ความรู้เรื่องรถถัง-ยานเกราะ จรวด อาวุธทางบกครับ

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

ผมว่าปืนใหญ่แบบตั้งป้อมอยู่ที่เดียวมันล้าสมัยเกินไปแล้วครับ  ยุคนี้ต้องปืนใหญ่อัตราจรเคลื่อนที่ได้ครับ 

ปืนใหญ่อัตตาจรมันเหมาะสำหรับหน่วยทหารที่ต้องมีการเคลื่อนที่บ่อยอย่างทหารม้ารถถังและทหารม้ายานเกราะครับ เพราะมันจะทำหน้าที่ยิงข้ามหัวเพื่อนจากข้างหลังเพื่อทำลายแนวรับของข้าศึก ซึ่งถ้าดูตามหลักนิยมนี้แล้วมันไม่จำเป็นสำหรับหน่วยทหารราบสักเท่าไหร่เลย

ถ้าเป็นระดับกองพันทหารราบ ขอแค่มีปืนใหญ่ลากจูงยิงช่วยโดยตรง (ชต.) ขนาด 105 มม. จำนวน 1 กองร้อย (6 กระบอก) ประจำทุกกองร้อย และปืนใหญ่ช่วยส่วนรวม-เพิ่มเติมกำลังยิง (ชร.-พย.) ขนาด 155 มม. อีก 1 กองร้อย (6 กระบอก) ประจำกองพัน เพียงเท่านี้ก็มีอำนาจการยิงครอบคลุมทั้งหมดแล้วครับ เพราะถ้าถูกโจมตีฐานระยะประชิดจริงๆหรือถูกยิงจากระยะไกลเกินกว่าที่ปืนใหญ่ของเราจะตอบโต้กลับไปได้ เราก็สามารถ ว. เรียกกองกำลังทางอากาศให้ทำการยิงสนับสนุนให้อยู่แล้วครับ

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

130 นี่ของเก่าหรือครับ

ปืนใหญ่วิถีราบขนาด 130 มม. รุ่น M-46 ของรัสเซียหรือ Type-59 ของจีนก็อปปี้จากรัสเซียถือว่ายังทันสมัยอยู่ครับ แม้จะผลิตมาตั้งแต่ ค.ศ. 1954 แล้วก็ตาม เพียงแต่ระยะยิง ระบบการเล็ง และความแม่นยำอาจจะสู้ปืนใหญ่รุ่นใหม่ๆไม่ได้

ขนาดปืนใหญ่ 105 มม. M101 ของสหรัฐฯ กองทัพไอ้กันก็ยังประจำการอยู่เลยแถมมีการอัพเกรดไปหลายรอบแล้ว

อัพเกรด M114 เป็นตัวนี้ด้วย
http://www.army-guide.com/eng/product3732.html

ปืนใหญ่ M114ขนาด 105 มม. ของเดิม จะใช้ลำกล้องยาว 24.5 คาลิเบอร์ ทำให้มีระยะยิงไกลสุดแค่ 14.6 กม. แต่ตัวอัพเกรด M114/39 จะใช้ลำกล้องยาว 39 คาลิเบอร์ และรองรับหัวกระสุนแบบ ERFB และ  ERFB-BB ทำให้มีระยะยิงไกลสุดเพิ่มเป็น 32.4 กม. ครับ (ใช้กระสุนแบบ ERFB-BB)

ส่วนเรื่องดินส่งกระสุนนั้น ผมไม่แน่ใจนะว่าปืนใหญ่ M114/39 จะใช้ดินส่งกระสุนเบอร์เดียวกับปืนใหญ่ M198 , M71 และ M777 ได้หรือยัง เพราะปืนใหญ่ M114 รุ่นเดิมมันจะใช้ดินส่งกระสุนคนละรุ่นกัน โดยดินส่งกระสุนของปืนใหญ่ M114 เอาไปใช้ในปืนใหญ่ M198 , M71 และ M777 ได้ แต่กลับกันดินส่งกระสุนของปืนใหญ่  M198 , M71 และ M777 นำมาใช้กับปืนใหญ่ M114 ไม่ได้ครับ  

[-Joke-]

