เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 23, 2024, 10:26:03 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อกี้(เที่ยงคืนสิบห้านาทีของคืนวันที่ 9 มี,ค.52) ดูรายการจับเข่าคุย  (อ่าน 5481 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #30 เมื่อ: มีนาคม 10, 2009, 04:30:00 PM »

ผมว่ามันก็เหมือนบุหรี่ครับ ....

คนไม่สูบ ทำอย่างไรก็ไม่สูบ ... คนสูบ ต่อให้ห้ามขายทั่วไทย เขาก็หามาสูบอยู่ดี .... คนไม่อยากให้คนอื่นสูบ ก็ควรทำเรื่องรณรงค์ ส่งเสริม ติดป้ายเตือน แบ่งอายุ ฯลฯ

เรื่องฉากโป๊ในหนัง (ไม่ใช่หนังโป๊ และจริง ๆ คนเซนเซอร์ไม่ได้เซนแต่ฉากโป๊อย่างเดียว ...) บางครั้งคนสร้างต้องการสื่ออารมณ์ของหนังให้ครบถ้วนจริง ๆ จึงไม่อยากตัด

ผมรู้จักหนังโป๊ครับ ดังนั้นผมน่าจะแยกแยะออกว่าหนังที่มีฉากโป๊นั้นเป็นอย่างไร  คิก คิก

ครั้งหนึ่งได้ดูหนังนอกกระแส ของฝรั่งเศส จำได้ว่าเป็นหนังกล่องด้วย .... แต่ผมจำชื่อไม่ได้ครับ .... มีฉาก "ญ. ถูกข่มขืนอย่างทารุณ" นานเกือบ ๑๐ นาที ..... และตอนจบของหนังก็มีฉากเพศสัมพันธ์ด้วยครับ ....

เรื่องนี้ผมดูจนจบ บอกได้ว่าอึดอัดมาก (ไม่ได้มีอารมณ์ทางเพศนะครับ) ... และสรุปเองว่า คนทำเก่งมาก ๆ และฉาก ๑๐ นาทีดังกล่าว ก็เป็นจุดที่ไม่ควรตัดออกเป็นที่สุด .... เพราะเป็นจุดเริ่มเรื่องราวของหนัง .... อารมณ์ของตัวเดินเรื่องมันเริ่มจากตรงนั้น .....

บางเรื่องผมดูได้เกินครึ่งชั่วโมงเล็กน้อย ต้องเลิกดู .... มัน X กันตลอด โดยผมยังดูไม่ออกว่า ผู้กำกับต้องการสื่ออะไร ....

ดังนั้นเรื่องมีเรตติ้งแล้ว ต้องเลิกเซนเซอร์หรือไม่นั้น ผมยังไม่มีความคิดแบบฟันธง ข้างใดข้างหนึ่งครับ เพราะผมเห็นว่าสังคมเรายังมีคนที่ไม่เข้าใจคำว่า "เสรีภาพ" อยู่มาก .... ผมคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจ (อ้าว!!! แล้วดันเอามาเขียน  ตกใจ)

 Grin
บันทึกการเข้า

jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #31 เมื่อ: มีนาคม 10, 2009, 04:37:18 PM »

แล้วส่วนเรื่องข้าราชการใน 3 จชต. และปัญหาอื่นๆในประเทศนี้ทุกปัญหาสำคัญทั้งนั้น
ไม่ได้หมายความว่าแก้เรื่องนี้เรื่องอื่นไม่ต้องแก้ แล้วการที่พี่น้องเกษตรกรเอานมมาเททิ้ง เรื่องของ3จชต.
ผมไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับการสร้างหนังยังไงขอโทษทีครับ ผมยังผูกเรื่องไม่ได้ซะที

ผมว่าเรื่องของเรื่องคือ .... แทนที่จะเสียเวลามานั่งคิดแทนคนดูหนัง/คนทำหนัง ก็นำกำลังความคิด สติปัญญาในส่วนนี้ ไปในการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร หรือปัญหาความมั่นคงจะดีกว่า ....

