เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 21, 2024, 01:22:11 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทนายความกับปืนสวัสดิการ  (อ่าน 25120 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #45 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:12:41 AM »

ขุดกระทู้ดีมะ 555 เฝ้าอ่านอยู่นาน แม้ว่าจะมีหนังสือราชการอนุมัติให้สภาทนายความเข้าร่วมโครงการได้แล้วก็ตาม ผมยังอดไม่ได้กับ กระทู้บางกระทู้ที่มีจิตใจคับแคบไม่เปิดหูเปิดตา ว่าแต่ใครมีสิทธิ องค์กรไหนไม่มีสิทธิ คำว่าสิทธิ ก็บอกอยู่แล้วว่า ต้องมีกฎหมายรับรองให้กระทำได้ ตามหลักนิติรัฐ ถ้ามองทฤษฏีนี้แน่นอนสภาทนายความผ่านฉลุย  ทีนี้มามองในแง่ สิทธิ ที่ประชาชน หรือ ผู้ที่ควรมีสิทธิ จะซื้อปืนในราคาถูกบ้าง (บางกระทู้ว่างั้น) สภาทนายความจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ สภาทนายความ มีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือประชาชนและองค์กรต่างๆในกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นองค์กรที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจรัฐ มีหน้าที่ออกใบอนุญาตให้กับบุคคลซึ่งได้ทดสอบผ่านความรู้ในการปฏิบัติงานด้านกฏหมาย หรือเรียกว่า ทนายความ ทนายความมีหน้าที่ทำตามวัตถุประสงค์หลักขององค์กร ดังกล่าว บางครั้งต้องเข้าไปดำเนินการว่าต่าง แก้ต่าง คดี ทั้งแพ่ง และอาญา คดีปกครอง ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นคดีที่มีผู้ว่าจ้างหรือศาลขอแรงมาก็ตามบางคดีหลีกเลี่ยงเสียไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปผูกพันกับอิทธิพลมืดต่างๆ ดังท่านอาจจะเคยได้ยินข่าวกันมาแล้วว่า ประเทศเราต้องสูญเสียทนายความดีๆไปอย่างน่าเสียดาย ถามว่า ณ ขณะนั้น ใครช่วยได้ นี่คือเหตุผลพอสังเขปที่ผมเข้าใจว่าผู้ผลักดันโครงการเล็งเห็นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องนำไปพิจารณาอนุมัติ เมื่อกล่าวดังนี้แล้ว ผมไม่คัดค้านว่า ใครจะตั้งสมาคมอะไรเพื่อให้ซื้อปืนได้ในราคาถูก แต่ผมมองว่า โครงการนี่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับบางองค์กร ที่น่าจะมีสิทธิหรือโอกาสได้ใช้อาวุธปืน หากองค์กรต่างๆที่บางท่านกล่าวมานั้น ได้ยื่นคำขออนุมัติไปยังผู้มีอำนาจ และได้พิจารณาอนุมัติแล้ว ท่านก็มีสิทธิดังกล่าว การรวมกลุ่มขอร่วม.โครงการไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ต้องพิเคราะห์ถึงความเป็นตรรก อย่างบางกระทู้ ผมไม่ทราบว่าท่านมีเหตุโกรธเคืองกับทนายมาแต่ไหน ถ้าท่านเป็นข้าราชการ พนักงานของรํฐ ก็ยิ่งทำให้แปลกใจว่า ท่านได้วัดผลผ่านมาได้อย่างไร ข้าราชการฯ โดยทั่วไปที่ไม่มีหน้าที่ ป้องกันปราบปรามแล้ว ผมคิดว่ายังมีความเสี่ยงน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะนั่งกับโต๊ะอย่างเดียว จะเสี่ยงก็ตอนลุกจากที่นั่งในเวลาไม่สมควรเท่านั้น สำหรับยาม ก็เคยมีข่าวมานานว่าจะผลักดัน พรบ.ยาม ท่านรับได้ไหม ยามต้องสอบใบวิชาชีพ ต้องจบ ป.ตรี เงินเดือนก็ต้องเพิ่มตาม ทีผ่านมาก็มีให้เห็นทั่วไป ยามธนาคารสนามบิน สถานที่ราชการสำคัญๆมาจากข้าราชการตำรวจทหาร คือบุคคลเหล่านี้ไม่รับการฝึกและวัดผลมาแล้วเขาก็สามารถพกอาวุธได้ บางครั้งอาจจะคิดด้วยซ้ำว่าให้พกทำไมหนักเอว  ถ้าแท็กซี่ต้องรับแต่โจรที่พกอาวุธขึ้นรถก็น่าอนุมัติครับ  หาปลาแล้วเจอโซมาเนียทุกวัน ก็น่าอนุมัติครับ ตัดผมแล้วเสี่ยงถูกยิงทุกวันก็น่าอนุมัติครับ ประชาชนต้องเจอกับโจรทุกวันก็น่าอนุมัติครับ สรุปว่า ถ้าอนุมัติอย่างนี้แล้วทุกคนมาซื้อปืนถูกหรือหาซื้อกันพกกันได้คิดแต่เรื่องปืน บ้านเมืองไม่ต้องมีตำรวจทหาร ทุกคนดูแลตัวเองได้ คงจะคิดเห็นภาพได้ลางๆนะครับ ถ้าท่านมาเหมารวมว่า อ้าว ประเทศนี้อันนี้ดีกว่า อันนั้นไม่ดี ไม่เท่าเทียม มันก็จะเกิดการแบ่งแยกเป็นฝ่ายๆ ไม่สามัคคี ไม่ถูกต้อง ผมว่าควรทำหน้าที่ของตนให้เป็นประโยชน์แก่คนที่ท่านรัก และรักท่าน และสังคมน่าจะบังเกิดผลดีในทุกๆด้านครับ

