เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 01, 2024, 09:23:13 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7 8 9 ... 15
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าจากชาวปืนแฝด Perazzi MX 8 และประวัติความเป็นมา  (อ่าน 138991 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 17 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #75 เมื่อ: มกราคม 08, 2009, 06:08:22 PM »




ด้านข้างโคนลำกล้อง ยิ่งคล้ายกับ Perazzi MX8 มากเข้าไปอีกหน่อย

พวกปืน classic นี่ ชอบแกะลายยิบๆนะ หรือว่า ช่างภาพจงใจหาถ่ายรูปแต่กระบอกที่มีลาย

ขอพักยกก่อน ว่างๆ จะขุดหาข้อมูลปืน Lebeau-Courally มาเพิ่ม

ผมคิดว่า Ivo Fabbri จงใจออกแบบปืน Perazzi โดยการแก้ไขแบบปืนกระบอกนี้ครับ
กลับไปดูรูปปืน Boss ผมว่า ไม่ค่อยเหมือนกับ Perazzi นะ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2009, 06:13:11 PM โดย ลูกซองสั้น » บันทึกการเข้า
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #76 เมื่อ: มกราคม 08, 2009, 09:33:49 PM »


ปืนแฝดซ้อน ทีมีชื่อเสียง ที่สุด จากเกาะอังกฤษ คงหนีไม่พ้น Boss  และ  Woodward ที่เป็น ต้นกำเนิด  ปืนลูกซองแฝดซ้อน (จุดอ่อน ก็คือ เข็มแทงชวนใหญ่เกิน) รูปสวยๆก็มีครับ
339


กระบอกนี้ ทำเมื่อปี 1920
340


กระบอกนี้ No 10000  ขนาด .410g  แกะลายโดย Ken Hunt

หลังจากนั้น Lebeau – Courally  แห่ง เบลเยี่ยม ก็ เอาแบบ ไปพัฒนา ให้ดูเพรียว ลมสมส่วนขึ้น
342

345

343


 จากนั้น ก็ก่อเกิด  Perazzi – Fabbri  ,  Perazzi ,     Fabbri  ,  Perazzi MX 8  เหล่านี้  ไม่ได้เรียนแบบ ครับ  แต่ COPY เลย  เพราะ ออกแบบได้สัดส่วน ทั้ง ความสูงและความกว้าง  ทำให้ ง่าย ต่อการ สร้าง สมดุล แก่ปืน

344
บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #77 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 10:42:33 AM »

328


332


335



ติดตามอ่านอย่างเมามันส์เลยครับ อ่านเท่าไรก็ไม่เบื่อ รูปท่านพี่ตอนวัดพานท้ายผมมองตอนแรกผมนึกว่าเด็กแนว วัยรุ่นแถวสยามซะอีก ผมพูดจริงๆนะครับผมไม่ได้แกล้งแซว
บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #78 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 12:03:33 PM »




ผมไปสะดุดข้อมูลอะไรหลายอย่าง ต้องสารภาพว่า ผมเองยิงปืน Perazzi มาตั้งสิบปีแล้ว ยังเข้าใจอะไรผิดไปตั้งเยอะ ผมได้รับรูปถ่ายใบหนึ่ง จากพี่ใหญ่ Fabbri ถ่ายเมื่อครั้งที่พี่ใหญ่ Fabbri ไปเที่ยวบ้านของ Mattarelli  แน่นอนครับ ใครไปเที่ยวบ้านมือปืนเหรียญทองโอลิมปิค  ก็ต้องขอดูเหรียญ ขอดูปืน กันทุกคน และก็มักจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันทั่วหน้า  มีใครตาไว เห็นสิ่งผิดปรกติบ้างไหมครับ

ผมเพิ่งจะสังเกตุพบว่า ปืนกระบอกนั้นไม่ใช่ปืนรุ่น MX 8 อย่างที่ผมเข้าใจ แต่เป็นปืนแบบ sidelock และยังเป็นปืนที่มีพานท้ายแบบคอตรง English stock อีกด้วย

งงจริงๆ ผมติดต่อขอข้อมูลเพิ่มแล้ว ท่านบรรณารักษ์ยังไม่ว่างหาให้ ลำพังแค่คุยกันทางโทรศัพท์ เนื้อหาน้อยไปหน่อย ยิ่งไม่มีรูปประกอบด้วยแล้ว ท่านผู้อ่านจะพาลติดคอ ต้องร้องหาเครื่องดื่มมาแกล้ม

รอท่านบรรณารักษ์หน่อยนะครับ



ปืนกระบอกนั้น ยังอยู่กับ Mattarelli  หรือเปล่าครับ? หรือว่าโดนอีเจิงเผด็จศึก สำเร็จมาแล้ว  Grin


ทีนี้ ก็มาถึงรูปของปืน Perazzi-Fabbri กระบอกที่ Ennio Mattarelli ใช้ยิงแข่งขัน Olympic trap และชนะเลิศ ได้เหรียญทอง ที่โตเกียว ปี 1964

ปืนกระบอกนั้นเป็นปืนแฝดซ้อน sidelock ไกเดียว มีลายแกะ Rose and scroll  และ  side plate เป็นสีเงิน rib เป็นแบบ step rib  และ side rib ด้านข้างลำกล้องไม่มีช่องระบายอากาศ พานท้ายแบบ English stock

ปืนกระบอกนี้ ปัจจุบัน Ennio Mattarelli ยังเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี และเคยออกปากบอกกับพี่ใหญ่ Fabbri ของเราว่า จะยกให้เป็นมรดก เมื่อตนตายแล้ว

ผมจนปัญญาครับ ไม่สามารถหารูปจริงมาให้พวกเราดูได้ เลยจะขอหารูปแทนมาให้ดูกันไปพลางก่อน



รูปแทนแต่เหมือนที่สุด เท่าที่ผมจะหามาได้
กลไก side plate ในปืน Perazzi-Fabbri  



ความเข้าใจผิดของผม ถูกแก้ไขง่ายๆ ว่า ปืนที่ Ennio Mattarelli ใช้ยิงแข่งที่ Tokyo เป็นปืนที่มีกลไกแบบ side lock ส่วนปืนรุ่น MX8 ถูกออกแบบภายหลัง โดยออกแบบและเข้าแข่งในโอลิมปิคที่ Mexico ปี 1968  คำว่า MX 8 ก็เป็นชื่อย่อมาจาก Mexico 1968 นั่นเอง  

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2011, 02:52:48 PM โดย ลูกซองสั้น » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #79 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 02:31:39 PM »

ในช่วงปี 1963 ปีที่ Daniele กับ Ivo เริ่มก่อตั้งโรงงาน Perazzi-Fabbri นั้น พวกเขาทำปืนแฝดขนานก่อนนะครับ ทีเป็นดังนี้ก็เพราะ ในสมัยนั้นปืนแฝดซ้อนยังไม่เป็นที่นิยม คงจะมาจากหน้าตาไม่เข้าตาคนดู(ในสมัยนั้น) ว่านั้นเถอะ ทำไมเหรอครับ ต้องบอกว่า ในสมัยก่อนนู้น  ในยุโรปผู้คนนิยมกีฬา Live pigeon shooting ครับ และปืนที่ใช้ก็คือ ปืนลูกซองแฝดขนาน ปืนยิงนกล่าสัตว์นั่นแหละครับ
 
วิธีการแข่งขัน ก็เอานกพิราบจริงตัวเป็นๆ มาเป็นเป้า โดยมีเด็กถือนกแบบกำเอาไว้ในมือยืนอยู่กลางวงกลมขนาดใหญ่ๆ คนยิงจะยืนอยู่ใกล้ๆกับเด็กโยนนก พอคนยิงให้สัญญาน เด็กโยนนกก็จะโยนนกขึ้นไปกลางอากาศ  นกพิราบจะบินหนีทันที คนยิงก็ยิงนกพิราบที่กำลังบินหนี และจะต้องยิงให้นกตกในเขตบริเวณวงกลม จึงจะได้คะแนน เนื่องจากนกจะบินหนีเร็วมาก ดังนั้นต้องรีบยิงก่อนนกจะบินออกนอกเขตวงกลม กระสุนที่ใช้ก็มักจะเป็นกระสุนแรงๆ เพื่อให้นกตกทันที ปืนจึงถีบมาก ในยุคแรกๆ ปืนลูกซองแฝดขนานที่ใช้ก็จะเป็นปืนล่าสัตว์แบบสองไก แต่เมื่อมีคนนิยมกีฬายิงนกพิราบเป็นมากขึ้น ก็เริ่มมีคนคิดค้นทำปืนแบบไกเดียวออกมาขาย ถ้าจำเนื้อเรื่องได้ Daniele เองยังเคยออกแบบและขายแบบกลไกปืนไกเดียวเลยนะครับ

ปืน Perazzi แบบแฝดขนาน ที่ Perazzi-Fabbri ทำออกขายในช่วงแรกๆ ชื่อรุ่น DHO ครับ
DHO ย่อมาจาก Doppietta, Holland, Oro

ปืนรุ่นแฝดขนาน DHO เป็นปืน sidelock ทำออกมาขายน้อยมากครับ ที่ทำขายน้อยก็เพราะในช่วงแรก กำลังการผลิตปืนของ Perazzi-Fabbri มีน้อยมาก ปืน DHO เลยกลายเป็นปืนที่หาดูยากยิ่งรุ่นแกะลวดลาย ยิ่งหายากเข้าไปอีก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 09, 2009, 04:11:02 PM โดย ลูกซองสั้น » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #80 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 02:34:50 PM »




ผมพูดถึง เกมส์ Live pigeon shooting ไปแล้ว เลยอยากค้นหาตำราประวัติศาสตร์กำเนิดกีฬายิงเป้าบินมาอ่านอีกรอบ หลังจากที่ผมซื้อหนังสือเล่มนี้ไว้ตั้งแต่ปี 1987 แล้วก็ทิ้งเอาไว้ตั้ง 20 ปีพอดีเลย กระดาษสีขาวกลายเป็นสีเหลืองอมน้ำตาลกำลังสวยเลยนะครับ

กีฬายิงเป้าบินที่ดั่งเดิมที่สุดคือ การแข่งขันยิงนกพิราบจริง และทุกวันนี้ ก็ยังมีเกมส์แบบนี้ยิงกันอยู่ตามประเทศแถบลาตินอเมริกา เกมส์นี้มีชื่อว่า columbare  ในปัจจุบันเกมส์นี้ถูกต่อต้านจากพวกนักอนุรักษ์นิยมเป็นอย่างมาก เลยกลายเป็นเกมส์ที่ต้องแอบยิงครับ

รูปที่ผมเอามาลง ไม่ค่อยจะเข้ากับเกมส์ Live pigeon shooting สักเท่าไหร่ ก็อย่าตินะครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 09, 2009, 04:15:57 PM โดย ลูกซองสั้น » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #81 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 02:37:15 PM »




รูปบน จากการใช้เด็กโยนนก ก็มาเป็นเกมส์ trap shooting ครับ  เกมส์ trap shooting นี้ มีการกล่าวถึงไว้ในหนังสือ Sporting Magazine ในปี 1793  ดังนั้นเราคงจะพอคาดเดาว่า trap shooting ถือกำเนิดมาในช่วงก่อนปี 1790 หรืออาจจะตั้งแต่ช่วงปี 1750

กติกาก็คือ เอานกพิราบไปใส่ไว้ในกล่องกับดัก มีคนรับใช้คอยดึงเชือกเปิดประตูกรงกับดัก ในรูปจะเห็นได้ว่า มีการใช้หมาไปเก็บนกที่ยิงตกมาให้ด้วย

Hornsey Wood House Pigeon Club ถือเป็นสนามยิง trap สนามแรกที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1810 ในประเทศอังกฤษครับ พวกสมาชิกจะมาพบปะใช้เวลาทั้งวันร่วมกัน พวกเขาจะนำคนรับใช้มาด้วย จะมีการกางเต้นท์ ใช้เวลาทั้งวันพูดคุยกัน สังสรร ดื่ม กิน และก็บางครั้ง ก็มีการยิง trap ครับ

อ้อ เกมส์นี้ นักยิงปืนห้ามประทับปืนรอนะครับ ต้องถือปืนไว้นิ่งๆ รอให้นกบินออกมาจากกับดักก่อน  จึงจะประทับปืนแล้วเล็งยิงได้ (เป็นสุภาพบุรุษพอสมควรเลย)

รูปที่สอง  เป็นรูปของ England's Notting Hill Gun Club เปิดขึ้นตามหลัง Hornsey Wood ครับ ที่ Notting's Hill นี่ดีกว่านะครับ มีห้องอาหารเย็น มีบาร์ขายเครื่องดื่ม สมาชิกสามารถพาภรรยา หรือเพื่อนหญิงมาร่วมสนุกกับกิจกรรมการยิงปืนได้ด้วย (สงสัยจังว่าในสมัยนั้น อาจจะมีการกีดกันห้ามสตรีร่วมวงในบางกิจกรรมนะครับ)
บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #82 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 02:39:10 PM »




รูปบน เป็นรูปการยิง trap ของ High Hats club แต่สนามนี้มีกติกาเพิ่มครับ เมื่อกรรมการดึงเชือกปล่อยนก นักยิงปืนต้องทำการเปลี่ยนหมวกที่สวมอยู่บนหัวของตนเองก่อน แล้วจึงจะยิงนกได้ ที่ทำดังนี้ ก็เพื่อให้เวลากับนกที่เริ่มบินหนี ให้มีเวลามากขึ้น (นี่ซิ สุภาพบุรุษกว่า ให้โอกาสนกมากขึ้นไปอีก)

