ผมเองก็ไม่เข้าใจรายละเอียดในอดีตมากครับ เป็นเรื่องสมัยที่ไทยเรารบกับโจร ผกค หรือที่เราเรียกติดปากว่าโจรจีน ขออภัยครับถ้าล่วงเกิน ซึงเป็นหนามยอกอกของ มาเลเซีย ที่ต้องการปราบให้ได้ ในที่สุดก็เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยตามนโยบายของรัฐในขณะนั้น ใต้ร่มเย็น ของเราอาศัยอยู่ใน อ เบตง เเต่ถ้าเขาโกรธเเละร่วมตัวกันอีกเมื่อไหรโจรมาเป็นกองทัพก็ไม่กลัว
ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยหลายๆท่านทุกวันนี้ก็ยังทำมาหากินอยู่ที่เบตงครับ หลายท่านก็ไปเป็นครูสอนภาษา ท่านหัวหน้าเสือตอนนี้อายุก็หลัก 70 ขึ้นแล้ว แต่ความจำยังดีและแข็งแรงมาก ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังสมัยผมยังเด็กและอยู่ในยุคของโจรจีน ครอบครัวผมก็อาศัยอยู่ที่เบตงและมีสวนยางอยู่ที่นั่น รวมทั้งน้าชายผมเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนประจำอำเภอ วันนึงน้าผมเดินกระโพกกระเพกกลับมาบ้านสอบถามก็ได้ความว่าเล่นบาสแล้วเกิดขาพลิก ช่วงวันแรกๆก็นวดยากันเองไปตามเรื่อง แต่แล้วมันก็ยิ่งเจ็บและระบมจนต้องพาไปโรงพยาบาล หมอก็จัดการเข้าเฟือกให้จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน ปรากฏว่าขาเริ่มลีบ เลยต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ รักษาอยู่ประมาณ 3 เดือนก็ไม่ดีขึ้น ขากลับลีบลงๆ จนน้าคิดว่าชีวิตนี้ต้องพิการแน่แล้ว สุดท้ายก็ไปขอความช่วยเหลือจากโจรจีนนี่แหลาะครับ เค้าพาเข้าป่าอยู่ประมาณร่วมเดือน น้าผมมาเล่าให้ฟังว่าเค้าเอาสมุนไพรมารักษาให้ และช่วงนั้นก็มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ด้วย ก็แบกน้าผมขึ้นหลังแล้วพาหนี น้าบอกว่าบางวันต้องเปลี่ยนที่อยู่ถึง 3 ที่ แต่ก็อยู่รอดปลอดภัยจนกระทั่งขาหายและเดินได้เป็นปรกติ ซึ่งความจริงแล้วยังมีอีกหลายเรื่องหลายราวแต่ก็ลืมเลือนไปตามการเวลา ถ้ายังนึกออกจะทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครับ