สวัสดีครับ ส่วนมากผมจะอ่านกระทู้ต่าง ๆ ซะมากกว่า แต่พอดีมีประสบการณ์ "เฉียด" จะได้ใช้ปืน (แต่ยังดีที่คิดได้ เลยไม่ได้ใช้น่ะครับ) ผมก็เลยคิดว่าถ้าทุก ๆ ท่านนำประสบการณ์ "เฉียด" ในลักษณะต่าง ๆ มาเล่าสู่กันฟัง อาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้หลาย ๆ คนได้คิดก่อนที่จะทำอะไรลงไปน่ะครับ
เรื่องของผมมันก็เป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่มันก็อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของทุก ๆ คนครับ เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นตอนเย็น
หลังจากที่ฝ่ารถติดจะไปส่งแฟน ก็พอดีนึกขึ้นได้ว่าต้องซื้อของเข้าบ้านแฟน ผมก็เลยเลี้ยวรถเข้าไปในคาร์ฟูร์เพื่อจะแวะซื้อของ
วันนั้นก็ดันเป็นวันอะไรก็ไม่รู้ หาที่จอดรถได้ยากกกกส์มากกกกกก แต่แล้วผมก็เห็นรถคันนึงจะถอยออกจากช่องจอดรถผมก็เลยเปิดไฟกระพริบเพื่อรอเข้าจอด แต่ทันทีที่รถคันนั้นถอยออกมาก็มีรถกระป๊อ (หรือรถสี่ล้อเล็กรับจ้างที่เรียกว่ารถซูบารุน่ะครับ) แซงมาจาก
ทางด้านหลังของผม แล้วก็เลี้ยวเข้าซองซ้ายมือที่ผมกำลังจะเคลื่อนรถเข้าไปแบบปาดหน้ากันสุด ๆ เลยล่ะครับ ตอนนั้นหงุดหงิดและโมโหมากสุด ๆ เพราะฝ่ารถติดมาอย่างยากลำบากแล้วยังมาเจอเรื่องอย่างนี้อีก ผมก็เลยเปิดประตูแล้วเดินไปคุยกับคนขับรถกระป๊อ ตอนแรกผมก็ถามเค้าดี ๆ ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ เค้าก็ตอบว่าเค้ามองเห็นช่องนี้จะออกตั้งแต่เค้าวนรถอยู่ที่ล็อคถัดไปอีก 2 ล็อค แถมพูดแล้วทำหน้ากวน ๆ เหมือนว่ามีอะไรมั้ยใครดีใครก็ได้ซิ ตอนนั้นสุดทนเลยครับแต่ผมก็ยังลองพูดกับเค้าดี ๆ ว่าผมจอดรถรออยู่ แถมเปิดไฟกระพริบด้วยอย่างน้อยถ้าเห็นก่อนจริงก็ควรจะลงมาบอกกันว่าจองไว้แล้ว ไม่ใช่พอเรากำลังจะเคลื่อนรถเข้าซองก็ปาดหน้ากันเข้าไปอย่างนี้ เค้าก็ทำลอยหน้าลอยตาแบบกวนส้น_น แล้วก็พูดทำนองว่ามีอะไรมั้ยน่ะครับ (เค้าคงเห็นผมหน้าตาตี๋ ๆ
ตัวเล็ก ๆ แต่หน้าเค้าโหดกว่าตามแบบฉบับคนใช้แรงงานน่ะครับ) พอถึงตอนนั้นผมก็เลยฟิวส์ขาด...มือซ้ายดึงชายเสื้อขึ้น......มือขวาจับด้าม แล้วก็ดึงเจ้า Diamond back สุดรักออกมาขึ้นนกดัง " แกร๊ก " เท่านั้นเองครับคนขับรถที่ทำลอยหน้าลอยตาหาเรื่องผมอยู่นั้นก็หน้าถอดสี แล้วก็เงียบครับ เงียบอย่างเดียวเลยครับไม่พูดอะไรอีกเลย ผมก็เลยถามไปดี ๆ อีกทีว่า "ครั้งหน้าถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีกจะลงมาบอกอีกฝ่ายดี ๆ ได้มั้ย ไม่ใช่ขับปาดหน้ากันอย่างหยามสุด ๆ อย่างนี้" เชื่อมั้ยครับว่าเค้าตอบคำเดียวว่า " ได้ครับ " สมองผมตอนนั้นก็คิดในใจว่าไม่น่าทำเลยเรา รู้ก็รู้อยู่ว่ามีปืนถ้าจะชักออกมาก็หมายถึงต้องยิง ไม่งั้นถ้าเค้ามีปืนเราก็มีปืนคงเกิดเหตุการณ์น่าสลดใจ และเสื่อมเสียวงการปืนอีกแน่ ๆ (ต้องขอบคุณคำแนะนำที่พี่ ๆ ทุกท่านในบอร์ดนี้เคยมีให้พวกเราชาวปืนไว้เตือนสติสอนใจนะครับ) พอได้คำตอบแล้วผมก็เตือนเค้าไปดี ๆ ด้วยน้ำเสียงปกติว่าทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ (จริง ๆ แล้วก็เตือนสติตัวเองด้วยแหละครับ) เพราะชีวิตอาจมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมออย่างเช่นวันนี้ ขอให้จดจำเอาไว้แล้วคิดก่อนที่จะลงมือทำอะไรลงไป เค้าก็ตอบว่า "เข้าใจแล้วครับ" ผมก็เลยเก็บปืน แล้วก็เดินไปขึ้นรถขับออกไปครับ
เหตุการณ์ที่ผมประสบมานี้หวังว่าจะเป็นเครื่องเตือนใจคนรุ่นใหม่ ๆ ที่ใจร้อนได้ไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วพวกพี่ ๆ มีเหตุการณ์ที่จะมาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังเพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนบ้างไหมครับ