รูปล่าง หลังจากยิงนกจริงมานานหลายปี ก็เริ่มมีเสียงบ่นจากนักยิงปืนว่า การยิงนกพิราบจริง เป็นเกมส์ที่ไม่ค่อยจะแฟร์สักเท่าไหร่ เนื่องจากนกพิราบที่บินหนีจากกล่องกับดัก แต่ละตัวบินไปในทิศทางไม่เหมือนกัน ยิ่งเวลาที่แข่งขันกันแบบจริงจังแล้ว บางคนรู้สึกว่า นกพิราบเป้าของตนเองบินหนีแบบยิงยากกว่านกของคนอื่น พาลให้คิดไปว่าโชคหรือนกไม่เข้าข้าง ตัวเองฝีมือดีเจอนกยาก สู้พวกฝีมือห่วยแต่เจอนกเชื่องไม่ได้ เลยคิดหาทางแก้ไข โดยไปออกแบบลูกแก้วใส่ขนนกไว้ภายใน ทำเครื่องโยนลูกแก้ว แล้วยิงลูกแก้วกัน และที่สุดก็กลายมาเป็นเป้าบินแบบปัจจุบันครับ
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #83 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 03:39:29 PM »

ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ

จากรูป 342 ที่พี่ Fabbri โพส ปืนที่เบลเยี่ยมเอาไปทำ กระบอกนี้แกะลวดลายอ้างอิงถึงนโปเลียนมาก มีตัว N ที่โกร่งไก และรูปทหารม้าที่แกะมาจากภาพสีน้ำมันของ Toeodore Gericault "An Officer of the Imperial Horse Guards Charging" 1814 อยู่ที่ลูฟว์
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
*****

คะแนน 249
ออฟไลน์

กระทู้: 885



« ตอบ #84 เมื่อ: มกราคม 09, 2009, 07:51:54 PM »



                    การยิงนกพิลาป พนันที่  สูญ หายไป จากการต่อต้านของนักอนุรักษ์



118



119


021



022


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 09, 2009, 08:01:18 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า

หลงรัก  สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ  งอน
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #85 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 12:12:12 PM »

ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ

จากรูป 342 ที่พี่ Fabbri โพส ปืนที่เบลเยี่ยมเอาไปทำ กระบอกนี้แกะลวดลายอ้างอิงถึงนโปเลียนมาก มีตัว N ที่โกร่งไก และรูปทหารม้าที่แกะมาจากภาพสีน้ำมันของ Toeodore Gericault "An Officer of the Imperial Horse Guards Charging" 1814 อยู่ที่ลูฟว์

รูปที่342 และตัวNที่โกร่งไก จริงๆแล้วก็ยังทำไม่เหมือนปืนของนโปเลียนซะทีเดียวครับ ถ้าจะให้เหมือนต้องแบบในรูปโลโก้ของผมครับ เพราะผมเลียนแบบลายทุกอย่างมาเหมือนกันเดะๆเพียงแต่เปลี่ยนจากตัวN เป็นC เท่านั้นครับ ปืนของนโปเลียนจะต้องมี initial ''N''and crown of Napoleon ครัุบ (ดูมาจากปืนนโปเลียนเองที่อยู่ใน Museum of Hunting and Natural History,Paris.ครับ)เราดีใจที่ได้เลีนยแบบปืนของเค้ามา คิก คิก ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #86 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 02:02:35 PM »




ผมหารูป Perazzi DHO เจอกระบอกนึงครับ กระบอกนี้หมายเลข 5086 กระบอกนี้ถูกทำขึ้นมาในช่วงแรกๆ ก่อนปี 1960 ยุคนั้น  Ivo Fabbri ยังตรวจสอบปืนทุกกระบอกด้วยตัวเอง และเป็นการเจอปืนหายากที่คุ้มค่า เพราะว่า DHO กระบอกนี้แกะลายสวยมากๆ

DHO เป็นปืนลูกซองแฝดขนานนกใน sidelock กลไกแบบ back action คือชุดแหนบนกสับอยู่ด้านหลัง

จำปืนรุ่นนี้ไว้นะครับ ผมจะเอาไว้อ้างอิง ตอนเล่าเรื่องปืน Fabbri
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 10, 2009, 02:24:29 PM โดย ลูกซองสั้น » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #87 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 02:05:24 PM »







สวยมาก สวยมาก และสวยมาก
กลไกแบบไกเดียว น่าจะเป็นแบบที่ Daniele Perazzi ออกแบบเอง และได้จดลิขสิทธ์ไว้
ในปีนั้น Ivo Fabbri เอง จะพิถีพิถันกับปืนที่ทำเสร็จทุกกระบอก
บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #88 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 02:07:22 PM »




หน้าท้อง ใครเคยหลงรักลูกสาวหม้าย 682 ของผม บอกว่าหน้าท้องขาวเนียน
ต้องได้เห็นหน้าท้องของน้อง DHO แล้วจะบอกว่า อภัยพี่เถอะ น้อง 682
บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #89 เมื่อ: มกราคม 10, 2009, 02:09:58 PM »




เวลาเราถือปืนลูกซองแฝด เราจะเห็นปืนในมือตัวเองในมุมมองนี้บ่อยที่สุด มุมนี้จึงต้องสวยเสมอครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6] 7 8 9 ... 15
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 24 คำสั่ง