เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 10:41:07 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 557 558 559 [560] 561 562 563 ... 751
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมืองเเปะบุรีรัมย์  (อ่าน 935244 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
au.5000@รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1123



« ตอบ #8385 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 12:08:26 PM »

ป.กับ นาย ก. ยี๊

มึนตึบ... เดาบ่เถิกดอก... ตกใจ ตกใจ
บันทึกการเข้า

au.5000@รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1123



« ตอบ #8386 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 01:19:24 PM »

น้าเสกไปไสหนอ  ซิชวนลองอุ๊หน่อย


Thanks: Ro  ฝากรูป
บันทึกการเข้า

หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #8387 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 01:35:02 PM »

ปลัดกับนายก ครับ
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
au.5000@รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1123



« ตอบ #8388 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 01:54:26 PM »

ปลัดกับนายก ครับ

อยู่ห่าง ๆ เลยน้าเสก

จับนมแหม่มไปพลาง ๆ ก่อนให้ใจเย็น ๆ
บันทึกการเข้า

หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #8389 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 01:56:10 PM »

ไพ่หยังมามึนแท้ ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
พ่อบักเขตต์...รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1019



« ตอบ #8390 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 02:15:13 PM »

ปลัดกับนายก ครับ

  เดาได้ดี  แม่นปานตาเห็น  อิอิอิอิ 
บันทึกการเข้า

ฮักลูกฮักเมีย.....เหลือใจกิ๊ก ผู้อื่น..........


Uploaded with ImageShack.us
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #8391 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 02:23:27 PM »

บ่ถืกปลัดกับนายกกะเหมิดท่อนั่นหละ  เปี๋ยงบ่ผูกเสี่ยวกับเขาโลด
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
au.5000@รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1123



« ตอบ #8392 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 03:59:53 PM »

อ้างอิงมาจากที่นี้ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=528236

ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ บันทึกท่องนรกภูมิ  ซึ่งในท้ายของหนังสือมีบันทึก คำสารภาพนักโทษประหาร  อ่านแล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง  ได้ให้แง่คิดที่เป็นอุทาหรณ์ แก่ตนเองและผู้คนในสังคม  จึงได้มอบหมายให้ผู้มีจิตอาสาช่วยพิมพ์มาเผยแพร่ให้ได้อ่านเป็นธรรมทาน สมดังเจตนารมณ์ของผู้เขียนบันทึกฉบับนี้ และขอขอบคุณสำหรับผู้ที่สละเวลาพิมพ์บันทึกฉบับนี้ให้ เพื่อให้เราได้อ่านกัน  ขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย   และขอให้บุญกุศลที่เกิดขึ้นสำหรับผู้อ่านทุกท่าน ส่งมอบบุญให้กับผู้เขียนคำสารภาพท่านนี้ด้วย อนุโมทนาสาธุ

 

ผมเป็นนักโทษประหารที่ได้ผ่านการตัดสินถึงที่สุดของศาลฎีกาแล้ว  ผมมีความรู้สึกอย่างรุนแรงว่า เช้าตรู่ของวันนี้ ผมกับเพื่อนคู่หูที่ต้องโทษประหารด้วยกันจะต้องถูกนำไปแดนประหาร ด้วยลูกกระสุน 3 นัด จะปิดบัญชีอันโสมมโสโครกของผมลง

      ผมเคยร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งเข้าออกในดงมีด ดงกระสุนไม่รู้ว่ากี่ครั้งมาแล้ว ผมไม่เคยนึกกลัวตาย และไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้จะมีค่างวดอะไร หากแต่ในขณะนี้ กำลังเผชิญหน้ากับมัจจุราช ความกลัวต่างได้ผุดขึ้นจากหัวใจฉับพลัน

      ผมเริ่มหวงแหนชีวิตขึ้นมา  ผมอยากอยู่ในโลกนี้ต่อไปเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นสามีที่ดีของภรรยาและเป็นพ่อที่ดีของลูก แต่อนิจจา ทุกสิ่งทุกอย่างสายเสียแล้ว

      เมื่อไม่นานมานี้  เพื่อร่วมแก๊งของผมถูกจับ ความฝันที่จะยึดชีวิตอีกต่อไปได้ทลายลง  ผมกับเพื่อนถูกพิพากษาโดยด่วน เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์  ช่วงเวลาสั้นๆ ได้ผ่านคำพิพากษาทั้ง 3 ศาล

      นับตั้งแต่คำพิพากษาให้ประหารชีวิตของศาลต้น  ผมเริ่มหมดหวัง เริ่มหมดอาลัยตายอยาก มัจจุราชได้กระชับเข้ามาทุกที เมื่อมานึกถึงวันที่ถูกนำตัวไปแดนประหาร จิตใจฝ่อเหี่ยวทันที นอนไม่หลับทุกคืน

      ผมสำนึกผิด  ผมเจ็บใจตัวเองที่ได้กระทำลงไป  แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็สายเกินแก้เสียแล้ว ผมเสียใจ ผมร้องไห้...

