เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 07, 2024, 05:31:20 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจอจังๆเลยครับ  (อ่าน 4357 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
CAPTAINKID-รักในหลวงที่สุด
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2474


สบู่สมุนไพรบ้านสุทธิกานต์ อาบสะอาดหอมสดชื่นแบบไทยๆ


« ตอบ #45 เมื่อ: กันยายน 10, 2005, 09:01:00 PM »

ตอนนั้นเรียนอยู่ที่ มอ.ปัตตานี ช่วงนั้นเป็นฤดูฝนหรือช่วงมรสุมเข้าจำไม่ได้ รู้แต่ฝนตกตลอด พอดีผมไปได้ลูกงูหลามมาจากยามที่เฝ้าประตู มอ. เลยเอาไปเลี้ยง วันนึงฝนตก ไม่มีเรียน นอนเล่นอยู่ ไอ้หมาพุดเดิล 2 ตัวของแฟนผมก็เห่าโวยวายขึ้นมา พอออกมาดูเห็นมันเห่าที่ตะกร้างูหลาม ก็ยังไม่คิดอะไรชะโงกเข้าไปดูใกล้ๆ เด้งหนีแทบไม่ทัน งูเห่าตัวดำมะเมื่อมนอนขดอยู่ข้างหลัง เลยเรียกเพื่อนอีกคนออกมาช่วยกันไล่ ถือร่มกันคนละคัน กางๆหุบๆเคาะให้มันตกใจ มันเลื่อยออกมาแผ่แม่เบี้ยเลย ต้องกระโดดหนี ดีที่มันยอมไปง่ายๆ ไม่รู้มันมานอนกับงูของเราทำไม ผมเลยปล่อยไปเลย ไม่ล้งไม่เลี้ยงมันแล้ว
บันทึกการเข้า

สบู่สมุนไพรบ้านสุทธิกานต์ ใช้เนื้อสบู่ที่มีคุณภาพ ไม่มีไขมันสัตว์ ผสมสมุนไพรจีนและไทยกว่า 10 ชนิด ตามสูตรโบราณ ให้กลิ่นหอมแบบไทยๆ ฟองมาก อาบสะอาด ช่วยขจัดคราบไคล แก้ปัญหากลิ่นกาย โรคผิวหนัง สิวฝ้า และจุดด่างดำต่างๆ ได้ดี

หาซื้อได้ที่โฮมเฟรชมาร์ท ใน เดอะมอลล์ ทุกสาขา
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #46 เมื่อ: กันยายน 10, 2005, 10:11:15 PM »

Grin สับให้พอแหลก ผัดกับกระเพราป่า รวนให้แห้ง ๆ น้ำลายหก น้ำลายหก

 Grin Grin สนับสนุนครับ แต่ต้องถอดกระดูกก่อนนะครับกระดูกงูจะแข็งมาก Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
NUTAPHOL
รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 544
ออฟไลน์

กระทู้: 8934



« ตอบ #47 เมื่อ: กันยายน 12, 2005, 04:33:21 PM »

เคยเจอจังๆเหมือนกันครับ   ตอนนั้นชอบเที่ยวป่าไปเจอจงอางที่ทางใต้   จังหวัดตรังไม่กล้ายิงครับกลัวพาดนะครับ    ปืนลูกกรดครับกลัวเอาไม่อยู่ระยะแค่3-4เมตรเอง   ก็ได้แต่ยืนนิ่งๆแล้วคิดในใจว่าทางใครก็ทางมันต่างคนต่างไปก็แล้วกัน     สักพักเขาก็เลื้อยเข้าป่าหายไปเลย จูบบบบ จูบบบบ จูบบบบ
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #48 เมื่อ: กันยายน 12, 2005, 05:07:55 PM »

2 เมตร นี่ไม่เอาแล้วครับ เจอขนาด 4 เมตรคงแย่
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Tonyman
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 59
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5846


Best Wishes and Many Fast "A's" to You.


เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: กันยายน 12, 2005, 05:21:14 PM »

เมื่อปีก่อน บ้านผมเลี้ยงหนู แฮมสเตอร์ไว้หลายสิบตัวครับ มีกรงไว้ข้างล่าง ตอนเช้าผมเดินลงมา มีงูเหลือมขนาดประมาณ 2 เมตรกว่าๆ  ตกใจ ตกใจ ตกใจ เข้าไปในกรงครับ กินหนูหมดเลย  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน แล้วเลี้อยออกจากกรงไม่ได้ (คือ ท้องบวมขึ้นเยอะ) เลยครึ่งตัวอยู่นอกกรง แล้วอีกครึ่งอยู่ในกรง  Grin Grin สรุปเลยต้องเรียกเค้ามาจับส่งสวนสัตว์ตามระเบียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2005, 05:24:53 PM โดย Tonyman » บันทึกการเข้า

We can either find the way or make one.
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #50 เมื่อ: กันยายน 12, 2005, 05:27:27 PM »

ในชีวิตประจำวันของคนเรา โอกาสที่จะถูกงูกัดมีไม่มากนัก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมีความเสี่ยงที่จะถูกงู หรือสัตว์ที่มีพิษกัดต่อย เนื่องจากสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัย หรือการดำเนินชีวิต โดยที่หลายคนยังไม่มีความรู้ในการดูแลรักษาตัวเองหลังถูกงูพิษกัด มิหนำซ้ำยังมีความเชื่อที่ผิด ๆ อีกด้วย

ดังนั้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “X-RAY สุขภาพ” จึงมาพูดคุยกับ ผศ.น.พ.สุชัย สุเทพารักษ์ สาขาวิชาพิษวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผศ.น.พ.สุชัย กล่าวว่า จากสถิติในปีหนึ่ง ๆ ประเทศไทยมีคนที่ถูกงูกัดประมาณ 7,000-10,000 ราย ประมาณ 30% เป็นงูพิษ สำหรับงูพิษที่กัดมากที่สุด คือ งูกะปะ และงูเขียวหางไหม้ พิษของงูเหล่านี้จะมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด บริเวณที่ถูกกัดจะบวมมาก ในกรุงเทพฯ งูที่กัดส่วนใหญ่เป็นงูเขียวหางไหม้ ส่วนงูประเภทอื่น ๆ ก็มีบ้างเช่น งูเห่าถ้ารักษาไม่ทัน มาโรงพยาบาลช้าคนไข้หยุดหายใจอาจเสียชีวิตได้

วิธีการรักษาตัวเองในเบื้องต้นก่อนมาพบแพทย์นั้นค่อนข้างจะมี หลากหลายวิธี อาจถูกบ้างผิดบ้าง โดยวิธีที่ได้รับการยอมรับในทางการแพทย์ เมื่อคนไข้โดนงูพิษกัด พยายามอย่าเคลื่อนไหวอวัยวะที่ถูกกัด เพราะการเคลื่อนไหวจะกระตุ้นให้พิษงูถูกดูดซึมมากขึ้น แผลที่บวมก็จะบวมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากถูกงูกัดที่บริเวณแขนก็ให้หาอุปกรณ์มาดามแขนเอาไว้ แต่หากถูกกัดบริเวณขาคงลำบากหน่อย และควรทำการล้างแผลด้วยน้ำสะอาดเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ

การใช้มีดกรีดแผลเพื่อบีบพิษงูออก การใช้ไฟจี้ ไม่พบว่าได้ประโยชน์ ตรงกันข้ามอาจทำให้เนื้อบริเวณที่ถูกงูกัดเป็นแผลติดเชื้อง่ายขึ้น ส่วนการใช้ปากดูด บริเวณที่ถูกงูกัดคนดูดไม่เป็นอันตรายหรอกครับ แต่คนถูกดูดอาจเป็นอันตรายจากเชื้อโรคทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ ดังนั้นการกรีด ดูด จี้ บริเวณที่ถูกงูกัดไม่น่าจะทำ การใช้สมุนไพรพอกหรือทาก็เช่นกัน อาจจะได้ประโยชน์ในแง่การรักษาแผลที่โดนงูกัด แต่การรักษาพิษงูในกระแสเลือดคงไม่สามารถรักษาได้

