บทความ ราคา LPG ครับ
จาก กรุงเทพธุรกิจ
การเมือง : บทวิเคราะห์
วันที่ 21 มกราคม 2552 15:31ความจำเป็นในการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG)
โดย : ทิวากร ณ กรุงเทพฯ
ภาพประกอบข่าว
TOOLS
ขนาดตัวอักษร
พิมพ์ข่าวนี้
ส่งต่อให้เพื่อน
share
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท.ดึงเอกชนตั้งปั๊มเอ็นจีวีลดภาระ1.5พันล้าน
ความจำเป็นในการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG)
ปตท.ลดราคาดีเซล60สต.-ขึ้นเบนซิน60สต.พรุ่งนี้
พลังงานเล็งซื้อไฟเอสพีพีเพิ่ม2พันเมกะวัตต์
ปตท. แจ้งแผนจัดหาเงินกู้ 5 ปี (ปี 2552-2556)
คอลัมน์อื่นๆ
บทวิเคราะห์
บำนาญต้องรออีกนานสักเท่าไร
ตีรณ เตือนแพคเกจกระตุ้นศก.ไม่รอบคอบงบสูญเปล่า
คุณภาพชีวิต
กมธ.สภาเผย500คนในขบวนการทุจริตฝายแม้ว
ผอ.อนุรักษ์ฯเผยสร้างเยาวชนแจ้งค้าสัตว์-ตัดไม้
การศึกษา
ชัยวุฒิปูดมหาวิทยาลัยเอกชน ใช้กยศ.ล่อเด็กเข้าเรียน
ใครอยากเป็นตำรวจหญิง รีบสม้ครเร็ว
ความพยายามปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ของกระทรวงพลังงานมีสิ่งที่น่าสงสัย
วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ใช้ก๊าซ LPG รถเก๋ง รวมทั้งบรรดารถแท็กซี่ต้องลุ้นระทึกว่าคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) อีก 2.70 บาทต่อกิโลกรัมตามการชงตัวเลขของ รมว.พลังงานหรือไม่ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้ใช้ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งยื่นจดหมายแสดงความไม่เห็นด้วยในการขึ้นราคา และเสนอให้ยกเลิกกฎหมายที่อนุญาตให้ข้าราชการกระทรวงพลังงาน สามารถไปนั่งเป็นกรรมการในธุรกิจพลังงานได้อีกต่อไป เนื่องจากเชื่อว่านโยบายพลังงานของภาครัฐในปัจจุบันถูกครอบงำโดยกลุ่มทุนพลังงานผ่านกรรมการบริษัทที่มาจากภาครัฐนี่เอง
เสียงคัดค้านที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นของ ส.ว. รสนา โตสิตระกูล ประธานกรรมาธิการศึกษากรณีทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่ค้านว่าปัญหาการขาดแคลนก๊าซ LPG ในประเทศครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีเกิดจาก ปตท.นั่นเอง ผมได้นำข้อมูลจากข่าวของท่าน ส.ว.รสนา มาเทียบกับข้อมูลของกระทรวงพลังงาน และข้อมูลของ ปตท.พบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1. ไทยผลิตก๊าซ LPG ได้เองในประเทศ และมีการส่งขายต่างประเทศมายาวนานนับ 10 ปี รวมถึงปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ขาดแคลน ผู้ผลิตก็ยังส่งออกก๊าซ LPG ไปขายต่างประเทศถึง 2 หมื่นตัน
2. ก๊าซ LPG กว่าครึ่งผลิตจากโรงแยกก๊าซของ ปตท. LPG ส่วนที่เหลือมาจากผลิตภัณฑ์ของโรงกลั่นน้ำมัน
3. วัตถุดิบในการผลิตก๊าซ LPG ของโรงแยกก๊าซ ปตท. คือ ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีก๊าซธรรมชาติขึ้นมาจากอ่าวไทยวันละประมาณ 2,400 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะมาก)
4. ปัจจุบันโรงแยกก๊าซของ ปตท. รองรับก๊าซได้เพียงวันละประมาณ 1,700 ล้านลูกบาศก์ฟุตเท่านั้น เพราะเต็มกำลังผลิตแล้ว จึงไม่สามารถรับก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งหมดได้