น่าจะประมาณนี้ครับ  ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #32 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 08:46:40 AM »

แล้วส่วนเรื่องข้าราชการใน 3 จชต. และปัญหาอื่นๆในประเทศนี้ทุกปัญหาสำคัญทั้งนั้น
ไม่ได้หมายความว่าแก้เรื่องนี้เรื่องอื่นไม่ต้องแก้ แล้วการที่พี่น้องเกษตรกรเอานมมาเททิ้ง เรื่องของ3จชต.
ผมไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับการสร้างหนังยังไงขอโทษทีครับ ผมยังผูกเรื่องไม่ได้ซะที

ผมว่าเรื่องของเรื่องคือ .... แทนที่จะเสียเวลามานั่งคิดแทนคนดูหนัง/คนทำหนัง ก็นำกำลังความคิด สติปัญญาในส่วนนี้ ไปในการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร หรือปัญหาความมั่นคงจะดีกว่า ....

น่าจะประมาณนี้ครับ  ขำก๊าก ขำก๊าก
ประเทศมีปัญหาเยอะครับ
คนที่รับผิดชอบก็มีเยอะเหมือนกัน
ปัญหาก็แก้ไปพร้อมๆกันได้
เรื่องเซ็นเซอร์ก็เกี่ยวกับกระทรวงวัฒนธรรม
ซึ่งไม่มีภาระหลักเกี่ยวกับปัญหานมหรือ 3 จังหวัดชายแดนใต้
แล้วถ้าหากคิดกันให้ดี
เรื่องการกีดกันสิทธิเสรีภาพ
เป็นรากเหง้าหนึ่งของหลายปัญหาเรื้อรังในบ้านเรา
การบอกว่าไปแก้ปัญหานั่นโน่นก่อน (ทั้งที่เป็นคนละความรับผิดชอบ)
มันเหมือนหนี ไม่พยายามแก้ปัญหา
สุดท้ายก็วกมาที่ทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนเดิม
บันทึกการเข้า
artami
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 09:30:24 AM »

ประเทศชาติไม่ล่มจมหรอกครับ คนดีๆยังมีอีกเยอะ แต่ผมว่าไม่เห็นเกี่ยวกับขอป 3 เลยนะอันนั้นมันอยู่บุคคลมากกว่าไม่ว่าจะเป็นคนขอหรือข้าราชการที่เป็นคนอนุญาตว่าจะมีสติหรือสมองในการคิดวิเคราะห์มากกว่ากัน นะครับ อีกอันนึงผมอยากถามต่อว่าจะโกอินเตอร์ต้องแก้ผ้าด้วยหรอ เมื่อก่อนพระเอกหรือนางเอกจะจูบกันก็ใช้มุมกล้อง หรือจะมีฉากอย่างว่าก็แค่กอดแล้วเอนตัวนอนก็ตัดฉากไปก็เป็นอันรู้กันแล้วว่าได้เสียกัน แต่เดี๋ยวนี้เอะอ่ะก็ต้องจูบจริงไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ส่วนตัวผมว่าอย่างนี้นะครับ
บันทึกการเข้า
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #34 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 10:16:55 AM »