130 นี่ของเก่าหรือครับ

ปืนใหญ่วิถีราบขนาด 130 มม. รุ่น M-46 ของรัสเซียหรือ Type-59 ของจีนก็อปปี้จากรัสเซียถือว่ายังทันสมัยอยู่ครับ แม้จะผลิตมาตั้งแต่ ค.ศ. 1954 แล้วก็ตาม เพียงแต่ระยะยิง ระบบการเล็ง และความแม่นยำอาจจะสู้ปืนใหญ่รุ่นใหม่ๆไม่ได้

ขนาดปืนใหญ่ 105 มม. M101 ของสหรัฐฯ กองทัพไอ้กันก็ยังประจำการอยู่เลยแถมมีการอัพเกรดไปหลายรอบแล้ว

อัพเกรด M114 เป็นตัวนี้ด้วย
http://www.army-guide.com/eng/product3732.html

ปืนใหญ่ M114ขนาด 105 มม. ของเดิม จะใช้ลำกล้องยาว 24.5 คาลิเบอร์ ทำให้มีระยะยิงไกลสุดแค่ 14.6 กม. แต่ตัวอัพเกรด M114/39 จะใช้ลำกล้องยาว 39 คาลิเบอร์ และรองรับหัวกระสุนแบบ ERFB และ  ERFB-BB ทำให้มีระยะยิงไกลสุดเพิ่มเป็น 32.4 กม. ครับ (ใช้กระสุนแบบ ERFB-BB)

ส่วนเรื่องดิบขับนั้น ผมไม่แน่ใจนะว่าปืนใหญ่ M114/39 จะใช้เบอร์เดียวร่วมกับของปืนใหญ่ M198 , M71 และ M777 ได้หรือยัง เพราะปืนใหญ่ M114 รุ่นเดิมมันจะใช้ดินขับคนละรุ่นกัน โดยดินขับของปืนใหญ่ M114 เอาไปใช้ในปืนใหญ่ M198 , M71 และ M777 ได้ แต่กลับกันดินขับของปืนใหญ่  M198 , M71 และ M777 นำมาใช้กับปืนใหญ่ M114 ไม่ได้ครับ 

ตอนผมไปดูการสาธิต อีหมวย 130 ยังเตะปี๊บดังอยู่ครับ ตอนนี้โดนสำรองราชการไปแล้ว แต่ก็มาสาธิตการยิงอยู่บ่อยๆ (เราผลิตกระสุนเองได้ แถมน่าแปลกอีหมวยใช้ TNT เป็นดินส่ง) ตอนร่มเกล้านี่ทำเราแสบเชียวครับตัวนี้

แต่ดูพลปืนก็แขยงๆอีหมวยเหมือนกันครับ ต้องต่อสายมายาวๆ แล้วกระตุกห่างๆ แหะๆ

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

ส่วน M-198 เราเพิ่งได้มาอีก 130 Unit จากเมกา เมื่อกันยา ปีที่แล้วเองครับ

ทำให้ยอดรวมมี 300 Unit

http://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Thai_Army#Artillery

ส่วน M-777 นั้นดูแฃ้วน่าใช้ทีเดียวครับ เอามาสัก 50 Unit กำลังดีครับ

เบากว่าตั้ง 5 ตัน น่าจะขนย้ายสบายกว่าเยอะเลยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=5ksVhgbqaDE

ถ้าผมจำไม่ผิด ปืนใหญ่ M198 ที่จัดหาเพิ่มเติมมาอีก 130 กระบอกเป็นปืนใหญ่มือสองสภาพดีจากกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งคุณภาพยังคับกระบอกเหมือนเดิมครับ  

ส่วนสาเหตุที่สหรัฐฯขายปืนใหญ่ M198 มือสองให้ไทย เนื่องจากกองทัพสหรัฐฯจะทยอยปลดประจำการปืนใหญ่ M198 แล้วแทนที่ด้วยปืนใหญ่ M777A1 ทั้งหมดครับ เพราะมีน้ำหนักเบาเพียง 3,175 กิโลกรัมซึ่งคิดเป็นน้ำหนักประมาณเพียง 42% ของปืนใหญ่ M198 ที่หนักถึง 7,163 กิโลกรัม ทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายทางอากาศมากกว่า อีกทั้งปืนใหญ่ M777A1 ใช้ลำกล้องยาว 52 คาลิเบอร์และรองรับการยิงกระสุนปืนใหญ่นำวิถี ขนาด 155 มม. รุ่น XM-982 Excalibur ได้ด้วยครับ  

