เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 18, 2024, 10:27:58 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "Battle of Britain"  (อ่าน 2662 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 18, 2005, 02:34:57 PM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 18, 2005, 02:37:39 PM »

อ่านเป็นวันที่ ๓ แล้ว ยังไม่จบ Grin Grin

ขอบคุณครับ

อ่านไปเจอตอนน่าสนใจ



ในเดือนกันยายน ปี 1933 แผนการฮุปสวิตฯได้ถูกพิมพ์ออกแจกจ่าย ก็เหมือนกับการคัดลอกออกมาจาก Mein Kampf ของท่านฮิตเล่อร์เขานั่นแหละ ที่เขียนไว้ว่า เลือดของชาวไรค์ จะต้องมาไหลรวมกันเป็นหนึ่งเดียว หมายถึงว่า ในอดีตกาล ดินแดนส่วนของสวิตเซอร์แลนด์เคยได้รวมเป็นทองแผ่นเดียวกับ ออสเตรีย เยอรมัน (ในยุคกลาง สมัยพระเจ้าชารล์มาญที่เล่าให้ฟังแล้ว ที่เรียกว่า Holy Roman Empire) และเป็นที่น่าประหลาดใจ..ทันที่ที่แผนนี้ได้ล่วงรู้ถึงหูชาวสวิส อันชนชาติจริงๆแล้วกอร์ปไปด้วยรวมมิตรเช่น.. เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน ต่างพากันตื่นตัวต่อต้านนาซีกันสุดฤทธิ์ ชาวประชาพากันไปซ้อมยิงปืนกันเป็นที่เอิกเกริก

ในปี 1935 ปืนยาว K31 คาร์ไบน์ ได้ออกมาใช้สำหรับในประเทศ ว่ากันว่า เป็นปืนยาวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก ซึ่ง สามแสนห้าหมื่นกระบอกนั้น อยู่ในความครอบครองของชาวสวิส ซึ่งหมายถึงมีใช้ในทุกครัวเรือน

นอกจากนั้น ภายในปี 1938 สวิตฯได้สร้างเสริมกำลังอาวุธในกองทัพอย่างแน่นหนา รวมไปถึงการสร้างเครื่องกีดขวาง อุโมงค์ต่อเชื่อมกับประเทศเจ้าปัญหาสามารถทำลายปิดกั้นลงได้ในทุกเวลา ทุกคนเตรียมพร้อมอย่างไม่กลัวเกรงเลยสักนิดว่า ฮิตเล่อร์ที่มีประชากรรวมแล้ว 120 ล้านคน(หมายถึงประเทศอื่นๆที่ไปยึดเขามาด้วย) แต่..สวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรเพียงแค่ 4 ล้านคน(เป็นทหารซะเจ็ดแสน)

หลังจากที่ฝรั่งเศสล่มอยู่ในอำนาจนาซีได้ไม่นาน ฮิตเล่อร์กับมุสโสลินี ต่างเริ่มแผนการว่าจะแบ่งเค้กในส่วนนี้กันยังไง ภายใต้แผนชื่อว่า von Menges สรุปได้ว่า ฮิตเล่อร์จะเอาดินแดนจากส่วนเหนือลงไปสองในสาม มุสโสลินี รับเอาส่วนที่เหลือ ฮิตเล่อร์สัญญาด้วยความมั่นใจว่า "ต้องไปสั่งสอนไอ้พวกเลี้ยงวัว กะไอ้พวกทำชีสซะหน่อย..ให้พวกมันรู้สำนึก"

และอย่างที่เล่ามาแล้วว่า นายพล อองรี กีซัง และเหล่าทหารหาญได้ประกาศสู้ตายเช่นกัน..กองทัพสวิสเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนทัพขึ้นไปบนภูเขา ถ้าคับขันขึ้นมา พวกเขาพร้อมที่จะสละ พื้นที่ 75% ของประเทศ กองทัพอากาศเล็กๆของสวิตฯ ได้สอยเครื่องของลุฟท์วัฟฟ์ ที่บังอาจบินกระแดะเข้ามาในน่านฟ้าถึง 11 ลำ อีกทั้ง..ถ้าจับได้ว่า ทหารคนไหน pro-Nazi ละก้อ ให้ยึดหลักว่า จับได้ตรงไหน ยิงทิ้งตรงนั้น (โดนไปกว่า 17 ศพ)