ผมว่าเราต้องเริ่มจากประเด็นเดียวกันก่อนนะครับ
เพราะไม่เช่นนั้น มันจะวน พายเรือในอ่าง
เดี๋ยวสักพัก ก็วกมาเรื่องหนังโป๊อีก
ทำความเข้าใจกันตรงนี้นะครับว่า
การที่คนทำหนังต้องการให้ยกเลิกการเซ็นเซอร์
ไม่ได้เพื่อที่จะทำหนังโป๊นะครับ
เขาอยากทำหนังแบบนักการเมืองโกงบ้าง ตำรวจเป็นผู้ร้ายบ้าง
ซึ่งเดิมทางการห้ามครับ หนังไทยมันก็เลยมีแต่แนวอย่างที่เราเห็นๆกัน
แล้วประเด็นที่ว่ามานี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องโกอินเตอร์ด้วย
มันเป็นเรื่องของเสรีภาพในการทำงานศิลปะ
ส่วนจะศิลปะมากหรือน้อย ก็เป็นอีกประเด็นนะครับ
ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ
หลังจากคุยกันมานาน ระหว่างทางการกับคนในอุตสาหกรรมหนัง
ผลสรุปคือจะเลิกเซ็นเซอร์ แล้วก็หันมาใช้การจัดอายุคนดูแทน
แต่สุดท้าย กลับกลายเป็นว่า
นอกจากจัดเรตติ้งแล้ว ยังจะต้องมีการส่งบทหนังให้เซ็นเซอร์ก่อนครับ
ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้
ส่วนเรื่องหนังโป๊เป็นการอ้างขึ้นมาเพื่อให้คนสนับสนุนการจัดเรตติ้งหนังกลายเป็นผู้ร้ายครับ
ที่ผ่านมา คนทำหนังไทยที่ออกฉายตามโรง ไม่เคยมีใครทำหนังโป๊นะครับ
หรือใครว่ามี แย้งมาได้เลย
ส่วนจะเหมือนเรื่องขอป.3 หรือไม่
ผมจะเสนอแง่คิดให้พิจารณาครับ
การขอป.3 สำหรับประชาชนคนธรรมดา มีการกำหนดคุณสมบัติมากมายหลายข้อ
แต่สุดท้าย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
การตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายทะเบียน
ซึ่งดุลยพินิจของคนก็ไม่เหมือนกันอีก อันนี้สำคัญนะครับ
เพราะจะมีให้ได้ยินตลอดว่า อำเภอนั้นขอ .45 ได้ อำเภอนั้นไมได้ ทั้งที่คุณสมบัติผู้ขอเหมือนกัน
ถึงที่สุดแล้ว ข้อกำหนดคุณสมบัติมันกลายเป็นว่าไม่สำคัญเท่ากับดุลยพินิจนายทะเบียนครับ
กฎเกณฑ์หลักเกณฑ์มีไว้เพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติเหมือนกัน จะได้ไม่เอาเปรียบกัน
ดุลยพินิจเซ็นเซอร์ ดุลยพินิจนายทะเบียน นี่คือจุดร่วมครับ
แล้วมันก็ไม่ใช่ปัญหาของตัวบุคคล
แต่มันเป็นปัญหาของระบบครับ
มันเรื่องใหญ่นะครับ
บันทึกการเข้า
a lone wolf
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 290
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2064



« ตอบ #35 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 11:07:58 AM »

 Cheesy
การแก้ผ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนสร้างงานศิลปะเรียกร้องขออิสระที่จะใส่มันไว้ในเรื่องราวของหนัง
เพราะว่าเขาเชื่อว่าวันหนึ่งหากเขาจะต้องใส่ฉากแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  มันจะทำให้เขาถ่ายทอดธีมที่เขาอยากจะถ่ายทอดให้กับโลก  ให้กับคนที่มาเสพงานเขาได้
มันจะทำให้เขาบรรลุเป้าหมายบางอย่าง  ให้คนซาบซึ้งกับกลวิธีการเล่าเรื่อง  หรือเข้าใจ  หรือสามารถถอดรหัสสิ่งที่เขาต้องการสื่อออกไปได้
คนสร้างงานศิลปะเขาจะกลัวอย่างหนึ่งครับ....เขากลัวเชย  กลัวเสี่ยว
การจะยัดฉากคนแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  ยัดแบบไม่รู้ว่ายัดเข้าไปทำไม  ยัดแล้วมันไม่ช่วยให้หนังบรรลุถึงธีมรวมที่เขาต้องการสื่อสาร...คนดูเขาก็จะดูแคลนคนสร้างครับ
(อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนังลามก  สร้างเพื่อความเสียวถ่ายเดียวนะครับ)
คนสร้างเขาจะอายครับ  เวลาถูกวิจารณ์ว่าสิ่งที่ใส่เข้าไปในหนัง  มันเป็นส่วนเกินเป็นติ่งเป็นหูด
ไม่ต้องส่งหนังไปโกอินเตอร์  ฉายแค่ในเมืองไทย  ก็อายไม่ต่างกัน