[MJTactical]

แต่ก็อย่างว่า เราไม่ได้จะไปบุกใครแคต่เอาไว้เฝ้าพรมแดน ไม่ใครแอบมาเอาไปง่ายๆ M198 ผมว่าก็เพียงะอแล้วครับ เราก็ไม่ได้ขนทางอากาศอยู่แล้ว

ปัญหาเรื่องน้ำหนักคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ อัตราจร เจ๋งๆ มาสัก 2-3 กองพันก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ขนอัตราจรไปยันไว้ก่อน แล้วเอา แบบลากไปเสริมแทนทีหลัง หึหึ เท่านี้ใครๆก็คงไม่กล้าหือเราง่ายๆ

[ART]

แต่ก็อย่างว่า เราไม่ได้จะไปบุกใครแคต่เอาไว้เฝ้าพรมแดน ไม่ใครแอบมาเอาไปง่ายๆ M198 ผมว่าก็เพียงะอแล้วครับ เราก็ไม่ได้ขนทางอากาศอยู่แล้ว

ปัญหาเรื่องน้ำหนักคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ อัตราจร เจ๋งๆ มาสัก 2-3 กองพันก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ขนอัตราจรไปยันไว้ก่อน แล้วเอา แบบลากไปเสริมแทนทีหลัง หึหึ เท่านี้ใครๆก็คงไม่กล้าหือเราง่ายๆ

สนับสนุนแนวความคิดนี้ครับ

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

แต่ก็อย่างว่า เราไม่ได้จะไปบุกใครแค่เอาไว้เฝ้าพรมแดน ไม่ใครแอบมาเอาไปง่ายๆ M198 ผมว่าก็เพียงพอแล้วครับ เราก็ไม่ได้ขนทางอากาศอยู่แล้ว

ปัญหาเรื่องน้ำหนักคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ อัตราจร เจ๋งๆ มาสัก 2-3 กองพันก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ขนอัตราจรไปยันไว้ก่อน แล้วเอา แบบลากไปเสริมแทนทีหลัง หึหึ เท่านี้ใครๆก็คงไม่กล้าหือเราง่ายๆ

ผมว่าเอากองพันรถถังไปยันไว้ไม่ดีกว่าหรือครับ รถถังทำอะไรได้มากกว่าปืนใหญ่อัตตาจรที่มีแต่อำนาจการยิงไกลและรุนแรงแต่ป้องกันตัวเองไม่ได้มากนะครับ ยิงถล่มปูพรมก็ได้ รุกคืบเข้าบดขยี้ข้าศึกก็ได้

เอาแค่อำนาจการยิงของปืนใหญ่รถถังขนาด 105 มม.ของรถถัง M60 กับรถถังสตริงเรย์ ผสานอำนาจการยิงของปืนใหญ่ลากจูงขนาด  105 มม. และ 155 มม.จากแนวหลัง ผมว่าแค่นี้อำนาจการยิงฝ่ายเราก็เหลือเฟือและข่มขวัญข้าศึกได้มากแล้วครับ

ส่วนพวกปืนใหญ่อัตตาจรเอาไว้คอยยิงสวนกลับพวกจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ขนาด 122 มม.หรือฐานปืนใหญ่ 122 มม. ,130 มม. หรือ 152 มม.เอาครับ 

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

ตอนผมไปดูการสาธิต อีหมวย 130 ยังเตะปี๊บดังอยู่ครับ ตอนนี้โดนสำรองราชการไปแล้ว แต่ก็มาสาธิตการยิงอยู่บ่อยๆ (เราผลิตกระสุนเองได้ แถมน่าแปลกอีหมวยใช้ TNT เป็นดินส่ง) ตอนร่มเกล้านี่ทำเราแสบเชียวครับตัวนี้

