เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 01, 2024, 06:33:24 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขับขวาโดนเรียกจอดแจ้งข้อหา  (อ่าน 13032 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 991


สติหมา ปัญญาหมี


« ตอบ #60 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 10:49:03 PM »



จากที่ผู้การฯสุพินท์ บอก.. พอมองได้ชัดขึ้นอีก นิด ครับ
เมื่อ พิจารณา จาก ม.๓๔ (๕) ประกอบกับ ม.๓๕ วรรคหนึ่ง 

คือข้อยกเว้น ให้รถยนต์สามารถวิ่งเลนขวา ในช่องจราจรทางเดียว ที่มีตั้งแต่ ๒ ช่องขึ้นไป
จะต้อง เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ฯ  และต้องเป็นรถที่ใช้ความเร็ว เท่านั้น..  เมื่อมีรถที่วิ่งตามมาที่เร็วกว่า
จะต้องชิดซ้ายหลบให้รถหลังแซงขวา ขึ้นไป ..

ส่วนรถที่แล่นไปอย่างชักช้า ประมาณหา้บ้านเช่า หรือ มองสาวเหลียวหลัง .. จะไม่ได้รับการยกเว้น ในทั้ง ๒ มาตรานี้ .  Grin


ผมขับรถใช้เส้นทางถนนเลียบแม่น้ำ (พระรามสาม) ทุกวัน ขับชิดขวาตลอด เจอรถตามหลังมาเร็วก็หลบซ้ายให้ไปก่อนอย่างที่พี่ Road ว่าไว้แหละครับ

ปิดเทอมนี้ตระเวณจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ สงสัยโดน Grin
บันทึกการเข้า

วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ

Success Begins With A Fellow's Will,  It's All In The State Of Mind  Smiley
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #61 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:08:43 PM »

ในกรุงเทพเราพอแยกได้ ว่า ด่านแท้ หรือ ด่านเถื่อน.....

แต่ในกรณีของ ทล. การใช้รถฉลามคันเดียวโดยไม่มีสัญญาณไฟ ป้ายบอกใดๆ....

จะจัดว่าเป็นด่านเถื่อนหรือไม่ครับ
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:21:50 PM »


อ้าว... แบบนี้แสดงว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนก็อยู่ในข้อ กม. สิครับ?


 Smiley ไม่บังคับใช้ครับเฮีย เพราะน้ำหนักไม่เกิน 1600 ก.ก. รวมถึงพวกรถ SUV ทั้งหลาย ส่วนกะบะ 4 ประตู หรือพวกดับเบิ้ลแคปโดนหมด เพราะน้ำหนักเกินกำหนด และไม่เกิน 7 คน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:27:37 PM โดย วัฒน์ » บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Ton-Krittin
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 20
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 142


แทนคุณแผ่นดิน


« ตอบ #63 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:27:00 PM »




ในกรุงเทพเราพอแยกได้ ว่า ด่านแท้ หรือ ด่านเถื่อน.....

แต่ในกรณีของ ทล. การใช้รถฉลามคันเดียวโดยไม่มีสัญญาณไฟ ป้ายบอกใดๆ....

จะจัดว่าเป็นด่านเถื่อนหรือไม่ครับ

ลอกมาจากเว็บพันธ์ทิพย์ครับท่าน ทัดมาลา

http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7447149/V7447149.html


 
ความคิดเห็นที่ 6   

หวัดดีครับ คุณ บุตรอับราฮาม ขอโทษที่เข้ามาตอบช้านไปหน่อยนะครับ หวังว่าจะไม่ว่ากัน
จะขอตอบเรื่องด่านของตำรวจทางหลวงอย่างนี้นะครับ คือโดยปรกติ ตำรวจจะตั้งด่านจะต้องมีนายตำรวจสัญญาบัตรอยู่ด้วยครับ โดยมีกรวยยาง สัญญาณไฟ ป้ายหยุด อย่างชัดเจน โดยด่านแบบนี้จะตรวจค้น สิ่งผิดกฎหมายเช่น อาวุธปืน ยาเสพย์ติด หรือแล้วแต่กรณีไป ถ้าเป็นแบบนี้ตำรวจสามารถเรียกรถให้หยุดตรวจได้ครับ เช่น ด่านจับความเมา เป็นต้น