      ผมเริ่มเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม  เชื่อเรื่องวิญญาณ ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือธรรมะที่คุมขัง  โดยเฉพาะหนังสือ “บันทึกท่องนรกภูมิ”

      ผมเริ่มเข้าใจ ความตายไม่ได้หมายความว่าจะจบสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง วิญญาณของเราจะไปรับโทษต่อในขุมนรกตามวิบากกรรมที่ได้ก่อไว้เมื่อยังมีชีวิต

      กระทะทองแดง นรกน้ำแข็ง นรกควักลูกตา นรกเฉือนใบหน้า นรกแขวนห้อยหัว ฯลฯ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

      ไม่รู้ต้องทนทุกข์ทรมานเท่าไหร่  แล้วไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน  ถูกเขาเชือด ถูกเขาฆ่า  ถูกเขาสับ ไม่รู้อีกกี่ชาติจึงไปเกิดเป็นคนยากไร้ แล้วอีกนานเท่าไหร่ จึงได้ไปเกิดในครอบครัวที่มั่งมีอย่างชาตินี้

      เสียดายไม่รู้จักทะนุถนอมชีวิตไว้  ไม่รู้จักต่อบุญสร้างบารมีให้มากขึ้น  ทั้งๆ ที่โอกาสอำนายให้

      เมื่อวานนี้ ภรรยาพาลูกชายมาเยี่ยม  เป็นการพบหน้ากันครั้งสุดท้าย

      15 นาทีที่พบหน้ากัน ช่างมีค่าเหลือเกิน

      ทำไมตอนที่เราอยู่ด้วยกัน  ผมไม่เคยเห็นคุณค่าการอยู่ร่วมกันของพ่อแม่ลูก เราบัดซบจริงๆ

      เมียมีแต่น้ำตานองหน้า ลูกที่ไร้เดียงสาก็พลอยร้องไห้ไปด้วย  เมื่อเห็นแม่ของแกร้องไห้

      ผมมอบความหวังและอนาคตของลูกไว้กับเธอ  ขอให้เธออบรมลูกให้เป็นคนดี อย่าเอาเยี่ยงอย่างเหมือนกับพ่อของแก

      ผมสงสารเธอ  รักเธอและคิดจะปกป้องเธอ  แต่ทำได้แค่ความฝันเท่านั้น

      ผมมองเธอกับลูกชายจนลับตา  เมื่อเวลาเยี่ยมหมดลง

      ผมทรุดตัวลงกับพื้น  คิดถึงอดีต ผมไม่เคยทำหน้าที่เป็นสามีที่ดีเลย  วันๆ ไม่ดุด่าก็เตะต่อย  ผมเป็นหนี้กรรมภรรยาผมมากเหลือเกิน ผมไม่ใช่คน ผมเป็นสัตว์เดรัจฉาน

      จากหนังสือธรรมะ ผมยอมรับว่าผมกลัวตาย ผมกลัวถูกนำไปลงโทษตามขุมนรกต่างๆ บทลงโทษในขุมนรกเหี้ยมโหดกว่าการลงโทษในเมืองมนุษย์มาก

      ผมอยากไถ่บาป  อยากได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษในเมืองนรกบ้าง

      ผมขอร้องพัสดี ให้โอกาสผมเขียนคำสารภาพบาป เพื่อเป็นการเตือนสติคนที่เห็นผิดเป็นชอบ จะได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี

      บทความนี้นับว่าเป็นงานบุญชิ้นแรกและชิ้นสุดท้ายที่ผมได้อุทิศให้ก่อนที่ผมลาจากโลกนี้ไป

      ผมเป็นบุตรชายคนเดียวที่เกิดในครอบครัวเศรษฐี จึงได้รับการพะเน้าพะนอและถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อมีกิจการหลายอย่าง ไม่มีเวลาให้กับครอบครัว คุณแม่วันๆ ออกไปเล่นไพ่นกกระจอก พ่อแม่ผมให้ผมทุกอย่างหากผมต้องการ นอกจากดาวกับเดือนเท่านั้นที่ไม่สามารถสรรหาได้

      ผมเป็นคนเอาแต่ใจตัวตั้งแต่เด็ก  นิสัยกระด้าง ดื้อดึง มุทะลุ

      ตอนเรียนมัธยม ผมเข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น พ่อแม่ก็ไปประกันตัวทุกครั้ง

