...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
คะแนน 8
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 991
สติหมา ปัญญาหมี
|
|
« ตอบ #60 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 10:49:03 PM » |
|
จากที่ผู้การฯสุพินท์ บอก.. พอมองได้ชัดขึ้นอีก นิด ครับ เมื่อ พิจารณา จาก ม.๓๔ (๕) ประกอบกับ ม.๓๕ วรรคหนึ่ง
คือข้อยกเว้น ให้รถยนต์สามารถวิ่งเลนขวา ในช่องจราจรทางเดียว ที่มีตั้งแต่ ๒ ช่องขึ้นไป จะต้อง เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ฯ และต้องเป็นรถที่ใช้ความเร็ว เท่านั้น.. เมื่อมีรถที่วิ่งตามมาที่เร็วกว่า จะต้องชิดซ้ายหลบให้รถหลังแซงขวา ขึ้นไป ..
ส่วนรถที่แล่นไปอย่างชักช้า ประมาณหา้บ้านเช่า หรือ มองสาวเหลียวหลัง .. จะไม่ได้รับการยกเว้น ในทั้ง ๒ มาตรานี้ .
ผมขับรถใช้เส้นทางถนนเลียบแม่น้ำ (พระรามสาม) ทุกวัน ขับชิดขวาตลอด เจอรถตามหลังมาเร็วก็หลบซ้ายให้ไปก่อนอย่างที่พี่ Road ว่าไว้แหละครับ ปิดเทอมนี้ตระเวณจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ สงสัยโดน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ Success Begins With A Fellow's Will, It's All In The State Of Mind
|
|
|
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 857
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 6569
เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:08:43 PM » |
|
ในกรุงเทพเราพอแยกได้ ว่า ด่านแท้ หรือ ด่านเถื่อน.....
แต่ในกรณีของ ทล. การใช้รถฉลามคันเดียวโดยไม่มีสัญญาณไฟ ป้ายบอกใดๆ....
จะจัดว่าเป็นด่านเถื่อนหรือไม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
|
|
|
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4114
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 17223
เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #62 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:21:50 PM » |
|
อ้าว... แบบนี้แสดงว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนก็อยู่ในข้อ กม. สิครับ?
ไม่บังคับใช้ครับเฮีย เพราะน้ำหนักไม่เกิน 1600 ก.ก. รวมถึงพวกรถ SUV ทั้งหลาย ส่วนกะบะ 4 ประตู หรือพวกดับเบิ้ลแคปโดนหมด เพราะน้ำหนักเกินกำหนด และไม่เกิน 7 คน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:27:37 PM โดย วัฒน์ »
|
บันทึกการเข้า
|
ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ
จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
|
|
|
Ton-Krittin
ชาว อวป.
Full Member
คะแนน 20
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 142
แทนคุณแผ่นดิน
|
|
« ตอบ #63 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:27:00 PM » |
|
ในกรุงเทพเราพอแยกได้ ว่า ด่านแท้ หรือ ด่านเถื่อน.....
แต่ในกรณีของ ทล. การใช้รถฉลามคันเดียวโดยไม่มีสัญญาณไฟ ป้ายบอกใดๆ....
