เห็นไหม อาจารย์ผมพูดยังไม่ทันขาดคำ
แมท การบินไทยก็มีคนเอากระป๋องจิกแป้นจับเวลา
บางท่านอาจยังไม่ทราบวิธ๊การ จิก นี้
โดยปกติการแข่งสปีด เมื่อก่อนกรรมการเป็นคนกดโปรทามเมอร์ให้สัญญาณเริ่มยิง
แต่มีบางคนพยายามชักปืนจากท่าเริ่ม ให้พร้อมกับเสียงสัญญาณ
ซึ่งทำให้เกิดการได้เปรียบกัน (บางท่านอาจเห็นว่าเล็กน้อย แต่ผมจะพูดตอนท้าย)
จึงมีการคิดแป้นจับเวลา เพื่อป้องกันปัญหาที่ว่า (กรรมการก็พยายามจะให้นักกีฬาแข่งขันกัน
อย่างศักดิ์ ได้ถ้วยอย่างภาคภูมิใจ) แป้นที่ว่านี้ทำงานโดยให้นักกีฬากดแป้นค้างไว้ (อาจเมือมือกดกรณี มือโปร เมื่อมือทั่วไปใช้ปาก
กรบอกปืนกด) เมื่อตัวเองพร้อมปล่อยมือชักปืน หรือยกปืนขึ้นทำการยิง
ซึ่งวิธีการการนี้ก็น่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ แต่ปัจจุบัน ศรีทนนชัย 2009 ได้คิดวิธี
การเอาชนะคู่แข่ง โดยการจิกแป้นครับ วิธีการ start เหมือนปกติ แต่ในขณะที่ยกมือจะแป้นแทนที่จะชักปืน
กลับจิกมือลงไปที่แป้น เพื่อเซ็ตเวลาใหม่ (คิดได้ยังไง) ผมและเพื่อนนีกกีฬาท่านอื่น ได้ลอง
ทำดูแล้วลดเวลาลงได้ 0.4-0.5 วินาที่
แต่กรรมการก็ยังไม่ละความพยายาม ระยะหลังอย่างแมทการบินไทย ก็ได้ออกกฏใหม่
โดยให้เอากระป๋อง วางบนแป้น โดยให้หยิมกระป๋องทิ้งก่อน แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาของ ศรีทนนชัย 2009
เพราะ พ่อคนเก่งของเราก็หยิบประป๋องขึ้นมาเหมือนท่านอื่น จะก็ไม่วายกระแทกก้นกระป๋องเพื่อเซ็ต เวลา
ซึ่งงานนี้กรรมการถึงกับออกปากเตือน
ผมว่าการที่คนอืนจะยกย่องว่าเราเก่งนั้น ให้เขายกย่องที่ฝีมือดีกว่าครับ
ไม่ใช่การมาตีความกฏระเบียบ เอาเปรียบคนอื่น
ตำแหน่งแชมป์ เป็นเหมือนสมบัติผลัดกันชมครับ มิตรภาพนั้นยั่งยืนกว่าครับ
ผมอยากเห็นสังคม สปีด น่าอยู่กว่านี้
ควรทำใจให้เป็นกลาง แล้วยึดหลักความจริง อย่าทำร้ายคนอื่น ด้วยความเท็จ ส่อเสียดไม่สุภาพ
กระทู้นี้ผมติดตามมามีแต่ความรู้ดีอยู่แล้ว อย่าป่วนครับ
แมทช์การบินไทยนี้คนแน่น คนดูกันเพียบ ผมก็ไปดูทั้งสองวัน กรรมการเขาไม่เห็นเตือนใคร อย่างที่บอกนี่ครับ
แล้ววิธีการที่บอกมามันทำให้เร็วขึ้นได้ยังไง
ทั้งกรรมการ ที่ปรึกษา พี่โอ่ง ท่าตะเกียบ ก็อยู่ควบคุมการแข่งขัน แล้วยังคนดูอื่นอีกตั้งมากมาย พวกเราไร้สติ ไม่มีเกียรติน่าเชื่อถือหรือครับ คนอื่นเขาดูเกมไม่เป็นหรือครับ
ที่ผมได้เล่าไปทั้งหมด ไม่ได้คิดด่าใครเลยครับ เพียงต้องนำเสนอขอเท็จจริง ท่านนั้ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมพูดก็ไม่น่า
จะเดือดร้อนอะไร แล้วถึงผมไม่ได้ไปชมการแข่งขัน ผมเองก็ได้รับการบอกเล่าซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ พี่โอ่ง ท่าตะเกียบ
ที่ท่านพูดถึงนั้นเอง และการที่พี่โอ่งจะเตือนนักกีฬาซักคน ผมว่าแก่มีมารยาทพอที่จะไม่เตือนโดยที่ให้ใครรู้ เพื่อเป็นการรักษา
น้ำใจกัน ส่วนคนดูหรือนักกีฬาท่านอื่นที่ชมการแช่งขันนั้น โดยเฉพาะในกลุ่ม สปีด แล้วซึ่งผมรู้จักแทบทุกท่าน ผมเชื่อว่าไม่มีคนโวยหรอก
ของแบบนี้มันอยู่ที่ ความเป็นนักกีฬา
แล้วที่สำคัญผมไม่ได้มาด่าใครลับหลัง แต่ผมมาแฉเบื้องหลังต่างหาก