แถลงการณ์แดงสยาม สยามแดงของไอ้คนนี้ผมคงเอามาให้อ่านไม่ได้....
แต่ขอนำจดหมายฉบับนี้มาลงแทนครับ...
วันที่ จันทร์ กุมภาพันธ์ 2552
พิมพ์หน้านี้ | ดูบล๊อกอื่นๆ ที่ OKnation
จดหมายตอบกลับถึงอาจารย์ใจ อึ๊งภากรณ์: จากแถลงการณ์แดงสยาม จนถึงมุมมองของนิสิต และความคิดบ้าๆของผม!?
ผมได้อ่านบทความจากอาจารย์ใจ ที่ส่งเข้ามาในอีเมล์ผม ซึ่งหลายท่านบอกว่าเป็นบทความ ทิ้งระเบิด ของอาจารย์ใจ ก่อนที่จะบินไปยังประเทศอังกฤษ (ซึ่งผมยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นข่าวลือหรือไม่) แต่อาจารย์มุ่งที่จะเรียกว่ามันเป็น แถลงการณ์แดงสยาม เสียมากกว่า
เอาล่ะ ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะแถลงการณ์หรือบทความ มันคือข้อเขียนและวาทกรรมของอาจารย์ใจ อึ๊งภากรณ์ อย่างเต็มที่ และเชื่อว่ามันคงได้ระบายความคับแค้นใจส่วนหนึ่งของอาจารย์ออกมาอย่างหมดไส้หมดพุง อย่างไรก็ตามผมคงไม่สามารถเปิดเผยเนื้อเรื่องในจดหมายฉบับนี้ได้ เพราะผมคิดว่าใครที่กำลังอ่านเนื้อหาผมอยู่คงสะเทือนใจไม่น้อย และพร้อมที่จะร่วมกันไป และนำเอารองเท้าไปเขวี้ยงที่คณะที่ผมอยู่ (รัฐศาสตร์ จุฬาฯ) กันอย่างแน่นอน รวมทั้งเนื้อหาที่ทำให้ผมอาจโดนข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นชนักติดหลังเอาง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องทำจดหมายตอบกลับ ในเมื่อที่อาจารย์อยากหยิบยื่นแถลงการณ์ทิ้งระเบิดให้ผมได้อ่านแล้ว ผมก็คงต้องตอบกลับ แต่ถ้าเพื่อความบ้านิดๆของผม ผมก็คงต้องตอบในสถานที่แห่งนี้ อนึ่ง ผมคงไม่พูดถึงเรื่องที่ยังเป็นปริศนา (mysteries) เพราะไม่มีข้อชี้ผิดชี้ถูกที่มากพอที่ผมจะเขียนถึงได้
ผมคงไม่ปฏิเสธว่าอาจารย์ใจนั้น มีอุดมการณ์และความเชื่อในปรัชญาของมาร์กซ์อยู่อย่างเต็มล้นหัวใจ และผมคงไม่ปฏิเสธว่าอาจารย์มุ่งที่จะบอกว่า จิตสำนึกที่ผิดพลาด อันเกิดจากการครองปัจจัยทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ มากไปกว่านั้นต้องทำลาย superstructure ที่ครอบงำผ่านทางระบบการผลิต ซึ่งอาจารย์มองว่าสิ่งที่มันเป็นอยู่ในเวลานี้นั้นคือสถาบันสูงสุดของคนไทย
แต่ผมก็อยากโต้แย้งอาจารย์อยู่บ้าง แม้ความรู้จะเท่าหางอึ่งหรือได้ไม่ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งก็ตาม
สิ่งที่ผมอยากโต้แย้งอาจารย์คือ หากอาจารย์เชื่อว่าความรู้ของมาร์กซิสม์ เป็นกลาง และมีสถานะการไม่เป็น false consciousness แล้ว คำถามที่สำคัญคือ หากชนชั้นแรงงานที่อาจารย์เชื่อได้มาเป็นผู้ครอบครองปัจจัยในการผลิตแล้ว ตรรกะที่บอกว่าความรู้ที่สร้างขึ้นโดยผู้ที่ครอบครองปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นจิตสำนึกอันผิดพลาดนั้น กรณีนี้ดูเหมือนว่าความรู้ของมาร์กซิสม์ ก็ประสบปัญหาที่ว่ามันก็เป็นเพียง false consciousness ไปด้วย หรือหากกล่าวตามภาษาของบรรดาพวกหลังสมัยใหม่ สถานะที่อาจารย์มองว่า วาทกรรมชุดใหญ่ที่กำลังครอบสังคมจะต้องถูกแทนที่ด้วยวาทกรรมอื่น แต่ถ้าวาทกรรมนั้นกลับขึ้นมาเป็นใหญ่แทน และวาทกรรมชุดนั้นมุ่งต่อต้านวาทกรรมอื่นใดที่เป็นใหญ่ นั่นแสดงว่าวาทกรรมนั้นกำลังตกเป็นปัญหาอยู่หรือไม่?