      ทุกครั้งที่ประกันตัว  พ่อแม่เพียงดุด่า 2-3 คำ ไม่สามารถแก้นิสัยของผมได้  ตำรวจเจอผมทีไร จะสั่นหัวทุกที

      ผมชอบขี่มอเตอร์ไซด์ ทะลวงท่อไอเสียให้เกิดเสียงดัง ชอบแล่นผ่านในย่านชุมชน ทำความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

      ผมยังคบกับพวกอันธพาล ยกพวกตีกัน ถ้ามีใครมองหน้าหน่อย จะถูกพวกเราซ้อมทันที

             ด้วยความเหี้ยมโหด นักเลง จนได้ฉายาว่า “ไอ้เหี้ยม” และได้รับการยกย่องเป็น “ตั้วเฮีย” ในหมู่นักเลง

      อายุแค่ 25 ปีเท่านั้น คดีแดงในแฟ้มของกรมตำรวจกองเป็นภูเขาเลากา

      การเป็นตั้วเฮียในหมู่นักเลงไม่ใช่เป็นได้ง่ายๆ ต้องใจถึง โดยเฉพาะเรื่องเงิน จึงไปขอเอาจากพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ไม่ให้หรือทำสีหน้าไม่พอใจ ก็จะถูกผมตะโกนด่า นอกจากไปไถจากพ่อแม่แล้ว ยังต้องเที่ยวเก็บค่าคุ้มครอง จึงจะเลี้ยงดูลูกน้องได้

      ถึงตอนนั้นพ่อแม่รู้สึกเสียใจที่ปล่อยปละละเลยไม่ได้สั่งสอนผม

      มีอยู่ครั้งหนึ่ง  ขณะที่กำลังทวงหนี้จากพวกนักพนันและได้ทำร้ายนักพนันคนหนึ่งอย่างสาหัส  จึงต้องหลบหนีจากบ้านไป

      ต่อมาไม่นาน ขณะที่กำลังเล่นพนันอยู่ในบ่อนทางตอนเหนือ ถูกตำรวจตามล่าตัวได้ จึงถูกข้อหาทำร้ายผู้อื่นถูกพิพากษาให้จำคุก 2 ปี

      พ่อแม่เจ็บปวดเหลือทน คอยแต่หวังว่ากฎหมายจะช่วยแก้ไขหรือไม่ก็ทำให้กลับตัวได้ แต่ผมหาได้สำนึกผิดกลับร้ายยิ่งกว่าเก่าเสียอีก

      พ่อแม่หมดหนทาง  จึงกล่อมให้ผมแต่งงานและวางแผนที่จะมอบกิจการให้ผม เพื่อให้รับผิดชอบต่อครอบครัวและหน้าที่การงาน หรือสามารถทำให้ผมกลับเนื้อกลับตัว

      ผ่านการแนะนำของคนอื่น จึงได้แต่งงานกับหญิงสาวของครอบครัวสมถะ ภรรยาผมเป็นกุลสตรีที่สงบเสงี่ยม  แต่ผมเป็นคนสำส่อนจนเคยแล้ว จึงมิได้เห็นเธอในสายตา จึงมักพูดจาหยาบคายต่อเธอ ถ้าเธอเอาใจไม่ดี จะถูกผมด่าหรือไม่ก็เตะต่อย แต่ภรรยาเป็นคนดีมาก กตัญญูต่อพ่อแม่ของผมเป็นอย่างดี เธอไม่ยอมปริปากให้พ่อแม่ผมต้องเสียใจเลยถึงเรื่องระยำของผม

         หลังแต่งงานหนึ่งปี ผมก็เที่ยวรีดไถค่าคุ้มครองจากชาวบ้านอีก ในที่สุดผมก็ถูกจับและถูกจองจำอีก 2 ปี

      การถูกจองจำคราวนี้ทุกข์แสนสาหัสแทบทนไม่ได้

      ขณะถูกจองจำ ภรรยาก็ให้กำเนิดบุตรชาย 1 คน

      พ่อแม่ภรรยาและลูกชายไปรับผมหน้าเรือนจำ  เมื่อผมอยู่ครบ 2 ปี

      คืนนี้หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ภรรยาอุ้มลูกชายคุกเข่าลงต่อหน้าพ่อแม่ของผม เธอร้องไห้ เธอขอร้องผมให้เห็นแก่อนาคตของลูก กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ขอให้ผมคิดถึงพระคุณของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรา คิดถึงความสัมพันธ์ของลูกเมีย

      ผมมองหน้าลูกชาย ช่างน่ารักน่าเอ็นดู ลูกตาใสแป๋วส่อแววว่าเป็นเด็กฉลาดและน่ารัก

      ในใจเกิดความรู้สึกรักลูกขึ้นมาอย่างจับใจจึงรับปากภรรยาว่า จะเป็นคนดีต่อจากนี้ไป  เพราะสิบกว่าปีที่อยู่ในถิ่นนักเลงก็รู้สึกเบื่อๆ  เหมือนกัน

