เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 30, 2024, 12:44:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีออมเงิน ที่ทำได้จริง ง่ายแต่ได้ผลครับ มีประโยชน์มากๆครับ  (อ่าน 54937 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 12:05:30 PM »

 หลงรัก ลองอ่านกันดูครับ ผมเห็นว่ามีประโยขน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพเศรษฐกิจ และสังคมในยุคนี้
 


รวย...มั่งคั่ง... ใครบ้างไม่อยากมีแต่ใช่ว่าเส้นทางไปสู่ความรวย และความมั่งคั่ง จะทอดยาวจากหน้าประตูบ้านของทุกๆ คน หากแต่ตัวคุณเองนั่นแหละ ที่เป็นผู้เลือกและลิขิตเองว่า
จะเดินบนเส้นทางไหนระหว่างรวยกับจน เพราะความรวยไม่ใช่อวัยวะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อคุณเริ่มทำงาน หาเงินได้ และรู้จักการออม เส้นทางแห่งความร่ำรวย ย่อมมีโอกาสทอดยาวมาสู่คุณ
เฉกเช่นชายวัย 60 ปีท่านนี้“ ดร. สุวรรณ วลัยเสถียร “ อดีต รมช. พาณิชย์, ประธานชมรมคนออมเงิน คนทำงานที่ขึ้นชื่อว่า ประหยัดและอดออม และมีความรู้เรื่องการออมเงินติดอันดับต้นๆ
ของเมืองไทย

การออมเงินนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพเศรษฐกิจ และสังคมในยุคนี้เพราะนอกจากจะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคง
ให้กับคุณและครอบครัวแล้ว ยังช่วยปลูกฝังค่านิยมในการออมและการลงทุนให้กับบุตรหลานรู้จัก การประหยัด และกลายเป็นผู้ใหช่ที่มีวินัยในการใช้จ่ายเงิน ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร เป็นนักออมเงิน
นักลงทุนจากการเก็บออม ที่ทำอย่างมีวินัย และต่อเนื่องแบบอย่างที่ดีในการออมเงินของท่านน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน



at office : อาจารย์เป็นนักออมเงินที่มีทรัพย์สินมากถึง 700 ล้านบาท จากการออมจริงหรือไม่

ใช่ครับ ทรัพย์สินทั้งหมดเกิดขึ้นจากการเราประหยัดและเก็บออม รู้จักใช้เงินที่ได้มาจากการทำงาน เก็บออมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ตั้งแต่ผมอายุ14-15 ปี จนถึงปัจจุบัน 60 ปี


at office : แรงบันดาลใจ ที่ทำให้อาจารย์ประหยัด และอดออมเริ่มมาตั้งแต่ทำงานครั้งแรก

ตั้งแต่วัยเยาว์เลยครับ เพราะครอบครัวผมยากจน ผมซึบซับและรู้สึกมาว่าความยากจนเป็นอย่างไร และคิดเสมอว่าเมื่อเราโตขึ้นเราทำงานแล้วเราต้องไม่จน อีกหน่อยลูกเรา หลานเราก็ต้องไม่จน
เป็นปรัชชาของชีวิตที่เราต้องตั้งเป้าว่าทำอย่างไรเราถึงจะไม่จน ผมได้แต้มต่อได้เปรียบคนอื่นๆ เพราะว่าคุณพ่อของผมยากจน แต่ถึงแม้จะจนท่านก็สอนให้พวกเราขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์
สมัยเด็กๆ มีพ่อแม่ชี้นำทางเราก็ได้เปรียบ ทุกตรุษจีน มีอังเปาพ่อแม่ก็สอนให้เราเก็บ พอเราเขียนหนังสือได้ อายุ 12-13 ปี คุณพ่อก็พาไปแบงค์กสิกร ไปเปิดบัชชีออมทรัพย์

ผมมีเงินก้อนแรกที่ฝาก 165 บาท ที่ได้จากการเก็บสะสมจากค่าขนมและอั่งเปา เมื่อมีสมุดคู่ฝากครั้งแรกก็จับมือสั่น ดีใจมาก...สมใจเรา จากนั้นก็ค่อยๆ สร้างอนาคตขึ้นมาจากการเก็บออม
เพราะรู้สึกภูมิใจ เก็บสะสมเงินออมมาเรื่อยๆ



