ความรู้เรื่องรถถัง-ยานเกราะ จรวด อาวุธทางบกครับ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

<a href="http://www.youtube.com/v/FKJmTfshnd8" target="_blank">http://www.youtube.com/v/FKJmTfshnd8</a>

Military Technology Lover Forum
MSTA-S 2S19 152mm ปืนใหญ่อัตราจร ของสหภาพโซเวียต ที่มีพื้นฐานมาจากรถถัง T80

โดยการนำ T80 มาเปลี่ยนป้อมปืน ให้กลายเป็นปืนใหญ่อัตราจร และเปลี่ยนเครืองยนต์ให้เกลายเป็นเครืองยนต์ดีเซลครับ

จะเห็นได้ว่ารถถัง T80 มีระบบช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมมาก ถึงขนาดรับแรงกระแทก และของหนักๆได้ กว่าป้อมปืนรถถังพอสมควรเลย

...

เฟส Military Technology Lover Forum  วิจารย์มาครับ   ว่าแต่ T-84 oplot ก็พัฒนามาจาก T-80  นะ  ช่วงล่างไม่น่ามีปัญหา   

[Nero Angel01]

AK-12นี่บริษัทใหนผลิตครับ ปล้วตอนนี้รัสเซียใช้กระสุนขนาดใหนประจำการในปืนจู่โจมครับ บางคนบอก5.45บางคนบอก7.62
พอดีผมเข้วเวบออชแมชแล้วไม่มีak-12 ตัวล่าสุดก็ak-108 ak-94

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

AK-12นี่บริษัทใหนผลิตครับ ปล้วตอนนี้รัสเซียใช้กระสุนขนาดใหนประจำการในปืนจู่โจมครับ บางคนบอก5.45บางคนบอก7.62
พอดีผมเข้วเวบออชแมชแล้วไม่มีak-12 ตัวล่าสุดก็ak-108 ak-94

http://en.wikipedia.org/wiki/AK-12

ถ้าดูในเว็บผลิตออกมาใช้กระสุนหลายขนาดนะครับ   

[อรชุน-รักในหลวง]

AK-12นี่บริษัทใหนผลิตครับ ปล้วตอนนี้รัสเซียใช้กระสุนขนาดใหนประจำการในปืนจู่โจมครับ บางคนบอก5.45บางคนบอก7.62
พอดีผมเข้วเวบออชแมชแล้วไม่มีak-12 ตัวล่าสุดก็ak-108 ak-94

http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_equipment_of_the_Russian_Ground_Forces#Submachine_guns

[Nero Angel01]

AK-12นี่บริษัทใหนผลิตครับ ปล้วตอนนี้รัสเซียใช้กระสุนขนาดใหนประจำการในปืนจู่โจมครับ บางคนบอก5.45บางคนบอก7.62
พอดีผมเข้วเวบออชแมชแล้วไม่มีak-12 ตัวล่าสุดก็ak-108 ak-94

http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_equipment_of_the_Russian_Ground_Forces#Submachine_guns

ไม่มีเลยครับ แล้วสามล้านกระบอกยังไง

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

กองทัพฟิลิปปินส์ปรับปรุงรถสายพานลำเลียงพล M-113

     เมื่อ 8 ม.ค.57 สื่อออนไลน์ต่างประเทศรายงานว่า ร้อยเอก Anthony Bacus โฆษกองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่า

กองทัพฟิลิปปินส์ (PA) จะปรับปรุงรถสายพานลำเลียงพล M-113 หรือ Bradley จำนวน 14 คัน ในปีหน้า ด้วยการ

ติดตั้งอาวุธปืนใหญ่ขนาด 76 มม. แบบเดียวกับที่ติดตั้งในรถรบลาดตระเวนสายพาน Scorpion CVRT

แต่ใช้ระบบควบคุมการยิงแบบใหม่ และมีระบบจับภาพด้วยความร้อน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการยิงสนับสนุน

รถสายพานลำเลียงพล M-113 เป็นรถหุ้มเกราะที่ผลิตโดยบริษัท BAE Systems เข้าประจำการครั้งแรกที่หน่วย

ทหารราบของกองทัพสหรัฐอเมริกาในเวียดนาม เมื่อ เม.ย.05 ซึ่งปัจจุบันนี้กองทัพฟิลิปปินส์ มีรถ M-113