นอกจากนั้นแล้ว ในแถลงการณ์ของอาจารย์ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ไปไกลกว่าเหตุผลของบรรดาพวกเสรีนิยมประชาธิปไตยเท่าใดนักที่มุ่งเรียกร้องความเท่าเทียมกัน และยังวนเวียนกับแนวความคิดในเรื่องของรัฐประชาชาติอีกด้วย
ที่น่าขันที่สุดคือดูเหมือนว่า แถลงการณ์ทิ้งระเบิดของอาจารย์ ไม่ได้ต่างอะไรจากสุนทรพจน์ของนักการเมืองที่พร้อมใจกัน ถ่มถุย คำพูดออกมาว่าประเทศของเราสมควรจะเป็นอย่างนี้ๆ ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนว่านี่เป็นความ ล้าหลัง เสียยิ่งกว่าความล้าหลังที่อาจารย์เรียกร้อง เพราะถ้าอาจารย์มีความมั่นใจจริง การให้เหตุผลของอาจารย์จะต้องไปไกลกว่าการดำรงอยู่ของรัฐประชาชาติ หรือกล่าวให้ถึงที่สุด ทำอย่างไรที่จะหลุดออกจากการที่อยู่ในกรอบรัฐประชาชาติ ซึ่งผมมองว่า นี่คือกรอบวาทกรรมหรือ superstructure ตัวจริงที่ครอบงำไม่ใช่แค่ทั้งประเทศ แต่เป็นทั้งโลกมากกว่า
การมีอยู่ของทุกระบอบที่มีผู้ปกครอง ก็ล้วนแล้วแต่มุ่งตอบสนองความคิดและความเชื่อของรัฐประชาชาติทั้งสิ้น แล้วทำไมอาจารย์ถึงยอมกับวาทกรรม/ superstructure ชุดนี้เล่า? และจะบอกว่าผมมองไม่เห็นก็ไม่ได้ เพราะมันมีร่องรอยแฝงตัวอยู่ภายในนั้น
ที่น่าขำไปกว่านั้นคือ ประเพณีหมอบคลานเวลาเข้าเฝ้า ผมเข้าใจว่ายกเลิกกันไปนานมากแล้ว ที่อาจจะยังเห็นมันอาจเป็นผลผลิตที่คงเหลือค้างจากการยกเลิกประเพณีดังกล่าวก็ได้ แต่ถ้าอาจารย์จะอุปมาอุปไมยเป็นอื่นผมก็คงไม่ขัดข้อง และการตีความอันนี้ของผมก็ต้องผิดไปแน่นอน
แถลงการณ์ดังกล่าวจึงไม่ต่างอะไรจากการแถลงการณ์ที่ผ่านๆมาของอาจารย์ และมันก็ไม่ได้ต่างอะไรเลยจากการที่เป็นคนแก่พูดถึงเรื่องราวความฝันที่ซ้ำซากๆอยู่นั่น อาจารย์อาจเป็นคนที่เข้าข่ายดังที่ ผศ.ธเนศ วงศ์ยานนาวา เคยกล่าวไว้ก็ได้ครับว่า When you are young, if you are not a leftist you dont have a heart. But when youre old, if you still a leftist you dont have brain. (ไม่ต้องตีความ ตามตัวนั่นเลยแหละ)
ดังนั้นผมจึงหัวเราะและไม่ฟูมฟายหรือจะจุกอกตายทันทีที่อ่านแถลงการณ์นี้จบ และมากไปกว่านั้นผมหัวเราะดังลั่นบ้านด้วย ก็สมแล้วที่ผมเคยให้ฉายาอาจารย์ว่า มรดกชิ้นสุดท้ายของมาร์กที่ยังหลงเหลืออยู่
(แต่ท่านผู้อ่านครับ ไม่รู้ว่าผมตีความถูกหรือเปล่านะ ผมอาจจะเข้าใจผิดไปเลยก็ได้ ซึ่งถ้าอย่างไรบอกกันได้ครับ)
http://www.oknation.net/blog/nrad6949/2009/02/09/entry-1