at office : แล้วมีบ้างมั้ยที่วินัยในการออมเงินเราเริ่มเปลี่ยนแปลง

ไม่หรอกครับ ผมทำต่อเนื่องมาตลอด แต่มาในช่วงหนึ่ง การเก็บเงินของผมต้องหยุดชะงักในช่วงผมจบปวช. ทางบ้านยากจนครับ ไม่มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัย ต้องทำงานตลอดเวลา
ตอนนั้นฐานะการเงินที่บ้านลำบากมาก หาเงินมาก็ต้องให้พ่อแม่ ผมได้รับเงินเดือน 1,300 บาท ให้พ่อแม่ 1,000 บาท เราเหลือ 300 บาท จึงไม่ได้ออมเงินในช่วงนั้น
แต่พอทำงานปี1 เราก็เปลี่ยนงานได้เงินเดือน 3,300 บาท เราทำงานปีเศษก็เก็บเงินซื้อโตโยต้าโคโรล่าได้เลย ดีใจเหลือเกิน ผมไม่มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัย เพราะต้องทำงาน
จนกระทั่งปี2508 จุฬาฯ เปิดภาคค่ำจึงได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย เลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ ผมเรียนจบปวช.จากเป็นโรงเรียนอัสสัมชัชพาณิชยการ พอมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ
จึงเลือกเรียนต่อด้านกฎหมาย เพราะมองว่าทนายที่เก่งภาษาอังกฤษก็จะได้เปรียบคนอื่นๆ คู่แข่งก็น้อยลง ก็เลยได้เปลี่ยนมาทำงานออฟฟิศเป็นนักกฏหมายมา 36 ปีแล้วครับ



at office : หลังมาเป็นนักกฎหมาย สไตล์การออมเงินของอาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง

ไม่เปลี่ยนเลย ผมก็ออมมาตลอดชีวิต การออมถ้าจะให้ดีต้องทำนานและมีวินัยในการออม คือ ออมวันนี้ออมพรุ่งนี้ ตอนผมอายุ12 -13 ปีเริ่มเปิดบัชชีกับแบงก์กสิกร ในตอนนี้ผมอายุ60 ปี
ผมก็ยังออมเงินอยู่ จุดแข็งของคนทำงานได้เงินเดือนดีจะต้องมีวินัยในการออมและต้องทำต่อเนื่อง ก็จะได้เปรียบเพื่อนที่เขาไม่ได้ออมเงินตั้งแต่แรก ผมออมเงิน 20 เปอร์เซ็นต์
จากเงินเดือน 20,000 บาท เมื่อ 30 ปีก่อน ผมใช้น้อย เงินที่เหลือก็เลยกลายเป็นเงินออมทั้งหมด



at office : คนทำงานต้องรัดเข็มขัดประหยัดเงิน เพราะปัชหาน้ำมันแพง ดอกเบี้ย ขยายตัวน้อย เงินเฟ้อสูงขึ้น มีคำแนะนำสำหรับคนออมเงินในยุคนี้อย่างไรบ้าง

หากพูดถึงเรื่องการออมเนี่ย เราต้องคิดก่อนว่าการใช้เงินมีรายได้กับรายจ่าย หากเกิดภาวะเศรษฐกิจไม่ดีเราต้องเริ่มเก็บออมให้มากขึ้น การออมเราต้องมาบีบรายจ่ายก่อน ผมเสนอให้คนเมืองเนี่ย
ซื้อคอนโดมิเนียมในเมือง เพราะคนเราไม่ว่าจะรวยหรือจน วันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง ถ้าเราทำงานออฟฟิศไปกลับใช้เวลาแค่15 นาทีประหยัดนะ แต่ถ้าไปซื้อบ้านอยู่ไกลอยู่ถึงบางบัวทอง
กว่าจะขับรถออกจากบ้านไปทำงานครั้งละชั่วโมงกว่า แล้วกว่าจะได้กลับบ้านอีกละ คนทำงานจึงต้องพิจารณารายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการเดินทางไปทำงาน หากต้องการประหยัดให้หาที่พักอยู่ใกล้ออฟฟิศ

อันดับที่สอง คือ หากคุณมีเงิน 1 ก้อนหนึ่ง ผมชอบลงทุน ผมก็สอนให้คุณลงทุนอยู่กับบ้าน หากว่าคุณมีเงิน 3 ล้านบาท ฝากแบงค์ได้ดอกเบี้ยไม่มาก 3-4 เปอร์เซ็นต์
คุณฝากเงิน 5 ปีเงินก้อน 3 ล้านก็ยังอยู่ 3 ล้าน แต่ถ้าคุณเอาเงิน 3 ล้านไปลงทุน ซื้อคอนโดมิเนียมให้เช่า คุณได้ค่าเช่าเดือนละ 5-6 เปอร์เซ็นต์ลงทุน 3 ล้าน คุณได้ปีละ 1 แสน 5 หมื่นบาท
มันคุ้มนะครับ และตอนนี้ชาวต่างชาติทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น อยู่เมืองไทยเยอะ ก็นำคอนโดมิเนียมมาจัดให้เขาเช่าเดือนละ 1 หมื่นกว่าบาท คอนโด 3 ล้าน ก็กลายเป็นคอนโด 5 ล้าน
เรียกว่าคุ้มค่ามาก คนเราจะออมเงิน อันดับแรกเลย ก็ต้องซื้อบ้านก่อน เพราะบ้านหรือคอนโดเป็นทรัพย์สินที่ประเภทยิ่งใช้ราคายิ่งขึ้น และการผ่อนบ้านก็ช่วยลดหย่อนภาษีได้ด้วย
ประมาณปีละ 50,000 บาท



at office : สัดส่วนการออมเงินที่เหมาะสมกับคนทำงานในยุคปัจจุบัน ควรจะเป็นเท่าไรจึงจะเหมาะสม