ส่วนในส่วนของตำรวจทางหลวงนั้น จริงๆแล้วตำรวจทางหลวงมีหน้าที่ให้การจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และมีหน้าที่กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายบนท้องถนนด้วยครับ ในหลักการนั้นตำรวจทางหลวงจะต้องยืนให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจน ไม่ใช่เพื่อจะเรียกจับนะครับ แต่เป็นการป้องปรามให้ประชาชนเห็นว่าแถวนี้มีตำรวจนะ อย่าขับรถผิดกฎหมายล่ะ พอหลังจากนั้น ถ้าตำรวจยืนให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วจะพบว่ามีผู้กระทำผิดจราจรอยู่ถึงจะเรียกให้จอดแล้วแจ้งข้อหาครับ เป็นการแจ้งข้อหาในการกระทำผิดซึ่งหน้า เช่นเดียวกับมีคนกระตุกสร้อยแล้วตำรวจเห็นพอดีก็เป็นการทำผิดซึ่งหน้าเหมือนกับที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ประชาชนสงสัยว่าทำไมตำรวจทางหลวงตั้งด่านโดยไม่มีนายตำรวจ หรือสัญญาณไฟใดๆบอก ที่จริงกรณีนี้ไม่ได้เรียกว่าด่านครับ เรียกว่าเรียกจับจากการกระทำผิดซึ่งหน้า 

ขอต่ออีกความเห็นนะครับ

จากคุณ : radar_gamo  - [ 22 ม.ค. 52 23:50:48 ] 
 
ความคิดเห็นที่ 7   

แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว ตำรวจทางหลวงบางพื้นที่ไม่ได้ทำตามหลักการในแบบข้างต้นครับ จะใช้วิธีซุ่มรอให้พบผู้กระทำผิดก่อนแล้วค่อยเรียกเพื่อแจ้งข้อหา ทำให้ดูเหมือนว่าตำรวจทางหลวงรังแกประชาชน อันนี้ขอน้อมรับครับว่ามีจริงๆ   แล้วอีกเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการเรียกเพื่อแจ้งข้อหานั้นตำรวจต้องเรียกและกล่าวคำสวัสดีอย่างสุภาพพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดอย่างชัดเจน ไม่ใช่พอเรียกรถให้จอดแล้วเดินดูรอบรถเพื่อหาข้อหาให้ประชาชน อันนี้ก็ผิด  ต่อมา หลังจากแจ้งข้อหาแล้ว ตำรวจไม่จำเป็นต้องเขียนใบสั่งเสมอไปครับ สามารถว่ากล่าว ตักเตือน แทนได้ แต่ตำรวจบางท่านซึ่งไม่เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ก็ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในทางที่ผิด เสนอทางออกให้ประชาชนเช่น ถ้ายึดใบขับขี่เสียค่าปรับมาใบเสร็จอย่างถูกต้องจะต้องเสีย400บาท แต่ไปบอกกับประชาชนว่า 100 หรือ 200 ได้มั้ยเพื่อเป็นค่าอำนวยความสะดวกหรือค่ากาแฟแล้วแต่จะเรียก โดยในส่วนนี้ถ้าประชาชนเห็นว่าเราเสีย100 แต่เข้ากระเป๋าตำรวจก็ดีกว่าเสียเวลาไปจ่ายค่าปรับ400 ก็ยิ่งจะเป็นการสร้างค่านิยมผิดๆให้กับตัวตำรวจเองและแก่สังคมด้วยครับ
ขอต่ออีกนะครับ
จากคุณ : radar_gamo  - [ 23 ม.ค. 52 00:04:45 ] 