เคยอ่านหนังสือเรื่อง จัน ดารา ของประมูล อุณหธูปไหมครับ
เคยมีการสร้างเป็นหนังไทยมาแล้ว
ฉากที่คุณบุญเลื่อง  ขอให้จันเอาน้ำแข็งถูหลังในหนังสือน่ะงามเหลือขนาด
ให้ผมเป็นคนเขียนบทหนัง  แล้วถ่ายทอดฉากนี้เป็นภาพโดยไม่เห็นหลังเปลือยของคุณบุญเลื่อง  ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำได้อย่างไร
จะให้เห็นคุณบุญเลื่องดึงตัวจันเข้ามาหา  แล้วตัดภาพเป็นนอนกอดกันมีผ้าห่มคลุม เพื่อสื่อว่าเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว
คนที่เคยอ่านหนังสือเขาคงด่าผมกันขรม...ผมอาย
แต่ผมจะไม่เขียนให้คุณบุญเลื่องพลิกตัวมาให้เห็นร่างกายด้านหน้าทั้งตัวนะครับ...มันเกินจำเป็น...มันเสี่ยว
กรุณา...อย่าถามว่า...แล้วผมสร้างหนังเรื่องนี้ทำไม...หนังที่มีเรื่องราวอย่างอื่นมีให้ทำอีกตั้งเยอะ
ถ้าถามแบบนี้....ผมเอาตังค์ทำหนังไปเปิดร้านข้าวต้มดีกว่า

จริงๆแล้ว คนทำหนังเขาขอมากกว่าฉากแก้ผ้าครับ

หนังไทย...ถ้าเห็นข้าราชการโกงแล้วตอนจบไม่ถูกตำรวจจับ ทว่าลอยนวลหนีไปได้ไม่ต้องรับผลกรรม...เขาไม่ให้ท่านฉายตามโรงนะครับ

หนังไทย...ท่านมีภาพพระภิกษุหนุ่มนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลง...เขาก็ไม่ให้ท่านฉายตามโรงเพราะเสื่อมเสียแก่วงการสงฆ์

หนังไทย...ท่านถูกห้ามไม่ให้เห็นนายแพทย์หนุ่มเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงที่เขาชอบพอแล้วเห็นอวัยวะเพศแข็งตัวเป็นลำมองเห็นได้จากนอกกางเกง...เขาเกรงเสื่อมเสียกับศีลธรรมอันดีของผู้ชม (เดาว่าไม่ได้ตัดเพราะเกรงจะเสื่อมเสียแก่วงการแพทย์  เอหรือเกรงจะมีแพทย์มาประท้วงก็มิทราบได้ อิอิ) ทำไมกองเซ็นเซอร์ไม่คิดบ้างว่าผู้สร้างต้องการสื่อว่าคุณหมอที่เรากราบไหว้เวลาไปหาเขาเพื่อให้เขาวินิจฉัยรักษาโรคให้เรา  ความจริงก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนกับเรานี่แหละ  (แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ถูกเอาไปฉายทางโทรทัศน์  จะเบลอฉากนี้  ผมสัญญาว่าจะไม่บ่นครับ เพราะคาดว่าพ่อแม่ที่นั่งดูกับลูกๆคงกระอักกระอ่วนเวลาลูกๆถามว่าอะไรอยู่ในกางเกง)