ผมคิดว่าครอบครัวหนึ่ง ลำดับแรก ต้องตั้งเป้าการออมไว้ได้สัก 20-30 เปอร์เซ็นต์/เดือน เราต้องตั้งเป้าการออมให้สูงจึงจะทำให้ถึงเป้าได้ ถ้าตั้งเป้าการออมต่ำตายเลย
ทำงานเงินเดือนสูงแต่ออมเงินแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ หรือบางคนออมเงินเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะแทบจะไม่เหลืออะไรเลย อันดับที่สอง ต้องออมอย่าง
สม่ำเสมอทุกเดือน ไม่ใช่ว่าออมวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ถอนหรือนำเงินออกมาใช้และ

อันดับที่3 การออมมีหลายรูปแบบไม่ใช่การนำเอาเงินไปฝากใส่แบงค์เสมอไป ยกตัวอย่าง แม่ค้าขายของที่ตลาดเหลือเงินสำหรับการออม 2,000 – 3,000 บาท
อยากออมแต่ไม่อยากนำเงินไปฝากแบงค์ ก็ไปซื้อทองคำสลึงหนึ่ง ก็เป็นเงินออมเหมือนกัน ออมไปออมมาได้เงินมาอีก 2,000 – 3,000 บาทก็ไปซื้อทองอีก ไปเปลี่ยนจากสลึงหนึ่งเป็นสองสลึงก็ได้
การออมตามสุภาษิตไทย มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท ออมไปเรื่อยๆ หากออมเป็นเครื่องประดับต้องซื้อของที่ไม่ด้อยค่า ต้องซื้อทอง ซื้อเพชร ตอนเด็กๆ ผมก็ซื้อที่ห้างทองตั้งโต๊ะกัง และผมเก็บสะสมมาตลอด การซื้อทองคำนี่ดีนะครับเพราะราคาขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ ออมแล้วมีความสุข และการซื้อทองคำนับเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่มีความเสี่ยงน้อยมาก สามารถซื้อมาขายไปได้คล่องกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในยุคปัจจุบัน



at office : การออมเงินในระดับของครอบครัว มีข้อดีมากกว่าการออมเงินส่วนบุคคลอย่างไรบ้าง

ผมโชคดีที่ภรรยาก็เป็นคนเก็บออม เรียกว่า เป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมา การที่ภรรยาออมเงิน สองแรงแข็งขันทำให้การออมโตเร็วขึ้น เรามีลูกก็สอนลูกให้ประหยัด ลูกเราต้องเข้าสนามแข่งขัน
ต้องไปสู้กับคนอื่นๆ เราต้องสร้างให้เด็กมีระเบียบวินัย ตรงเวลา หนักเอาเบาสู้ ที่สำคัชต้องขยันอดออม และต้องทำงานเป็นทีม สมัยนี้การทำงานเป็นทีมสำคัญมาก เหมือนกับการออม
หากออมเงินเป็นทีมก็ได้แต้มต่อที่มากขึ้น กว่าการออมเงินแค่บุคคลใดบุคคลหนึ่งในครอบครัว สมัยนี้การทำอะไรมันต้องมีตัวช่วย การมีแต้มต่อได้เปรียบกว่าที่เราจะออมเงินคนเพียงเดียว



at office : การจัดสรรเรื่องรายรับ รายจ่ายต่างๆ หากเราไม่มีความรู้เรื่องการเงิน ทำอย่างไรถึงจะจัดสรรรายรับรายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผมขอยกตัวอย่างเป็นบริษัทแล้วกันนะจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน ถ้าเราเกิดขี้เกียจดูแลบริษัทให้ใช้ทฤษฎีกล่องวิเศษซึ่งผมเลียนแบบทฤษฎีนี้มาจากฝรั่ง พวกฝรั่งเขาบอกว่า
ถ้าคุณไม่รู้เรื่องการเงิน เรื่องการบัญชี ให้ไปจ้างสำนักงานบัญชีมาช่วยดูแล ให้สำนักงานเหล่านี้นำกล่องมาทิ้งไว้ 1 ใบ อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการเงิน ไม่ว่าจะเป็นสมุดเช็ค
ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ ใบวางบิลต่างๆ ทุกอย่างทิ้งไว้ในกล่องแล้วให้เขามาเก็บทุกสองอาทิตย์ เพื่อนำไปทำบัญชีรายรับรายจ่าย ใบเสร็จนี้ใช้ไม่ใช้เอกสารนี้ครบ เอกสารนี้ไม่ครบ
พอเขาเก็บไปก็เอากล่องเก่ามาวาง ทุกอย่างสมัยนี้คนเราเก่งหมดไม่ได้ เพราะว่ามันมีเรื่องกฎหมายระเบียบต่างๆ มากมายที่ละเอียดอ่อน คุณก็จ้างให้ OUTSOURCE ในสิ่งที่เราไม่ชำนาญ
นี่แหละครับทฤษฎีกล่องวิเศษ การจ้างสำนักงานการบัญชีไม่แพงหรอก ถ้าคุณเป็นวิศวกรจะมาศึกษาเรื่องบัญชีอ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว ปวดหัวตายเลย



at office : แล้วสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้วิธีการออมเงินประเภทใดจะให้ประโยชน์สูงสุด

