เด็กเล่นนั่นแหละ
"ท่าน"ของพลเอกพัลลภให้สัมภาษณ์รอยเตอร์วานนี้(๑๐ พย.๕๑)ก็ไม่ทราบว่าพลเอกพัลลภได้ฟังหรือเปล่า แต่ถ้าได้ฟัง เมื่อฟังแล้วยังยืนยันในความเชื่ออยู่อีกหรือไม่ ก็ยากเอานิยม-นิยายจากท่าน
ทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่อังกฤษปิดป้ายประเทศว่า"ที่นี่..ไม่ต้อนรับทักษิณกับเมีย"ด้วยกิริยาการสุนัขจิ้งจอกกับองุ่นเปรี้ยวอย่างไร เข้าใจว่าท่านหาอ่านได้จากข่าวทั่วไปนะครับ
แต่ที่ผมขำปนทุเรศอยู่อย่างคือ ทักษิณยกตนเองเทียบ"เนลสัน แมนเดล่า นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนผู้ยิ่งใหญ่แห่งแอฟริกาใต้ในเรื่องการแบ่งแยกสีผิว เขาต่อสู้และอยู่ในคุกเกือบ ๓๐ ปี โดยมี"นางแมนเดล่า"ผู้เป็นภรรยาสืบสานเจตนาเคี่ยวคลั่งอยู่นอกคุก
เนลสัน แมนเดล่า ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เขาออกจากคุกได้เป็นประธานาธิบดี คนแรกของแอฟริกาใต้ ขณะนี้เขายังอยู่เป็นวีรบุรุษในหัวใจของคนทั้งโลก ด้วยวัยกว่า ๙๐ ขวบปี
แล้ว-ไอ้แม้วนักโทษหนีคุกกะเมียในคดีไม่ซื่อต่อชาติ มันมีอะไรไปเทียบขี้ตีนใต้เกือกของเนลสัน แมนเดล่า จึงเผยอหน้ายกตนขึ้นไปเทียบ?
เพราะความเป็น"กระล่อนโลก"อย่างนี้แหละ นับวันจึงหาที่ซุกหัวได้ยากลงไปทุกที ไม่มีประเทศไหนอยากคบค้าสมาคมด้วย เนื่องจากเป็น"ตัวซวย"ไม่สร่างซา ด้วยวาจายกหางและหาเหตุไม่จบ-ไม่สิ้น
อังกฤษถอนวิซ่า แทนที่จะสำนึกแล้วหยุดซ่า กลับประกาศผ่านรอยเตอร์อีกว่า:- "ผมกำลังคิดว่าการชุมนุมคราวหน้า ผมจะขอไม่ให้ต้องถ่ายทีวี อยากพูดกับฐานเสียงของผมเอง ให้เขาเข้าใจชัดๆไปเลย เพราะบางทีพูดต่อมีเดียแล้วพูดมากไม่ได้ พูดกับฐานเสียงตรงๆจะได้เล่าให้ฟังและเปิดเผยชื่อได้"
เห็นมั๊ย..หางโผล่แล้วไง รายการชุมนุมคนเสื้อแดง และรายการโฟนอิน ที่แท้ก็แผนการมาจากทักษิณนี่เอง
จากสนามราชมังคลาฯ ต่อจากนี้จะสัญจรเจาะ"กลุ่มฐานเสียง"รายภาค รายจังหวัด ครั้งหน้าไม่ที่อุดรธานี ก็ที่ขอนแก่น หรือไม่ก็ที่วัดสวนแก้ว ของพระพยอมก่อน เห็นนายจตุพร พรหมพันธุ์เขาเกริ่นๆนำร่องอยู่
นักข่าวรอยเตอร์ถามย้ำว่า ในรายการชุมนุมคนเสื้อแดงครั้งหน้าจะโฟนอิน เข้ามาอีกมั๊ย? กระล่อนโลก ตอบฉาดฉานว่า
"แน่นอน ผมต้องพูดกับคนที่ยังรักและศรัทธาผม ผมต้องพูดให้เขาฟัง และคราวหน้าคงจะต้องพูดให้ยาวขึ้น และคงต้องเปิดเผยชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะเขาไล่ผมแบบนี้แล้ว มันมากไปแล้ว"
ครับ..อย่างนี้ไม่ใช่แบไพ่เล่น แต่เรียกว่า"แก้ผ้าเล่น"แล้ว ทุกอย่างที่วับๆแวมๆมาตลอดว่า"ทาสจัดฉากให้" ถึงตอนนี้มันก็แจ่มแจ้งแดงแจ๋ "เนื้อแท้ก็คือทักษิณเองทั้งหมด"
ทักษิณที่ไปถึงขั้นแยกพื้นที่-แยกประชาชนเป็น คนของผม ประชาชนของผม ฐานเสียงของผม คนที่รักศรัทธาผม
ทักษิณที่ประกาศตัวตนแท้จริง"ไม่หยุด..เดินหน้าปลุกปั่น-ป่วนเมืองต่อ"!
แหม..แล้วใครจะไปอดใจไหว ในเมื่อทำวับๆแวมๆปลุกความกระหายใคร่รู้ไว้ล่วงหน้าว่า"จะเปิดเผยชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด"แบบนี้ อย่าว่าแต่เสื้อแดงเลยครับ เสื้อเหลืองก็คงอยากฟังจนนั่งไม่ติด มีรายการวันไหน
รับรอง..แห่กันไปวิกแตก!
"เขาไล่ผมแบบนี้แล้ว มันมากไปแล้ว"
ใครไล่ทักษิณ เห็นแต่ทักษิณ"หนีคุก"ไปเองมิใช่หรือ แล้วที่ว่าจะ"เปิดชื่อ"ผู้เกี่ยวข้องน่ะ
"เกี่ยวข้องกับอะไร?"เพราะมันไม่มีใครไล่ใคร มีแต่การ"หนีคุก"ของนักโทษชายที่ชื่อทักษิณกะพจมานเท่านั้น?!
นี่ก็มีคนอี-เมล์เข้ามาบอกว่า"ที่จังหวัด... มีคนกลุ่มหนึ่งนำรูปถ่ายของทักษิณมาติดแทน รับประแสของคณะบริวารกระล่อนโลกที่เตรียมการ"โฟนอินสัญจร"ในพื้นที่ ผมไม่อยากจะเชื่อ แต่หยั่งกระแสสมุนแล้วจะปฏิเสธโดยไม่คิดตรวจสอบก็คงไม่ได้ แล้วใครล่ะจะรับธุระบ้านเมืองเป็นภาระตน?
ในเมื่อ ข้าราชการพื้นที่ มหาดไทย ตำรวจ ทหาร บนความเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ผมก็ยังเห็นเขาเฉยๆ"ธุระไม่ใช่"กันอยู่
บ้านเมืองเหมือนตกอยู่ภายใต้การยึดครอง ท่านว่ามั๊ย? เพราะนับตั้งแต่รัฐบาลสมัคร ยันรัฐบาลสมชาย เหมือนไม่ใช่"รัฐบาลไทย"ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมได้กลิ่น..ไม่ใช่กลิ่นดินจากฟ้าใหม่ แต่กลิ่นอะไรก็ไม่รู้..คาวๆ?
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=11/Nov/2551&news_id=166298&cat_id=200