หนังไทย...ถ้าท่านถ่ายทอดเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจกันในหมู่คณะราษฏร์  เอาแบบมีชื่อเสียงบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ  แล้วท่านทำถึงเลือดถึงเนื้อแบบที่ โอลิเวอร์ สโตน สร้าง JFK ท่านมีโอกาสสูญเงินหลายสิบล้านบาทที่ท่านลงทุนไป  เพราะเขาแบนหนังท่านทั้งเรื่อง  ผมก็มีข้อสงสัยอีกแหละว่า ทำไมสังคมอเมริกันเขาถึงตั้งคำถามกับประวัติศาสตร์จริงจังกันได้  แล้วสังคมไทยเรา  คนไทยเรา  เราเป็นชาติที่อ่อนแอขนาดทนการชำระประวัติศาสตร์ผ่านหนังกันไม่ได้เลยหรือ  เรามียีนส์ด้อยกว่าคนอเมริกันหรือ  ถ้าหากจะมีลูกหลานของคนที่ถูกสร้างภาพในหนังว่าเป็นคนไม่ดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย  ผู้สร้างก็ต้องรับผิดชอบไปขึ้นศาลล่ะครับ  เรามีกฏหมายหมิ่นประมาทประกาศใช้กันอยู่แล้วนี่ครับ  ไปพิสูจน์กันสิ  
แถมตรงหัวข้อนี้นิดนึง  ผมอยากให้มีคนสร้างหนังจากหนังสือเรื่อง "ความฝันของนักอุดมคติ" ของ มรว. นิมิตรมงคล นวรัตน จริงๆ ในนั้นมีเรื่องสั้นชื่อ "ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง" ถ้าท่านได้อ่านท่านจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดของผู้เขียนทว่าหัวเราะอย่างขมขื่นไปพร้อมๆกัน

ขอจบด้วยถ้อยคำที่ไปจำขี้ปากฝรั่งมาหน่อยนะครับ ของ Alfred Whitney Griswold (คนในวัฒนธรรมไทยเขาไม่ค่อยเขียนอะไรแบบนี้กัน)

...In the long run of history, the censor and the inquisitor have always lost. The only sure weapon against bad ideas is better ideas. The source of better ideas is wisdom. The surest path to wisdom is a liberal education.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2009, 12:19:24 AM โดย a lone wolf » บันทึกการเข้า

It's not the years in your life but the life in your years, that counts
a lone wolf
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 290
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2064



« ตอบ #36 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 11:14:35 AM »

 Cheesy
บันทึกการเข้า

It's not the years in your life but the life in your years, that counts
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #37 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 11:45:36 AM »

Cheesy
การแก้ผ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่คนสร้างงานศิลปะเรียกร้องขออิสระที่จะใส่มันไว้ในเรื่องราวของหนัง
เพราะว่าเขาเชื่อว่าวันหนึ่งหากเขาจะต้องใส่ฉากแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  มันจะทำให้เขาถ่ายทอดธีมที่เขาอยากจะถ่ายทอดให้กับโลก  ให้กับคนที่มาเสพงานเขาได้
มันจะทำให้เขาบรรลุเป้าหมายบางอย่าง  ให้คนซาบซึ้งกับกลวิธีการเล่าเรื่อง  หรือเข้าใจ  หรือสามารถถอดรหัสสิ่งที่เขาต้องการสื่อออกไปได้
คนสร้างงานศิลปะเขาจะกลัวอย่างหนึ่งครับ....เขากลัวเชย  กลัวเสี่ยว
การจะยัดฉากคนแก้ผ้าเข้าไปในหนัง  ยัดแบบไม่รู้ว่ายัดเข้าไปทำไม  ยัดแล้วมันไม่ช่วยให้หนังบรรลุถึงธีมรวมที่เขาต้องการสื่อสาร...คนดูเขาก็จะดูแคลนคนสร้างครับ
(อันนี้ไม่เกี่ยวกับหนังลามก  สร้างเพื่อความเสียวถ่ายเดียวนะครับ)
คนสร้างเขาจะอายครับ  เวลาถูกวิจารณ์ว่าสิ่งที่ใส่เข้าไปในหนัง  มันเป็นส่วนเกินเป็นติ่งเป็นหูด
ไม่ต้องส่งหนังไปโกอินเตอร์  ฉายแค่ในเมืองไทย  ก็อายไม่ต่างกัน