แต่ดูพลปืนก็แขยงๆอีหมวยเหมือนกันครับ ต้องต่อสายมายาวๆ แล้วกระตุกห่างๆ แหะๆ

ผมว่าปืนใหญ่อีหมวยมันน่ากลัวก็ตรงกระสุนนี่ละครับ ใครเผลอทำกระสุนตกพื้นมีสิทธิ์เจอแจ๊คพ็อตระเบิดตูมตามเอาง่ายๆ แถมกระสุนบางนัดดันมีน้ำมันใสๆเยิ้มออกมาด้วย จะยิงทีบางครั้งต้องปลุกพระกันเลยก็มี

[อรชุน-รักในหลวง]

ตอนผมไปดูการสาธิต อีหมวย 130 ยังเตะปี๊บดังอยู่ครับ ตอนนี้โดนสำรองราชการไปแล้ว แต่ก็มาสาธิตการยิงอยู่บ่อยๆ (เราผลิตกระสุนเองได้ แถมน่าแปลกอีหมวยใช้ TNT เป็นดินส่ง) ตอนร่มเกล้านี่ทำเราแสบเชียวครับตัวนี้

แต่ดูพลปืนก็แขยงๆอีหมวยเหมือนกันครับ ต้องต่อสายมายาวๆ แล้วกระตุกห่างๆ แหะๆ

ผมว่าปืนใหญ่อีหมวยมันน่ากลัวก็ตรงกระสุนนี่ละครับ ใครเผลอทำกระสุนตกพื้นมีสิทธิ์เจอแจ๊คพ็อตระเบิดตูมตามเอาง่ายๆ แถมกระสุนบางนัดดันมีน้ำมันใสๆเยิ้มออกมาด้วย จะยิงทีบางครั้งต้องปลุกพระกันเลยก็มี

สงสัยอากาศร้อนจัด TNT เลยเยิ้มออกมามั้งครับพี่

[submachine -รักในหลวง-]

แต่ก็อย่างว่า เราไม่ได้จะไปบุกใครแคต่เอาไว้เฝ้าพรมแดน ไม่ใครแอบมาเอาไปง่ายๆ M198 ผมว่าก็เพียงะอแล้วครับ เราก็ไม่ได้ขนทางอากาศอยู่แล้ว

ปัญหาเรื่องน้ำหนักคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ อัตราจร เจ๋งๆ มาสัก 2-3 กองพันก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ขนอัตราจรไปยันไว้ก่อน แล้วเอา แบบลากไปเสริมแทนทีหลัง หึหึ เท่านี้ใครๆก็คงไม่กล้าหือเราง่ายๆ

ผมคิดต่าง เอาเป็นว่าเราเอาประจำที่ เขารู้จุดพิกัดที่ตั้ง
อัตตาจร เขาไม่รู้ เราจะัไปจอดตรงไหน กว่าเขาจะรู้ว่าเรามาอยู่ตรงนี้ เราอาจยิงจนอิ่ม
กำลังเดินทางออกจากจุดยิง  อาจไปหาที่ใหม่หรือเดินทางกลับก็ได้

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

แต่ก็อย่างว่า เราไม่ได้จะไปบุกใครแคต่เอาไว้เฝ้าพรมแดน ไม่ใครแอบมาเอาไปง่ายๆ M198 ผมว่าก็เพียงะอแล้วครับ เราก็ไม่ได้ขนทางอากาศอยู่แล้ว

ปัญหาเรื่องน้ำหนักคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ อัตราจร เจ๋งๆ มาสัก 2-3 กองพันก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ขนอัตราจรไปยันไว้ก่อน แล้วเอา แบบลากไปเสริมแทนทีหลัง หึหึ เท่านี้ใครๆก็คงไม่กล้าหือเราง่ายๆ

ผมคิดต่าง เอาเป็นว่าเราเอาประจำที่ เขารู้จุดพิกัดที่ตั้ง
อัตตาจร เขาไม่รู้ เราจะัไปจอดตรงไหน กว่าเขาจะรู้ว่าเรามาอยู่ตรงนี้ เราอาจยิงจนอิ่ม
กำลังเดินทางออกจากจุดยิง  อาจไปหาที่ใหม่หรือเดินทางกลับก็ได้

ผมคิดเหมือนพี่ซับครับ  ปืนใหญ่อัตราจรมีความอ่อนตัวในการรบมากกว่า 

[รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ]