 
ความคิดเห็นที่ 8   

โดยในปัจจุบัน เรายอมรับว่าเรื่องราวแบบนี้ยังมีอยู่จริงไม่เฉพาะกับตำรวจทางหลวงเท่านั้น อยู่ที่ว่าหน่วยงานไหนจะออกมายอมรับความจริงกับประชาชนว่าตำรวจของไทยในด้านหนึ่งได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนมากแค่ไหน
ในขณะนี้ พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รักษาการ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้เข้ามารับตำแหน่งนี้ได้ประมาณแปบเดือน เห็นว่าเราต้องยอมรับเรื่องนี้แก่สังคมว่าที่ผ่ามมาตำรวจทางหลวงได้ทำอะไรลงไปจะพี่น้องประชาชนเดือดร้อนแค่ไหน และพร้อมจะแก้ไขให้ดีขึ้นครับ โดยตัวท่านเอง ครึ่งหนึ่งของชีวิตราชการเป็นตำรวจทางหลวงครับ ตั้งแต่เป็นรองสารวัตรเลย ท่านรักหน่วยนี้มาก แต่ก็เสียใจมากเหมือนกันที่ตอนนี้หน่วยนี้ได้ถูกประชาชนมองในแง่ลบ ท่านจึงฝากมาขอความช่วยเหลือจากชาวรัชดาให้ช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้ง ข้อตำหนิ ที่ท่านเดือดร้อนเพราะตำรวจทางหลวงครับ ยิ่งข้อมูลละเอียดมากแค่ไหนยิ่งดีครับ โดยสามารถแจ้งกับท่านโดยตรงที่ highway01@hotmail.com หรือทางหลังไมค์ของล้อกอินนี้ ได้ครับ ถ้าเห็นว่าตำรวจคนไหนได้ทำเรื่องให้ท่านเดือนร้อนอย่างไม่เป็นธรรมก็จะต้องมีการลงโทษอย่างแน่นอน ส่วนตำรวจคนไหนที่ทำดีก็แจ้งมาด้วยนะครับ เราจะได้มีการให้กำลังใจในการทำดีต่อไป ไม่ใช่ว่าท่านไม่รักลูกน้องแล้วจะจ้องเล่นงานนะครับ แต่เพราะท่านรักลูกน้องมากและเห็นใจประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนจึงขอฝากชาวรัชดาด้วยครับ

จากคุณ : radar_gamo  - [ 23 ม.ค. 52 00:21:50 ]   
บันทึกการเข้า

...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 991


สติหมา ปัญญาหมี


« ตอบ #64 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:39:55 PM »


อ้าว... แบบนี้แสดงว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนก็อยู่ในข้อ กม. สิครับ?


 Smiley ไม่บังคับใช้ครับเฮีย เพราะน้ำหนักไม่เกิน 1600 ก.ก. รวมถึงพวกรถ SUV ทั้งหลาย ส่วนกะบะ 4 ประตู หรือพวกดับเบิ้ลแคปโดนหมด เพราะน้ำหนักเกินกำหนด และไม่เกิน 7 คน
ครับ คุณวัฒน์

แต่ผมติดใจตรงคำว่า รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล กับ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งใน กม. แยกไว้ชัดเจนน่ะครับ
บันทึกการเข้า

วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ

Success Begins With A Fellow's Will,  It's All In The State Of Mind  Smiley
Ton-Krittin
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 20
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 142


แทนคุณแผ่นดิน


« ตอบ #65 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:44:41 PM »


อ้าว... แบบนี้แสดงว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนก็อยู่ในข้อ กม. สิครับ?


 Smiley ไม่บังคับใช้ครับเฮีย เพราะน้ำหนักไม่เกิน 1600 ก.ก. รวมถึงพวกรถ SUV ทั้งหลาย ส่วนกะบะ 4 ประตู หรือพวกดับเบิ้ลแคปโดนหมด เพราะน้ำหนักเกินกำหนด และไม่เกิน 7 คน





ผมงงตรงนี้นิดหน่อยครับ

ความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่ เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน ตามกฎหมาย ว่าด้วยรถยนต์

แต่ตามที่ผมเข้าใจคือ มิให้ใช้บังคับแก่ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่ เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม

ส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน เช่น รถเก๋ง รถกระบะสองตอน ไม่ยกเว้น

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกมั้ยครับ  Huh

บันทึกการเข้า

JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #66 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 12:07:52 AM »