ประจำการอยู่กว่า 100 คัน และจะได้รับรถ Scorpion CVRT ซึ่งเป็นรถถังเบาอีก 65 คัน โดยก่อนหน้านี้

กระทรวงกลาโหมแห่งชาติฟิลิปปินส์ประกาศว่ากำลังจะได้รับปืน ใหญ่ลากจูงขนาด 155 มม. จำนวน 12 กระบอก

และกระสุนระเบิดแรงสูงขนาด 155 มม. จำนวน 240 ลูก มูลค่าประมาณ 9.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (รวมค่าขนส่ง)

/manilatimes.net



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/m-113.html

[อรชุน-รักในหลวง]

AK-12นี่บริษัทใหนผลิตครับ ปล้วตอนนี้รัสเซียใช้กระสุนขนาดใหนประจำการในปืนจู่โจมครับ บางคนบอก5.45บางคนบอก7.62
พอดีผมเข้วเวบออชแมชแล้วไม่มีak-12 ตัวล่าสุดก็ak-108 ak-94

http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_equipment_of_the_Russian_Ground_Forces#Submachine_guns

ไม่มีเลยครับ แล้วสามล้านกระบอกยังไง

เห็นถามว่าใช้ปืนและกระสุนขนาดไหนประจำการ ก็ตามนั้นครับ

[SOAP47 รักในหลวง]

อินโดนีเซียรับมอบ BMP-3F จำนวน 37 คันจากรัสเซีย - เมื่อ 27 ม.ค.57 ที่ผ่านมา หน่วยนาวิกโยธินของอินโดนีเซียจัดพิธีรับมอบยานหุ้มเกราะยกพลขึ้นบก รุ่น BMP-3F จำนวน 37 คัน จากรัสเซีย ณ ศูนย์ฝึกนาวิกโยธิน เมือง Situbondo จังหวัด East Java โดยมีนาย Purnomo Yusgiantoro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธี การจัดหาครั้งนี้มีการลงนามระหว่างกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซียกับบริษัท Rosoboronexport ของรัสเซียตั้งแต่ 11 พ.ค.55 ภายใต้งบประมาณ 114 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยานหุ้มเกราะยกพลขึ้นบก รุ่น BMP-3F ถูกปรับปรุงมาจากรุ่น BMP-3 เพื่อให้สามารถปฎิบัติภารกิจสะเทินน้ำสะเทินบก มีการปรับปรุงขีดความสามารถในหลายด้าน รวมทั้งระบบการยิงที่ให้สามารถติดตั้งปืนไรเฟิลของ Pindad SS series  ขนาด 5.56 มม. ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลมาตรฐานที่กองทัพอินโดนีเซียใช้อยู่ ล่าสุดอินโดนีเซียมีรถหุ้มเกราะรุ่นนี้ประจำการอยู่ที่หน่วย KORMAR จำนวน 54 คัน (17 คัน ล่าสุดมีการรับมอบเมื่อ 11 ธ.ค.53)ทั้งนี้ Jane’s คาดว่าล็อตใหม่ที่ได้รับมอบในครั้งนี้จะถูกนำเข้าประจำการในหน่วยกรมทหารม้าที่ 1 ของ KORMAR ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ ณ เมืองสุราบายา และกรมทหารม้าที่ 2 ของ KORMAR ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองจาร์กาต้า แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนที่แน่นอน/Jane’s


bmp 3 นี่น่าสนนะครับว่ามะ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

อินโดนีเซียรับมอบ BMP-3F จำนวน 37 คันจากรัสเซีย - เมื่อ 27 ม.ค.57 ที่ผ่านมา หน่วยนาวิกโยธินของอินโดนีเซียจัดพิธีรับมอบยานหุ้มเกราะยกพลขึ้นบก รุ่น BMP-3F จำนวน 37 คัน จากรัสเซีย ณ ศูนย์ฝึกนาวิกโยธิน เมือง Situbondo จังหวัด East Java โดยมีนาย Purnomo Yusgiantoro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธี การจัดหาครั้งนี้มีการลงนามระหว่างกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซียกับบริษัท Rosoboronexport ของรัสเซียตั้งแต่ 11 พ.ค.55 ภายใต้งบประมาณ 114 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยานหุ้มเกราะยกพลขึ้นบก รุ่น BMP-3F ถูกปรับปรุงมาจากรุ่น BMP-3 เพื่อให้สามารถปฎิบัติภารกิจสะเทินน้ำสะเทินบก มีการปรับปรุงขีดความสามารถในหลายด้าน รวมทั้งระบบการยิงที่ให้สามารถติดตั้งปืนไรเฟิลของ Pindad SS series  ขนาด 5.56 มม. ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลมาตรฐานที่กองทัพอินโดนีเซียใช้อยู่ ล่าสุดอินโดนีเซียมีรถหุ้มเกราะรุ่นนี้ประจำการอยู่ที่หน่วย KORMAR จำนวน 54 คัน (17 คัน ล่าสุดมีการรับมอบเมื่อ 11 ธ.ค.53)ทั้งนี้ Jane’s คาดว่าล็อตใหม่ที่ได้รับมอบในครั้งนี้จะถูกนำเข้าประจำการในหน่วยกรมทหารม้าที่ 1 ของ KORMAR ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ ณ เมืองสุราบายา และกรมทหารม้าที่ 2 ของ KORMAR ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองจาร์กาต้า แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนที่แน่นอน/Jane’s


