เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 22, 2024, 11:42:22 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 9
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว  (อ่าน 106425 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 19 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #45 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 03:41:11 PM »

ภาพ Ramp ปลายรันเวย์ สนามบินล่องแจ้ง ภาพเล็กเป็นภาพ " ลี ลือ "




อันนี้น่าจะเป็น Ramp ของ บ.เล็กตอนกลางรันเวย์ ใกล้ บก.สิงหะ เพราะมองเห็นเนินสกายไลน์



เห็นเครื่องปอร์ตเตอร์แล้วเลือดลมมันฉีดแรง มันเป็น บ. มหัศจรรย์ ที่ใช้ทางวิ่งสั้นมาก


ภาพตลาดเมืองล่องแจ้ง






บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #46 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 03:46:52 PM »

" Report Final, clear to land ! " มองเห็นเนินสกายไลน์อยู่ด้านขวามือครับ
(ภาพเป็นของ grjenkin)





-------------------------------------------------------

ลักษณะของเมืองล่องแจ้ง

-----------------------------------------------------------------------
ล่องแจ้งเมื่อปี2513-2515 มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 3 หมื่นคนโดยเป็นชาวม้ง 95% ที่เหลือก็มาจากเผ่าต่างๆ
ลักษณะทางภูมิศาสตร์จะเป็นที่ราบลุ่มอยู่ในหุบเขา มีพื้นที่ส่วนที่เป็นที่ราบ (มีเนินเตี้ยๆอยู่บ้าง) ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
ด้านทิศเหนือเป็นแนวสันเขาติดต่อกันยาวคล้ายกำแพงกั้นหุบเขาซึ่งเรียกว่า skyline เป็นแนวป้องกันข้าศึกได้เป็นอย่างดี

บ้านของ"วังเปา"ซึ่งถ่ายไว้เมื่อประมาณปี 2513 โดยนักบินหน่วยกู้ภัยจากฐานทัพนครพนม
จะสังเกตุเห็นว่ารอบๆบ้านซึ่งเป็นทั้งกองบัญชาการจะมีบ้านของชาวม้งอยู่เต็มไปหมด
วัสดุที่ชาวบ้านนำมาทำที่อยู่อาศัยก็จะได้มาจากลังบรรจุลูกระเบิด จรวด ลังลูกปืนใหญ่ และลังสัมภาระต่างๆที่มาจากอุดรฯ

เป็นบ้านหลังเดียวกันแต่ถ่ายเมื่อปลายปี 2551(ขอสงวนแหล่งที่มาของรูป)
จะเห็นได้ว่าบ้านของชาวม้งที่ปลูกอยู่รอบๆบ้านท่านนายพลได้หายไปหมด
ปัจจุบันทางการลาวใช้บ้านดังกล่าวเป็นสำนักงานควบคุมการก่อสร้างเขื่อนน้ำเทิน 3 มีการติดตั้งจานรับดาวเทียมไว้บนหลังคาบ้าน

สนามบิน เครื่องบินทุกลำจะถูกบังคับให้ลงจากทางทิศตะวันออกเท่านั้นเพราะทิศตะวันตกเป็นภูเขาสูงชัน
ส่วนนักบินม้งคนที่อยู่ในรูปคือ ร.อ.ลีลือ "ยอดนักบิน" ของวังเปาผู้ที่เคยทำสถิตินำเครื่องขึ้นทิ้งระเบิดถึง 8 เที่ยวต่อวันมาแล้ว
ก่อนที่จะเสียชีวิตเพราะโดนยิงตก

ตลาดที่อยู่รอบๆสนามบิน และรูปสนามบินซึ่งถ่ายจาก ฮ.ของหน่วยกู้ภัย เครื่องบินจะลงจากทิศทางนี้
และที่เห็นเป็นกลุ่มอาคารด้านมุมซ้ายของทางวิ่งลง คือบก.สิงหะของทหารไทยอาสาฯ
และเรือนพักของบรรดาผู้ตรวจการหน้าประจำกองพันต่างๆของทหารไทย
บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #47 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 03:51:27 PM »

ฝูงบินเตซาวแปด " เจ้าผาขาว " ของม้ง ( ภาพเป็นของ Raven.org)






นักบินลาวคนหนึ่งที่เป็นหน้าตาของกองทัพอากาศลาว " ท้าวคำผุย มะนีวัน "
(คือคนเดียวกับภาพแรกๆ ที่ยืนคู่กับ ลื ลือ)



นักบินลาวที่ปากเซ





บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #48 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 03:56:58 PM »