เคยอ่านหนังสือเรื่อง จัน ดารา ของประมูล อุณหธูปไหมครับ
เคยมีการสร้างเป็นหนังไทยมาแล้ว
ฉากที่คุณบุญเลื่อง  ขอให้จันเอาน้ำแข็งถูหลังในหนังสือน่ะงามเหลือขนาด
ให้ผมเป็นคนเขียนบทหนัง  แล้วถ่ายทอดฉากนี้เป็นภาพโดยไม่เห็นหลังเปลือยของคุณบุญเลื่อง  ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำได้อย่างไร
จะให้เห็นคุณบุญเลื่องดึงตัวจันเข้ามาหา  แล้วตัดภาพเป็นนอนกอดกันมีผ้าห่มคลุม เพื่อสื่อว่าเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว
คนที่เคยอ่านหนังสือเขาคงด่าผมกันขรม...ผมอาย
แต่ผมจะไม่เขียนให้คุณบุญเลื่องพลิกตัวมาให้เห็นร่างกายด้านหน้าทั้งตัวนะครับ...มันเกินจำเป็น...มันเสี่ยว
กรุณา...อย่าถามว่า...แล้วผมสร้างหนังเรื่องนี้ทำไม...หนังที่มีเรื่องราวอย่างอื่นมีให้ทำอีกตั้งเยอะ
ถ้าถามแบบนี้....ผมเอาตังค์ทำหนังไปเปิดร้านข้าวต้มดีกว่า

จริงๆแล้ว คนทำหนังเขาขอมากกว่าฉากแก้ผ้าครับ

หนังไทย...ถ้าเห็นข้าราชการโกงแล้วตอนจบไม่ถูกตำรวจจับ ทว่าลอยนวลหนีไปได้ไม่ต้องรับผลกรรม...เขาไม่ให้ท่านฉายตามโรงนะครับ

หนังไทย...ท่านมีภาพพระภิกษุหนุ่มนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลง...เขาก็ไม่ให้ท่านฉายตามโรงเพราะเสื่อมเสียแก่วงการสงฆ์

หนังไทย...ท่านถูกห้ามไม่ให้เห็นนายแพทย์หนุ่มเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงที่เขาชอบพอแล้วเห็นอวัยวะเพศแข็งตัวเป็นลำมองเห็นได้จากนอกกางเกง...เขาเกรงเสื่อมเสียกับศีลธรรมอันดีของผู้ชม (เดาว่าไม่ได้ตัดเพราะเกรงจะเสื่อมเสียแก่วงการแพทย์  เอหรือเกรงจะมีแพทย์มาประท้วงก็มิทราบได้ อิอิ) ทำไมกองเซ็นเซอร์ไม่คิดบ้างว่าผู้สร้างต้องการสื่อว่าคุณหมอที่เรากราบไหว้เวลาไปหาเขาเพื่อให้เขาวินิจฉัยรักษาโรคให้เรา  ความจริงก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนกับเรานี่แหละ  (แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ถูกเอาไปฉายทางโทรทัศน์  จะเบลอฉากนี้  ผมสัญญาว่าจะไม่บ่นครับ เพราะคาดว่าพ่อแม่ที่นั่งดูกับลูกๆคงกระอักกระอ่วนเวลาลูกๆถามว่าอะไรอยู่ในกางเกง)

