ตอนเขาติดลบ ทำไมไม่ไปช่วยจ่ายเงินเดือนเด็กปั๊มกันล่ะ ...
ไม่ทราบว่า ค่าการตลาดที่เหมะสม ควรอยู่ที่เท่าไหร่เหลอ ครับ
ถามเป็นความรู้ ครับ
ขอบคุณครับ
ผมคิดต่ออีกหน่อย ทำให้คิดถึงค่าการกลั่น .... ซึ่งก็คือกำไรของโรงกลั่น
เนื่องจากโรงกลั่นซื้อน้ำมันดิบมากลั่น แล้วขายน้ำมันกลั่นแล้ว โดยอ้างอิงราคาในตลาดโลก ... ตอนน้ำมันแพง ๆ โรงกลั่นได้ส่วนต่างมาก เพราะอาจซื้อน้ำมันดิบได้ตอนถูก พอกลั่นเสร็จราคาน้ำมันหนีขึ้นไปอีกหลายขีด ....
ตอนนั้นก็ด่าโรงกลั่นกัน ว่ากำไรกันพุงปลิ้นอีก .... ถึงขนาด รมต.พลังงาน ไปขอให้ โรงกลั่นในเครือ ปตท. ลดกำไรจากค่าการกลั่นดีเซลลงอีกลิตรละบาท .... จำได้ไหมครับ .... (ปตท. ก็เจือกทำตามอีก สนองคุณผู้ถือหุ้นน่าดู)
มาคิดกลับกันตอนนี้ ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นลดฮวบฮาบ .... โรงกลั่นก็มีโอกาสขาดทุน เพราะน้ำมันดิบที่ซื้อก่อนหน้านี้ ราคายังสูงอยู่ เมื่อกลั่นขาย กลับขายได้ต่ำลงเรื่อย ๆ ....
ผมมองว่าเป็นธรรมดาของธุรกิจ ต้องมีขึ้นมีลง ต้องมีได้โอกาส และมีเสียโอกาส ... เขาจึงใช้คำว่า ให้ดูค่าเฉลี่ยทั้งปี ...
ซึ่งในมุมมองของผู้ใช้ ไม่ว่าจะตอนไหน ก็อยากใช้ของถูกตลอดเวลา ผู้ผลิตจะอยู่ได้หรือไม่ ไม่เห็นมีใครสนใจ อยากซื้อถูกอย่างเดียว ... อันนี้เข้าใจ ... ผมก็เป็น
ด้วยความเคารพทุกท่าน "เห็นต่าง แต่ไม่แตกแยก" คิดอย่างไร ก็บอกกันอย่างนั้น ความคิดท่านอื่น ๆ ก็เป็นประโยชน์ ว่ากันได้ ไม่มีปัญหาครับ