และที่ตลกที่สุดคือ..เครื่องบินที่สอยลุฟท์วัฟฟ์ร่วงไปหลายลำนั้น คือ ME-109 ที่ซื้อไปจากเยอรมันนั่นแหละ..รวมไปถึงกองทัพสกีแม่นปืนที่คุมภูมิประเทศแถบเทือกเขาอัลไพน์อีกเล่า..แม้ว่าฮิตเล่อร์จะต้องการเส้นทางลัดตัดผ่านสวิตฯเพื่อลำเลียงอาวุธไปช่วยอิตาลีในปี ย่ำแย่ของสงคราม (43-44) แค่ไหน ก็ยังไม่สามารถฝ่าแรงต่อต้านของพวกเลี้ยงวัว และพวกทำชีสทหารของกองทัพสวิสไปได้

ตลอด 12 ปี ของยุคนาซี สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศใข่ดาวประเทศเดียว ที่ รอดพ้นจากเงื้อมมือไปได้อย่างสง่างาม สมกับเป็นเชื้อสายของ วีรบุรุษ William Tell !!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 18, 2005, 02:55:01 PM โดย jakrit » บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 18, 2005, 03:16:07 PM »

Smiley..ขอบคุณมากครับ คุณ jakrit   ที่กรุณานำมาให้ผ่านสายตากัน.. Grin.. เป็นตัวอย่าง เชื่อผู้นำเลว นำประเทศชาติสู่ความหายนะ.ชิบ... หมด. ตกใจ
บันทึกการเข้า

vichai01++รักในหลวง++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 110
ออฟไลน์

กระทู้: 2775



« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 18, 2005, 05:48:22 PM »

 Grin Grinขอบคุณมากครับ Grin Grin
บันทึกการเข้า

คาถาป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง
ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ
จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
ek_suwat
ทำซะ ! ก่อนที่จะไม่ได้ทำ.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1360



« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 18, 2005, 08:40:14 PM »

...........................................เอาไว้อ่านต่อพรุ่งนี้ขอรับ..........................
บันทึกการเข้า

บุคคลที่มีปืนหลายกระบอก ไม่ได้หมายความว่าเป็นบุคคลที่ชอบความรุนแรง
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 19, 2005, 02:13:18 AM »

ขอบคุณคับ ยาวดีอ่านได้หลายวัน...Grin
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 19, 2005, 10:38:59 AM »

อ่านเป็นวันที่ ๓ แล้ว ยังไม่จบ Grin Grin

ขอบคุณครับ

อ่านไปเจอตอนน่าสนใจ



ในเดือนกันยายน ปี 1933 แผนการฮุปสวิตฯได้ถูกพิมพ์ออกแจกจ่าย ก็เหมือนกับการคัดลอกออกมาจาก Mein Kampf ของท่านฮิตเล่อร์เขานั่นแหละ ที่เขียนไว้ว่า เลือดของชาวไรค์ จะต้องมาไหลรวมกันเป็นหนึ่งเดียว หมายถึงว่า ในอดีตกาล ดินแดนส่วนของสวิตเซอร์แลนด์เคยได้รวมเป็นทองแผ่นเดียวกับ ออสเตรีย เยอรมัน (ในยุคกลาง สมัยพระเจ้าชารล์มาญที่เล่าให้ฟังแล้ว ที่เรียกว่า Holy Roman Empire) และเป็นที่น่าประหลาดใจ..ทันที่ที่แผนนี้ได้ล่วงรู้ถึงหูชาวสวิส อันชนชาติจริงๆแล้วกอร์ปไปด้วยรวมมิตรเช่น.. เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน ต่างพากันตื่นตัวต่อต้านนาซีกันสุดฤทธิ์ ชาวประชาพากันไปซ้อมยิงปืนกันเป็นที่เอิกเกริก[/color]
ในปี 1935 ปืนยาว K31 คาร์ไบน์ ได้ออกมาใช้สำหรับในประเทศ ว่ากันว่า เป็นปืนยาวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก ซึ่ง สามแสนห้าหมื่นกระบอกนั้น อยู่ในความครอบครองของชาวสวิส ซึ่งหมายถึงมีใช้ในทุกครัวเรือน[/u]

นอกจากนั้น ภายในปี 1938 สวิตฯได้สร้างเสริมกำลังอาวุธในกองทัพอย่างแน่นหนา รวมไปถึงการสร้างเครื่องกีดขวาง อุโมงค์ต่อเชื่อมกับประเทศเจ้าปัญหาสามารถทำลายปิดกั้นลงได้ในทุกเวลา ทุกคนเตรียมพร้อมอย่างไม่กลัวเกรงเลยสักนิดว่า ฮิตเล่อร์ที่มีประชากรรวมแล้ว 120 ล้านคน(หมายถึงประเทศอื่นๆที่ไปยึดเขามาด้วย) แต่..สวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรเพียงแค่ 4 ล้านคน(เป็นทหารซะเจ็ดแสน)

ตลอด 12 ปี ของยุคนาซี สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศใข่ดาวประเทศเดียว ที่ รอดพ้นจากเงื้อมมือไปได้อย่างสง่างาม สมกับเป็นเชื้อสายของ วีรบุรุษ William Tell !!

