"ม่วนซื่นโฮแซวพูบ่าวแนวเมืองขอนแก่น"

ข่าวออนไลน์ แถวบ้านน้องกล้วยเด้นิ

โดย บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 8:55:00 วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2552

พระใจเหี้ยมร่วมสีกาโหด ลวงฆ่าทิ้งผัว

รวบพระโหดสมคบกิ๊กสาวลวงฆ่าเผานั่งยางผัวรักหนุ่มขอนแก่น หลังแอบตีท้ายครัว ออกอุบายซ้อนท้ายรถ จยย.ให้ไปส่งที่ปักกลด ก่อนลงมือลั่นไกฆ่าอย่างเลือดเย็น และราดน้ำมันเบนซินเผาอำพรางคดี แล้วกลับใส่ผ้าเหลืองกบดานจำวัดที่สกลนคร

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.52 พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รักษาการ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.อิทธิพล สุวรรณวัฒนะ ผกก.สภ.พระยืน จ.ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายเทวา ฉิมมาลี หรืออดีตพระอาจารย์เทวา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 12 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และนางดวงเดือน กองโคตร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 4 ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน ขฉพ 709 ขอนแก่น กลดพระ และจดหมายรักระหว่างพระเทวาและนางดวงเดือน 1 ฉบับ

ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระยืน ร่วมกับ กก.1 สส.ภ.4 สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุม ในคดีฆ่านายนพวรรณ กองโคตรจร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 4 ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ด้วยอาวุธปืนจนเสียชีวิต และนำมาเผานั่งยางเพื่ออำพรางคดีกลางป่าอ้อยใน อ.พระยืน เหตุเกิดเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

พล.ต.ต.สันติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการไปยังชุดสืบสวนสอบสวน สภ.พระยืน และ สส.ภ.4 ในการลงพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดี โดยตัดประเด็นทางการเมืองออกไป เพราะที่เกิดเหตุพบศพผู้ตายสวมใส่เสื้อสีแดง แต่ก็พบรถจักรยานยนต์ถูกเผาห่างจากจุดพบศพประมาณ 30 กม. ในเขต อ.มัญจาคีรี จึงได้สอบปากคำพยานจนได้หลักฐานที่สำคัญและจับกุมได้ทั้งหมด โดยสาเหตุเกิดจากเมื่อปลายปี 2551 นายเทวา หรือพระเทวา ในขณะนั้นได้มาบวชและจำพรรษาที่บ้านหนองฮี หมู่ 4 ต.ดอนช้าง และได้มาแอบรักใคร่ชอบพอกับนางดวงเดือน ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย โดยนายเทวาพยายามที่จะตีสนิทด้วยวิธีการต่างๆ จนกระทั่งมาบอกกับนางดวงเดือนว่า ฝันว่าได้ให้สร้อยคอกับนางดวงเดือน ซึ่งแปลความหมายว่าจะได้คู่ครองและสามีจะเสียชีวิตเมื่ออายุประมาณ 37 ปี และจะได้สามีใหม่ชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร “ท” จากนั้นทั้ง 2 จึงแอบคบหากันเชิงชู้สาวเรื่อยมา จนได้เสียกันภายในกุฏิพระใน จ.ขอนแก่น หลายครั้ง จนกระทั่งช่วงออกพรรษาที่ผ่านมาพระเทวาจึงได้กลับไปจำพรรษาที่บ้านเกิด จ.อุทัยธานี และส่งจดหมายบรรยายถึงความรักและความรู้สึกที่มีระหว่างกันและกัน นางดวงเดือนจึงเก็บไว้ดูต่างหน้า และติดต่อกันเรื่อยมา และได้เดินทางไปพบกันที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี หลายครั้ง จนกระทั่งได้ออกอุบายวางแผนฆ่าสามีของนางดวงเดือน

“นายเทวาได้นำเงินที่ญาติโยมมาถวายเป็นปัจจัยไปซื้ออาวุธปืนไทยประดิษฐ์มาจาก จ.อุดรธานี ในราคา 5,000 บาท ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางมาจากวัดบ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เพื่อมาหานางดวงเดือน ก่อนที่จะเปลี่ยนเครื่องนุ่งห่มจากจีวรพระมาเป็นฆราวาสที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะใช้อุบายโทรศัพท์ลวงนายนพวรรณ ผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นช่างไม้อยู่ร้านเหรียญไทยวัสดุก่อสร้าง ให้ออกมาที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะให้ดูไม้และตัดนำไปใช้ก่อสร้างกระท่อมริมน้ำในไร่อ้อย ก่อนที่จะซ้อนท้ายกันไปในจุดที่เกิดเหตุ ก่อนจะสบจังหวะให้จอดรถและใช้อาวุธปืนจ่อยิงด้านหลังนายนพวรรณจนตาย ก่อนจะใช้น้ำมันเบนซินและยางรถยนต์ที่เตรียมมาเผาเพื่ออำพรางคดี และขับรถจักรยายนต์ของผู้ตายเพื่อหลบหนีไปในเส้นทางมัญจาคีรี-ชัยภูมิ แต่รถน้ำมันหมดจึงได้เผารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวก่อนจะหวนกลับมาสวมใส่จีวรเป็นพระสงฆ์อีกครั้ง และนั่งรถโดยสารหลบหนีไปที่ จ.ชัยภูมิ 2 วัน หลังก่อเหตุ และไปขอจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัย หมู่ 1 ต.ขัวก่าย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว”

พล.ต.ต.สันติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายเทวาอดีตเคยทำงานเป็นลูกจ้างอาสาพิทักษ์ป่าห้วยขาแข้ง และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 5 ปี ก่อนที่จะมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่ที่ จ.อุทัยธานี ก่อนเกิดเหตุได้มาขอจำพรรษาที่ จ.ขอนแก่น จนรักใคร่ชอบพอกับนางดวงเดือน จึงวางแผนร่วมกันลงมือฆ่าสามีของนางดวงเดือน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

	ผู้เขียน	หัวข้อ: "ม่วนซื่นโฮแซวพูบ่าวแนวเมืองขอนแก่น" (อ่าน 711071 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้