การใช้เชือกหรือยางรัดบริเวณเหนือแผล โดยทั่วไปไม่เชื่อว่าน่าจะได้ประโยชน์และหากรัดไม่ถูกวิธีอาจจะเกิดโทษได้ เช่น บางคนตกใจรัดจนแน่น ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงบริเวณส่วนที่โดนงูกัดเลย อาจจะเกิดเนื้อเยื่อเสียหาย เนื้อเยื่อตาย ยิ่งเป็นงูกะปะ งูเขียวหางไหม้ หรืองูแมวเซา คนไข้จะไม่เสียชีวิตทันที แต่แผลที่ถูกกัดจะบวมมาก หากเอาอะไรไปรัดจะยิ่งทำให้แผลบวมและแย่กันไปใหญ่ ที่สำคัญคนไข้ควรรีบมาพบแพทย์ภายใน 2 ชั่วโมงหลังถูกกัด ยิ่งถ้าเป็นงูเห่าต้องมาเร็วกว่านั้น ยิ่งเร็วยิ่งดี

ขั้นตอนการรักษาคนไข้ถูกงูพิษกัด เมื่อคนไข้มาโรงพยาบาลแพทย์จะดูความดันโลหิต ดูการหายใจ ถ้ามีปัญหาต้องรีบแก้ไข เช่น ถ้าคนไข้หยุดหายใจจากการถูกงูเห่ากัด ก็จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จากนั้นก็ดูแผลว่าถูกงูพิษกัดหรือไม่ โดยดูจากรอยเขี้ยว และการบวมของแผล รวมทั้งสอบถามคนไข้ว่าเป็นงูพิษชนิดใด ซึ่งบางคนอาจบอกไม่ได้เพราะไม่เห็น หรือไม่รู้จัก แพทย์ก็อาจจะวินิจฉัยจากอาการของคนไข้ หรือบางกรณีอาจวินิจฉัยโดยการเจาะเลือดไปตรวจ

แพทย์จะให้การรักษาคนไข้ตามชนิดของงูที่กัด ซึ่งการให้เซรุ่มนั้นคนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าเมื่อถูกงูกัดแพทย์จะต้องให้เซรุ่มเสมอ ไม่มีเซรุ่มแย่แน่ จึงขอชี้แจงว่า เมื่อคนไข้ถูกงูที่มีพิษต่อระบบเลือดกัด ไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะต้องให้เซรุ่มทุกคน เพราะการให้เซรุ่มจะมีตัววัดระดับความรุนแรงโดยการสังเกตอาการและเจาะเลือดไปตรวจด้วย ที่ผ่านมามีคนไข้ถูกงูเขียวหางไหม้กัดไม่จำเป็นต้องให้เซรุ่มก็ หลายราย ให้เพียงยาแก้ปวดก็พอ และให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ ส่วนบริเวณที่ถูกกัดพยายามยกให้สูงไม่ให้เลือดไหลลงไปบริเวณแผลที่ถูกกัดเพื่อไม่ให้เกิดอาการบวม

ในกรณีที่เป็นงูเห่า หรืองูจงอางกัด ในที่นี้จะพูดถึงเฉพาะงูเห่า เพราะงูจงอางพบได้ไม่บ่อยนัก ถ้างูเห่ากัด อาการแรกที่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาการแบบนี้จะให้เซรุ่มได้เลย เพราะหากปล่อยทิ้งไว้คนไข้อาจหยุดหายใจ ในกรณีพื้นที่ห่างไกลไม่มีเซรุ่มระหว่างการส่งต่อคนไข้จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไปตลอดทาง

คนไข้ที่ถูกงูกัดและเสียชีวิตส่วนใหญ่เพราะถูกงูเห่ากัด เนื่องจากคนไข้มาถึงมือหมอช้า หยุดหายใจนานแล้ว บางรายอาจช่วยชีวิตได้แต่การที่คนไข้หยุดหายใจไป นาน ๆ สมองก็เสียไปแล้ว อยู่อีกไม่กี่วันก็เสียชีวิต ส่วนที่ถูกงูเขียวหางไหม้ส่วนใหญ่มักจะไม่เสียชีวิต ดังนั้นไม่ต้องตกใจมาก เพราะถ้าตกใจมากอาจจะรีบเร่งขับรถไปโรงพยาบาลจนเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนงูกะปะอาจมีเสียชีวิตบ้าง เพราะบางครั้งคนไข้มาหาหมอช้า แผลที่ถูกกัดเริ่มเน่าเปื่อยเกิดการติดเชื้อจนเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้

ในกรณีที่โดนแมลง สัตว์กัดต่อย มีพิษไม่มาก เช่น ตะขาบ แมงป่อง ผึ้ง แตน นั้น การบรรเทาอาการปวดในเบื้องต้นคือการรับประทานยาพาราเซตามอลแก้ปวด และการประคบเย็นบริเวณที่ถูกกัด หรือต่อย ป้องกันอาการบวม แต่ถ้าอาการปวดรุนแรง ยาพาราเซตามอลเอาไม่อยู่ เช่น คนไข้โดนตะขาบก็มักจะมาพบแพทย์ เพราะทนไม่ไหว ซึ่งเราจะให้ยาแก้ปวดแบบฉีดที่แรงกว่าพาราเซตามอล หรือบางครั้งอาจฉีดยาชารอบแผลให้เกิดอาการชาจะได้ไม่ปวดมาก จากนั้นก็ให้ยาแก้คัน แก้แพ้กลับไปกินที่บ้าน
 
ข้อแนะนำสำหรับคนไข้ที่โดนผึ้งต่อย ควรรีบเอาเหล็กในออกโดยเร็ว เพราะเหล็กในจะมีต่อมพิษติดมาด้วย ถ้าปล่อยทิ้งไว้ต่อมพิษจะปล่อยพิษมากขึ้น วิธีง่าย ๆ คือ เอาของแข็ง ๆ ขูดบริเวณที่โดนต่อย

ท้ายนี้เชื่อว่าผู้อ่านคงจะมีสติมากขึ้น เพราะถ้าหากวันหนึ่งเกิดโชคร้ายถูกงูกัด หรือคนรอบข้างโดนงูกัด อย่างน้อยจะได้ไม่ตกใจจนเกินเหตุ คุมสติให้อยู่ และรู้จักวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยต่อลมหายใจให้กับชีวิตได้อีกต่อไป.

บันทึกการเข้า
NPD
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #51 เมื่อ: กันยายน 12, 2005, 05:41:38 PM »

Grin สับให้พอแหลก ผัดกับกระเพราป่า รวนให้แห้ง ๆ น้ำลายหก น้ำลายหก

 Grin Grin สนับสนุนครับ แต่ต้องถอดกระดูกก่อนนะครับกระดูกงูจะแข็งมาก Cheesy Cheesy
         ทำต้มยำครับ ถอดกระดูก แล้วนำไปทอดให้กรอบ.....ไม่ต้องทิ้งกระดูกครับ กินได้หมด ยกเว้นหัว....เหอะ ๆ ๆ น้ำยาย หยายยยย Cheesy
บันทึกการเข้า
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #52 เมื่อ: กันยายน 12, 2005, 10:17:43 PM »

ต้มยำจงอางแซบบบบบบมากกกก น้ำลายหก น้ำลายหก
หมดเหล้าไปสี่ห้าขวด น้ำลายหก น้ำลายหก
แล้วก็นอนกลิ้งอยู่แถวๆนั้นแหละ หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.077 วินาที กับ 22 คำสั่ง