Smileyอยากรู้จังว่าในมุมมองของนักการเมืองนี่จะวิเคราะห์เรื่องนี้ว่ายังไง.....เอ๋หรือกลัวว่าประชาชนจะรวมตัวกันต่อสู้เพื่อประเทศชาติมากจนเกินไปเลยต้องพยามที่จะจำกันการมีอาวุธปืนของประชาชน :Smiley
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
a lone wolf
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 290
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2064



« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 19, 2005, 02:51:31 PM »

"Never in the field of human conflict was so much owed by so many to so few."--
จำน้ำคำเชอร์ชิลมาขอรับ Cheesy
บันทึกการเข้า

It's not the years in your life but the life in your years, that counts
xiehua dun
เรารักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 134
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6209


ปัจจุบันวัดความดีของคนที่ กม.


« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 19, 2005, 02:57:49 PM »

อ่านเป็นวันที่ ๓ แล้ว ยังไม่จบ Grin Grin

ขอบคุณครับ

อ่านไปเจอตอนน่าสนใจ



ในเดือนกันยายน ปี 1933 แผนการฮุปสวิตฯได้ถูกพิมพ์ออกแจกจ่าย ก็เหมือนกับการคัดลอกออกมาจาก Mein Kampf ของท่านฮิตเล่อร์เขานั่นแหละ ที่เขียนไว้ว่า เลือดของชาวไรค์ จะต้องมาไหลรวมกันเป็นหนึ่งเดียว หมายถึงว่า ในอดีตกาล ดินแดนส่วนของสวิตเซอร์แลนด์เคยได้รวมเป็นทองแผ่นเดียวกับ ออสเตรีย เยอรมัน (ในยุคกลาง สมัยพระเจ้าชารล์มาญที่เล่าให้ฟังแล้ว ที่เรียกว่า Holy Roman Empire) และเป็นที่น่าประหลาดใจ..ทันที่ที่แผนนี้ได้ล่วงรู้ถึงหูชาวสวิส อันชนชาติจริงๆแล้วกอร์ปไปด้วยรวมมิตรเช่น.. เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน ต่างพากันตื่นตัวต่อต้านนาซีกันสุดฤทธิ์ ชาวประชาพากันไปซ้อมยิงปืนกันเป็นที่เอิกเกริก

ในปี 1935 ปืนยาว K31 คาร์ไบน์ ได้ออกมาใช้สำหรับในประเทศ ว่ากันว่า เป็นปืนยาวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก ซึ่ง สามแสนห้าหมื่นกระบอกนั้น อยู่ในความครอบครองของชาวสวิส ซึ่งหมายถึงมีใช้ในทุกครัวเรือน

นอกจากนั้น ภายในปี 1938 สวิตฯได้สร้างเสริมกำลังอาวุธในกองทัพอย่างแน่นหนา รวมไปถึงการสร้างเครื่องกีดขวาง อุโมงค์ต่อเชื่อมกับประเทศเจ้าปัญหาสามารถทำลายปิดกั้นลงได้ในทุกเวลา ทุกคนเตรียมพร้อมอย่างไม่กลัวเกรงเลยสักนิดว่า ฮิตเล่อร์ที่มีประชากรรวมแล้ว 120 ล้านคน(หมายถึงประเทศอื่นๆที่ไปยึดเขามาด้วย) แต่..สวิตเซอร์แลนด์ มีประชากรเพียงแค่ 4 ล้านคน(เป็นทหารซะเจ็ดแสน)

หลังจากที่ฝรั่งเศสล่มอยู่ในอำนาจนาซีได้ไม่นาน ฮิตเล่อร์กับมุสโสลินี ต่างเริ่มแผนการว่าจะแบ่งเค้กในส่วนนี้กันยังไง ภายใต้แผนชื่อว่า von Menges สรุปได้ว่า ฮิตเล่อร์จะเอาดินแดนจากส่วนเหนือลงไปสองในสาม มุสโสลินี รับเอาส่วนที่เหลือ ฮิตเล่อร์สัญญาด้วยความมั่นใจว่า "ต้องไปสั่งสอนไอ้พวกเลี้ยงวัว กะไอ้พวกทำชีสซะหน่อย..ให้พวกมันรู้สำนึก"

