เอาของจริงมั่งดีกว่า
-ราเมงของจริงที่ร้านในญี่ปุ่นอร่อยและชามใหญ่กว่าราเมงเบอร์8บ้านเรามากๆๆๆๆๆๆใช้จวักซดน้ำครับ
-นักเรียนวัยรุ่นหญิงใส่ถุงเท้าขาวยาวถึงเข่าและชอบนั่งเปิดหวอโชว์ กกน. ตามสถานีรถไฟเป็นเรื่องจริงผมเดินไปมามีบางคนเดินมาคุยจะนำเสนออะไรไม่ทราบแต่
พอคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องฉากออกไป ผมคุยอังกฤษเขาพูดญี่ปุ่น..เซ็ง
-คนญี่ปุ่นใช้รถไม่กี่ปีแล้วทิ้งเปลี่ยนรุ่นใหม่.....ไม่จริงเลยทุกร่นเก่าๆที่บ้านเรายังขับได้ที่โน่นผมก็ยังเห็นคนญี่ปุ่นไม่ได้รวยทุกคน....คนเก็บกระป๋องขวดเครื่องดื่มยังมีอัน นี้แม้แต่ในเยอรมันก็เยอะ
-คนญี่ปุ่นใช่ว่าจมีน้ำใจและสุภาพกับคนทั่วไปเสมอไป..ผมเคยปั่นจักรยานไปแวะฉี่ในปั๊มถูกด่าไล่ออกมาเพราะเขาเอาไว้ให้ลูกค้าเขา
-เครื่องใช้ไฟฟ้าถูกจริงน่าซื้อแต่ ใช้ไฟ 110 โวลท์ คุณต้องมาสั้งพันหม้อแปลงในเมืองไทยนะครับ 220/110 โวลท์ ไม่แพงครับซื้อมาได้แต่ยกเว้นวิทยุหรือ TUNNER
เพราะบ้านเขาคลื่น FM 76-100(MHz)ย่านความถี่จะต่างกับบ้านเรา 88-108 (MHz) ตัวเลขของญี่ปุ่นไม่แน่ใจแต่ของเรานั้นแค่นี้แหละครับถ้าเอามาไม่แน่ใจว่าแถวคลองถมช่วยคุณแปลงได้หรือเปล่า
-มือถือใช้คนละระบบกับบ้านเราเจอเครื่องสวยๆถูกก็ไม่ต้องซื้อเอามาใช้ไม่ได้
-รูปภูเขาไฟฟูจิที่เห็นสวยๆในภาพนั้นถ้าไม่มิหิมะตกมันคือเขาหัวโล้นลูกรังแดง..น่าเกลียดไม่น่าดู...อย่าไปถ้าไม่มีหิมะคุณจะผิดหวังและเซ็ง
-คนญี่ปุ่นโบราณเตี้ยม่อต่อที่เราเรียกไอ้ยุ่นนั้นมีส่วนจริงไม่น้อยเพราะสถานีรถไฟใต้ดินในโตเกียวหลังคาเตี้ยมากๆผมสูงราว 170 แต่ต้องเดินก้มเพื่อมุดขอบหลังคา
เป็นระยะๆ
ท่านเจ้ากระทู้นี่ของแท้จริงครับ
เรื่องรถยนต์ที่ใช้แล้วเปลี่ยนใหม่เพราะว่ากฏหมายบ้านเขามีกฏว่า 10 ปีรถต้องเปลี่ยนใหม่ครับ หากยังดันทุรังเก็บไว้ใช้ต้องเสียภาษีบานเบอะครับ มันไม่คุ้มก็เลยมีแต่รถใหม่ๆ ส่วนรถเพื่อการสะสม ไม่เสียภาษีป้าย ก็เอามาวิ่งถนนไม่ได้ครับตำรวจจับครับ ช่วงหลังกฏใหม่มาว่า(บางพื้นที่) รถเกิน 10 ปีห้ามเข้าเขตเมืองครับ
ส่วนเรื่องนักเรียนหญิงที่มาคุยมักเหมือนคนเชียร์แขกเข้าร้าน อาหาร/เครื่องดื่มครับ ที่เคยโดนมากะตัวนะครับ(ไปเดินที่เที่ยวมาละสิ!)
เรื่องแปลงคลื่นวิทยุ อย่าเอามาเลยครับวิทยุญี่ปุ่น ปวดหัวเปล่าครับ ส่วนวิทยุสื่อสารด้วย ติด J - mark แก้ไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่คุ้มซื้อเมืองไทยดีกว่า
คนญี่ปุ่น ส่วนมาก(ไม่ไช่ทุกคน) ดูถูกคนต่างชาติ(รวมถึงคนไทยด้วย)
ปล.ข้างบนเป็นความเห็นส่วนตัวครับ
ผมเดินอยู่ที่สถานีรถไฟเมืองโอตะไกลจากโตเกียวราวๆ 150 กิโลเมตรเป็นต่างจังหวัดเงียบๆไม่พลุกพล่านมีนักเรียนหญิงมานั่งรอรถกันเต็มจนขี้เกียจจะดู
หวอแล้วเพราะอายเองเปิดเผยกันอย่างจงใจโจ่งแจ้ง...ก็มีในกลุ่มนั้นแหละหันมามองผม..พอผมเดินจะเข้าห้องน้ำชายก็ลุกมาถามอะไรไม่ทราบถามไปถามมา
ไม่ได้ความกันหล่อนเลยเดินไปนั่งจับกลุ่มกันที่เดิม.....ผมน่าจะเรียนภาษาญี่ปุ่นไปบ้างนะ
เมืองโอตะนี้จะเป็นที่ตั้งของโรงงานรถยนตร์ ซูบารุ ที่ขาซิ่งบ้านเราเหล่าวัยแรงซูฮกเป็นสาวกของแรงคันนี้กันเพียบนั่นแหละครับ
ไม่กี่ปีต่อจากนั้นบริษัทก็พาไปเที่ยวญี่ปุ่นแถวทะเลสาปอะไรไม่ทราบค้างที่โรงแรมริมทะเลสาปนั่นแหละ....ผมโชคดีตอนหัวค่ำขณะที่ผมเดินออกจากลิฟท์
ก็มีนักท่องเที่ยวสาวๆญี่ปุ่นวิ่งเล่นซนไล่กันจนคนหนึ่งเสียหลักมาล้มก้นจ้ำเบ้าต่อหน้าผมพวกหล่อนเพิ่งกลับจากการอาบน้ำพอล้มผ้าถุงแบบญี่ปุ่นก็เปิดออกมา
ต่อหน้าสายตาผม.....โชคดีที่หล่อนนุ่ง กกน. บางๆ ไม่งั้นผมคงเป็นตากุ้งยิงจนเที่ยวไม่สนุกแน่ แต่ผมก็มองเห็นยอดเขาฟูจิหมดแล้วทั้งที่พรุ่งนี้เราจะไปเขาฟูจิจริงๆ