จะจัดว่าเป็นด่านเถื่อนหรือไม่ครับ
ลอกมาจากเว็บพันธ์ทิพย์ครับท่าน ทัดมาลา http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7447149/V7447149.html ความคิดเห็นที่ 6
หวัดดีครับ คุณ บุตรอับราฮาม ขอโทษที่เข้ามาตอบช้านไปหน่อยนะครับ หวังว่าจะไม่ว่ากัน จะขอตอบเรื่องด่านของตำรวจทางหลวงอย่างนี้นะครับ คือโดยปรกติ ตำรวจจะตั้งด่านจะต้องมีนายตำรวจสัญญาบัตรอยู่ด้วยครับ โดยมีกรวยยาง สัญญาณไฟ ป้ายหยุด อย่างชัดเจน โดยด่านแบบนี้จะตรวจค้น สิ่งผิดกฎหมายเช่น อาวุธปืน ยาเสพย์ติด หรือแล้วแต่กรณีไป ถ้าเป็นแบบนี้ตำรวจสามารถเรียกรถให้หยุดตรวจได้ครับ เช่น ด่านจับความเมา เป็นต้น
ส่วนในส่วนของตำรวจทางหลวงนั้น จริงๆแล้วตำรวจทางหลวงมีหน้าที่ให้การจราจรแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และมีหน้าที่กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายบนท้องถนนด้วยครับ ในหลักการนั้นตำรวจทางหลวงจะต้องยืนให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจน ไม่ใช่เพื่อจะเรียกจับนะครับ แต่เป็นการป้องปรามให้ประชาชนเห็นว่าแถวนี้มีตำรวจนะ อย่าขับรถผิดกฎหมายล่ะ พอหลังจากนั้น ถ้าตำรวจยืนให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วจะพบว่ามีผู้กระทำผิดจราจรอยู่ถึงจะเรียกให้จอดแล้วแจ้งข้อหาครับ เป็นการแจ้งข้อหาในการกระทำผิดซึ่งหน้า เช่นเดียวกับมีคนกระตุกสร้อยแล้วตำรวจเห็นพอดีก็เป็นการทำผิดซึ่งหน้าเหมือนกับที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ประชาชนสงสัยว่าทำไมตำรวจทางหลวงตั้งด่านโดยไม่มีนายตำรวจ หรือสัญญาณไฟใดๆบอก ที่จริงกรณีนี้ไม่ได้เรียกว่าด่านครับ เรียกว่าเรียกจับจากการกระทำผิดซึ่งหน้า
ขอต่ออีกความเห็นนะครับ
จากคุณ : radar_gamo - [ 22 ม.ค. 52 23:50:48 ] ความคิดเห็นที่ 7
แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว ตำรวจทางหลวงบางพื้นที่ไม่ได้ทำตามหลักการในแบบข้างต้นครับ จะใช้วิธีซุ่มรอให้พบผู้กระทำผิดก่อนแล้วค่อยเรียกเพื่อแจ้งข้อหา ทำให้ดูเหมือนว่าตำรวจทางหลวงรังแกประชาชน อันนี้ขอน้อมรับครับว่ามีจริงๆ แล้วอีกเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการเรียกเพื่อแจ้งข้อหานั้นตำรวจต้องเรียกและกล่าวคำสวัสดีอย่างสุภาพพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดอย่างชัดเจน ไม่ใช่พอเรียกรถให้จอดแล้วเดินดูรอบรถเพื่อหาข้อหาให้ประชาชน อันนี้ก็ผิด ต่อมา หลังจากแจ้งข้อหาแล้ว ตำรวจไม่จำเป็นต้องเขียนใบสั่งเสมอไปครับ สามารถว่ากล่าว ตักเตือน แทนได้ แต่ตำรวจบางท่านซึ่งไม่เห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน ก็ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในทางที่ผิด เสนอทางออกให้ประชาชนเช่น ถ้ายึดใบขับขี่เสียค่าปรับมาใบเสร็จอย่างถูกต้องจะต้องเสีย400บาท แต่ไปบอกกับประชาชนว่า 100 หรือ 200 ได้มั้ยเพื่อเป็นค่าอำนวยความสะดวกหรือค่ากาแฟแล้วแต่จะเรียก โดยในส่วนนี้ถ้าประชาชนเห็นว่าเราเสีย100 แต่เข้ากระเป๋าตำรวจก็ดีกว่าเสียเวลาไปจ่ายค่าปรับ400 ก็ยิ่งจะเป็นการสร้างค่านิยมผิดๆให้กับตัวตำรวจเองและแก่สังคมด้วยครับ ขอต่ออีกนะครับ จากคุณ : radar_gamo - [ 23 ม.ค. 52 00:04:45 ]
ความคิดเห็นที่ 8
โดยในปัจจุบัน เรายอมรับว่าเรื่องราวแบบนี้ยังมีอยู่จริงไม่เฉพาะกับตำรวจทางหลวงเท่านั้น อยู่ที่ว่าหน่วยงานไหนจะออกมายอมรับความจริงกับประชาชนว่าตำรวจของไทยในด้านหนึ่งได้สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนมากแค่ไหน ในขณะนี้ พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รักษาการ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้เข้ามารับตำแหน่งนี้ได้ประมาณแปบเดือน เห็นว่าเราต้องยอมรับเรื่องนี้แก่สังคมว่าที่ผ่ามมาตำรวจทางหลวงได้ทำอะไรลงไปจะพี่น้องประชาชนเดือดร้อนแค่ไหน และพร้อมจะแก้ไขให้ดีขึ้นครับ โดยตัวท่านเอง ครึ่งหนึ่งของชีวิตราชการเป็นตำรวจทางหลวงครับ ตั้งแต่เป็นรองสารวัตรเลย ท่านรักหน่วยนี้มาก