bmp 3 นี่น่าสนนะครับว่ามะ

BMP-3F  เอาไว้ยกพลขึ้นบก    แต่ผมว่าตอนนี้จัดหารถถังหลักให้เต็มจำนวนก่อนดีกว่าครับ   

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

กองทัพสหรัฐฯ ทดสอบรถฮัมวี่ใหม่ ใช้เครื่องยนต์จาก Subaru สหรัฐฯ

     จัดเป็นประเทศที่มีกองทัพที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ล้ำสมัยที่สุดของโลก ซึ่งเกิดจากการพยายามคิดค้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะด้านยานยนต์ที่จำเป็นต่อการเคลื่อนพลไปปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ก็ได้รับ การสนับสนุนจากค่ายรถยนต์ในประเทศ
อย่างเจเนรัล มอเตอร์ส (General Motors) เรื่อยมา แต่กองทัพสหรัฐฯ ยังคงต้องการเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่หลากหลายกว่านี้
เพื่อใช้ในภารกิจที่จะยากขึ้นในอนาคต ซึ่งจีเอ็มก็ไม่ได้มีระบบขับเคลื่อนใหม่ ๆ ออกมามากนัก จึงทำให้กองทัพต้องลองหา
ทางเลือกจากต่างประเทศดูบ้าง

ซึ่งล่าสุดในปี 2014 สหรัฐฯ ก็ได้เลือกเอาเครื่องยนต์พลังดีเซลไฮบริดจากผู้ผลิตญี่ปุ่นอย่างซูบารุ มาติดตั้งลงในรถฮัมวี่
ขนาดเล็กรุ่นใหม่ โดยเครื่องยนต์ดังกล่าวมีกำลังแรง 175 แรงม้า เมื่อผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีกำลังมากถึง 369 แรงม้า
พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 1,655 นิวตันเมตร แรงพอจะลากรถฮัมวี่ติดเกราะพร้อมอุปกรณ์จัดเต็มที่หนักถึง 6 ตัน ได้ไกลกว่า
606 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.

เครื่องยนต์ดังกล่าวจะถูกติดตั้งในรถฮัมวี่ติดเกราะน้ำหนักเบาซึ่งใช้ใน ภารกิจเก็บกู้วัตถุระเบิด โดยนอกจากจะแข็งแกร่ง
ทนทานแล้ว ยังสามารถปีนขึ้นเนินที่ชันถึง 31 องศา ขับขึ้นขั้นบันไดได้สูงถึง 45 เซนติเมตร เรียกได้ว่าสามารถไปได้
ทุกพื้นที่เลยทีเดียว ด้วยสมรรถนะขนาดนี้ มันจึงมีราคาไม่ต่ำกว่าคันละ 250,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.27 ล้านบาท)
ส่วนใครที่อยากรู้ว่ารถฮัมวี่พลังญี่ปุ่นจะเจ๋งแค่ไหน ก็ชมจากคลิปด้านล่างได้เลยครับ



<a href="http://www.youtube.com/v/YFZCHsjiPyQ" target="_blank">http://www.youtube.com/v/YFZCHsjiPyQ</a>

http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/subaru.html

[น้าเสก คนเดิม]

เวียดนามจะจัดหาระบบเรดาร์เฝ้าตรวจ รุ่น Vostok E จากเบลารุส

  มอสโค – เมื่อ 18 ก.ค.56 ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ทางการทหารได้รายงานว่า ก่อนที่เครื่องบินขับ ไล่ตรวจจับได้ยาก