การรบที่ทุ่งไหหิน และอาณาบริเวณ มีอยู่หลายครั้ง และการรบส่วนใหญ่ก็อยู่ในบริเวณนั้น
แต่จุดแรกๆที่มีการรบ น่าจะอยู่ทางตะวันออกของทุ่งไหหิน แล้วฝ่ายขวา - กลาง ก็ถอยมาเรื่อย

มาปักหลักซดกันในบริเวณทุ่งไหหิน และพื้นที่รอบๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ โดยมีล่องแจ้งเป็นปราการหลัก
ยันกันอยู่หลายปี การสูญเสียส่วนใหญ่ก็อยู่ในบริเวณนี้ ทหารไทยตายและสูญหายไปประมาณ ๒,๕๐๐ คน

เท่าที่สืบค้นดู การที่ฝ่ายไทยต้องถอนตัวส่วนใหญ่ เกิดจากไม่มีรถถัง
ส่วนทางฝ่ายเวียดนามเหนือ ใช้รถถถัง PT - 76 เข้ามานำการเข้าตี






"คำสั่งให้รักษาทุ่งไหหินไว้ให้ได้"

ทั้งนี้เพราะทุ่งไหหินเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จะทำให้เวียตนาม และลาวคอมมิวนิสต์สามารถบุกถึงเวียงจันทร์
และสามารถยึดครองประเทศลาวได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ฝ่ายเราจึงได้วางกำลัง เพื่อตั้งรับการบุกของฝ่ายลาวคอมมิวนิสต์
และทหารเวียตนามเหนือไว้รอบทุ่งไหหินในระหว่างปีพ.ศ.2514-2515

แต่เนื่องด้วยฝ่ายเวียตนามได้ทุ่มกำลังกว่า 6 หมื่นนายพร้อมรถถังและปืนใหญ่บุกผ่านสามแยกศาลาภูคูน
และยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของทุ่งไหหินไว้ได้ และฝ่ายเราไม่สามารถต้านทานการบุกครั้งนั้นได้เพราะไม่มีรถถังไปสู้กับทหารเวียตนาม
ประกอบกับขวัญและกำลังใจของทหารฝ่ายเราตกต่ำมาก

เพราะทหารไทยอาสาฯ จำนวนหลายกองพันถูกฝ่ายข้าศึกตีแตก รวมทั้งฐานยิงปืนใหญ่155มม.หลายฐานถูกโจมตีอย่างหนัก
และต่อเนื่องจนไม่สามารถรักษาฐานยิงไว้ได้ แม้จะได้รับการสนับสนุนการทิ้งระเบิดจากกองทัพอากาศสหรัฐอย่างหนักหน่วง

แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการทุ่มกำลังบุกของฝ่ายเวียตนามได้ ในที่สุดเมื่อประมาณเดือนตุลาคม ปีพ.ศ.2515
กองกำลังของ GM-13 จำนวน 3 กองพัน BG-303 จากสะวันนะเขต และทหารไทยอาสาฯ ทุกกองพัน
ก็ได้ถอนกำลังออกจากทุ่งไหหินอย่างสิ้นเชิงโดยกำลังส่วนหนึ่งถอยมาตั้งหลักอยู่ที่ ผาดง LS-5


บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #49 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:03:24 PM »






ภาพที่ ๑ และ ๒ เป็นภาพของ โทนี่ โพ ผู้เป็นตำนานแห่งนักรบในสงครามลาว เคยได้รับบาดเจ็บจากการรบหลายครัง
โพจบตำนานชีวิตของนักรบแท้ๆอย่างสงบ เมื่อ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖(2003)
ในภาพที่ ๑ โพคือคนสวมแว่นตา มีเด็กขี่คอ


ภาพที่ ๓ และ ๔ เป็นภาพของหน่วย SGU







บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #50 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:08:23 PM »



ภาพทุ่งไหหินภายใต้ปีก"นกกระเต็น"(Raven)




ทหารไทยอาสาฯที่สนามบินล่องแจ้ง





Ramp T-28 ของนักบินม้งที่สนามบินล่องแจ้ง

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #51 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:18:02 PM »

ผู้ชี้เป้า

------------------------------------------------------------------

ฝูงนกกระเต็นติดจรวดฟอสฟอรัสขาว (White Phosphorus)
กำลังบินเพื่อแยกย้ายกันค้นหาเป้าหมายให้แก่เครื่องบินทิ้งระเบิด T-28 ของกองทัพอากาศลาวและม้ง
A-1E Sky Raider ของหน่วย Air Commando จากฐานทัพอากาศนครพนม และPhantom F-4C จากฐานทัพอากาศอุดรฯ



