ความหวังในการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของญี่ปุ่นอาจเลือนลางเพราะสถานะผู้มาทีหลังJapan defense export hopes dimmed by latecomer status

A visitor takes photo of a scale model of a Japanese Maritime Self Defense Force Soryu-class
http://bigstory.ap.org/article/649c26a58e694c92886744ae2aae3367/japan-defense-export-hopes-dimmed-latecomer-statusงานแสดง Technology ด้านความมั่นคงทางทะเล อากาศยาน และอวกาศ ที่เพิ่งจัดขึ้นที่โยโกฮามานั้นนับเป็นงาน
แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ครั้งแรกของญี่ปุ่นในรอบ 50 ปี ซึ่งจากการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงและการดำเนิน
การตีความเพื่อเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญสันติภาพที่ใช้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นที่
นำโดยนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ นั้นวางแผนที่จะให้ญี่ปุ่นสามารถเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงในการขาย
อาวุธยุทโธปกรณ์ให้มิตรประเทศมากขึ้น โดยญี่ปุ่นตั้งเป้าที่ในอนาคตจะสามารถกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกอาวุธ
รายใหม่ประเทศหนึ่งเช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วชั้นนำที่แข่งขันผลิตอาวุธส่งออกสู่ตลาดโลกได้
แต่อย่างไรก็ตามบทความวิเคราะห์ AP นั้นกล่าวว่าความหวังที่ญี่ปุ่นจะกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์
รายใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและดูเลือนลาง เพราะแม้ว่าญี่ปุ่นจะสามารถเจรจาโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ได้มากขึ้น
ในช่วงหลายปีหลังมานี้ เช่น การขายเครื่องบินทะเลตรวจการณ์ ShinMaywa US-2 ให้อินเดีย และการเสนอ
Technology เรือดำน้ำชั้น Soryu ให้ออสเตรเลียในการแข่งขันโครงการจัดหาเรือดำน้ำใหม่ทดแทนเรือชั้น Collins
และความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมขั้นสูงจนอาจจะกล่าวได้ว่าไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์อะไรที่ญี่ปุ่นผลิตไม่ได้ยกเว้น
อาวุธนิวเคลียร์
แต่หลายๆบริษัทอย่าง Kawasaki Heavy Industries ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยุทโธปกรณ์สำคัญของญี่ปุ่นก็มีสถานะการเงิน
ที่ทรงตัวแม้ว่าจะมีผลประกอบการทั่วโลกราว $400 billion ก็ตาม โดยขนาดอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์ภายในประเทศญี่ปุ่น
เองก็มีขนาดวงเงินเพียง $12.5 billion ซึ่งเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆของญี่ปุ่นในภาพรวมนับว่าค่อนข้างน้อยมาก ประกอบกับ
อาวุธยุทโธปกรณ์หลักส่วนใหญ่ของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นนั้นยังเป็นระบบจัดหาจากต่างประเทศโดยซื้อสิทธิบัตร
ในการผลิตเองในประเทศญี่ปุ่นอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งกองกำลังป้องกันตนเองและหน่วยงานรัฐบาลของญี่ปุ่นเองก็ถูกจัดเป็น
ลูกค้าที่เสนอขายระบบต่างๆให้ยากในสายตาของบริษัทอาวุธหลายๆบริษัทหรือแม้แต่บริษัทของญี่ปุ่นเอง
เมื่อรวมกับความเป็นหน้าใหม่ที่จะต้องเข้าไปแข่งขันกับประเทศที่เป็นผู้ครองตลาดการค้าอาวุธอยู่แล้วทั้ง สหรัฐฯ ประเทศใน
กลุ่มยุโรปตะวันตก รัสเซีย จีน หรือแม้แต่เกาหลีใต้ซึ่งเข้ามาจับตลาดอุตสาหกรรมอาวุธก่อนแล้ว การที่ญี่ปุ่นหวังจะผลักดัน
ตนเองเข้าไปสู่การแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมความมั่นคงระดับโลกซึ่งหลายๆอย่างภายในญี่ปุ่นยังไม่ได้มีวางแผนการรองรับ
และประสบการณ์ที่มากพอนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายและดูเลือนลางครับ
http://aagth1.blogspot.com/2015/05/blog-post_18.html