+ แต้มที่ ๑ ให้แล้ว ครับ..  เยี่ยม    Cheesy
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #46 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:13:35 AM »

เจ้าของกระทู้ ตั้งกระทู้นี้เพื่อให้เพื่อนๆ วิเคราะห์วิจารณ์ กรณีเช่นว่านี้ และก็มีเพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง สรุปประเด็น ก็คือ

1.หลายท่านไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า ทนายเป็นผู้มีการศึกษาดี ควรใช้ความรู้ช่วยเหลือให้บุคคลทั่วไปได้ซื้อปืนราคาถูก ประกอบกับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีรายได้สูง ไม่ควรที่จะเข้าโครงการดังกล่าว และกลัวว่าอาชีพอื่นจะเอาเยี่ยงอย่างบ้าง

2.และหลายท่าน ก็สนับสนุน โดยให้เหตุผลว่า เป็นสิทธิ อันพึงกระทำได้

.......................

บัดนี้ระยะเวลาล่วงเลยมาพอสมควร และทนายความก็ได้เข้าร่วมโครงการฯ ตามความประสงค์ ผมก็เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทนายความคนหนึ่ง ขอแสดงความคิดเห็น ดังนี้ครับ

1.ก่อนที่สภาทนายความจะเข้าร่วมโครงการฯ ผมก็ซื้อ อวป.ตามราคาหน้าร้านครับ ตามประสาคนชอบ อวป. ......... ดังนั้น การเข้าร่วมโครงการฯ หรือไม่เข้าร่วมโครงการฯ จึงไม่มีผลกระทบต่อทนายความ   หากทนายความคนนั้นๆ ประสงค์ จะมี อวป. ...........และทนายความบางท่านไม่สนใจและคิดที่จะมี อวป.เลย

2.จากนั้น... ทราบข่าวว่ามีโครงการฯ จำหน่าย อวป. ในราคาถูก (หรือไม่? ไม่ทราบ) ซึ่งขณะนั้น สภาทนายความยังมิได้เข้าร่วมโครงการฯ แต่ผมเชื่อโดยสนิทใจว่า ราคารถูกกว่าหน้าร้าน จึงซื้อผ่านเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นข้าราชการ แม้จะไม่สามารถโอนได้ภายใน 5 ปี ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่เป็นไร ............. ดังนั้นประเด็นนี้ แม้สภาทนายความ มิได้เข้าโครงการฯ ทนายความก็ได้ประโยชน์   (เขาเรียกว่าประโยชน์ทางอ้อม....ซึ่งราษฎรทั่วไป ก็ได้ประโยชน์เช่าว่านั้น เหมือนกัน)

3. ต่อมา... สภาทนายความ ก็ได้เข้าร่วมโครงการฯ ประมาณปลายปี 2552 ผมจึงไม่ต้องซื้อ อวป.โครงการฯ ผ่านเพื่อนอีก ...........ดังนี้ จึงถือว่าทนายความ ที่สนใจใน อวป. จึงได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการฯ  ที่สามารถซื้อ อวป. ราคากกว่าหน้าร้าน

4.ประเด็นสิทธิ.... ที่น่าสังเกตุ สำหรับ ทนายความต่อ อวป.โครงการฯ คือ    ผมสามารถที่จะซื้อต่อไปได้เรื่อย ๆ หากต้องการจะมี อวป. ที่เข้าโครงการฯ และโครงการฯ ไม่ยกเลิกไปเสียก่อน ............. ประเด็นนี้ เป็นจุดแข็งของสภาทนายความที่เข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว ทำให้ทนายความสามารถซื้อ อวป.โครงการฯได้ เท่าที่ยังคงเป็นทนายความอยู่ แม้จะอายุ 90 ปีแล้ว ก็ตาม.............. ไม่มี เกษียณอายุ 60 ปี  อย่างข้าราชการทั่วไป (เกษียณแล้วก็หมดสิทธิ์ซื้อ อวป.โครงการฯ) ...............