แต่ก็เสียใจมากเหมือนกันที่ตอนนี้หน่วยนี้ได้ถูกประชาชนมองในแง่ลบ ท่านจึงฝากมาขอความช่วยเหลือจากชาวรัชดาให้ช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้ง ข้อตำหนิ ที่ท่านเดือดร้อนเพราะตำรวจทางหลวงครับ ยิ่งข้อมูลละเอียดมากแค่ไหนยิ่งดีครับ โดยสามารถแจ้งกับท่านโดยตรงที่ highway01@hotmail.com หรือทางหลังไมค์ของล้อกอินนี้ ได้ครับ ถ้าเห็นว่าตำรวจคนไหนได้ทำเรื่องให้ท่านเดือนร้อนอย่างไม่เป็นธรรมก็จะต้องมีการลงโทษอย่างแน่นอน ส่วนตำรวจคนไหนที่ทำดีก็แจ้งมาด้วยนะครับ เราจะได้มีการให้กำลังใจในการทำดีต่อไป ไม่ใช่ว่าท่านไม่รักลูกน้องแล้วจะจ้องเล่นงานนะครับ แต่เพราะท่านรักลูกน้องมากและเห็นใจประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนจึงขอฝากชาวรัชดาด้วยครับ
จากคุณ : radar_gamo - [ 23 ม.ค. 52 00:21:50 ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
...GlockGlack™...
โพสท์ถึง 999 ก็พอ
Sr. Member
คะแนน 8
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 991
สติหมา ปัญญาหมี
|
|
« ตอบ #64 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:39:55 PM » |
|
อ้าว... แบบนี้แสดงว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนก็อยู่ในข้อ กม. สิครับ?
ไม่บังคับใช้ครับเฮีย เพราะน้ำหนักไม่เกิน 1600 ก.ก. รวมถึงพวกรถ SUV ทั้งหลาย ส่วนกะบะ 4 ประตู หรือพวกดับเบิ้ลแคปโดนหมด เพราะน้ำหนักเกินกำหนด และไม่เกิน 7 คน ครับ คุณวัฒน์ แต่ผมติดใจตรงคำว่า รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล กับ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งใน กม. แยกไว้ชัดเจนน่ะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วันใดที่อาวุธปืนมีทะเบียนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุจริตชนจะพ่าย แต่โจรผู้ร้ายกลับชนะ Success Begins With A Fellow's Will, It's All In The State Of Mind
|
|
|
Ton-Krittin
ชาว อวป.
Full Member
คะแนน 20
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 142
แทนคุณแผ่นดิน
|
|
« ตอบ #65 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2009, 11:44:41 PM » |
|
อ้าว... แบบนี้แสดงว่า รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนก็อยู่ในข้อ กม. สิครับ?
ไม่บังคับใช้ครับเฮีย เพราะน้ำหนักไม่เกิน 1600 ก.ก. รวมถึงพวกรถ SUV ทั้งหลาย ส่วนกะบะ 4 ประตู หรือพวกดับเบิ้ลแคปโดนหมด เพราะน้ำหนักเกินกำหนด และไม่เกิน 7 คน ผมงงตรงนี้นิดหน่อยครับ ความในวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่ เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัม และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน ตามกฎหมาย ว่าด้วยรถยนต์ แต่ตามที่ผมเข้าใจคือ มิให้ใช้บังคับแก่ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีน้ำหนักไม่ เกินหนึ่งพันหกร้อยกิโลกรัมส่วนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน เช่น รถเก๋ง รถกระบะสองตอน ไม่ยกเว้น ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกมั้ยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
คะแนน 1204
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 17188
การต่อสู้คือชัยชนะ
|
|
« ตอบ #66 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 12:07:52 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอก@ดอยฯ
ปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 183
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9460
Do it right the first time
|
|
« ตอบ #67 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 09:05:19 AM » |
|
สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #68 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:13:31 AM » |
|
สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.
ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )
รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง ก็ขับช่องขวาไม่ได้ เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน ม.๓๔ และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง
แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dechdee
Jr. Member
คะแนน 7
ออฟไลน์
กระทู้: 71
|
|
« ตอบ #69 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:32:52 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เอก@ดอยฯ
ปฏิบัติอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 183
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 9460
Do it right the first time
|
|
« ตอบ #70 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:51:44 AM » |
|
สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.
ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )
รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง ก็ขับช่องขวาไม่ได้ เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน ม.๓๔ และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง
แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 12903
|
|
« ตอบ #71 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:52:29 AM » |
|
สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.
ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )
รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง ก็ขับช่องขวาไม่ได้ เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน ม.๓๔ และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง
แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ นอกเขตเทศบาล 90 กม./ชม. แต่ตำรวจจะผ่อนผัน เครื่องวัดคลาดเคลื่อนให้ถึง 110 กม./ชม. (เป็นเรื่องภายใน ที่เอาไปอ้างไม่ได้) แต่เวลาผมขับรถอยู่แถว ๆ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จะขับ 140-160 ไม่เบา ไม่จอด ไฟแดงก็ไม่จอด เผลอ ๆ รถไฟมายังเลี้ยวหนีด้วยซ้ำ วันดี คืนดี ยังโดนพรรคพวกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ให้เป็นรถท้องถิ่น แต่ไม่เคยมีทางหลวงมาจับซักทีเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3429
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 30132
เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:54:41 AM » |
|
สรุปโดยง่ายๆคือ ถ้าเป็น รถเก๋ง รถสี่ประตู รถตู้ และรถกระบะไม่บรรทุก สามารถขับทางขวาได้แต่ต้องไม่กีดขวางรถที่ขับมาเร็วกว่า อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ รถเก๋ง รถปิ๊กอัพสี่ประตู เป็นรถที่จดทะเบียน นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน ๗ คน รถกระบะ ไม่บรรทุก ที่มีน้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก.
ตามกฎหมาย ทั้งมาตรา ๓๔ (๕) ยกเว้นไว้.. และ มาตรา ๓๕ ก็ไม่ได้ห้าม (ต้องเป็นประเภทรถยนต์ ที่จดทะเบียนเป็นประเภทส่วนบุคคล หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล น้ำหนักไม่เกิน ๑,๖๐๐ กก. หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เกิน ๗ คน ตาม ม.๓๕ วรรคสาม )