และอย่างที่เล่ามาแล้วว่า นายพล อองรี กีซัง และเหล่าทหารหาญได้ประกาศสู้ตายเช่นกัน..กองทัพสวิสเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนทัพขึ้นไปบนภูเขา ถ้าคับขันขึ้นมา พวกเขาพร้อมที่จะสละ พื้นที่ 75% ของประเทศ กองทัพอากาศเล็กๆของสวิตฯ ได้สอยเครื่องของลุฟท์วัฟฟ์ ที่บังอาจบินกระแดะเข้ามาในน่านฟ้าถึง 11 ลำ อีกทั้ง..ถ้าจับได้ว่า ทหารคนไหน pro-Nazi ละก้อ ให้ยึดหลักว่า จับได้ตรงไหน ยิงทิ้งตรงนั้น (โดนไปกว่า 17 ศพ)

และที่ตลกที่สุดคือ..เครื่องบินที่สอยลุฟท์วัฟฟ์ร่วงไปหลายลำนั้น คือ ME-109 ที่ซื้อไปจากเยอรมันนั่นแหละ..รวมไปถึงกองทัพสกีแม่นปืนที่คุมภูมิประเทศแถบเทือกเขาอัลไพน์อีกเล่า..แม้ว่าฮิตเล่อร์จะต้องการเส้นทางลัดตัดผ่านสวิตฯเพื่อลำเลียงอาวุธไปช่วยอิตาลีในปี ย่ำแย่ของสงคราม (43-44) แค่ไหน ก็ยังไม่สามารถฝ่าแรงต่อต้านของพวกเลี้ยงวัว และพวกทำชีสทหารของกองทัพสวิสไปได้

ตลอด 12 ปี ของยุคนาซี สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศใข่ดาวประเทศเดียว ที่ รอดพ้นจากเงื้อมมือไปได้อย่างสง่างาม สมกับเป็นเชื้อสายของ วีรบุรุษ William Tell !!


อยากให้ "เหลี่ยมพักตร์เจ้ายักษ์มีฤทธิ์ อำมหิตแหกสภา ใช้เงินตราฟาดหัวเขามา "ได้อ่านจัง
บันทึกการเข้า


เพราะฉันจะไป ด้วยหัวใจดวงนี้ สองขาที่มีจะปีนสู่ภูผา
เพราะฉันจะไป ให้เห็นความสุขแท้มันด้วยตา
เมื่อได้มองลงมาเห็นโลกในมุมอีกมุม     มันคงช่างงดงาม
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 20, 2005, 01:06:35 PM »

มีโจ๊กว่า

นายพลนาซีเยอรมันโม้ข่มนายพลสวิส

"เยอรมันตอนนี้เข้มแข็งมั่กๆ มีทหารตั้ง 5 ล้านคน (ของจริงตอนปลายสงครามเยอรมันขยายกองทัพเป็น 10 ล้านคน) มากกว่าพลเมืองประเทศแกซะอีก ถ้าอยากนะ จะไปยึดสวิสเซอร์แลนด์เมื่อไรก็ได้"

นายพลสวิสเชิดหน้าอย่างไม่ยี่หระ

"เหรอออ ก็ดีนี่ เราจะได้เตรียมกระสุนปืนไว้ 5 ล้านนัด"
 
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 20, 2005, 01:50:22 PM »