ข้อเท็จจริงนี้สรุปได้ว่า การขาดแคลนก๊าซ LPG ของไทย เกิดจากปัญหาที่ ปตท.สร้างโรงแยกก๊าซไม่เพียงพอ ทำให้ไทยต้องสูญเสียก๊าซธรรมชาติที่มีคุณค่าวันละกว่า 600-700 ล้านลูกบาศก์ฟุต ซึ่งหากนำก๊าซธรรมชาติทั้งหมดมาผ่านโรงแยกก๊าซได้ ไทยคงมีก๊าซใช้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 ล้านตันต่อปี ปัญหานี้ทำให้ไทยต้องเสียเงินตราต่างประเทศในการนำเข้าก๊าซ LPG ส่วนที่ขาดอยู่ประมาณ 10% ของปริมาณการใช้ในปี 2551 ซึ่ง ความพยายามปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG ครั้งนี้ของกระทรวงพลังงานมีสิ่งที่น่าสงสัยดังนี้
ข้อแรก การขึ้นราคาครั้งนี้สวนกระแสกับราคาก๊าซในตลาดโลกที่ร่วงลงมา 60% จากกลางปีที่ผ่านมา (ตารางที่ 1)
ข้อสอง LPG ที่ขาดแคลนในปีที่แล้วก็เพียง 10% ของปริมาณการใช้ ดังนั้น การขึ้นราคาราวกับว่าไทยนำเข้าก๊าซ LPG จากต่างประเทศมาทั้งหมด จึงดูไม่สมเหตุผลในสายตาผู้บริโภค
ข้อสาม การขาดแคลนนี้มีสาเหตุหลักมาจากการบริหารจัดการของภาคเอกชน ดังนั้น การลงโทษประชาชน 60 ล้านคน ด้วยการขึ้นราคา LPG อีก 2.70 บาท ทำให้ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายสูงถึง 20.83 ต่อกิโลกรัม เป็นสิ่งที่เป็นธรรมหรือไม่
ข้อสี่ ขณะนี้ ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกช่วงนี้อยู่ที่ 380 ดอลลาร์ต่อตัน หรือ 13 บาทกว่าต่อกิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งราคานี้ได้รวมเอากำไรของผู้ผลิตเข้าไปแล้ว ดังนั้น ใครเป็นผู้รับผลประโยชน์จากส่วนต่างระหว่างราคาที่รัฐกำหนดกับราคาตลาดโลกอีก 7.50 บาทต่อกิโลกรัม รวมเป็นเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อปี คงต้องมีคำตอบที่ชัดเจนต่อสังคม (ตารางที่ 2)
และข้อสุดท้ายซึ่งสำคัญที่สุด ก็คือ ปตท.มีต้นทุนคือก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่รับซื้อมาในราคาต่ำกว่าตลาดโลกมาก (ราคาเฉลี่ยก๊าซธรรมชาติของไทยตั้งแต่ปี 2542) ซึ่งอาจเกิดจากรัฐบาลในอดีตได้ให้สัมปทานราคาถูกต่อเอกชนในการขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียมเพื่อให้ประชาชนได้มีพลังงานใช้ในราคาที่ไม่สูงนัก ดังนั้น การตั้งธงในการกำหนดราคาพลังงานไทยที่อิงราคาตลาดโลกหรือสูงกว่าตลาดโลกทั้งที่ก๊าซส่วนใหญ่ก็ผลิตได้เองในประเทศ จึงน่ากังขาเป็นอย่างยิ่ง เพราะประชาชนเจ้าของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีแต่เสียกับเสีย
สุดท้ายนี้คงต้องขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่ช่วยยับยั้งการขึ้นราคา LPG ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การรุกฆาตของกลุ่มทุนพลังงานต่อผู้บริโภคคงดำเนินต่อไป ประเทศไทยจะอยู่รอดหรือไม่คงขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถยกเครื่องการบริหารจัดการทรัพยากรสาธารณะด้านปิโตรเลียมของไทยให้ประชาชนไทยผู้เป็นเจ้าของได้ประโยชน์กันจริงๆ จังๆ และได้ใช้พลังงานในราคาที่เป็นธรรมได้หรือไม่ วันนี้ก็คงขอส่งกำลังใจไปช่วยท่านนายกฯ กัน!!!
Tags : ก๊าซหุงต้ม LPG ปตท. กระทรวงพลังงาน