ประสบการณ์เสียเงินตามทางหลวง... พอจะมีบ้างครับ... Grin Grin Grin

...ผมเคยซิ่งเจ้าอีซูสุ TFR ที่มีอายุอานามเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น... สูตรสำเร็จของเหยื่อด่านเถื่อนเลยครับ... เส้นทางบรบือ-มหาสารคาม... เหยียบมาเกือบๆ ร้อยยี่สิบ... เหตุเพราะรีบไปสอบเค้าโครงฯ กลัวคณะกรรมการสอบท่านรอนาน... แต่พอโผล่พ้นโค้งยาว... ก็จ๊ะเอ๋กับป้อมยามตำรวจทางหลวงเข้าให้... จ่าแกบอกว่า... คุณขับเร็วนะ... ตั้ง ๑๑๓ แน่ะ... ตามกฏหมายจะต้องเสียค่าปรับ ๔๐๐ บาท... ขอดูใบอนุญาตขับขี่หน่อยครับ... ผมก็เลยดึงใบอนุญาตขับขี่แบบแบบที่เป็นสีชมพูออกมา... โดยตั้งใจดึงให้บัตรประจำตัวข้าราชการหล่นออกมาด้วย... แล้วบอกว่า... ขอโทษครับพี่... พอดีจะรีบไปประชุมครับ... ขอโทษนะครับ... พอดีรีบไปหน่อยเลยไม่ทันได้ดูเข็มไมล์ครับ... พี่จ่าแกก็บอกว่างั้นหยวนๆ ละกัน... พี่ขอ ๕๐ บาทนะ... จะเอาไปให้ลูกพี่... ผมก็เลยบอกไม่มีแบงค์ย่อย... จ่าแกเลบอก... ไม่เป็นไรน้อง... พี่มีทอน... สรุปวันนั้นยื่นแบงค์ร้อยให้ไป(ก็ใช้ความเร็วเกินกำหนดจริงๆ นี่ครับ... ) จ่าแกทอนให้ ๕๐ บาท... Grin Grin Grin

...ดีนะไม่ถือแบงค์ร้อยเข้าป้อมยามไปเลย... Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
เอก@ดอยฯ
ปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9460


Do it right the first time


« ตอบ #67 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 09:05:19 AM »

สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

SPSC No.057       THPSA No.A-331
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #68 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:13:31 AM »

สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ  ไหว้


รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.

ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล 
หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน  ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )

รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง
ก็ขับช่องขวาไม่ได้  เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน  ม.๓๔  และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง 

แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้   
ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า

dechdee
Jr. Member
**

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 71



« ตอบ #69 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:32:52 AM »

 Sad 
บันทึกการเข้า
เอก@ดอยฯ
ปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 183
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9460


Do it right the first time


« ตอบ #70 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:51:44 AM »

สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ  ไหว้


รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.

ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล 
หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน  ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )

รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง
ก็ขับช่องขวาไม่ได้  เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน  ม.๓๔  และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง 

แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้  
ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ   Cheesy



 ไหว้  เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

SPSC No.057       THPSA No.A-331
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #71 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:52:29 AM »

สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ  ไหว้


รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.

ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล 
หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน  ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )

รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง
ก็ขับช่องขวาไม่ได้  เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน  ม.๓๔  และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง 

แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้   
ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ   Cheesy


นอกเขตเทศบาล  90 กม./ชม. แต่ตำรวจจะผ่อนผัน เครื่องวัดคลาดเคลื่อนให้ถึง 110 กม./ชม. (เป็นเรื่องภายใน ที่เอาไปอ้างไม่ได้)

แต่เวลาผมขับรถอยู่แถว ๆ ปัตตานี  ยะลา  นราธิวาส  จะขับ 140-160 ไม่เบา  ไม่จอด  ไฟแดงก็ไม่จอด  เผลอ ๆ รถไฟมายังเลี้ยวหนีด้วยซ้ำ
วันดี คืนดี  ยังโดนพรรคพวกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ให้เป็นรถท้องถิ่น   แต่ไม่เคยมีทางหลวงมาจับซักทีเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #72 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:54:41 AM »

สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ  ไหว้


รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.

ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล 
หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน  ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )

รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง
ก็ขับช่องขวาไม่ได้  เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน  ม.๓๔  และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง 

แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้   
ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ   Cheesy


นอกเขตเทศบาล  90 กม./ชม. แต่ตำรวจจะผ่อนผัน เครื่องวัดคลาดเคลื่อนให้ถึง 110 กม./ชม. (เป็นเรื่องภายใน ที่เอาไปอ้างไม่ได้)