5.ส่วน...... ที่เพื่อนๆ เกรงว่า อาชีพอื่นๆ จะเรียกร้องบ้างนั้น เท่าที่ทราบ มีความเคลื่อนไหว อยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่า กรมการปกครองอนุมัติหรือไม่

*****************

สรุปแล้ว..................... เราคงไม่ต้องเถียงกันในประเด็น ที่เจ้าของกระทู้ตั้งแล้ว เนื่องจากระยะเวลาได้พิสูจน์ตัวมันเองแล้ว  ...................... คงมีประเด็นเดียวคือ ทำอย่างไรให้ ปืน 2 มาตราฐาน หมดไปจาก ประเทศไทย กล่าวคือ ราษฎร์ได้สิทธิ์ซื้อ อวป. ในราคาถูก และราคาเท่าเทียมกัน



+ แต้มที่ ๙ ให้แล้ว ครับ..  เยี่ยม    Cheesy
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #47 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:34:34 AM »

สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์   เป็นองค์กรวิชา่ชีพ ที่มีกฎหมาย รองรับ ได้มีการโหวตให้เป็น องค์กรกลาง ตามรัฐธรรมนูญ
แต่ไม่ผ่านสภา จึงยังคงเป็นองค์กร ภาคเอกชนต่้อไป  ..

การเข้าร่วม โครงการ สน.สก. จึงเป็นเรื่อง ของ สภาทนายความฯ มีหนังสือ ถึง กรมการปกครองฯ
ขอเข้าร่วมโครงการ เมื่อ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๒  และกรมการปกครอง มีหนังสือราชการแจ้ง อนุมัติให้เข้าร่วมฯ  เมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒

สภาทนายความ ได้รับหนังสือ เมื่อ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒..  การอนุมัตินั้น อยู่ที่ กรมการปกครอง

องค์กรใด ที่ประสงค์จะเข้าร่วม จึงต้องเริ่มจากองค์กรนั้น ก้าวไปข้างหน้าด้วยตนเองก่อน  ทนายความ ไม่อาจให้ความเห็นว่า ควรได้รับอนุมัติ หรือไม่

หน้าที่ของสภาทนายความฯ  ทนายความ  มีหน้า่ที่ต่อสัังคม และหน้าที่ต่อทนายความ ด้วยกันเอง  กรณีนี้ เป็นเรื่องภายในของสภาทนายความฯ
ที่กระทำ เหมือนเป็นสวัสดิการทางอ้อมให้ กับ สมาชิกสภาทนายความ  โดยการอนุมัติ ของ กรมการปกครอง  นะครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ทนาย หนุ่ม
Jr. Member
**

คะแนน 10
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 44



« ตอบ #48 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:39:32 AM »

สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์   เป็นองค์กรวิชา่ชีพ ที่มีกฎหมาย รองรับ ได้มีการโหวตให้เป็น องค์กรกลาง ตามรัฐธรรมนูญ
แต่ไม่ผ่านสภา จึงยังคงเป็นองค์กร ภาคเอกชนต่้อไป  ..

การเข้าร่วม โครงการ สน.สก. จึงเป็นเรื่อง ของ สภาทนายความฯ มีหนังสือ ถึง กรมการปกครองฯ
ขอเข้าร่วมโครงการ เมื่อ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๒  และกรมการปกครอง มีหนังสือราชการแจ้ง อนุมัติให้เข้าร่วมฯ  เมื่อ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒

สภาทนายความ ได้รับหนังสือ เมื่อ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒..  การอนุมัตินั้น อยู่ที่ กรมการปกครอง

องค์กรใด ที่ประสงค์จะเข้าร่วม จึงต้องเริ่มจากองค์กรนั้น ก้าวไปข้างหน้าด้วยตนเองก่อน  ทนายความ ไม่อาจให้ความเห็นว่า ควรได้รับอนุมัติ หรือไม่

หน้าที่ของสภาทนายความฯ  ทนายความ  มีหน้า่ที่ต่อสัังคม และหน้าที่ต่อทนายความ ด้วยกันเอง  กรณีนี้ เป็นเรื่องภายในของสภาทนายความฯ
ที่กระทำ เหมือนเป็นสวัสดิการทางอ้อมให้ กับ สมาชิกสภาทนายความ  โดยการอนุมัติ ของ กรมการปกครอง  นะครับ  ไหว้