           เมื่อผมรับปากว่าจะทำงานทำการ ภรรยาผมได้ฟังเช่นนั้น เธอก็ยิ้มทั้งน้ำตานองหน้า กล่าวว่าพูดจริงหรือ

      ผมไม่ได้เห็นภรรยายิ้มมานานแล้ว  เพราะหลายปีมานี้ ผมไม่เคยทำสีหน้าดีกับเธอเลยและก็ได้ตีเธอไม่รู้จักกี่ครั้ง  การยิ้มครั้งนี้ ผมได้พบว่าภรรยาเป็นคนน่ารักมาก เมื่อก่อนผมทำไมไม่พบเห็นเลย ความเศร้าหมองบนใบหน้าเธอได้อันตรธานไปหมดสิ้น

      ไม่กี่วันต่อมาพ่อเลยให้ไปช่วยงานในโรงงานของพ่อซึ่งเห็นว่าผมเป็นผู้บริหารไม่ได้  จึงให้เป็นพนักงานระดับกลาง

      เพื่อนร่วมงานรู้ว่า ผมเป็นลูกเถ้าแก่ ต่างก็ให้ความเกรงใจรักใคร่ แต่ก็อย่างว่าแหละ สันดานเปลี่ยนยากด้วยเคยเป็นตั้วเฮียมาก่อน เอาแต่ใจตัวและชอบออกคำสั่ง แต่มาบัดนี้ผมต้องฟังคำสั่งของหัวหน้างาน ผมทนไม่ได้ ผมขู่หัวหน้างานว่า ผมจะให้อันธพาลมาสั่งสอนพวกเขา

      เนื่องด้วยผมเป็นลูกชายของเถ้าแก่  พวกเขาทำอะไรผมไม่ได้ จำต้องลาออกไปทีละคน 2 คน จนหัวหน้างานระดับสูงได้ลาออกไปหมด

      เมื่อโรงงานขาดคนสั่งงาน ระบบงานปั่นป่วนยุ่งเหยิงไปหมด  ความเป็นโรงงานหมดไป

      พ่อกลุ้มใจจนล้มป่วยลง

      ผมเองก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องงานเลย  จึงไม่ยอมไปทำงานต่อไป

      ผมเริ่มกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม   คบหาพวกอันธพาลอีก

    ใบหน้าของภรรยาที่เคยเปล่งปลั่งด้วยรอยยิ้มแค่เดือนเศษเท่านั้น ความเศร้าโศกมัวหมองเริ่มปรากฏให้เห็นอีก

      การล้มป่วยของพ่อได้ยืดเยื้ออยู่หลายเดือน  จึงไม่ได้ไปบริหารงานเลย

      ประจวบกับเศรษฐกิจช่วงนี้ตกต่ำมาก  กิจกรรมของพ่อต้องปิดลงทีละแห่งๆ  จนในที่สุดต้องปิดกิจการทั้งหมด

      เวลาผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง  อะไรที่พอขายได้ก็ขายไป อะไรที่จำนำได้ ก็นำไปจำนำหมด ในที่สุดก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย

      คุณพ่อเจอสภาพอย่างนี้      ด้านจิตใจถูกกระทบกระเทือนมาก ความดันพ่อสูงขึ้นอย่างผิดปกติ และได้จากโลกนี้ไปอย่างระทม

      คุณแม่เจอมรสุมเช่นนี้ก็ล้มป่วยลงอีกคน

      เศรษฐกิจที่เคยได้จากพ่อแม่ได้ขาดสะบั้นลง

          ผมต้องการหาความสุขใส่ตัว เมื่อบ้านไม่สามารถสนองความต้องการของผม ผมเลยหนีออกจากบ้านไป

      เมียอุ้มลูกชายไปฝากคุณยายเลี้ยงดู เธอทำงานด้านฝีมือเย็บปักถักร้อย  เพื่อหาเงินซื้อยารักษาแม่ผม

      เพื่อนบ้านเห็นใจภรรยาผมมาก ต่างยื่นมือให้ความช่วยเหลือ

      ภรรยาไม่อยากรบกวนเพื่อนบ้าน ได้กล่าวขอบคุณความมีน้ำใจของพวกเขา แต่เธอเต็มใจรับภาระทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง

