ตามหัวข้อครับ ดีใจกับชาว NGV ครับ แต่ LPG ยังลูกผีลูกคนครับ
ตามข่าวใน web ngv club ครับ
ที่สำนักงานใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.ฯ เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับกระทรวงพลังงาน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ก๊าชธรรมชาติซีเอ็นจีในเครื่องยนต์เอ็นจีวี ถึงการปรับเพิ่มราคาจำหน่ายจากปัจจุบันอยู่ที่ 8.50 บาทต่อกก. เนื่องจากราคาที่จำหน่ายอยู่ ปตท.มีภาระขาดทุนปีละหลายพันล้านบาท เบื้องต้น ปตท.ไม่จำเป็นต้องประกาศราคาใหม่ในวันที่ 1 ม.ค. 52 ก็ได้ แต่ต้องรอให้หลายฝ่ายเห็นชอบก่อน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าปตท.จะประกาศปรับราคาก๊าซซีเอ็นจี ในวันที่ 1 ม.ค. 52 เป็น ราคา 11 บาทต่อกก. นั้นคงเป็นกระแสข่าวเพราะยังไม่ได้เป็นมติของคณะกรรมการ ปตท.
ตามหลักการ การปรับราคาซีเอ็นจีทำได้เพราะมีมติ ครม.และมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รับรอง แต่ ปตท.จำเป็นต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะประกาศต่อไป ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลก เชื่อว่าในครึ่งปีหลังของปี 52 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ขณะที่ราคาในปัจจุบันที่อยู่ระดับ 30-40 เหรียญฯ คงเป็นระยะสั้น นายประเสริฐ กล่าว
รายงานข่าวจากระทรวงพลังงาน แจ้งว่า มีแนวโน้มว่า กระทรวงพลังงานเสนอให้ทบทวนมติ กพช.ที่กำหนดกรอบให้ ปตท.ปรับขึ้นเอ็นจีวีได้ไม่เกิน 12 บาทต่อกก. จากปัจจุบัน 8.50 บาทต่อกก.ในวันที่ 1 ม.ค. 52
เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจของโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดต่ำอย่างมาก หากปรับขึ้นจะสวนทางนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทน และตอนที่ กพช.มีมติให้ขึ้นเอ็นจีวี มีเงื่อนไขว่าต้องต่ำกว่าราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) แต่ขณะนี้แผนที่จะปรับขึ้น แอลพีจีในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม 6 บาทต่อกก.ยังไม่มีผล หากให้เอ็นจีปรับขึ้นคงจะทำให้มีราคาใกล้เคียงกับ แอลพีจี ดังนั้นปัญหาน้ำมันโลกที่ลดลงอย่างไม่คาดคิดเป็นเรื่องสุดวิสัยนักธุรกิจมืออาชีพอย่าง ปตท. ต้องยอมรับได้ส่วนจะปรับเมื่อใดจะต้องดูภาพรวมน้ำมันและแอลพีจีก่อน.
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์