สถานการณ์เงินเฟ้อ คุณทำอะไรไม่ได้ คุณจะหนีไปอยู่ประเทศอื่นๆ คุณก็ไม่อยากไป ก็ต้องทำอย่างนี้ ทำสิ่งที่ทำให้เงินออมของคุณมันโตเร็วกว่าเงินเฟ้อ ก็เรื่องซื้อบ้านให้เขาเช่าแบบที่ผมบอก
หรือว่าซื้อกองทุน สมัยนี้มีกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะซื้อบ้านแล้วเราดูแลไม่เป็น ยกตัวอย่าง บลจ. ทหารไทย เขาเอากองทุนอสังหาริมทรัพย์ของ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เซ็นทรัลพระราม 2
และเซ็นทรัพพระราม 3 มาขาย เขาได้เงินไปตั้งเยอะ เพราะมีผู้บริโภคสนใจ ดอกผลจากกองทุนของเซ็นทรัลพัฒนาผล ปีละประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ ผมว่าก็ไม่เลว ถ้าดอกผลปีละ 7 เปอร์เซ็นต์
เงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ คุณได้กำไรจากดอกเบี้ยทำให้คุณได้ประโยชน์จากเงินของกองทุนถึง 4 เปอร์เซ็นต์



at office : หากเราไม่มีความรู้เรื่องกองทุน เราออมเงินโดยการฝากเงินกับแบงก์ หรือการเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สถานการณ์ไหนเหมาะสมกว่ากัน

เล่นหุ้นต้องดูหุ้นพลังงาน อย่าไปดูหุ้นอสังหาริมทรัพย์เพราะตลาดหุ้นอสังหาริมทรัพย์มันอิ่มตัว ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสารก็แข่งกันลดราคา ส่วนการซื้อกองทุนไม่ยาก ปัจจุบันมีกองทุน 3-4 ประเภท
คือ กองทุนตราสารหนี้ที่ซื้อพันธบัตรและซื้อหุ้นกู้ กลุ่มนี้แต่ว่าดอกเบี้ยน้อย ส่วนกองทุนหุ้นความเสี่ยสูง แต่ถ้าหุ้นขึ้นก็กำไรดีแต่คุณต้องคอยโยกไปโยกมา แต่ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม

ส่วนการฝากเงินอย่างเดียวข้อดี คือ ปลอดภัย แต่ว่าดอกผลน้อย เราต้องมาดูสิว่าเราถนัดอะไรชอบอะไร เพื่อให้การออมเงินของเราเพิ่มมูลค่ามากขึ้น ผมแนะนำเพิ่มเติมว่า หากคุณมีเงินประมาณ
10 ล้านบาท คุณก็ซื้อทองคำ5 แสน หรือ 1 ล้านบาท ซื้อทองคำดีนะครับ เพราะโอกาสมันขึ้นเนี่ยได้รู้ได้เห็นแล้วเราแฮ้ปปี้ คนเรามีความสุขทางใจ คุณบอกว่าคุณซื้อรถยนต์มันมีความสุขทางใจ
แต่คุณซื้อรถกับซื้อทองแตกต่างกันนะครับ ทองคำขยับราคาขึ้นตลอดเวลาเหมือนกับบ้าน และความเสี่ยงต่ำแต่รถยนต์เราต้องเสียค่าดูแลรักษา ค่าสึกหรอ ค่าต่อทะเบียน ค่าพรบ. ค่าประกันภัย
อะไรต่างๆ มากมาย หากคุณต้องการซื้อรถยนต์ ผมไม่แนะนำให้ผ่อน เพราะผ่อนต้องเสียดอกเบี้ย คุณไม่มีเงินซื้อรถใหม่จากอู่ก็ซื้อรถมือสอง ผมไปตลาดรถยนต์แถวๆ ถนนพระราม 9
ไปเจอเต๊นท์รถยนต์ของธนาคารธนชาติโอ้โห... รถมือสองใหม่ทั้งนั้นเลย ทำซะแจ่ว แต่ซื้อรถมือสองคุณต้องศึกษาให้ดีระวังมันย้อมแมวเหมือนกัน



at office : การซื้อประกันชีวิตถือเป็นการออมเงินหรือเปล่า

ถือว่าเป็นการออมหรือไม่การซื้อประกันชีวิต คนที่ทำประกันต้องเป็นคนที่เป็นหลักในการหาเงินในครอบครัว ในครอบครัวหนึ่งมีคนอยู่สองคนที่จำเป็นต้องซื้อประกันชีวิต คือ เสาเอกของครอบครัว
ถ้าเป็นอะไรไปลูกๆ หรือพ่อแม่ลำบากก็ต้องประกันชีวิตเตรียมไว้ก่อน สำหรับคนที่เก็บเงินไม่เป็น มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด ในประกันชีวิตมีเงินออมอยู่ด้วย เพราะฉะนั้น คนเก็บเงินเองเป็นหรือเป็นโสดที่
ไม่ได้ดูแลใครความจำเป็นในการทำประกันก็จะไม่มี แต่ผมไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้ซื้อประกันแล้วใช้เงินหมดนะแต่เอาเงินที่ไปจ่ายเบี้ยปะกันเนี่ยลงทุนทำอย่างอื่นได้ครับ



