ปัญหาโลกแตกครับง่ายๆ เป็นสินค้าที่โดนควบคุมด้วยโควต้า 1 ใบ สั้น 30 ยาว 50 หากคุณที่ถามประกอบกิจการขายอาวุธปืนแล้วมีใบอนุญาตใบเดียว 1 ปีขายได้เท่านี้เป็นคุณจะขายราคาทุน+ภาษี+อื่นๆ = คุณจะขายเท่าไหร่ครับ .............จบข่าว
มันก็ยังไงๆอยู่น่ะครับพี่..
ผมจะยกตัวอย่างที่ดีให้ฟังครับ
บะหมี่เกี๊ยวหน้าโรงงานแถวบ้านผมขายดีมาก หมดแต่วันตลอด
ผมอดกินหลายครั้งแล้ว เลยถามแกว่า ทำไมไม่ทำเยอะๆขายหมดอยู่แล้ว
แกบอกว่า"แบกน้ำซุปมาได้แค่นี้"(นี่คือข้อจำกัดของแก)
ไม่นานนักหลังจากเสวนากับผมแกก็ให้เมียมาขายน้ำหวาน น้ำอัดลมอยู่ข้างๆ
ช่วงปิดเทอมให้ลูกมาขายใส้กรอกอิสานอีก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
แกอัฐยาศัยดี คุยไปทำไป นอบน้อม ไม่ต้อง hard sale อย่างแรง
หรือแปลงรุ่นเพิ่มราคา หรือขายเอากำไรให้พอใจ
ดูแกแล้วกันครับ ..แกไม่เห็นต้องขายก๋วยเตี๊ยวชามละ 100 เลย
(อย่าบอกน่ะครับว่าชามละ 100 ใครจะซื้อ แต่ปืนดันมีคนซื้อ ขายเท่าไหร่ก็ซื้อ
ได้แค่บ่นครับ)
หาอย่างอื่นมาเสริมซิ.. ไม่งั้นขายปืนได้แค่ปีละไม่กี่กระบอก
เวลาว่างเยอะจะนั่งตบยุงหรือยังไงดี ผมว่ามันอยู่ที่คุณธรรมครับ
สงสารแต่ชาวนาเถอะ(นาปี)ทำนาได้แค่ปีละหนเพราะฝนตกปีละครั้ง
ราคาข้าวยังถูกควบคุมเลย อายเค๊าไม๊หล่ะ
"ไม่อาย..แถมรวยด้วยว้อยยยย"
ผมเสนอน่ะ..
ให้ออกใบอนุญาติค้าอาวุธปืนเพิ่มอิสระ(อย่าเพิ่งตกใจ)
แต่ให้คุมจำนวน ป.3 สำหรับปืนใหม่แทน
ป. 3 ปืนมือสองก็ตามเดิม ตามคุณสมบัติคนขอ
ส่วนปืนใหม่เข้าคิวจอง ป.3เลย ปีละกี่กระบอกก็ว่าไป
(เท่าใบอนุญาติค้าอาวุธปืนเดิมก็ได้) ทีนี้ร้านปืนก็ต้อง
บริหารตัวเองให้ดีหล่ะ..อย่างนี้ซิถึงจะเรียกว่า
ราคาตามกลไกตลาดจริงๆ
แต่ตอนนี้ที่เป็นอยู่มันกลไกตลาดแบบเอาเปรียบผู้บริโภคนี่นา
---"มีของขายจำนวนจำกัด ใครอยากได้ต้องยอมจ่าย"
ถ้าทำอย่างผมว่าน่ะ
----"มีคนซื้อจำนวนจำกัด ใครจะขายก็ตั้งราคามา"
แต่ระวัง....ต้องควบคุมพฤติกรรมผู้มีอำนาจออก ป.3 ให้ดีละกันคร๊าบบบบบบบบบบ.......................