รุ่น J-20 ของจีนจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน เวียดนามมีแผนจัดหาระบบเรดาร์

เฝ้าตรวจ รุ่น Vostok E 2 Dimensional Metric Band จากเบลารุส ด้วยสมรรถนะที่สามารถตรวจจับและนำไปสู่การโจมตี

เครื่องบินตรวจจับได้ยากได้ จำนวน 20 ระบบ พร้อมกับเงื่อนไขการฝึกอบรมการใช้ระบบเรดาห์รุ่นนี้ด้วย เรดาร์รุ่นนี้

ได้มีการพัฒนาโดยบริษัท KB Radar ที่ตั้งอยู่ในเบลารุส เป็นเรดาร์ที่ใช้ย่านความถี่ VHF ซึ่งถูกนำมาใช้ทดแทนระบบเรดาร์

รุ่น P-18 ในยุคของสหภาพโซเวียต เป็นระบบเรดาร์ที่สามารถตรวจจับเครื่องบินขับไล่ตรวจจับได้ยากได้ อย่างเช่น

สามารถตรวจจับเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดตรวจจับได้ยาก รุ่น F-117A Nighthawk ของสหรัฐอเมริกาได้ ขณะบินอยู่

ในระยะห่างออกไปถึง 74 กม. และระบบเรดาร์นี้สามารถตรวจจับเป้าหมายได้ไกลถึง 350 กม.หากไม่มีการรบกวนใด ๆ

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจเครื่องบินขับไล่ตรวจจับได้ยาก รุ่น F-22 ที่อยู่ในระยะห่างออกไป 57 กม. ได้ ซึ่งทำให้สามารถ

โจมตีด้วยจรวดพื้นสู่อากาศ รุ่น S-300 ได้ด้วย อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ทางการทหารมองว่าเวียดนามอาจเป็นชาติแรก

ที่ใช้ระบบ เรดาร์ในยุทธศาสตร์สงครามอสมมาตรการต่อต้านเครื่องบินขับไล่แบบตรวจจับได้ ยากในกรณีพิพาททะเลจีนใต้

ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่ตรวจจับได้ยาก ทั้งรุ่น J-20 และ J-31 จากจีนด้วย



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/vostok-e.html


เวียดนามจัดหาเรด้าดี ๆ มาอีกแล้ว   

ตาร้อนอีกแล้ว.....

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

นาวิกโยธินเกาหลีใต้ออกเดินทางมาซ้อมรบยังประเทศไทย

- เมื่อ 2 ก.พ.57 กองทัพเรือแห่งสาธารณรัฐเกาหลีใต้ประกาศว่า ทหารเรือของเรือยกพลขึ้นบกขนาด

ระวางขับน้ำ 2,600 ตันจำนวน 170 นาย และนาวิกโยธินพร้อมยานรบสะเทินน้ำสะเทินบกจำนวน 216 นาย

ได้เดินทางออกนอกประเทศมายังท่าเรือสัตหีบ เพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบร่วม/ผสม รหัสการฝึก Cobra Gold

ในห้วงวันที่ 11-21 ก.พ.57 ที่นำโดยประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา การฝึกในปีนี้มีกำลังพลเข้าร่วมประมาณ

7,800 นายจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ไทยและเกาหลีใต้ การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold เริ่มขึ้น

ตั้งแต่ปี 1981 โดยมีประเทศริเริ่มคือประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา มีวัตถุประสงค์เพื่อการเตรียมความพร้อม

ต่อสงครามและความขัดแย้งในภูมิภาค การใช้กำลังของกองกำลังนานาชาติ การปลดอาวุธ ภารกิจสร้างเสถียรภาพ

การฝึกปัญหาที่บังคับการ และโครงการการปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมและฟื้นฟูพัฒนา/english.yonhapnews.co.kr

http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=486:defence-news-around-the-world-10-14-feb2014&catid=3:defense-news&Itemid=3

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

อิสราเอลเริ่มสายการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจมในเวียดนาม

- เมื่อ 4 ก.พ.57 สื่อออนไลน์ต่างประเทศรายงานว่า บริษัท Israel Weapon Industries (IWI) ของอิสราเอล

ร่วมมือกับกองทัพประชาชนแห่งเวียดนาม (Vietnam People's Army: VPA)  ผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม รุ่น Galil 31/32 ACE