at office : สำหรับกลุ่มคนในวัยเกษียณอายุ การออมประเภทไหนจึงจะเหมาะสม

คนเกษียณเนี่ย ออมลำบากเพราะไม่มีเงินไหลเข้า ต้องคอยดูว่าเงินที่กองอยู่ที่หน้าตักเนี่ยทำอย่างไรจึงจะใช้น้อยๆ และจะได้ใช้ให้มันนานๆ เงินตรงหน้าตักตรงนี้ นอกจากใช้น้อยแล้ว
ยังต้องลงทุนให้เป็น เพราะว่าระหว่างลงทุนมันมีดอกผล การลงทุนในยามเกษียณเนี่ยต้องไม่เล่นหุ้น เพราะตลาดหุ้นผันผวน คนในวัยนี้ต้องซื้อกองทุนอย่างเดียว มีกองทุนที่เหมาะสมให้เลือก
สำหรับผู้เกษียณอายุ คือ กองทุนตราสารหนี้และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะคุณได้ดอกผล มากถึง 7 เปอร์เซ็นต์อย่างคุณมีเงิน 10 ล้าน ได้ดอกผล 7 เปอร์เซ็นต์ คุณใช้อย่างสบายเลย
เพราะคุณได้ดอกผลปีละ 7 แสนบาท ใช้อย่างสบายเดือนละ 6 หมื่นบาท เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากครับ



at office นอกเหนือจากเรื่องของการออม ปัจจุบันคนทำงานเป็นหนี้กันมาก โดยเฉพาะหนี้จากบัตรเครดิต มีวิธีการแก้ไขอย่างไร

ผมมีคำแนะนำ2 วิธี คือ อันดับแรกเราต้องรีบจ่ายหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงก่อน ในสถานการณ์อย่างนี้ ยกตัวอย่าง ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำมาก หากดอกเบี้ยสูงบัตรเครดิตสูง แต่ต้องกู้ซื้อก็ต้องเอาบ้านไป
รีไฟแนนซ์บ้านเสียก่อน เอาเงินมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตหากมีเราหนี้สินอย่างอื่นเยอะ ไปขอตัดหนี้กับแบงก์เขาก็ไม่ยอม เหมือนกับพ่อค้าทั่วๆ ไปลูกค้าดีมา เขาไม่ต่อ ผมก็ไม่ลดให้
อีกคนมาต่อเช้าต่อเย็นคนต่อได้ส่วนลด คนมีหนี้บัตรเครดิตต้องต่อลองกับแบงค์ต่อรองไป จ่ายเงินไป เขาจะไม่ลดให้คุณก็ต้องใจแข็ง หยุดจ่ายแบงค์แล้วเอาเงินเก็บ
ถ้าคุณหยุดจ่ายแบงค์ก็จะร้อนตัว โอกาสที่เราจะได้ส่วนลดดอกเบี้ยต่างก็มีสูง

ผมขอแนะนำเพิ่มนะครับ เรื่องเงินโบนัสปลายปีผมมองว่าต่อไปเศรษฐกิจยิ่งลำบาก น้ำมันแพง ไฟฟ้าแพง เงินกู้ดอกเบี้ยสูง เศรษฐกิจขยายตัวน้อย โบนัสออกมาปลายปีต้องตั้งใจไว้เลยว่า
ต้องออมไว้100 เปอร์เซ็นต์แต่ถ้ามีหนี้ดอกเบี้ยสูงก็ไปจ่ายเสีย การจ่ายหนี้แล้วเท่ากับเป็นการลดรายจ่าย หากคุณไม่มีหนี้ก็ออม 100 เปอร์เซ็นต์และต้องหยุดสร้างหนี้ใหม่

การออมเงินไม่ใช่แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างคุณเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่การที่เราประหยัดและเก็บออมจะส่งผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยกับการเงินของประเทศโดยรวมหากเราสร้างวัฒนธรรมการออม
ให้คนไทยทั้งประเทศ คนไทย รุ่นหนุ่ม รุ่นสาว รู้จักเก็บหอมรอมริบ ออม และใช้เงินเป็น แถมฉลาดลงทุน ไม่ใช่เงินในกระเป๋าของคุณจะเพิ่มขึ้น แต่ส่งผลถึงความมั่งคั่งร่ำรวยของประเทศชาติใน
อนาคต


 Smiley คัดลอกจาก นิตยสาร at office
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 12:11:08 PM »

ไหว้  ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์
บันทึกการเข้า

yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 12:20:39 PM »

ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์

ผมออม ในรูปสลากออมสิน ครับ


๓ ปี คืนต้น  ดอกประมาณ ๑ บาท

จะลดมาจากเมื่อก่อน ที่ประมาณ ๒ บาทกว่า


ยิ่งตอนนี้ ซื้อสลาก มีสิทธิ์ลุ้น  รถฮอนด้า แจ๊ส

บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 12:23:24 PM »

ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์

ผมออม ในรูปสลากออมสิน ครับ


๓ ปี คืนต้น  ดอกประมาณ ๑ บาท

จะลดมาจากเมื่อก่อน ที่ประมาณ ๒ บาทกว่า


ยิ่งตอนนี้ ซื้อสลาก มีสิทธิ์ลุ้น  รถฮอนด้า แจ๊ส


ความคิดดีครับ  ขอลอกไปซื้อหน่อยนะครับ  Grin
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 12:37:23 PM »

เครดิตเสียไปเยอะตอนมาทำงานให้คุณคนนั้น..(คนนั้นแหละ)
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 12:39:41 PM »

เครดิตเสียไปเยอะตอนมาทำงานให้คุณคนนั้น..(คนนั้นแหละ)
คนไหนครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10809



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 01:02:23 PM »

เครดิตเสียไปเยอะตอนมาทำงานให้คุณคนนั้น..(คนนั้นแหละ)
ใช่ครับ
บันทึกการเข้า

วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 02:10:21 PM »

เครดิตเสียไปเยอะตอนมาทำงานให้คุณคนนั้น..(คนนั้นแหละ)
ใช่ครับ

 Smiley เอาส่วนที่ดี และเป็นประโยขน์ ครับ...

บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
ManStopper
Hero Member
*****

คะแนน 89
ออฟไลน์

กระทู้: 1316



« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 02:49:30 PM »

ขอบคุรครับ ผมมีข้อเสียเก้บเงินไม่ค่อยอยู่ มีเมื่อไหร่ ออกไปทางโน้นทางนี้หมด . จะพยายามครับ .
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 04:15:54 PM »

ผมก็เคยพยายามออมเงินครับ...

ทำอย่างที่อาจารย์บอกนั่นแหละ...

ซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน...

ซื้อกองทุน...

ทุกวันนี้รู้ซึ้งเลยว่าเก็บเงินฝากธนาคารไว้เข้าท่าที่สุด...

เพราะเจ้าสองอย่างที่ทำๆมามันพาเงินหายไปเกือบครึ่งนึงแล้ว...หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10809



« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 04:20:53 PM »

 Cheesyผมฟังรายการสมัยก่อน ดร. จัดทางวิทยุแต่ตอนนี้หายไปเคยเล่นทองได้สตางค์บ้างเหมือนกัน เยี่ยม
บันทึกการเข้า

วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 04:52:50 PM »

 หลงรัก ลองอ่านกันดูครับ เผื่อมีประโยชน์ นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

"หาได้มากน้อยเท่าไหร่ไม่สำคัญ จ่ายมากน้อยเท่าไหร่เป็นเรื่องสำคัญกว่า คือ ต้องใช้ให้น้อยกว่าที่หาได้"

 
1. การเพิ่มรายได้ ควรหลีกเลี่ยงการเป็นมนุษย์เงินเดือน เพราะเป็นผู้ประกอบการจะรวยเร็วกว่า และเชื่อว่าคนที่ทำงานเก่งสำคัญ
กว่าคนที่เรียนเก่ง แต่ไม่ได้สนับสนุนให้ทิ้งการเรียน ควรมีการ เรียนรู้ต่อเนื่อง


2. สอนลูกให้เป็นผู้ประกอบการ โดยสอนให้มีพื้นฐานและประสบการณ์ในการทำงานตั้งแต่เด็กๆ และหากเป็นไปได้ก็ควรสนับสนุน
ในส่วนของทุนที่จะใช้ในการประกอบการด้วย


3. เคล็ดลับการออมเงิน

-  หาได้มากน้อยเท่าไหร่ไม่สำคัญ จ่ายมากน้อยเท่าไหร่เป็นเรื่องสำคัญกว่า คือต้องใช้ให้น้อยกว่า ที่หาได้

-  ควบคุมรายจ่ายถ้าอยากเก็บเงิน เมื่อได้เงินมาให้รีบแบ่งเก็บในธนาคารเพราะถ้ารอใช้ก่อนจะไม่เหลือเก็บ

-  ไม่ต้องทำตามผู้อื่น ต้องมีเอกเทศของตัวเอง เราอยู่ในสังคมต้องเป็นไปตามสังคม แต่เราไม่จำเป็นต้องทำตามคนอื่นเสมอไป

-  การเล่าเรียนของบุตร ควรวางแผนด้านการเรียนของบุตรโดยเน้นการศึกษาเล่าเรียนในประเทศ เพราะการศึกษาในประเทศไทยก็จัดอยู่ในระดับมาตรฐานและค่าใช้จ่ายในการเรียนไม่สูงมาก