แต่ก็อย่างว่า เราไม่ได้จะไปบุกใครแคต่เอาไว้เฝ้าพรมแดน ไม่ใครแอบมาเอาไปง่ายๆ M198 ผมว่าก็เพียงะอแล้วครับ เราก็ไม่ได้ขนทางอากาศอยู่แล้ว

ปัญหาเรื่องน้ำหนักคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ อัตราจร เจ๋งๆ มาสัก 2-3 กองพันก็จะดีเยี่ยมเลยครับ

เกิดเหตุอะไรขึ้นมา ขนอัตราจรไปยันไว้ก่อน แล้วเอา แบบลากไปเสริมแทนทีหลัง หึหึ เท่านี้ใครๆก็คงไม่กล้าหือเราง่ายๆ

ผมคิดต่าง เอาเป็นว่าเราเอาประจำที่ เขารู้จุดพิกัดที่ตั้ง
อัตตาจร เขาไม่รู้ เราจะัไปจอดตรงไหน กว่าเขาจะรู้ว่าเรามาอยู่ตรงนี้ เราอาจยิงจนอิ่ม
กำลังเดินทางออกจากจุดยิง  อาจไปหาที่ใหม่หรือเดินทางกลับก็ได้

ผมคิดเหมือนพี่ซับครับ  ปืนใหญ่อัตราจรมีความอ่อนตัวในการรบมากกว่า 

การใช้งานมันต้องแบ่งตามภารกิจครับ ถ้าทหารราบสามารถยึดพื้นที่ได้แล้วหรือตรึงกำลังอยู่ในเขตแดนเรา ปืนใหญ่ลากจูงเหมาะสมที่สุดครับ เพราะเราสามารถเชื่อมโยงอำนาจการยิงทั้ง ป. 105 มม. และ ป. 155 มม. ยิงครอบคลุมเพื่อคุ้มกันฐานทหารฝ่ายเราได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเคลื่อนที่รุกคืบเข้าหาข้าศึก ปืนใหญ่อัตตาจรเหมาะสมกว่าเพราะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปพร้อมกับหน่วยยานเกราะ

การจัดหาปืนใหญ่อัตตาจรมาลง โดยไม่คำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมกับหน่วยทหารและภารกิจนั้นๆไหม ผมว่ามันเป็นการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" ครับ กองทัพไทยไม่ได้มีงบประมาณรายปีมหาศาลเหมือนกองทัพสหรัฐฯหรือกองทัพจีนนะครับ

อีกทั้งปืนใหญ่ลากจูงก็สามารถย้ายที่ตั้งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ของอย่างนี้มันอยู่ที่ "ทักษะ" จากการฝึกฝนอย่างหนัก ไม่ใช่ว่ามีคำสั่งให้ตั้งตรงไหนก็ตั้งฐานแช่อยู่ตรงนั้นตลอดเสียเมื่อไหร่ มันต้องมีการย้ายที่ตั้งกันตลอดตามวงรอบเพื่อป้องกันข้าศึกจับพิกัดได้

ตอนที่เราดวลปืนใหญ่กับพวกทหารเวียดนามหรือทหารเฮงสังริมเมื่อ 20-30 ปีก่อน เราก็ใช้ปืนใหญ่ลากจูงขนาด 105 มม. และ 155 มม. ตั้งฐานยิง พอยิงเสร็จก็เก็บฐานแล้วเคลื่อนย้ายอีก เพื่อป้องกันข้าศึกจับพิกัดแล้วยิงสวนกลับมา หรือในเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-เขมรเมื่อปีที่แล้ว ปืนใหญ่ M198 กับปืนใหญ่ GHN45A1 มีบทบาทสูงมากในการยิงตอบโต้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของเขมร โดยฐานปืนใหญ่ของไทยก็ไม่มได้รับความเสียหายเลยสักฐาน มีแต่ฝั่งเขมรโดนเรายิงทำลายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 จนพังไป 2 ชุด นี่ยังไม่รวมจำนวนทหารเขมรอีกจำนวนมากที่เสียชีวิตด้วยนะครับ 

[-Joke-]