      การเป็นลูกทรพีของผม ชาวบ้านต่างสาปแช่งกัน

      เพื่อรักษาการเป็นตั้วเฮีย     ผมจำต้องหาเงินทุกวิธีทาง

      นอกจากตั้งบ่อนการพนันแล้ว ยังเที่ยวเก็บค่าคุ้มครองทั้งแม่ค้าแผงลอยและตามร้านค้า

      หากมีใครแข็งข้อ ผมจะส่งลูกน้องไปจัดการ     ทำให้พวกเขาเจ็บใจและเกลียดชังผมมาก

      ในที่สุดพวกเขาเหลืออด รวมตัวกันไปร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

      ตำรวจเริ่มสืบสวนความจริงจึงได้ออกหมายสั่งจับ

      ผมอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว  เริ่มระเหเร่ร่อนไปถิ่นอื่น

      ระหว่างที่ผมเร่ร่อนหนีการจับกุมของตำรวจนั้น คุณแม่ผมได้ตายลง

      ผมเป็นลูกอกตัญญู     ไม่เคยรู้ว่าความกตัญญูคืออะไร

         ปกติผมไม่ค่อยสนใจแม่ผมอยู่แล้ว ยิ่งเวลานี้ตำรวจกำลังตามจับ ความคิดที่จะกลับไปกราบไหว้ศพแม่ไม่มีเลย คิดๆ ดูผมระยำสิ้นดี

      ระหว่างการหลบหนี    ผมมักโผล่ตามสถานอบายมุขหลายแห่งในภาคเหนือ ผมห้าวหาญ เหี้ยมโหด

            ผมเริ่มมีชื่อเสียงในหมู่นักเลง ผมมักจะขอเงินจากพวกเขา บางครั้งก็ 30,000 บาท บางครั้งก็ 50,000 บาท

      นานวันเข้า  พวกเขาเห็นผมหากินคนเดียว ไม่มีพรรคพวก พวกเขาเลยไม่เกรงกลัว และตัดผมออกจากวงนักเลงอย่างไม่มีเยื่อใย

      ผมมือเติบ    เคยใช้เงินเป็นเบี้ย เมื่อไม่มีเงินใช้จ่าย จะอยู่ได้อย่างไร

      ผมเริ่มลักเล็กขโมยน้อย    ผมทำงานพร้อมกับเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันในบ่อนไพ่

      พวกเราจะเก็บตัวในเวลากลางวัน  และออกหากินในเวลากลางคืน

      ออกทำงานหลายครั้ง ไม่มีอุปสรรคใดๆ ใจเริ่มเหิมฮึกขึ้น

      ต่อมารู้สึกว่า การลักเล็กขโมยน้อยต้องทำแบบลับๆ ล่อๆ อีกทั้งของที่ขโมยมาก็ยากที่ปล่อยออกไป

      ผมเลยหันมาทางปล้นจี้  คอยดักอยู่ที่หน้าธนาคาร เมื่อเห็นมีคนเบิกเงินสดจำนวนมากออกมา พวกเราจะทำการปล้นจี้

      ทุกครั้งที่ลงมือก็ราบรื่นดี

      หนังสือพิมพ์ต่างลงข่าวโครมคราม  ตำรวจก็เร่งมือตามจับแต่ก็ไม่รู้ว่าคนร้ายคือใคร

      ผมแอบยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

      หกเดือนต่อมา  ผมกับเพื่อนได้แอบเข้าไปในบ้านเศรษฐีหลังหนึ่ง      พอดีในบ้านไม่มีใครอยู่เลย

               พวกเราเก็บกวาดทรัพย์สินเงินทอง และเพชรนิลจินดาจำนวนหนึ่ง จึงได้เอาสุราอย่างดีออกมาหลายขวด นั่งดื่มกันอย่างสำราญใจ

      เมื่อเมาได้ที่     พวกเราก็กำลังจะแบกของที่เก็บกวาดมาออกจากบ้านไป

      ทันใดนั้น เจ้าของบ้านกลับมาพร้อมกับลูกชาย 2 คน เมื่อเจ้าของบ้านเห็นคนแปลกหน้า 2 คน และเห็นข้าวของยุ่งเหยิงกองเต็มพื้น จึงตะโกนร้องให้คนช่วย

      พวกเราพยายามห้ามเธอหยุดร้อง เธอก็ไม่ยอมฟังยังคงร้องต่อไป

      ด้วยความตกใจ  บวกกับมีอาการมึนเมาจึงชักมีดออกมา  ทำท่าจะแทง

      เมื่อเธอเห็นมีดยิ่งร้องเสียงดังมากขึ้น ผมรีบปรี่เข้าไปจ้วงแทงลงไปหนึ่งที

      เธอยังคงตะโกนร้องให้คนช่วย  ผมเลยแทงไม่ยั้งมือ

        ร่างของเธอเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของเธอแสดงถึงความเจ็บปวด ลูกตาถลนค้างและขาดใจในเวลาต่อมา