รถยนต์เพื่อการรับจ้างบรรทุก รถรับจ้างสาธารณะ รถบรรทุกคโดยสาร ที่มีสีของป้ายทะเบียน แยกไว้ รถประเภทนี้ ถึงแ้ม้จะมีความเร็วสูง ก็ขับช่องขวาไม่ได้ เว้นแต่เพื่อแซง แล้วต้องเข้าซ้ายทันที จะวิ่งแช่ขวาไม่ได้ ตามข้อยกเว้นใน ม.๓๔ และต้องบังคับตาม ม.๓๕ วรรคสอง
แต่รถยนต์ที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งช่องขวาได้.. การวิ่งแช่ ช่องขวา เพลิน อาจจะผิด และถูกปรับ ถ้าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเท่าไร ท่านที่ทราบขอความกรุณาด้วย ครับ นอกเขตเทศบาล 90 กม./ชม. แต่ตำรวจจะผ่อนผัน เครื่องวัดคลาดเคลื่อนให้ถึง 110 กม./ชม. (เป็นเรื่องภายใน ที่เอาไปอ้างไม่ได้) แต่เวลาผมขับรถอยู่แถว ๆ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จะขับ 140-160 ไม่เบา ไม่จอด ไฟแดงก็ไม่จอด เผลอ ๆ รถไฟมายังเลี้ยวหนีด้วยซ้ำ วันดี คืนดี ยังโดนพรรคพวกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ให้เป็นรถท้องถิ่น แต่ไม่เคยมีทางหลวงมาจับซักทีเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
|
|
|
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #73 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 11:23:00 AM » |
|
นอกเขตเทศบาล 90 กม./ชม. แต่ตำรวจจะผ่อนผัน เครื่องวัดคลาดเคลื่อนให้ถึง 110 กม./ชม. (เป็นเรื่องภายใน ที่เอาไปอ้างไม่ได้)
แต่เวลาผมขับรถอยู่แถว ๆ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จะขับ 140-160 ไม่เบา ไม่จอด ไฟแดงก็ไม่จอด เผลอ ๆ รถไฟมายังเลี้ยวหนีด้วยซ้ำ วันดี คืนดี ยังโดนพรรคพวกเปลี่ยนป้ายทะเบียน ให้เป็นรถท้องถิ่น แต่ไม่เคยมีทางหลวงมาจับซักทีเหมือนกัน
แคล้วคลาด ปลอดภัยครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 11:24:51 AM โดย ซิกสุราษฎร์ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Stevie G - รักในหลวง
LABOR OMNIA VINCIT
ชาว อวป.
Sr. Member
คะแนน 47
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 562
"Don't let your feeling controls your life"
|
|
« ตอบ #74 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2009, 12:31:02 PM » |
|
ส่วนวันต่อมา ขากลับขึ้นเชียงใหม่ เจอม็อบข้าวโพดอีกเหมือนกัน ปิดถนนตรงแค้มป์แม่วัง ก่อนเข้า อ.เกาะคา ลำปาง ต้องใช้ถนนเลี่ยงเป็นเส้นทางบนเขา อ.ลี้ ลำพูน - เชียงใหม่
สายบ้านโฮ้ง เลี้ยวซ้ายยังไม่ทันจะเสร็จ ต้องเลี้ยวขวาต่อ... กว่าจะผ่านไปได้ ๒๐๐ โค้งละมั้งตรงนั้น... ช่วงที่ขับลำบากเป็นช่วงที่แยกจากเถินขึ้นเขา ก่อนเข้า อ.ลี้ ครับ พอลงเขามาจอดข้างทางแวะซื้อน้ำ แม่ค้าบอกวันนี้ขายดีที่สุดเลย มีทั้งรถทัวร์ รถนักท่องเที่ยว..... วิ่งสวนทางกันคึกคักน่าดู ผมเคยไปเชียงใหม่ แล้วเจตนาใช้เส้นทางนี้ เพื่่อหลบไม่อยากขึ้นขุนตาล สมัย เมื่อปี ๒๕๓๒ จะทะลุขุนตาล.. มีแต่รถบัส รถใหญ่ เหมือนจรวดวิ่ง สวนมาทั้งนั้น
ผมใช้รถเก๋ง ไปกับ ๙ พารา ๑ กระบอก.. เริ่มเข้าทางบ้านตาก ทางสัก ๑๔.๐๐ น.เศษ เส้นทางแคบ ทางโค้้งหักศอกบนเขา แล้วยัง ต้องหลบให้กับรถลากซุงอีก ไม่ใช่คันเดียวซะด้วย
ทะลุมาออกบ้านโฮ่ง ใกล้ ๕ โมงเย็น ถือว่าเข็ดสำหรับผม ลาเลยเส้นทางนี้ ..
ผ่านมาอีกทีเมื่อ ต่อต้นปี ๒๕๕๐ ทำไมทางถึงช่างน่าขับ ไม่เหมือน เมื่อ ๑๘ ปีก่อนเลย ครับ. บางช่วงมีการขยายถนนเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ แต่ทางโค้งบนเขาก็ัยังสภาพแคบและไหล่ทางชำรุดเป็นระยะครับพี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|