ตอนผมไปดูการสาธิต อีหมวย 130 ยังเตะปี๊บดังอยู่ครับ ตอนนี้โดนสำรองราชการไปแล้ว แต่ก็มาสาธิตการยิงอยู่บ่อยๆ (เราผลิตกระสุนเองได้ แถมน่าแปลกอีหมวยใช้ TNT เป็นดินส่ง) ตอนร่มเกล้านี่ทำเราแสบเชียวครับตัวนี้

แต่ดูพลปืนก็แขยงๆอีหมวยเหมือนกันครับ ต้องต่อสายมายาวๆ แล้วกระตุกห่างๆ แหะๆ

ผมว่าปืนใหญ่อีหมวยมันน่ากลัวก็ตรงกระสุนนี่ละครับ ใครเผลอทำกระสุนตกพื้นมีสิทธิ์เจอแจ๊คพ็อตระเบิดตูมตามเอาง่ายๆ แถมกระสุนบางนัดดันมีน้ำมันใสๆเยิ้มออกมาด้วย จะยิงทีบางครั้งต้องปลุกพระกันเลยก็มี

สงสัยอากาศร้อนจัด TNT เลยเยิ้มออกมามั้งครับพี่

WD40 มั้ง อิอิ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

การใช้งานมันต้องแบ่งตามภารกิจครับ ถ้าทหารราบสามารถยึดพื้นที่ได้แล้วหรือตรึงกำลังอยู่ในเขตแดนเรา ปืนใหญ่ลากจูงเหมาะสมที่สุดครับ เพราะเราสามารถเชื่อมโยงอำนาจการยิงทั้ง ป. 105 มม. และ ป. 155 มม. ยิงครอบคลุมเพื่อคุ้มกันฐานทหารฝ่ายเราได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเคลื่อนที่รุกคืบเข้าหาข้าศึก ปืนใหญ่อัตตาจรเหมาะสมกว่าเพราะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปพร้อมกับหน่วยยานเกราะ

การจัดหาปืนใหญ่อัตตาจรมาลง โดยไม่คำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมกับหน่วยทหารและภารกิจนั้นๆไหม ผมว่ามันเป็นการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" ครับ กองทัพไทยไม่ได้มีงบประมาณรายปีมหาศาลเหมือนกองทัพสหรัฐฯหรือกองทัพจีนนะครับ

อีกทั้งปืนใหญ่ลากจูงก็สามารถย้ายที่ตั้งได้ภายในเวลาไม่กี่นาที ของอย่างนี้มันอยู่ที่ "ทักษะ" จากการฝึกฝนอย่างหนัก ไม่ใช่ว่ามีคำสั่งให้ตั้งตรงไหนก็ตั้งฐานแช่อยู่ตรงนั้นตลอดเสียเมื่อไหร่ มันต้องมีการย้ายที่ตั้งกันตลอดตามวงรอบเพื่อป้องกันข้าศึกจับพิกัดได้

ตอนที่เราดวลปืนใหญ่กับพวกทหารเวียดนามหรือทหารเฮงสังริมเมื่อ 20-30 ปีก่อน เราก็ใช้ปืนใหญ่ลากจูงขนาด 105 มม. และ 155 มม. ตั้งฐานยิง พอยิงเสร็จก็เก็บฐานแล้วเคลื่อนย้ายอีก เพื่อป้องกันข้าศึกจับพิกัดแล้วยิงสวนกลับมา หรือในเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-เขมรเมื่อปีที่แล้ว ปืนใหญ่ M198 กับปืนใหญ่ GHN45A1 มีบทบาทสูงมากในการยิงตอบโต้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของเขมร โดยฐานปืนใหญ่ของไทยก็ไม่มได้รับความเสียหายเลยสักฐาน มีแต่ฝั่งเขมรโดนเรายิงทำลายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 จนพังไป 2 ชุด นี่ยังไม่รวมจำนวนทหารเขมรอีกจำนวนมากที่เสียชีวิตด้วยนะครับ 

ขอบคุณครับ      

[SOAP47 รักในหลวง]

130 นี่ของเก่าหรือครับ

ผมหมายถึงว่า M198 จำนวน 130 หน่วย นี่เป็นของมือสองหรือเปล่าครับ