-  ต้องระวังรักษาสุขภาพของตนให้แข็งแรง และไม่ควรทำประกันภัยหรือประกันชีวิตจนเกินสมควร

-  ระวังเรื่องค้ำประกัน และการให้กู้ยืม เพราะ "การให้เพื่อนยืมเงิน ท่านจะเสียเงิน เสียเพื่อนและในที่สุดก็เสียใจ"


4. บริหารเงินออมของครอบครัวและวางแผนภาษี

-  การสร้างฐานะของครอบครัวให้เป็นปึกแผ่นควรยึดหลักการ "ผัวเดียวเมียเดียว" และสามีภรรยาต้องช่วยกันออมทรัพย์

-  การบริหารเงินของครอบครัว จะต้องรู้ว่าคุณมีทรัพย์สมบัติอะไรบ้างที่เป็นสินเดิม หรือเป็นสินสมรสเพื่อจะได้จัดการให้เกิดประโยชน์
งอกเงย และใช้จ่ายร่วมกันได้

-  การบริหารเงินออมจะต้องดูแลการหมุนเวียนของเงินสดให้มีสภาพคล่อง ไม่ทำประกันชีวิตมากเกินไป และลงทุนอย่างชาญฉลาดโดยการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มดอกผลจากเงินออม


5.  การประหยัดภาษี ควรพิจารณาว่าจะสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ปลอดภาษี เช่น หน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อลดผลกระทบ
จากการเสียภาษีได้หรือไม่


6.  มาลดภาษีกับกองทุน RMF (Retirement Mutual Fund)
การลงทุนใน RMF สำหรับคนกินเงินเดือนนับเป็นช่องทางที่ช่วยลดภาษีได้มากที่สุด โดยควรเลือกกองทุน RMF แบบที่เหมาะกับเงินลงทุนและช่วงอายุในการลงทุนของคุณ นอกจากนี้ ยังควรวางแผนเรื่องภาษีเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ตามเงื่อนไขของกฎหมาย


7. รวบรวมทรัพย์สิน โดยจัดแยกสินสมรสและสินส่วนตัว จัดสมบัติให้ดูแลง่าย จัดการเรื่องทายาท มรดก และพินัยกรรม ที่สำคัญคือ ควรให้เมียรู้ทรัพย์สินทั้งหมด แต่อย่าตามใจเมียทุกเรื่อง


8.  สอนลูกให้รวยน้ำใจ ด้วยการใกล้ชิดและให้ความอบอุ่นแก่ลูก พร้อมทั้งชี้แนะและในเวลาเดียวกันก็ควบคุมดูแลให้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง


9.  ภาษีการเงินสำหรับ "วัยรุ่น" -    การวางแผนด้านภาษี เด็กๆ อาจให้ประโยชน์ทางภาษีแก่คุณได้เพราะเขาส่วนใหญ่ไม่มีรายได้ ทำให้อยู่ในกลุ่มผู้เสียภาษีต่ำที่สุด ดังนั้น หากคุณย้ายรายได้ส่วนหนึ่งไปให้กับตัวเด็ก คุณจะประหยัดภาษีเงินได้ลงได้

-  ความรับผิดชอบต่อภาษี สำหรับวัยรุ่นที่มีรายได้ก้อนโต จะต้องหาที่ปรึกษาในการวางแผนภาษี การลงทุนและการออมทรัพย์ เพื่อเป็นการไม่ประมาท

-  คำแนะนำทางการเงิน บทเรียนที่ดีสำหรับ วัยรุ่น คือ แสดงให้พวกเขาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการตัดสินใจทางการเงินของตัวเอง ข้อสำคัญ คือ อย่าปรนเปรอเด็กด้วยเงินและอย่าให้บัตรเครดิต


10. ข้อสรุปการสอนลูก
-   สิ่งที่ห้ามลูกทำ คือ การยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและการพนัน
-   สิ่งที่ลูกต้องทำ คือ รอบรู้วิชา ซื่อสัตย์สุจริต มีความขยันขันแข็ง และความโอบอ้อมอารี
-   สิ่งที่ลูกควรรู้ ควรทำ คือ ต้องช่วยเหลือตัวเองและสามารถทำงานเป็นทีม รู้จักเก็บออมเงินและมีเมตตาสงสาร และที่สำคัญคือการมีระเบียบวินัย

11.  จัดการมรดกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนะนำให้ทำพินัยกรรมด้วยตนเอง และควรต้องตรวจสอบดูแลเป็นระยะๆ (อาจจะทุก 5 ปี)

12.  แม่บ้าน

-  มีเมียดีเป็นศรีแก่เรือน

-  คุณสมบัติและรูปสมบัติของภรรยาที่พึงมี ได้แก่ การเป็นคนมีจิตใจงาม มีการศึกษาพอสมควร เป็นเพื่อนคู่คิด รู้จักดูแลสุขภาพ ร่างกายของตนเองให้แข็งแรงและกระฉับ- กระเฉงอยู่เสมอ และมีความรับผิดชอบในเรื่องทรัพย์สมบัติ