Smiley..ความเห็นส่วนตัวครับ  สำหรับสวิส... มันออกเจือไปด้วยความเชื่อ และเป็นเรื่องทางการเมืองไปแล้ว..
     สวิส รอดพ้น ความพินาศ จาก นาซี ไปได้.. คงไม่ใช่เพราะ ความสามารถของคนสวิส  .. แต่ถึงว่าครับ เหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น มันก็พูดกันได้ตลอด... แต่ต้องมองจากความเป็นจริงด้วยครับ..
     สวิส รอดพ้นไปได้ ด้วยความเหมาะเจาะลงตัว จาก ๑ สภาพที่ธรรมชาติเป็นปราการ เป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุด  ๒.ความสำคัญทางด้านทรัพยากร และทรัพยากรมนุษย์ ไม่ถึงขนาดดีไปกว่า ที่อื่นที่จะต้องรีบฮุบเสียก่อน.๓.ด้านการเมืองที่ผู้นำสวิส วางนโบบายที่ยึดหยุ่นสอดคล้องเหมาะสม  ไม่ใช่ศัตรูของเยอรมัน ไม่วางตัวเป็นศัตรูเยอรมัน.. ๔. ด้วยมุมมองวิเทโสบาย ของผู้นำที่หยิบนำทุกอย่าง และเรียกร้องประชาชน..ของตนให้เป็นเอกภาพ เพื่อต่อสู้ตามแนวทางป้องกัน ป้องปราม สร้างภาพ .. ที่ได้กำหนดไว้...ฯลฯ...
     ฝรั่งเศส เป็นประเทศจักรวรรดิ์ เจ้าอาณานิคม..   เยอรมัน ยังจัดการเสียเดี้ยง หมดลาย.. แม้แต่อังกฤษเอง คงไม่รอด ถ้าเยอรมันไม่เปลี่ยนเป็นมุ่งตะวันออกเสียก่อน.  การมองประเทศสวิสก็เช่นกัน ต้องเลี่ยงมองแต่เพียงด้านใดด้านเดียว..แต่ควรมองอย่างความเป็นจริง หลายด้าน.. จึงจะสามารถหยิบด้านที่อาจเป็นประโยชน์มาเลือกใช้..   
     แค่ความเห็นครับ.. :-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2005, 01:56:45 PM โดย Ro@d » บันทึกการเข้า

BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: กันยายน 20, 2005, 02:11:12 PM »

ชอบอ่านในรูปแบบหนังสือมากกว่าครับ
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #27 เมื่อ: กันยายน 20, 2005, 02:34:48 PM »

ตอนที่เยอรมันรบกับอังกฤษผมรู้อยู่อยางเดียวว่าพลาดมหันตจากการที่ฮิตเลอร์สั่งให้หยุดการบุกไม่ยอมตามไปบดขยี้กองทัพอังกฤษให้สิ้นซากในขณะที่กำลังถอยเข้าสู้ดันเคริกเพื่อกลับประเทศซึ่งเยอรมันไม่มีโอกาสอีกเลยตลอดสงครามนอกจากส่งV1-V2ไปถล่มหากขยายการบุกตามไปแล้วไม่แน่ว่าอังกฤษอาจจะไม่มีโอกาสเสนอหน้าว่าเป็นผู้ชนะสงครามแล้วบังคับให้ประเทศไทยเป็นประเทศแพ้สงคราม  อีกข้อก็คือเยอรมันไม่สามารถครองความเป็นจ้าวอากาศได้จากการที่ตัวเองมีเครื่องบินเจ็ทให้งานก่อนประเทศอื่นถึง18เดือนแต่ฮิตเลอร์ไม่ยอมฟังเหล่าเสนาธิการที่เสนอให้ทำการผลิตแบบอุตสาหกรรมให้เร็วที่สุดแต่ผ่าจะไปใช้เป็นเครื่องบินทิ้งรเบิดระยะไกลไปถล่มอเมริกาโดยไม่คิดว่าหากไม่สามารถครองอากาศได้แล้วก็เปรียบเหมือนว่าเปิดน่านฟ้าให้สัมพันธมิตรเข้ามาถล่มตามสบาย ซึ่งถ้าเยอรมันผลิตขับไล่เจ็ทขึ้นใช้งานให้เร็วที่สุดการครองอากาศเหนื่อยุโรปคงไม่ใช่เรื่องยากที่สำคัญที่สุดฮิตเลอร์ดันสั่งให้บุกรัสเซียก่อนที่จะสะสางทางฝั่งอักฤษให้เรียบร้อยเป็นการบังคับให้เยอรมันต้องทำสงคราม2ด้านแล้วยังไม่ยอมทุ่มกำลังถล่มเพื่อเช็กบิลแต่ดันสั่งให้เบนการโจมตีไปที่ยูเครนเพื่อยึดแหล่งผลิตแร่เหล็กจนเข้าฤดูหนาวก็ยังไม่ยอมสั่งถอนกำลังเป็นแสนนายที่ยื่นล้ำเข้าไปในเขตหนาดจัดเพื่อส่งไปให้จอมพลรอมเมลซึ่งกำลังจะได้คลองสุเอชมาไว้ในกำมือดีกว่าส่งไปละลายสูญเปล่ากับการรบที่ไม่มีหวังชนะ

     อย่างว่าแหละนะครับฮิตเลอร์ยศแค่สิบโทความรู้ก็แค่สิบโทเยอรมันก็เลยได้แค่นกกระจอกมานำฝูงอินทรีก็เลยพลอยไปกับความงี่เง่าของนกกระจอกไปด้วย Undecided Undecided
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.069 วินาที กับ 21 คำสั่ง