อยากรู้จังเลยว่าร้านปืนที่เข้าร่วมโครงการสนสก.
ช่วงที่มีการประกาศ พรบ. ความมั่นคง
มีต้นทุน (หรือค่าใช้จ่าย) ที่ต้องแบกรับต่อวันกันเท่าไร
ท่านใดทราบบ้างไหมครับ
ดูรวมทั้งการเข้าโครงการ และการขายหน้าร้านด้วยดีกว่าครับ
เข้าโครงการ รับจอง สั่งปืน จ่ายค่าปืนให้ฝรั่งแล้วแต่บริษัท ตอนส่งออก หรือตอนได้รับของ ฯลฯ ลูกค้าโอนเงิน หรือผ่อนเข้าบัญชี สน.สก. ลูกค้ารับปืนจำนวนหนึ่ง มักจะเกือยหมดชุด (ล๊อตการสั่ง) แล้วทางร้านถึงทำเรื่องขอเบิกเงิน
ตามปรกติลูกค้าก็ไม่ได้มารับปืนทันทีที่จ่ายได้ทุกคนอยู่แล้ว เมื่อรับปืนไม่ได้ช่วงหนึ่ง พอเปิดรับได้มักมาพร้อมกันมากๆ รวมแล้วอาจช้ากว่าปรกติแต่ก็มีการคำนวนดอกเบี้ยส่วนนี้ไว้แล้ว เพราะธรรมดาก็อาจมีการช้าในขั้นตอนการสั่งการส่ง การออกของ การเข้าคิวตอกเลข (บางครั้งรอหลายอาทิตย์) ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เหมือนกัน
ขายหน้าร้าน
จำนวน ป.3 มีแน่นอน แต่ละร้านขายได้ตามของที่มีและการตลาด อย่างไรก็ตามเสียค่าดอกเบี้ยถ้าขายได้ช้า
สรุปว่าคำนวนรายวันยากแล้วแต่ขนาดธุรกิจ และจังหวะการเงิน
ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ ฟังดูแล้วก็เหมือนธุรกิจทั่วไป ที่ต้องหมุนเงินให้เร็ว ทำกำไรให้มาก
ต่างกันที่ร้านปืนที่ทำสวัสดิการ น่าจะเป็นการหาเงินเข้าประเป๋าแบบครบวงจร
นักธุรกิจ+นักการเมือง+ข้าราชการ ช่วยกันดูดทรัพย์คนอยากได้ปืนเข้ากระเป๋า
เมื่อความต้องการมากกว่าของมีขาย ทำอย่างไรคนขายก็ไม่จน ปิดหลาย ๆวันคงบวกกำไรเอาตอนเปิด
อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าร้านอาจไม่สบายใจที่จะขายปืนในสถานการณ์แบบนี้ถึงแม้ไม่มี พรบ. ด้วยซ้ำ ม๊อบถ่อยพวกนี้ขนาด สห. ยังแย่งปืนเลย เป็นชาวบ้านแบกปืนกลับบ้านไม่แย่หรือครับ?
ขึ้นชื่อว่าม้อบ...มีถ่อยทั้งเหลืองและแดง แต่ที่ถ่อยกว่า..น่าจะเป็นคนพกปืนเข้าสภานะครับ