หนังไทย...ถ้าท่านถ่ายทอดเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจกันในหมู่คณะราษฏร์  เอาแบบมีชื่อเสียงบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ  แล้วท่านทำถึงเลือดถึงเนื้อแบบที่ โอลิเวอร์ สโตน สร้าง JFK ท่านมีโอกาสสูญเงินหลายสิบล้านบาทที่ท่านลงทุนไป  เพราะเขาแบนหนังท่านทั้งเรื่อง  ผมก็มีข้อสงสัยอีกแหละว่า ทำไมสังคมอเมริกันเขาถึงตั้งคำถามกับประวัติศาสตร์จริงจังกันได้  แล้วสังคมไทยเรา  คนไทยเรา  เราเป็นชาติที่อ่อนแอขนาดทนการชำระประวัติศาสตร์ผ่านหนังกันไม่ได้เลยหรือ  เรามียีนส์ด้อยกว่าคนอเมริกันหรือ  ถ้าหากจะมีลูกหลานของคนที่ถูกสร้างภาพในหนังว่าเป็นคนไม่ดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย  ผู้สร้างก็ต้องรับผิดชอบไปขึ้นศาลล่ะครับ  เรามีกฏหมายหมิ่นประมาทประกาศใช้กันอยู่แล้วนี่ครับ  ไปพิสูจน์กันสิ  
แถมตรงหัวข้อนี้นิดนึง  ผมอยากให้มีคนสร้างหนังจากหนังสือเรื่อง "ความฝันของนักอุดมคติ" ของ มรว. นิมิตรมงคล นวรัตน จริงๆ ในนั้นมีเรื่องสั้นชื่อ "ชีวิตแห่งการกบฏสองครั้ง" ถ้าท่านได้อ่านท่านจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดของผู้เขียนทว่าหัวเราะอย่างขมขื่นไปพร้อมๆกัน

ขอจบด้วยถ้อยคำที่ไปจำขี้ปากฝรั่งมาหน่อยนะครับ ของ Alfred Whitney Griswold (คนในวัฒนธรรมไทยเขาไม่ค่อยเขียนอะไรแบบนี้กัน)

...In the long run of history, the censor and the inquisitor have always lost. The only sure weapon against bad ideas is better ideas. The source of better ideas is wisdom. The surest path to wisdom is a liberal education.



ถูกใจครับพี่ .... บวกให้แล้ว 1 ... บ่าย ๆ จะบวกให้อีก 1 ... และตอนเย็น ถ้าไม่ลืมจะกลับมาบวกให้อีก 1 Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #38 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 03:24:57 PM »

+ ให้ท่าน a lone wolf  และ mchaivis  คนละ 1 แต้ม...  กระจ่าง ชัดเจน........  เยี่ยม
 
 
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #39 เมื่อ: มีนาคม 11, 2009, 09:23:36 PM »

ในขณะที่ ผู้เลี้ยงโคนม ต้องเอาน้ำนมมาเททิ้ง.....
ประชาชนเดือดร้อนรายได้น้อย  ....
ชาวบ้าน   ข้าราชการ  โดนฆ่า เหมือนผักปลา,,,
ผู้สร้างหนัง ต้องการความอิสระ  เปิดโลกทัศน์  เสนอมุมมอง  ให่มๆ  ตีแผ่ให้เห็นปัญาหาของ สังคม (ชาวนา จ่ายเงิน มาดูหนัง แล้วกลับไป ปฎิรุป  วิถีชีวิตของตัวเอง ไม่มีหนี้สิน ได้หรือครับ)
...สมัยหนึ่ง  หนังเรื่อง  เสียดาย สิบปีที่แล้ว  อ่านบท วิจารณ์  ท่านว่า เป็นการกล้านำเสนอ เอาปัญหาสังคมมาตี่แผ่ ให้สังคมรับทราบ แล้ว วันนี้ สังคม มันดีขึ้นใหมครับ,,
  ผู้สร้างหนังส่วนใหญ่ มีการศึกษา อยูในสังคม ชั้นสูง  ท่านเลี่ยงไปทำหนังแนวอื่น  เลี้ยงท้องไปก่อน  ได้ใหม
 ในขณะเดียวกัน  ผมเองและข้าราชการ ใน 3 จว.  ก็หาวิธีการ เอาตัวไห้รอด เลี้ยง ลูกเมียไปก่อน เช๋นเดียวกัน
อยากเห็นแนวคิด และมุมมองของท่านเจ้าของกระทู้ ในด้านแก้ไขปัญหาด้วยครับ ว่าควรทำอย่างไร
บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 22 คำสั่ง