      ใบหน้าของเธอน่ากลัวมาก  ผมจะไม่มีวันลืมใบหน้านั่นเลย

      พวกเราต้องเตลิดหนีโดยปล่อยเด็ก 2 คนยืนตะลึงกลัวจนตัวสั่น

      มันเป็นคดีปล้นฆ่า เป็นคดีอุกฉกรรจ์ หนังสือพิมพ์ต่างพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง พวกเรารู้ว่า ถ้าถูกจับได้ จะต้องถูกประหารอย่างเดียว เลยตกลงแยกทางกัน หลบซ่อนสักระยะเวลาหนึ่งก่อนค่อยคิดการใหม่

      ช่วงนั้นผมกลุ้มใจมาก    ดื่มเหล้าทุกวัน ใบหน้าอันน่ากลัวของหญิงเจ้าของบ้านติดตาผมตลอดเวลา

      เวลาต่อมา ผมฝันเห็นเธอทุกคืน

        ร่างเต็มไปด้วยเลือด ลูกตาวาวมีแสงสีเขียว หน้าตาดุร้ายยืนอยู่หน้าผม ตะโกนว่า “อ้ายผู้ร้ายฆ่าคน เอาชีวิตข้าคืนมา”        แล้วเธอก็สาวเท้าขยับเข้ามาทุกทีๆ ผมเดินถอยหลังจนถอยติดกำแพง เธอยื่นมือออกมา บีบที่คอผม ผมกลัวสุดขีดจนตื่นขึ้นมา

      ร่างกายยังสั่นระริกๆ  ตลอดเวลา

      ผมไม่กล้านอนอีก

      เธอมาหาผมในฝันเกือบทุกคืน  จนผมเป็นโรคประสาทหลอน

      ยิ่งกว่านั้น  เธอจะปรากฏตัวให้เห็นชัดๆ ไม่ว่าจะอยู่ในห้องน้ำหรือบนเตียง ตลอดในแก้วเหล้าก็เห็นวิญญาณของเธอ

      ผมต้องหลีกหนีการจับกุม จึงจำต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ แต่วิญญาณของเธอไม่เคยเลิกละที่จะติดตามผมตลอดเวลา

      ไม่ว่าผมจะหนีไปที่ไหน ผมจะรู้สึกว่ามีอากาศเย็นๆ  เกาะติดแผ่นหลังผมตลอดเวลา  คล้ายกับว่ามีคนสะกดรอยตามยังไงยังงั้น

      เมื่อหันหลังมองไป ก็ไม่เห็นมีใครเลย     แต่มีเสียงคนเดินอยู่ข้างหลัง

      นอกจากเสียงคนเดินแล้ว   ยังมีเสียงโซ่ตรวนอีกด้วย

      นั่นเป็นเสียงโซ่ตรวนครั้งที่ผมถูกจองจำนี่

      หรือว่ายมทูตจะมาลากตัวผมไป

      ผมยิ่งคิดยิ่งกลัว     โรคประสาทกำเริบอีกแล้ว

      3 เดือนต่อมา  ผมมักพึมพำพูดจาคนเดียว เสื้อผ้าขาดเป็นริ้วๆ หน้าตาสกปรก ดูเหมือนว่าจะคล้ายกับผีเข้าไปทุกที

      วันหนึ่ง  ผมหิวจริงๆ เงินทองในกระเป๋าใช้จนหมดเกลี้ยง  ผมทนหิวไม่ไหว ผมขโมยขนมที่แผงลอย มีคนเห็นเข้า ตะโกนร้องขโมย

      ผมรีบวิ่งเข้าไปในซอย    จู่ๆ ก็หกล้มลง    พลเมืองดีช่วยกันจับส่งสถานีตำรวจ

      คดีเก่าๆ  ของผมเริ่มถูกขุดคุ้ยขึ้นมา

      ตำรวจเค้นเอาความจริงระหว่างที่หลบหนี

      มันคล้ายกับมีพลังอย่างหนึ่งคอยควบคุมผมอยู่  พลังนั้นบังคับผมสารภาพกับตำรวจอย่างหมดเปลือก

      ตำรวจยังตกตะลึง

      เมื่อหลักฐานมัดแน่นตัวผม     ผมถูกส่งเข้าห้องขัง

      คืนนั้นเธอปรากฏตัวอีก ใบหน้าซีดเซียว ลูกตาถลนมีประกายไฟสีเขียว   ร่างเปรอะเปื้อนด้วยเลือด ในมือถือโซ่ตรวนไว้

      เธอตวาดด้วยความโกรธว่า  “ไอ้...ผู้ร้ายฆ่าคน ครั้งนี้แกติดปีกก็หนีไม่พ้นเป็นแน่แท้      ข้าจะคอยแกที่แดนประหาร และขอชีวิตข้าคืนมา” แล้วทำท่าจะพุ่งเข้ามา

