เรื่องเกลียดยิวหรือต่ต้านยิวมีมานานมากๆ ในยุโรปละครับ การกวาดล้างจับเหมามาฆ่าก็เคยมีทำมาแล้วในหลายประเทศครับ เหมือนกับการกวาดล้างคนต่างศาสนาอื่นๆ เช่น โปรแตสแตนท์ หรือคาทอลิก (St Bartholomew massacre, Spanish Inquisition ฯลฯ) แต่ด้วยเทคโนโลยีการทะเบียนคน พิสูจน์คน ควบคุมพรมแดน การจัดระบบ หรือความต่อเนื่องทางนโยบาย ในสมันก่อนเลยไม่เ่ท่ากับยุคนาซี
อาทิตย์ที่แล้วใน นสพ Inter Herald Tribune เพิ่งมีหนังสือแนะนำเล่มหนึ่งเป็นเรื่อง หนังสือต่างๆ ที่ฮิตเลอร์อ่าน ช่วยให้มองได้ว่ามีแนวคิด หรือ "ขอยืม" แนวคิดใคร มาเผยแพร่เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง
สรุปๆ แล้วการเมืองหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุ่งมาก เศรษฐกิจพัง เงินเฟ้อพิกล ติดสแตมป์ 10 ล้าน มาร์ค มีการสู้รบชายแดนกับโปแลนด์ มีเรื่องอะไรในเมืองก็ยิงกันจริงๆ ไม่ใช่ม๊อบตีกัน พรรคนาซีก็พยายามตั้งตัวเรือยๆ ชุมนุมในโรงเบียร์ เดินขบวนแล้วโดนไล่ตีกระเจิดกระเจิงก็มีครับ ฮิตเล่อร์โดนไล่ตีตกม้าไหล่หลุด ถูกจับติดคุกไป ตีพิมพ์หนังสือเรื่องนี้ เข้าทำนองเขียนในคุก ออกมาจากคุกก็เท่ไปอีก
นโยบายในหนังสือตอนนั้นหลักๆ รวมคนชาติเยอรมัน หาที่อยู่ให้คนเยอรมันเพิ่มเติม และต่อต้านคนต่างๆ ที่อ้างว่าเอาเปรียบคนชาติเยอรมัน
สำหรับความเชื่อจริงของตัวฮิตเลอ่ร์ ผมเชื่อว่าแกไม่เชื่อจริงว่ายิวทำให้เยอรมันแพ้สงครามครับ ใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นหนึ่งเท่านั้น ส่วนมากแกโดยไปให้เป็นความผิดของนักการเมือง พูดตรงๆ ว่ามุมมองสงครามโลกครั้งที่ 1 ของแกเป็นมุมแคบจากระดับทหารผู้น้อย แต่ที่จริงตอนจะแพ้จริงๆ ทหารเรือเยอรมันยอมก่อน
ตอนก่อนนาซีมีอำนาจ ขั้วตรงกันข้ามคือพรรคคอมมิวนิสต์ครับ ช่วงนั้นเศณษฐกิจกำลังแย่กัน แนวสังคมนิยมเป็นที่นิยมในสังคม (อิ อิ) ในอังกฤษก็มีพรรคคอม พรรคนาซีโฆษณาชาตินิยมนายทุน เลยได้รับการสนับสนุจากกลุ่มนายทุน กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆ พรรคนาซีก็ดำเนิการทุกท่า จัดนักเลงเชิ๊ตน้ำตาลไล่ตีกับนักเลงพรรคอื่นกันเจ็บตายไปตามเรื่อง ในเมืองบางซอยคนละบ้านแขวนธงสวัสดิกะกับธงค้อนเคียวสนับสนุนคนละข้าง ซึ่งที่จริงกลุ่มชาตินิยมในเยอรมันกลุ่มอื่นเอาตราสวัสดิกะมาใช้ก่อนพรรคนาซีด้วย (ดูเหมือนนาซีลอกอะไรๆ เขามาหลายอย่าง) ประกอบกับคนทั่วไปกลัวตัวอย่างคอมมิวนิสต์อย่างในรัสเซีย พรรคนาซีเลยชนะการเลือกตั้งในปี 1932 คนเลือกพรรคนาซีเพราะกลัวคอมมิวนิสต์ มีอำนาจขึ้นมาในสภาได้ ต่อมากลุ่มทุนก็คุมฮิตเล่อร์ทางการเมืองไม่อยู่ แต่ก็ยังอยู่ต่อไปกันได้เพราะฮิตเล่อร์ไม่เป็นพ่อค้าเข้ายึดธุรกิจต่างๆ
ขบวนการจัดการยิงเริ่มทางเศรษฐกิจก่อน จำกัดสิทธิในการทำธุรกิจล้วก็เข้ายึดเอาดื้อๆ ต่อมาก็บีบให้ออกนอกประเทศทิ้งร้านรวงไว้ ต่อมาก็ให้ออกไปด้แต่ตัวเงินทองก็ห้ามเอาออก ปล้นกันกลางวันสลัวๆ ในยุคแดดแยงฟ้าเยอรมันนั่นละครับ
ค่ายกักกันตอนแรกจัดขึ้นเพื่อคุมขังพวกพรรคอื่น ไม่ใช่มีจุดประสงค์ขัง/ฆ่ายิว
การดำเนินการจับยิวมาฆ่าแกง จุดเริ่มดำเนินนโยบายครั้งสำคัญครั้งหนึ่งคือการประชุมที่ Wannsee ลองดูที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Wannsee_Conference