+1 เช่นเดียวกันครับ
บันทึกการเข้า
audoo
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22



« ตอบ #49 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:26:28 PM »

9ขอสรุปจากความเข้าใจครับเท่าที่ฟังมาอาจมีหลายท่านเข้าใจว่าทนายความนั้นเป็นอาชีพที่สามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากการค้าความ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของทนายความเมืองไทยส่วนใหญ่อาจติดลบไปบ้าง จึงเกิดสงสัยว่าแล้วยังจะมาซื้อปืนราคาถูกทำไม ผมก็เป็นทนายคนหนึ่งครับ  ถ้าลองมาสัมผัสกับอาชีพทนายความจริงๆแล้ว เชื่อเถอะครับบางทีแต่งตัวดีแต่มีเงินในกระเป๋าสตางค์น้อยกว่าแม่ค้าแผงลอยอีกครับ  ทนายความใหม่ๆบางท่านจึงไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้ตลอดเพราะไม่มีฐานเงินเดือนรองรับ หรือ หน่วยงานรองรับ อย่างสาขาวิชาชีพอื่น ทนายความที่พื้นฐานทางบ้านยากจนถึงปานกลางต้องดิ้นรนหาความรู้เองทั้งนั้น ถูกกดดันสารพัดครับ ทำดีมาเป็นสิบเป็นร้อย แต่ถ้าพลาดมาแล้วที่ทำสะสมมาก็จบครับ  ให้โอกาศทนายบ้างเถอะครับอีกหน่อยก็คงขยายฐานสวัสดิการปืนถูกไปให้สาขาอาชีพอื่นบ้างก็ไม่ว่ากัน  ส่วนแก้ไขปัญหาปืนแพงนั้นส่วนตัวคิดว่าหน่วยงานสคบน่าจะมีเข้ามามีบทบาทได้ หรือ ไม่?ครับ จะได้ป้องกันทางร้านที่อัพราคาเกินจริง ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ส่วนตัวใช้ BERETTA M9A1 ครับ
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #50 เมื่อ: กันยายน 14, 2011, 10:45:32 PM »

9ขอสรุปจากความเข้าใจครับเท่าที่ฟังมาอาจมีหลายท่านเข้าใจว่าทนายความนั้นเป็นอาชีพที่สามารถหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากการค้าความ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของทนายความเมืองไทยส่วนใหญ่อาจติดลบไปบ้าง จึงเกิดสงสัยว่าแล้วยังจะมาซื้อปืนราคาถูกทำไม ผมก็เป็นทนายคนหนึ่งครับ  ถ้าลองมาสัมผัสกับอาชีพทนายความจริงๆแล้ว เชื่อเถอะครับบางทีแต่งตัวดีแต่มีเงินในกระเป๋าสตางค์น้อยกว่าแม่ค้าแผงลอยอีกครับ  ทนายความใหม่ๆบางท่านจึงไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้ตลอดเพราะไม่มีฐานเงินเดือนรองรับ หรือ หน่วยงานรองรับ อย่างสาขาวิชาชีพอื่น ทนายความที่พื้นฐานทางบ้านยากจนถึงปานกลางต้องดิ้นรนหาความรู้เองทั้งนั้น ถูกกดดันสารพัดครับ ทำดีมาเป็นสิบเป็นร้อย แต่ถ้าพลาดมาแล้วที่ทำสะสมมาก็จบครับ  ให้โอกาศทนายบ้างเถอะครับอีกหน่อยก็คงขยายฐานสวัสดิการปืนถูกไปให้สาขาอาชีพอื่นบ้างก็ไม่ว่ากัน  ส่วนแก้ไขปัญหาปืนแพงนั้นส่วนตัวคิดว่าหน่วยงานสคบน่าจะมีเข้ามามีบทบาทได้ หรือ ไม่?ครับ จะได้ป้องกันทางร้านที่อัพราคาเกินจริง ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ส่วนตัวใช้ BERETTA M9A1 ครับ

+ แต้ม แรกให้ ครับ.