แต่เวลาผมขับรถอยู่แถว ๆ ปัตตานี  ยะลา  นราธิวาส  จะขับ 140-160 ไม่เบา  ไม่จอด  ไฟแดงก็ไม่จอด  เผลอ ๆ รถไฟมายังเลี้ยวหนีด้วยซ้ำ
วันดี คืนดี  ยังโดนพรรคพวกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ให้เป็นรถท้องถิ่น   แต่ไม่เคยมีทางหลวงมาจับซักทีเหมือนกัน


 หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน ตกใจ ตกใจ
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #73 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 11:23:00 AM »


นอกเขตเทศบาล  90 กม./ชม. แต่ตำรวจจะผ่อนผัน เครื่องวัดคลาดเคลื่อนให้ถึง 110 กม./ชม. (เป็นเรื่องภายใน ที่เอาไปอ้างไม่ได้)

แต่เวลาผมขับรถอยู่แถว ๆ ปัตตานี  ยะลา  นราธิวาส  จะขับ 140-160 ไม่เบา  ไม่จอด  ไฟแดงก็ไม่จอด  เผลอ ๆ รถไฟมายังเลี้ยวหนีด้วยซ้ำ
วันดี คืนดี  ยังโดนพรรคพวกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ให้เป็นรถท้องถิ่น   แต่ไม่เคยมีทางหลวงมาจับซักทีเหมือนกัน

 แคล้วคลาด ปลอดภัยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 11:24:51 AM โดย ซิกสุราษฎร์ » บันทึกการเข้า
Stevie G - รักในหลวง
LABOR OMNIA VINCIT
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 47
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 562


"Don't let your feeling controls your life"


« ตอบ #74 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 12:31:02 PM »


ส่วนวันต่อมา    ขากลับขึ้นเชียงใหม่    เจอม็อบข้าวโพดอีกเหมือนกัน  ปิดถนนตรงแค้มป์แม่วัง ก่อนเข้า อ.เกาะคา  ลำปาง   ต้องใช้ถนนเลี่ยงเป็นเส้นทางบนเขา  อ.ลี้ ลำพูน - เชียงใหม่

สายบ้านโฮ้ง เลี้ยวซ้ายยังไม่ทันจะเสร็จ ต้องเลี้ยวขวาต่อ... กว่าจะผ่านไปได้ ๒๐๐ โค้งละมั้งตรงนั้น...  Grin

 ช่วงที่ขับลำบากเป็นช่วงที่แยกจากเถินขึ้นเขา  ก่อนเข้า อ.ลี้  ครับ      พอลงเขามาจอดข้างทางแวะซื้อน้ำ  แม่ค้าบอกวันนี้ขายดีที่สุดเลย  มีทั้งรถทัวร์ รถนักท่องเที่ยว.....    วิ่งสวนทางกันคึกคักน่าดู   

ผมเคยไปเชียงใหม่ แล้วเจตนาใช้เส้นทางนี้ เพื่่อหลบไม่อยากขึ้นขุนตาล
สมัย เมื่อปี ๒๕๓๒ จะทะลุขุนตาล..  มีแต่รถบัส รถใหญ่ เหมือนจรวดวิ่ง สวนมาทั้งนั้น  ยิ้มีเลศนัย

ผมใช้รถเก๋ง ไปกับ ๙ พารา  ๑ กระบอก.. เริ่มเข้าทางบ้านตาก ทางสัก ๑๔.๐๐ น.เศษ เส้นทางแคบ ทางโค้้งหักศอกบนเขา
แล้วยัง ต้องหลบให้กับรถลากซุงอีก ไม่ใช่คันเดียวซะด้วย

ทะลุมาออกบ้านโฮ่ง ใกล้  ๕ โมงเย็น ถือว่าเข็ดสำหรับผม ลาเลยเส้นทางนี้ .. คิก คิก

ผ่านมาอีกทีเมื่อ ต่อต้นปี ๒๕๕๐  ทำไมทางถึงช่างน่าขับ ไม่เหมือน เมื่อ ๑๘ ปีก่อนเลย  ครับ.  Grin





    บางช่วงมีการขยายถนนเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ  แต่ทางโค้งบนเขาก็ัยังสภาพแคบและไหล่ทางชำรุดเป็นระยะครับพี่    ไหว้
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=zw5pAshxY80

โลกต้องการคนดี
มิใช่เพื่อให้มารับรางวัล
แต่เพื่อมาช่วยทำชีวิตและสังคมให้มันดี ...
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 22 คำสั่ง