เพื่อใช้ปฎิบัติภารกิจในกองทัพทดแทนปืนเอเค 47 s (AK-47s) ที่กองทัพใช้อยู่ โรงงานดังกล่าว ชื่อ “Factory Z111”

ตั้งอยู่ที่ จังหวัด  Thanh Hoa ทางภาคเหนือของเวียดนาม โดยกระทรวงกลาโหมของเวียดนามเป็นเจ้าของ ทั้งนี้

บริษัท IWI เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการที่มีคู่แข่งเป็นบริษัทจากจีนและรัสเซีย ซึ่งมีสัญญาการก่อสร้างโรงงาน

พร้อมอุปกรณ์การผลิตปืนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เวียดนามเป็นประเทศที่มีการจัดหา

ปืนไรเฟิลจู่โจม ACE มากเป็นอันดับที่สองของโลก โดยในปี พ.ศ.2554 มีการจัดหาเข้าประจำการในกองทัพถึง

19,000 กระบอก นำมาซึ่งการผลิตปืนรุ่นนี้เป็นอุตสาหกรรมทางการทหารโดยรัฐเป็นเจ้าของ/Jane’s

http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=486:defence-news-around-the-world-10-14-feb2014&catid=3:defense-news&Itemid=3


เริ่มสายการผลิตแล้ว   

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

จรวดหลายลำกล้องแบบ Multiple Cradle Launcher (MCL)

บริษัท Jobaria Defense Systems (JDS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Rocketsan ของประเทศตุรกี ได้ทำการเปิดตัวจรวดหลายลำกล้องแบบ Multiple Cradle Launcher (MCL) ในงาน IDEX เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ระบบจรวด MCL แตกต่างจากระบบจรวดหลายลำกล้องแบบอื่นๆ คือ หนึ่งรถยิงประกอบไปด้วยฐานยิงจำนวน 4 ฐาน แต่ละฐานยิงประกอบไปด้วยท่อยิงจรวดขนาด 122 มม. จำนวน 60 ท่อยิง โดยแบ่งบรรจุใน 3 pod

รถที่ใช้ในการขับเคลื่อนเป็นรถขนาด 6x6 Heavy Equipment Transporter (HET) ของ Oshkosh Defense โดยมีระบบช่วงพยุงแบบไฮดรอลิกส์ จำนวน 10 ชุด และเช่นเดียวกับระบบจรวดหลายลำกล้องในปัจจุบัน การยิงจะถูกควบคุมผ่านโปรแกรมควบคุมการยิง โดยพลยิงสามารถเลือกที่จะยิงครั้งละหนึ่งลูกหรือยิงพร้อมกันจาก 80 ลำกล้อง และเพื่อเป็นการเพิ่มค่าความแม่นยำในการโจมตี ฐานยิงแต่ละชุดถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์นำร่องด้วย GPs และ Inertial Navigation ใช้เจ้าหน้าที่ประจำรถจำนวน 3 คน ระบบ MCL สามารถยิงจรวด TR-122 หัวรบ HE ขนาด 122 มม. ของบริษัท Roketsan โดยมีระยะยิงสูงสุดอยู่ที่ 40 กิโลเมตร

บริษัท Roketsan ไม่ได้หยุดแนวความคิดในการพัฒนาระบบ Multiple Cradle Launcher เพื่อรองรับจรวดขนาด 122 มม. เท่านั้น แต่ยังได้ใช้แนวความคิดนี้กับจรวดที่มีขนาดเล็กกว่า คือ จรวด T-107 ซึ่งมีขนาด 107 มม. โดยสามารถยิงจากฐานยิงและระบบควบคุมการยิงชุดเดียวกันได้

TR-122

เส้นผ่าศูนย์กลาง 122 มม.

ระยะยิงไกลสุด 36 กม.(ที่ระดับน้ำทะเล)

ระยะยิงไกลสุด 40 กม.(ที่ระดับความสูง 600 ม.)

ระยะยิงใกล้สุด 21 กม.

น้ำหนัก 65.9 กก.

ดินขับ Composite

หัวรบ HE (High Explosive)

น้ำหนักหัวรบ 18.4 กก.

ชนวน กระทบแตก Point detonating



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/multiple-cradle-launcher-mcl.html

[ART]

กำหนดการส่งมอบและหน่วยที่ไปประจำการ
http://www.komchadluek.net/detail/20140213/178854.html