ทนายความ เป็นวิชาชีพอิสระ ที่ต้องพึ่งพาตนเอง เหน็ดเหนื่อยอย่างสาหัส.. เหมือนกัน
เมื่อยัง ไม่มีคดี ก็ต้องกินของเก่า  ตอนผมเป็นทนายเด็ก ๆ ก็เหมือนกัน ครับ

จนหลายท่านต้องเบนเข็มไปในสายงานอื่น หลายท่าน ไปสอบจนได้เป็นผู้พิพากษา เป็นพนักงานอัยการ 
มีจำนวนน้อยนัก ที่จะเป็นทนายความขึ้นชั้นได้ค่าปรึกษาเป็นรายเดือน ๆ ละ ๓ - ๔ แสน  หรือให้คำปรึกษาเป็นราย ชม.ละ ๑๐,๐๐๐.- +/-

ค่่าทนายความ คดีละ ๑ - ๒ แสน  บัดเดี๋ยวนี้ ก็ยังมี แต่ก็ตกไปอยู่กับ บางท่านเท่านั้น แต่กว่าจะเสร็จ ก็ปา่เข้่าไปเกือบปี . เ้ฉลี่ยทำงานเดือน ๑ - ๒ หมื่น.-  ยิ้มีเลศนัย

หัวอกเดียวกัน ด้วยความเข้าใจ นะครับ คุณ audoo..  แต่ ชม.นี้ เมื่อได้โอกาสแล้ว ต้องรีบคว้าไว้ กับ สน.สก.  นะครับ.  Cheesy 

บันทึกการเข้า

aehtopgun
Newbie
*

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 8



« ตอบ #51 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 09:33:34 AM »

ผม +5 ให้ทุกท่านเลยครับ ผมเองก็อาชีพเดียวกัน บางครั้งยังเคยคิดเล่นๆว่า หากเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองออกมาด้วยผมจะช่วยประชาชนทุกคนไม่ยกเว้นจะจนจะรวยจะอาชีพอะไร ขอให้ได้ช่วย ส่วนตัวแล้ว ผมก็เคยเป็นข้าราชการมานานพอสมควร แต่ด้วยความที่ "อมเบื่อ" กับบุคลากรและระบบอันไม่บูรณาการ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ลาภยศ จนลืมบทบาทและหน้าที่หลักของข้าราชการว่า คำว่า ประโยชน์สาธารณะ มันคืออะไร ขอใช้ชีวิตกับเส้นทางที่เรากำหนดได้เองไม่ต้องขึ้นกับใครดีกว่าครับ ขอบคุณครับ (การยกระดับองค์ ทนายความ ได้ถูกยกขึ้นพูดคุยหลายครั้ง แต่ก็ละลายหายไปในโอ่งน้ำ 20 ลิตร คงเป็นแต่บุคลากรที่เฝ้ารักษาตัวบทกฎหมายที่มีสภาพบังคับใช้ได้เพียงบางส่วน)
บันทึกการเข้า

คนดี ระบบดี : มีที่ไหน 
คนดี ระบบแย่ : พอแก้ได้
คนแย่ ระบบดี : มีถมไป
คนแย่ ระบบแย่ : ก็บรรลัย ทั้งถิ่นฐาน
cz_dee *รักในหลวง
Sr. Member
****

คะแนน 236
ออฟไลน์

กระทู้: 893



« ตอบ #52 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 09:41:35 AM »

พี่ๆหลายคนคิดว่าทนายส่วนใหญ่รวยกันทั้งนั้นใช่ไหมครับ อ๋อย อ๋อย อ๋อยคิดใหม่ได้แล้วครับ  ทนายที่ไม่มีทุนท้อแท้ก็มีเยอะนะครับ
ลองเข้ามาในวงการดูแล้วจะรู้ หลงรัก หลงรัก
23 ตุลานี้ ก็สอบภาคปฎิบัติกันแล้วพี่น้องเอ๋ย  Grin ไหว้
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #53 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 10:36:32 AM »

การดำเนินโครงการปืนสวัสดิการของกรมการปกครองมาจนถึงปัจจุบัน ผมสรุปกับตัวเองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์
การอ้างความชอบธรรมในการจัดปืนสวัสดิการให้ข้าราชการ ว่าเนื่องเหตุผลจากข้าราชการมีความจำเป็นและมีรายได้น้อยเป็นเพียงข้ออ้าง
ปืนคัสตอมทั้งหลายก็นำมาเป็นสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ขายดี แห่จอง ล้นหลาม

มท.ใช้อำนาจในการจำกัดการนำเข้า ให้พ่อค้าปั่นราคาปืนร้านให้สูงลิ่ว เพื่อเน้นเป็นจุดขายปืนสวัสดิการว่า...ถูกกว่า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ราคาปืนก็อยู่ในระดับเช่นเดียวกับราคาปืนร้านในอดีต ไม่ได้ถูกลง แต่อาศัยราคาปืนร้านใหม่ที่แขวนสูงไว้..ส่งเสริมการขาย