-  แม่มักจะเป็นผู้สอนลูกเพราะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่า


13. การหารายได้

-  รู้จักประมาณตน คือประหยัด ไม่ใช้จ่ายเกินรายได้ที่ได้รับ

-  ระวังหนี้สินและการค้ำประกัน

-  ให้ลูกเมียร่วมตัดสินใจในเรื่องเงินทองของครอบครัว



14. ค่าใช้จ่าย

-  หนี้สินและบัตรเครดิต (การบริหารเงินกู้) ควรมีความรู้เรื่องการบริหารหนี้เพื่อลดภาระ ต่อไปจะได้เป็นไทแก่ตัว

-  ประกันภัย-ประกันชีวิต ควรพิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ ก่อนตัดสินใจ

-  ควรทำงบการเงินของครอบครัวเพื่อจะได้รู้สถานะทางการเงินของครอบครัวได้ชัดเจน



15. ช่วยกันออมและลงทุน

-  ชายหญิง ใครใช้เงินเก่งกว่ากันและใครออมเงินเก่งกว่ากัน หากใครเก็บเงินหรือคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่ากันก็ให้เป็นผู้นำในการดูแลเงิน

-  เริ่มต้นออมก่อนก็จะรวยกว่า

-  ผัวเมียแยกกันลงทุนดีไหม ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นกับความเหมาะสม

-  ทรัพย์สินที่น่าลงทุนต้องดูตามแต่สถานการณ์

-  ต้องช่วยกันเตือนสติ เข้าตำรา "สองหัวดีกว่า หัวเดียว"



16.  ลงทุนให้ได้ดอกผลงาม

-  บ้านและที่อยู่อาศัยถือเป็นสิ่งที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด

-  เงินทองเป็นของมีค่าและซื้อเพชรให้ภรรยา เพราะเพชรและทองเป็นทรัพย์สินที่คล้ายกับบ้านคือได้ใช้ประโยชน์ ได้สวมใส่
ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจ และถือเป็นเงินออมประเภทหนึ่ง

-  หุ้นกับเงินฝากธนาคารควรดูแลและปรับเปลี่ยนการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาด

-  ซื้อทรัพย์สินอื่น เช่น การสะสมของมีค่าต่างๆ แต่ควรเป็นของที่มีตลาดซื้อขายที่กว้าง และไม่ใช่ของผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม

-  มีการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

-  อย่าลืมสร้างบุญกุศล เพราะคนเราจะเจริญมาได้ ก็ต้องเป็นคนดี ช่วยเหลือผู้อื่น



17. จัดรูปแบบภาษีของครอบครัว

-  เรื่องภาษีจะต้องรู้ เพราะเมื่อกฎหมายทุกฉบับพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ถือว่าคนไทยทุกคนต้องรู้
จะแก้ตัวว่าไม่รู้เลยไม่เสียภาษีไม่ได้

-  เมียก็ช่วยลดภาษีได้ในกรณีที่มีรายได้ของตนเอง และขอแยกเสียภาษี

-  ควรตั้งบริษัทเพื่อลดภาษีหรือไม่นั้น ขึ้นกับความเหมาะสมและประเภทธุรกิจ



18. แผนการเงินของคนโสด

-  หาเองใช้เองประหยัดกว่าก็น่าจะจริง แต่ในบางกรณีการมีคนช่วยหารายได้ให้เป็นทวีคูณก็น่าจะเป็นการดี

-  เพื่อนคู่คิดสำหรับคนโสด อาจเป็นเพื่อนสนิท หรือญาติพี่น้อง

-  การคำนวณว่าต้องมีเงินออมเท่าใดจึงพอเพียง ขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายของคุณ

-  แก่ลงใครจะดูแล ขึ้นกับว่า "เราทำอย่างไร กับผู้อื่น เขาก็ทำกับเราอย่างนั้น" หากเราทำดีกับใคร เขาย่อมตอบแทน



19. บั้นปลายของชีวิต

-  หากต้องการให้แก่แล้วมีกิน จะต้องเก็บออมตั้งแต่ยังหนุ่มสาว ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี รู้จักควบคุมรายจ่ายให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ารายได้

-  วิเคราะห์ความมั่งมีเพื่อความไม่ประมาท

-  บุญกุศลช่วยท่านได้


และสิ่งที่ ดร.สุวรรณ บอกว่าสำคัญก็คือ "เมีย คือ คู่ชีวิต"


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 01, 2009, 08:56:04 PM โดย วัฒน์ » บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 05:17:28 PM »


ขอบคุณครับลุงวัฒน์  ไหว้ 
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 06:07:47 PM »


       เยี่ยมครับอาวัฒน์ ...... ขอบพระคุณมากๆ

บันทึกการเข้า

                
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 30, 2009, 06:31:11 PM »

เคยซื้อหนังสือแกมาอ่านหลายปีที่แล้วครับ ไม่รู้ไปไหนแล้ว  Grin
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.155 วินาที กับ 22 คำสั่ง