เอามาฝากครับ
กินเหล้าแล้วเมาเร็ว แก้วเดียวก็เมาได้
สัปดาห์นี้เขียนเรื่องของแอลกอฮอล์ทั้งนั้น ถึงจะเขียนเรื่องเหล้ามาตลอดสัปดาห์ก็ใช่ว่ารำเพยจะสนับสนุนให้คนกินเหล้านะคะ แต่ว่าอยากให้เห็นว่าการที่เราจะเลือกกินเหล้าน่ะ เหล้า cocktail 1 แก้ว มันไม่ได้มีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยๆเลย ดาราเมาแล้วขับก็มีข่าวให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์กันบ่อยๆ โชคดีก็แค่รถตัวเองไปชนตึกชนกำแพง ตัวเองเจ็บ โชคร้ายหน่อยก็ชนคนตาย ชนกับรถคนอื่น เดือดร้อนทั้งตัวเองและผู้อื่น
บางคนก็บอกว่า ก็ไหนว่ากินเหล้า 1 แก้วในสองสามชั่วโมงไง นี่กินตั้งแต่หัวค่ำกินวิสกี้กับโค้กไปสามสี่แก้วเอง ทำไมแอลกอฮอล์ในเลือดมันถึงได้ไปถึง .14 ได้ (นี่เอาคร่าวๆนะคะ เรื่องสมมตินะ)
เอ้า มาดูเฉลยกัน
วิธีคิดปริมาณแอลกอฮอล์
ปริมาณแอลกอฮอล์ 1 แก้ว ที่เราเชื่อว่าคือแก้ว 1 แก้วนั้น จริงๆแล้วเราเข้าใจผิดมาตลอดนะคะ เพราะว่าปริมาณของ "ตัวแอลกอฮอล์ล้วนๆ" ในเครื่องดื่มแต่ละอย่างนั้นไม่เท่ากัน ลองดูตามรูปนะคะ
เบียร์ 12 ออนซ์ หรือประมาณแก้วยาว 1 แก้ว จะมีปริมาณของแอลกอฮอล์ เท่ากับ ไวน์ 5 ออนซ์ หรือประมาณครึ่งแก้ว (แก้วไวน์มาตรฐานจะมีขนาด ตั้งแต่ 10-16 ออนซ์) และเท่ากับเหล้าลิเคียวร์ 1 ชอตหรือ 1 1/2 ออนซ์
แค่นี้เองน่ะนะ!!!
Sensible drinking ผู้ชายกิน 2 แก้ว ผู้หญิง 1 แก้ว
ทั้งนี้เพราะว่าเหล้าแต่ละอย่างมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เท่ากันค่ะ
a 12-ounce can of beer (4%-5%% alcohol)
a 5-ounce glass of wine (12% alcohol)
a 1.25 ounce shot of 80-proof liquor (40% alcohol ก็ไอ้ที่เราเรียกกันว่า 40 ดีกรีนั่นแหละ) เช่น วิสกี้ บรั่นดี วอดก้า จิน
a 12-ounce wine cooler (3%-6% alcohol) เช่น สปาย
ลองไปคิดปริมารแอลกอฮอล์ในเลือดดูกันเล่นๆนะคะ
http://www.healthstatus.com/bac.htmlhttp://www.onlineconversion.com/bac.htmhttp://www.ou.edu/oupd/bac.htmเนี่ยนะเหรอ ไวน์ 1 แก้ว
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่เป็นปริมาณกำหนดตามกฎหมายอเมริกันคือ 0.08 ออสเตรเลียคือ 0.05
ภายใน 1 คืน ถ้าคุณดื่มเบียร์ *
1-2 แก้วในคืนนั้น สิ่งที่จะเกิดก็คือ หน้าจะแดง เลือดสูบฉีดดีรื่นเริงเฮฮา แอลกอฮอล์ในเลือดประมาณ 0.04
3-4 แก้วจะเริ่มๆช้าลง ตัดสินใจช้าลง แอลกอฮอล์ในเลือดอาจจะมากกว่า 0.08 ซึ่งเป็นปริมาณที่กำหนด แต่ว่าเนื่องจากการตัดสินใจจะช้าลง ดังนั้นไม่ควรขับรถ
5-6 แก้ว ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะประมาณ 0.14 จะเริ่มเมาและพูดเริ่มไม่รู้เรื่องละ ถึงบางคนบอกว่าไม่เมายังพูดรู้เรื่อง แต่ว่าจริงๆแล้วถ้าให้ลองทดสอบด้วยเครื่องให้ลองขับรถเพื่อดูปฏิกิริยาตอบสนองต่อสภาพรอบข้างละก็ จะเห็นว่าช้ากว่ามาตรฐานมากจนถึงขั้นอันตรายค่ะ
มากกว่า 6 แก้วเค้าเรียกว่าเมาแล้ว เพราะว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะสูงกว่าระดับที่กฏหมายกำหนดไปอย่างน้อยๆก็สองเท่าค่ะ รำเพยเห็นในข่าวบอกว่านักแสดงบางคน "มีระดับแอลกอฮอล์สูงถึง 170 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์" ซึ่งนั่นคือ 0.17 นะคะ เกินไปสองเท่ากว่า
*รำเพยใช้เบียร์เป็นตัวอย่างเพราะว่าเบียร์ 1 แก้วจะนับเป็น 1 ส่วนพอดี ถ้าเป็นเครื่องดื่มผสมก็จะต้องคิดใหม่เพราะ 1 แก้วอาจจะนับเป็น 2-3 ส่วนได้
ขอบคุณคุณรำเพยเจ้าของข้อมูลครับ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=rumpuey&month=06-2005&date=24&group=13&gblog=8