คนครอบครองปืนสวัสดิการก็(มักจะ)คิดถึงราคาปืนของตัวอิงราคาปืนชาวบ้าน หากคิดขายก็หวังผลกำไร
เหมือนซื้อหุ้นได้ตามสิทธิ ไม่อยากให้ชาวบ้านได้ด้วย กลัวหุ้นตก ขายไม่ออก

ปัจจุบันการซื้อปืนสวัสดิการก็ปล่อยตามสบาย มีเงินสดก็ไปซื้อได้ทันที ยี่ห้อไหนรุ่นไหนก็เลือกเอา .... ตามศัพย์ที่รู้กัน ... ตัดสด
ผมเห็นรายการผู้มีสิทธิ ทีผนวกรวม ข้าราชการทั้งประจำและการเมือง ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ .... และ .... ทนายความ

ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครจะช่วยเรียกร้อง การปฎิบัติอย่างเป็นธรรมให้กับประชาชนทั่วไปชั้น ๓ อีกแล้ว
ประชาชนชั้น ๑ คือกลุ่มผู้ถืออำนาจ ออกระเบียบกฎเกณฑ์ และ......
ประชาชนชั้น ๒ คือผู้ได้สิทธิ ตามที่ประชาชนชั้น ๑ กำหนด .... ซึ่งจะมีความยินดีปรีดา และช่วยหาเหตุผลเป็นแนวร่วมสนองสนับสนุนประชาชนชั้น ๑
ประชาชนชั้น ๓ คือ กลุ่มกระผมเอง ผู้ต่ำต้อย เป็นสมบัติติดแผ่นดิน
........เมื่อสามอำนาจรัฐ ทนายรัฐ ทนายราษฎร์ เป็นแนวร่วมของคนถืออำนาจไปแล้ว .... คงไม่มีใครส่งเสียงร้องช่วยประชาชนชั้น ๓ ได้.......  วังเวงจริงๆ


บันทึกการเข้า
aehtopgun
Newbie
*

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 8



« ตอบ #54 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 11:09:34 AM »

การดำเนินโครงการปืนสวัสดิการของกรมการปกครองมาจนถึงปัจจุบัน ผมสรุปกับตัวเองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์
การอ้างความชอบธรรมในการจัดปืนสวัสดิการให้ข้าราชการ ว่าเนื่องเหตุผลจากข้าราชการมีความจำเป็นและมีรายได้น้อยเป็นเพียงข้ออ้าง
ปืนคัสตอมทั้งหลายก็นำมาเป็นสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ขายดี แห่จอง ล้นหลาม

มท.ใช้อำนาจในการจำกัดการนำเข้า ให้พ่อค้าปั่นราคาปืนร้านให้สูงลิ่ว เพื่อเน้นเป็นจุดขายปืนสวัสดิการว่า...ถูกกว่า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ราคาปืนก็อยู่ในระดับเช่นเดียวกับราคาปืนร้านในอดีต ไม่ได้ถูกลง แต่อาศัยราคาปืนร้านใหม่ที่แขวนสูงไว้..ส่งเสริมการขาย

คนครอบครองปืนสวัสดิการก็(มักจะ)คิดถึงราคาปืนของตัวอิงราคาปืนชาวบ้าน หากคิดขายก็หวังผลกำไร
เหมือนซื้อหุ้นได้ตามสิทธิ ไม่อยากให้ชาวบ้านได้ด้วย กลัวหุ้นตก ขายไม่ออก

ปัจจุบันการซื้อปืนสวัสดิการก็ปล่อยตามสบาย มีเงินสดก็ไปซื้อได้ทันที ยี่ห้อไหนรุ่นไหนก็เลือกเอา .... ตามศัพย์ที่รู้กัน ... ตัดสด
ผมเห็นรายการผู้มีสิทธิ ทีผนวกรวม ข้าราชการทั้งประจำและการเมือง ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ .... และ .... ทนายความ

ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครจะช่วยเรียกร้อง การปฎิบัติอย่างเป็นธรรมให้กับประชาชนทั่วไปชั้น ๓ อีกแล้ว
ประชาชนชั้น ๑ คือกลุ่มผู้ถืออำนาจ ออกระเบียบกฎเกณฑ์ และ......
ประชาชนชั้น ๒ คือผู้ได้สิทธิ ตามที่ประชาชนชั้น ๑ กำหนด .... ซึ่งจะมีความยินดีปรีดา และช่วยหาเหตุผลเป็นแนวร่วมสนองสนับสนุนประชาชนชั้น ๑
ประชาชนชั้น ๓ คือ กลุ่มกระผมเอง ผู้ต่ำต้อย เป็นสมบัติติดแผ่นดิน
........เมื่อสามอำนาจรัฐ ทนายรัฐ ทนายราษฎร์ เป็นแนวร่วมของคนถืออำนาจไปแล้ว .... คงไม่มีใครส่งเสียงร้องช่วยประชาชนชั้น ๓ ได้.......  วังเวงจริงๆ




