เสริมนิด หากคิดจะมีปืนกระบอกเดียว ปืนมีจมูกเวลายิงกลางคืน จะเปิดเผยที่ตั้งของคนยิงเนื่องจากไฟที่พ่นออกทางจมูก อาจโดนยิงสวนมาทางทิศทางที่ยิงได้ ซึ่งการใช้ปืนป้องกันตัว ส่วนใหญ่ยิงกลางคืนมากกว่ากลางวันครับ ดังนั้นการมีปืนกระบอกเดียว ควรคิดดูให้ดีก่อน แต่หากท่านมีปืนอื่นที่ใช้ป้องกันตัวอยู่แล้ว ปืนมีจมูกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว ด้วยคุณสมบัติ ยิงซ้ำได้ไว สวยงาม
อ้อลืมบอกไป ปืนมีจมูกนอกจากล้างยากกว่าแล้ว มันยังพ่นเศษหัวกระสุน(เล็กน้อย)พร้อมไฟออกทางจมูก ซึ่งบางครั้งสะเก็ดเล็กๆของหัวกระสุนอาจกระเด็นมาโดนหน้าคนยิงได้ ควรใส่แว่นตาทุกครั้งที่ยิงปืนมีจมูก
ขอแย้งบางกรณีครับ
ถึงไม่มีจมูก ไฟจากการสันดาปของดินปืนมันก็ออกปากอยู่ดีครับ กระสุนแต่ละยี่ห้อมีไฟดินปืนต่างกันครับ แต่กระสุนขนาด 9 มม. ไฟน้อย กระสุนจริงหลายยี่ห้อที่เคยลองแทบไม่มีไฟออกปากเลย แวบ ๆ ที่ปากนิดเดียว ที่มีไฟเยอะกลายเป็นกระสุนซ้อม ไฟออกลูกเท่ากำปั้น
หากต้องใช้ปืนเพื่อป้องกันตัว ความเป็นจริงแล้ว เมื่อต้องใช้ "ป้องกันตัว" คือผู้ปองร้ายรู้ตำแหน่งเราอยู่แล้วครับ ถ้าผู้ปองร้ายไม่รู้ตำแหน่ง ผมเลือกที่จะหลบดีกว่า และส่วนใหญ่แค่มันได้ยินเสียงปืนโต้ไปหรือรู้ว่าเราสามารถสู้ได้มันก็ฉากหนีแล้ว เพราะมันก็กลัวเจ็บกลัวตายเหมือนกัน นอกจากมันบ้าเลือด
เห็นด้วยครับ เราไม่ใช่ไปรบนะครับ ที่ จะต้องมีปลอกลดแสง แบบปืนเอชเค หรือ เอ็ม 16 ที่ต้องลดแสงไฟจากปากกระบอกปืนเวลารบกลางคืน ที่จะต้องกลัวข้าศึก พวกสวนกลับมาด้วย RPG หรือ เอา ปรส. ยิงอัด ไปตรงจุดจากไฟปากกระบอกปืน นั้น
*****ปืนพก ซัดกัน ที่ระยะ ไม่เกิน 25 ม. หรอกครับ 15 ม. เอ้าให้ใกล้มาอีกนิด ****
โดยส่วนตัวแล้วมี G 19 C อยู่ 1 กระบอกครับ ที่เอามาไม่ใช่อะไรหรอกครับ ตอนนั้น ราคาสวัสดิการมันถูกดี 36,000 บ. ตัดสดรับของเลย เลือกได้ด้วย เลยเอากระบอกเลขสวยมา ตอนนั้น G 19 ธรรมดาหมด ที่แรกก็งงครับ ว่าเจาะพอร์ทมาทำไม เกิดมาไม่เคยยิงปืนเจาะพอร์ท เหมือนกัน ทีแรกก็กังวลจนประสาทเหมือนกัน สุดท้ายจะรู้ได้ยังไงต้องลองครับ
1) ****กลัวตาพร่าเวลายิงกลางคืน ***** ผมลองเลยครับ ปิดไฟในห้องนอนให้มืดหมด แต่พอมีแสงรางๆ จากข้างนอกเข้ามาบ้าง (เพราะถ้ามืดมิด 100% มองไรไม่เห็นเลยคงไม่มีใครมานั่งยิงกันมั้งครับ) ยิงเลยครับ ลูกจริง WIN 115 เกรน FMJ รัวติด 5 นัดซ้อน อ้อ ห้องมีกระสอบทรายกันอย่างดีครับ และห้องเก็บเสียงผลครับ มีไฟแลบจาก รู 2 รูของพอร์ท ขึ้นมาประมาณ 1 ซม. (ประมาณ) เท่านั้น ไฟแลบจากปากกระบอกปืนไม่เห็น หรือถึงมีคงน้อยมากๆ ---------ตาพร่าไหม-------- ไม่พร่านะ แต่ตาจะจำไฟที่แลบมานิดนึง (หลักวิทยาศาสตร์เรื่องการจำแสง ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน) เอาแบบลูกทุ่ง ต่อ นะ แต่ยืนยันว่าตาไม่พร่าแบบโดนแสงแฟลชกล้อง หรือ ไฟหน้ารถส่องตาหรอกครับ
2) กลัว เขม่า ไอร้อน พุ่งใส่หน้า เวลายิง ระดับสะโพก ลองเลยครับ อันนี้ลองกลางวันครับ ยิงแล้วเอามือชาวบ้านมาอังตรงรู ตรง รูระบายแก็ส จะลองกับหน้า กับตา ตัวเอง ก็ กลัว เหลือเกิน เลยขอร้องเพื่อนรักมายืมขอมือเธอหน่อย ลูกกระสุนแบบเดียวกับ ข้อ 1 ผลเหรอครับ มีไอร้อนออกมาโดนมือจริงๆ แต่ไม่ถึงกับลวกนะ แต่ถ้าระยะเกิน 1 ฝ่ามืออกมาแล้วไอร้อนลดมาเกือบหมดแล้ว สรุป จะลวกหน้าลวกตา ต้องจ่อใกล้กับหน้าจริงๆ ระยะไม่เกิน 1 ศอก
ส่วน ถ้าลูกซ้อม รุ่นนี้ไม่แนะนำเลยครับ เพราะ เขม่า และเศษอะไรๆ จะออกมาตามรู กระเด็นเข้าหน้าเข้าตาได้
3) ทำความสะอาดยากจริงๆ ใช่ครับ ตรงรูพอร์ท ตรงสไลด์นะ จะมีคราบดำต้องคอยขัดคอยเช็ดตลอด แต่ถ้าใช้ลูกจริงจะมีแค่รอยไหม้ให้เช็ด เขม่าจะน้อย
4) ลดแรงสะบัดได้ไหม ไม่ทราบครับ เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แยกความรู้สึกไม่ออกด้วยครับ ยิงซ้ำแบบดับเบิ้ลแทรป นัดที่สองก็ปลิวหายไปไหนไม่รู้
อ้อ ผม นานๆจะมาออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องปืน ซะทีเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผิดพลาดยังไง ก็ ถือว่าผมมั่วนะครับ แค่เอามาเล่าสู่กันฟัง