      ตอนนั้นขวัญและจิตของผมกระเจิงหมด  ผมคลานไปรอบๆ

       เธอร้องโหยหวน “ไอ้...ผู้ร้ายฆ่าคน ยมบาลคอยเอ็งตั้งนานแล้ว ค่อยเจอกันที่เมืองนรกเถอะ แล้วเอ็งจะรู้สึก”

       เธอชี้ไปที่ตู้หนังสือ เห็นหนังสือบันทึกท่องนรกภูมิโดยที่หน้าปกเป็นรูปของพระอรหันต์กษิติครรภ์วางอยู่

      เธอชี้ให้ผมอ่านเพื่อให้รู้ว่า ผมจะต้องรับโทษสถานใดในขุมนรก

      ผมคุกเข่าร้องขอชีวิต  เธอร้องอย่างโหยหวนแล้วจางหายไป

    ผมยังขวัญหนีดีฝ่ออยู่ ผมคิดในใจว่า วันนี้อยู่ดีๆ ผมก็หกล้มลงไป   เลยโดนจับ นั่นคงเป็นฝีมือของเธออย่างแน่ๆ

      หากเพื่อนร่วมแก๊งยังไม่ถูกจับ       ผมอาจยืดชีวิตออกไปอีกระยะหนึ่งได้ แต่ชะตาชีวิตของผมได้ถูกกำหนดแน่แล้ว       เพราะสามสัปดาห์ต่อมา เพื่อนร่วมแก๊งก็ถูกจับตัวได้ พวกเราถูกพิพากษาอย่างเร่วด่วน จากศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ใช้เวลาอันสั้นนิดก็ผ่านทั้งสามศาล ผลประกาศก็คือ ปล้นจี้และฆ่าคนตาย บทลงโทษมีสถานเดียว คือ ประหารชีวิต

      จิตสังหรณ์ได้บอกผมว่า ผมจะถูกนำไปแดนประหารสำเร็จโทษเช้าตรู่ของวันนี้แล้ว

      ข้างต้นเป็นบทความสารภาพอย่างหมดเปลือกของผม  ผมบรรยายออกมาแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง  ระหว่างอยู่ที่คุมขัง ผมได้อ่านหนังสือธรรมะของศาลเจ้าต่างๆ ที่ส่งมาไว้ในห้องสมุด  โดยเฉพาะหนังสือบันทึกท่องนรกภูมิ ทำให้ผมอ่านแล้วเกิดสะพรึงกลัว  ผมเสียใจอย่างมาก และเป็นครั้งแรกที่ผมสำนึกผิด แต่ก็สายเสียแล้ว

      คำสั่งสอนของหนังสือธรรมะ  ผมซาบซึ้งดี ผมนอกจากได้ทำผิดกฏหมายบ้านเมืองแล้ว  ด้านคุณธรรม ผมขาดความจงรังภักดีต่อประเทศชาติ ผมอกตัญญูขาดการเลี้ยงดูบิดามารดา แถมยังใช้คำพูดหยาบคายดุด่าพ่อแม่ เป็นลูกทรพีที่เลวร้ายที่สุด ไม่เคยทำหน้าที่สามีที่ดีเลย ไม่เพียงไม่เคยให้เงินเธอใช้ ยังด่าเตะเธอบ่อยๆ

      ผมไม่เคยได้เงินบริสุทธิ์มาแม้แต่บาทเดียว  ผมเกียจคร้านเอาแต่เที่ยวเตร่ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

      ผมเป็นคนขาดความจงรักภักดี ขาดความกตัญญู ขาดคุณธรรม เป็นอันธพาล เป็นผู้ร้ายฆ่าคน ตามบทบันทึกของหนังสือบันทึกท่องนรกภูมิ ผมจะต้องถูกนำไปรับโทษในนรกภูเขามีด ลงกระทะทองแดง ถูกถลกหนัง ล้วนแต่เป็นบทลงโทษที่เหี้ยมโหดทั้งสิ้น และยังต้องตกในนรกอเวจีอีก ไม่รู้ต้องทนทุกข์ทรมานนานกี่กัปกี่กัลป์ จึงจะมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถูกคมมีดเชือดเฉือนอีก แล้วจึงมาเกิดเป็นคนยากไร้อับจน หรือเกิดมาเป็นคนทุพพลภาพ

      ผมเสียใจมาก ผมอยากขอยืดเวลาอีกต่อไป  เพื่อผมจะได้ทำบุญสร้างกุศลบ้าง เพื่อชดใช้กรรมที่ผมเคยก่อขึ้น  แต่ชีวิตผมใกล้จะถึงจุดจบแล้ว ใครล่ะจะสามารถช่วยผมได้  ผมสำนึกผิดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร

      คนที่เคยประกอบความชั่วมาตลอด เพิ่งมาสำนึกผิดเมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต ผมเพิ่งตื่นจากความฝัน เมื่อมีชีวิตอยู่ ผมทำไมไม่ทะนุถนอม มันเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง เช่น ชีวิต พ่อแม่ ลูกเมีย ล้วนเป็นของประเสริฐในโลกมนุษย์ทั้งนั้น เมื่อมีโอกาสเกิดเป็นคน ทำไมไม่เป็นคนที่มีคุณภาพ หากพลาดโอกาสเป็นคน และเมื่อไหร่จึงจะได้กลับมาเกิดเป็นคนใหม่อีก เขียนถึงบรรทัดนี้ ผมหมดอาลัยตายอยาก

      ในที่สุดความจริงได้ปรากฏเด่นชัดขึ้น พวกเขามาแล้ว ก่อนจะพาไปแดนประหาร  ทำการตรวจเยี่ยมอีกครั้งเพื่อแน่ใจว่าไม่ผิดตัว  ผมขอร้องพวกเขาขอเวลาผมอีก 5 นาที ขอให้ผมเขียนบทความสารภาพเสร็จก่อน

      ผมอายุเพิ่ง 30 ต้นๆ แต่ได้ทำชั่วมหันต์ ขณะนี้ผมกำลังรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง นกที่จะตาย เสียงร้องของมันยังเศร้าคนที่ใกล้ตายคำพูดของเขาย่อมเป็นธรรมะ

ขอฝากเตือนคนที่คิดชั่ว  คดโกง อันธพาล  พวกขโมย พวกผู้ร้ายฆ่าคนทั้งหลาย  ขอให้พวกคุณยึดผมเป็นบทเรียน รีบๆ กลับตัวเป็นคนดี พวกคุณยังมีโอกาสทำความดี จงอย่าปล่อยโอกาสทองผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ดูผมเป็นตัวอย่าง จะขออยู่เพิ่มอีก 1 นาทีก็ไม่ได้

      ผมมีวันนี้  ก็เพราะกรรรมสนองกรรมนั่นเอง

      พวกเขาเร่งรัดผม ถึงแม้จิตของผมว้าวุ่นไปหมด อยากเขียนอะไรอีกก็ไม่ได้แล้ว

ขอให้ชาวโลกจงเชื่อมั่นเรื่องกฎแห่งกรรม  และหวังว่าผู้ที่ได้อ่านคำสารภาพของผมนี้ถือเป็นบทเรียนที่มีค่ายิ่ง  ถ้ามีใครอ่านบทความนี้แล้วสามารถสำนึกผิดหยุดประกอบความชั่วทันที จะถือเป็นบุญกุศลที่ผมได้สร้างมาบ้าง  และหวังว่ายมบาลอาจลดหย่อนผ่อนโทษให้ผมบ้าง  ซึ่งเป็นความหวังครั้งสุดท้ายของผม
บันทึกการเข้า

หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #8393 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 04:33:18 PM »

 เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
*,,น้องแนน,,*
ซังคนขี่ตั๋ว
Hero Member
*****

คะแนน 129
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1482


ไม่ต้องทำให้ได้..ในทุกอย่างที่พูด.แค่ไม่พูดในสิ่งที่รู้ว่า"ทำไม่ได้ก็พอ"


« ตอบ #8394 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2011, 04:43:03 PM »

 Grin
บันทึกการเข้า

พ่อบักเขตต์...รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 92
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1019



« ตอบ #8395 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2011, 08:44:24 AM »

-ขอบคุณบทความดีๆ  นำมาแบ่งกันอ่านครับ    เตือนสติ ได้ดีครับ
บันทึกการเข้า

ฮักลูกฮักเมีย.....เหลือใจกิ๊ก ผู้อื่น..........


Uploaded with ImageShack.us
au.5000@รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 98
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1123



« ตอบ #8396 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 08:33:02 AM »

 หลงรัก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า

น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #8397 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 09:06:43 AM »

สวัสดีวันจันทร์ครับ...สู้ต่อไป..
บันทึกการเข้า

amnuaichai
Hero Member
*****

คะแนน 154
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1621


อย่าสิ้นหวัง


« ตอบ #8398 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 10:41:10 AM »

สวัสดีคับพี่
บันทึกการเข้า

น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #8399 เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2011, 10:53:14 AM »

ฝนบ่ตก...แล้งทั้งจังหวัด...จะไปร้องเรียนขอทำฝนเทียมที่ไหนครับ...ใครทราบบ้าง ไหว้
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 557 558 559 [560] 561 562 563 ... 751
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 23 คำสั่ง