*** ขอเพิ่มเติม นอกเรื่อง*** กรณีมีกระสุนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้
มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตน ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้
มาตรา 72 ทวิ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 มาตรา 12 มาตรา 16 วรรคหนึ่งหรือ วรรคสาม มาตรา 20 มาตรา 58 มาตรา 59 มาตรา 65 มาตรา 66 หรือมาตรา 70 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*** มีกรณีตัวอย่าง จากเรื่องจริง ดังนี้
- ถูกจับมีกระสุน 11 มม. จำนวน 1 นัด เข้าข้อกฏหมายมาตรา 8 รับโทษมาตรา 72 ทวิ จำคุกไม่เกิน 10 ปี
- อัตรโทษสูง ขึ้นศาลจังหวัด ฝากขังได้ 7 ครั้ง ครั้งละ 12 วัน ซึ่งอัตราเงินประกันตัวย่อมสูงตามไปด้วย
- ผู้ต้องหาไม่มีเงินประกันตัว ต้องติดคุกฝากขังระหว่างรอการสอบสวนเดือนกว่า (กรณีศาลสั่งจำคุก
สามารถเอาจำนวนวันในส่วนนี้ไปหักออกได้ หากเป็นค่าปรับก็หักได้วันละ 200 บาท)
- พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวน แต่ติดเรื่องการตรวจสอบประวัติการต้องโทษ ทั้งประเทศส่งตรวจที่
กองทะเบียนประวัติอาชญากร ส่วนกลางแห่งเดียว ต้องใช้เวลารอนาน (หากไม่มีผลตรวจพิมพ์มือ
ในทางปฏิบัติ พนักงานอัยการจะไม่รับสำนวน)
- สุดท้ายขึ้นศาล สั่งปรับประมาณ 500 บาท เนื่องจากของกลางเพียง 1 นัด ติดคุกฟรีไปหลายวัน
- จะเห็นได้ว่าเมื่อ ระบบ เป็นแบบนี้ ถ้าไม่จำเป็นพยายามอย่าเข้าไปในระบบ
- งานนี้ไม่รู้จะโทษใคร เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มี ระบบ ของตัวเอง คดีอยู่ในอำนาจศาลจังหวัด แม้รับสารภาพจะพาไปฟ้องด้วยวาจา (ฟ้องใบแดง) ที่ศาลแขวงในวันรุ่งขึ้นเหมือนคดีเมาแล้วขับก็ไม่ได้
กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า คือความไม่ยุติธรรม
ก่อนอื่นต้องต้องถามว่ามีใบ ป.4หรือไม่
ถ้าไม่มี 1.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ผิดตาม มาตรา 7)
2.พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทาง สาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุ จำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
3. กรณีที่ว่ากระสุนที่ใช้กับอาวุธสงคราม(อาวุธที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้)นั้นไม่สามารถตั้งข้อหาได้ครับ เพราะ
ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 ( พ.ศ.2522 )
ข้อ ๒ อาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตามมาตรา ๗ หรือมาตรา ๒๔ ต้องเป็นอาวุธปืน ชนิดและขนาด ดังต่อไปนี้
(๑) อาวุธปืนชนิดลำกล้องมีเกลียวที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่เกิน ๑๑.๔๕ มม.
ข้อ ๓ เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตามมาตรา ๗ หรือมาตรา ๒๔ ต้องเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนตามข้อ ๒ ที่ได้รับอนุญาต แต่
ต้องไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนชนิดเจาะเกราะหรือชนิดกระสุนเพลิง
ดังนั้น กระสุนขนาด .45 นายทะเบียนสามารถที่จะออกใบอนุญาตให้มีและใช้ได้ครับ
ถ้ามี ใบ ป.4 ตรงตามขนาดกระสุน ก็ต้องมาดูว่า
1.ในกรณีที่ท่านบรรจุกระสุนไว้ในซองบรรจุกระสุนจำนวน 7 นัด เต็มความจุ และยังมีกระสุนในซองกระสุนอีก 10 นัด แสดงถึงความพร้อมที่จะนำไปใช้งานหากมีอาวุธปืนอยู่ ตร.ไม่ทราบหรอกครับว่าท่านซุกซ่อนปืนไว้ในที่ที่หาไม่เจอเพื่อหลีกเลี่ยงข้อหาพกพาอาวุธฯไปในทาง สาธารณะ หรือป่าว (ปกติถ้าผมจะเอาปืนเก็บไว้ที่บ้าน ผมก็จะเอาแม็กกาซีนกับลูกปืนออกไปเก็บด้วย)
2. ตามความเห็นของคุณ Ro@d ครับคือ ตร.เป็นขั้นแรกของขบวนการยุติธรรมครับ มีหน้าที่ ที่จะตั้งข้อหาและแจ้งข้อหาแกผู้ที่ถุกกล่าวหาครับ แล้วก้เข้าสู่การส่งฟ้องของชั้น อัยการ และการตัดสินในชั้น ศาล
ส่วนที่สงสัยว่าทำไม ตร.ทางหลวงถึงถามคำแรกเลยว่ามีอาวุธปืนหรือป่าว อาจจะป็นเพราะได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายมีอาวุธใช้เส้นทางดังกล่าว หรือเป็นจุดสกัดป้องกันเหตุแก่ผู้ใช้ทางรายอื่นๆตามนโยบานก็เป็นได้ครับ
แต่ถึงยังไงก็ไม่สนับสนุนให้ท่านติดสินบน ถ้าท่านบริสุทธิ์ใจจริงไม่ได้กระทำผิดอะไรก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ[/font]