ผมเข้าใจที่ท่านกล่าวอย่างสุดซึ้ง ถึงความไม่เ่ท่าเทียม และท่านก็มีสิทธคิดเห็นและพูด อาจเพราะประเด็นหลักๆมันคือ ราคาถูก กว่าชาวบ้านชาวเมืองเขา เพราะถ้าบอกว่า ปัจจุบันทนายความได้รับอนุมัติให้เข้าโครงการแล้ว แต่ซื้อได้ในราคาประชาชน คงจะไม่มีใครมาด่า หรือ ออกความเห็นกัน กลับกันอาจจะสมเพศเวทนา สงสาร ว่า ทำไมมาเล่นกันเป็นหมายอกไก่ ดังนั้น หากจะพูดถึงประเด็นนี้ มันก็ไม่น่าจะมี ความเห็น ในทุกประเด็นว่า สภาทนาย ควรหรือไม่ควร ได้รับอนุมัติ ถูกต้องไหมครับ เพราะถ้าหากพรุ่งนี้ สภาประชาชน ได้รับอนุมัติบ้าง ถามว่าทนายความจะมาออกความคิดเห็นอย่างนี้หรือไม่ ดังนั้น ผมละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า จงหาที่เหตุ และ ไม่ควรตัดปลาย  ส่วนตัวผม ไม่อยากเห็นความแตกแยกแบ่งฝ่าย เพราะเพียงแค่ 1/4 ของประชากรในชาติคิดอย่างนี้ ความวิบัติก็อาจจะบังเกิดในคราวต่อไปได้ และในความคิดเห็นของผมก็ไม่ได้สนับสนุน ประชาชนชั้น 1 อย่างที่ท่านกล่าวแต่อย่างใด ผมกลับพูดว่า มันเป็น "สิทธิ" ของแต่ละองค์กร แต่ละหน่วย จะส่งคำขออนุมัติไปยังผู้มีอำนาจ และให้ผู้มีอำนาจพิจารณา ขอรับกระผม
บันทึกการเข้า

คนดี ระบบดี : มีที่ไหน 
คนดี ระบบแย่ : พอแก้ได้
คนแย่ ระบบดี : มีถมไป
คนแย่ ระบบแย่ : ก็บรรลัย ทั้งถิ่นฐาน
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #55 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 11:16:12 AM »

การดำเนินโครงการปืนสวัสดิการของกรมการปกครองมาจนถึงปัจจุบัน ผมสรุปกับตัวเองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์
การอ้างความชอบธรรมในการจัดปืนสวัสดิการให้ข้าราชการ ว่าเนื่องเหตุผลจากข้าราชการมีความจำเป็นและมีรายได้น้อยเป็นเพียงข้ออ้าง
ปืนคัสตอมทั้งหลายก็นำมาเป็นสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ขายดี แห่จอง ล้นหลาม

มท.ใช้อำนาจในการจำกัดการนำเข้า ให้พ่อค้าปั่นราคาปืนร้านให้สูงลิ่ว เพื่อเน้นเป็นจุดขายปืนสวัสดิการว่า...ถูกกว่า
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ราคาปืนก็อยู่ในระดับเช่นเดียวกับราคาปืนร้านในอดีต ไม่ได้ถูกลง แต่อาศัยราคาปืนร้านใหม่ที่แขวนสูงไว้..ส่งเสริมการขาย

คนครอบครองปืนสวัสดิการก็(มักจะ)คิดถึงราคาปืนของตัวอิงราคาปืนชาวบ้าน หากคิดขายก็หวังผลกำไร
เหมือนซื้อหุ้นได้ตามสิทธิ ไม่อยากให้ชาวบ้านได้ด้วย กลัวหุ้นตก ขายไม่ออก

ปัจจุบันการซื้อปืนสวัสดิการก็ปล่อยตามสบาย มีเงินสดก็ไปซื้อได้ทันที ยี่ห้อไหนรุ่นไหนก็เลือกเอา .... ตามศัพย์ที่รู้กัน ... ตัดสด
ผมเห็นรายการผู้มีสิทธิ ทีผนวกรวม ข้าราชการทั้งประจำและการเมือง ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ .... และ .... ทนายความ

ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครจะช่วยเรียกร้อง การปฎิบัติอย่างเป็นธรรมให้กับประชาชนทั่วไปชั้น ๓ อีกแล้ว
ประชาชนชั้น ๑ คือกลุ่มผู้ถืออำนาจ ออกระเบียบกฎเกณฑ์ และ......
ประชาชนชั้น ๒ คือผู้ได้สิทธิ ตามที่ประชาชนชั้น ๑ กำหนด .... ซึ่งจะมีความยินดีปรีดา และช่วยหาเหตุผลเป็นแนวร่วมสนองสนับสนุนประชาชนชั้น ๑
ประชาชนชั้น ๓ คือ กลุ่มกระผมเอง ผู้ต่ำต้อย เป็นสมบัติติดแผ่นดิน
........เมื่อสามอำนาจรัฐ ทนายรัฐ ทนายราษฎร์ เป็นแนวร่วมของคนถืออำนาจไปแล้ว .... คงไม่มีใครส่งเสียงร้องช่วยประชาชนชั้น ๓ ได้.......  วังเวงจริงๆ


พี่ธำรง ได้ลงลึก เพื่อที่พยายามจะบอกถึงเบื้องหลัง ในข้อเท็จจริง ที่เกิด.. เข้าใจ และด้วยความเห็นใจ ครับ.. พี่  Cheesy





บันทึกการเข้า

ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #56 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 11:28:09 AM »

ผมไม่ได้เจตนามาตั้งป้อมต่อว่าทนายความ  ไหว้
ถ้าอยากได้สิทธิคงหาทางสอบเป็นทนายความบ้าง  Wink

ถ้าว่าอย่างยโส ก็อาจว่า ผมมีกำลัง ไม่ง้อราคาสวัสดิการ
ผมควรด่า นายกสภาวิชาชีพของผม ที่ไม่กล้าแม้แต่เพียงเดินตามรอยนายกสภาทนายความ  ทั้งที่ทำหนังสือกระทุ้งแล้ว ก็ไม่ยอมตอบ  Angry

ขอบคุณคุณRo@d.......  ความผิดเพี้ยนมันบังเกิดในแผ่นดิน เพียงแต่ใครจะเปิดตาเปิดใจมองเห็น
ผมมองข้ามเรื่องสิทธิการซื้อปืนสวัสดิการไปแล้ว ......
.....มองไปถึง"ค่าของชีวิต"ของคน ของประชาชนทั่วไป ที่เขาควรได้รับการดูแล ปกป้อง และให้โอกาส(ปกป้องตัวเอง) จากรัฐ โดยเท่าเทียมกัน ต่างหาก  ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2011, 11:31:57 AM โดย ธำรง » บันทึกการเข้า
DoAll
49th St, OCALA CITY , FL 34479
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 93



« ตอบ #57 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 11:51:28 AM »

กราบสวัสดีท่าน ธำรง  ไหว้

ท่านแสดงความคิดได้ตรงไป ตรงมาดีมาก ลึกซึ้ง

นับถือ นับถือ
บันทึกการเข้า
TA881
Hero Member
*****

คะแนน 156
ออฟไลน์

กระทู้: 1480



« ตอบ #58 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 02:20:42 PM »

ข้อความผมหายๆๆๆๆๆ ไปแล้ว  ยิ้มีเลศนัย  ประเด็นของผมคือ  คนไทยทุกคนก็ควรได้สิทธิ์เท่าเทียมกันดั่งที่......................อะไรก็เติมเอาเองครับ
ส่วนข้าราชการเห็นว่าเหมาะสมแล้ว  เค้ามีหน้าที่ดูแลประชาชน(ตำรวจ  ทหาร)  เงินเดือนน้อยให้เค้าซื้อไปเถอะตามราคาสวัสดิการ(ข้าราชการชั้นผู้น้อยเยอะกว่าชั้นผู้ใหญ่)

ผมก็เสียภาษีให้ประเทศชาติตามกฎหมายกำหนด   แล้วเหล่าท่านเสียภาษีมากกว่าผมหรือถึงได้สิทธิ์นั้นกันหากท่านได้ประชาชนทุกคนก็ควรได้เช่นกัน แบร่
บันทึกการเข้า
naylex
แม้ยากไร้ แต่หาใช่จะตื่นทอง
Sr. Member
****

คะแนน 72
ออฟไลน์

กระทู้: 608



« ตอบ #59 เมื่อ: กันยายน 15, 2011, 02:47:02 PM »

ขออภัย เพราะอ่านข้ามๆมาตลอด

ผมไม่ใช่ทนาย  แต่ถ้าท่านที่เป็นทนาย จะมีสวัสดิการในการซื้อ อวป.(คิดว่าแต่ก่อนคงไมมีสิทธินี้)

ก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ

และคิดต่อไปว่า วันข้างหน้าสิทธิ ในการซื้อปืนสวัสดิการ จะขยายวงกว้างขึ้น

บันทึกการเข้า

เรือจ้างกลางไพร
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.118 วินาที กับ 21 คำสั่ง