นักบินRaven ในยุคแรกของสงครามจะมาจากกองทัพอากาศสหรัฐ
ส่วนใหญ่เคยผ่านสงครามเวียตนามมาแล้ว

แต่ต่อมาเมื่อประมาณปี 2513
นักบินลาวและม้งมีชั่วโมงบินและประสบการณ์มากขึ้น จึงมีการฝึกให้ลงมาบินเครื่องบินชี้เป้านกกระเต็น
หรือ Raven แทนฝรั่ง แต่การทำงานของทั้ง T-28 และ Raven ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมและสนับสนุน
จากกองทัพอากาศสหรัฐอยู่ดี





นักบินลาวและนักบินม้งทั้งหมดจะผ่านการฝึกหลักสูตรการใช้ภาษาอังกฤษและการบินทิ้งระเบิดจากฐานทัพอุดรฯ
หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายกันปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆทั่วลาว

โดยมีกองทัพอากาศสหรัฐเป็นผู้จัดการทั้งหมดเช่นฝึกช่างเครื่อง เจ้าหน้าที่สรรพวุธติดจรวด ลูกระเบิด ส่วนเบี้ยเลี้ยง
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทาง ซี.ไอ.เอ.เป็นเจ้าภาพทั้งหมด นักบินลาวและม้งที่ล่องแจ้งจะมีรายได้มากกว่าที่อื่น

เพราะมีรางวัลต่อเที่ยวให้ 100 บาทและปลอกจรวด กระสุนปืนกลอากาศ 20มม.ก็ตกเป็นของนักบินและทีมงานทั้งหมด
โดยเฉลี่ยแล้วนักบินที่ล่องแจ้ง จะมีเที่ยวบินโดยเฉลี่ยวันละ 4 เที่ยวต่อคน
(เครื่องบินติดลูกระเบิดบินขึ้น ทิ้งระเบิดต่อเป้าหมาย บินกลับฐาน เรียกว่า 1 เที่ยวบิน หรือ 1 sorty)




นักบินRaven และผู้ช่วยชี้เป้าจากหน่วยภาคพื้นดิน(Back Seater)




นักบินRaven ฝรั่งจะมีประสบการณ์สูง บินต่ำไม่กลัว ปตอ.ข้าศึกและเมื่อค้นเจอเป้าหมายแล้วจะรีบดึงเครื่องขึ้น
ทำมุมและดำลงเพื่อยิงจรวดชี้เป้าฟอสฟอรัสขาว(White Phosphorus) ขณะเดียวกันเครื่องบินทิ้งระเบิดซึ่งบินวนรออยู่แล้ว
ก็จะผลัดกันดำลงและปลดลูกระเบิดเพื่อทำลายเป้าหมายอย่างสนุกสนาน






เมื่อทิ้งระเบิดเสร็จแล้วนักบินRaven ก็จะเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน
แต่บางครั้งก็ไม่สามารถบินเก็บภาพได้จึงต้องใช้บริการของเครื่องบินถ่ายภาพทางอากาศโดยเฉพาะ
บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #52 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:23:35 PM »







นับตั้งแต่ เสธ.ดำ เข้าไปสู่สมรภูมิรบในลาว ได้เห็นการทิ้งระเบิดแทบจะเรียกได้ว่าทุกวัน
ถ้าไม่มีการสู้รบติดพันซึ่งทหารภาคพื้นดินจะต้องขอการสนับสนุนจาก T-28 หรือ A-1E Sky Raider
หรือแม้กระทั่งจากฝูงบินโจมตีทิ้งระเบิดขนาดหนัก Phantom F-4Cจากฐานทัพอุดรฯ

ส่วนวันไหนไม่มีการสู้รบเจ้านกกระเต็นหรือ Raven ก็จะต้องขึ้นบินลาดตระเวณทางอากาศ (Air Reconnaissance)
เพื่อค้นหาเป้าหมายโดยการติดต่อกับกำลังภาคพื้นดิน

และหน่วยหาข่าวหลังแนวข้าศึก เมื่อพบเป้าหมายแล้วก็จะเรียกใช้บริการจากฝูงบิน T-28, Sky Raider หรือ Phantom F-4C
แล้วแต่ขนาดของเป้าหมาย แต่เอาเป็นว่ามีงานเข้าทุกวันไม่เคยเว้น

ส่วน B-52นั้นจะใช้ก็ต่อเมื่อพบการเคลื่อนไหวของข้าศึกระดับกรมขึ้นไป
หรือขบวนยานยนต์ลำเลียงทหาร ยุทโธปกรณ์และขบวนรถถัง

การทิ้งระเบิดของ B-52 ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินชี้เป้าเช่นเจ้านกกระเต็น
แต่จะใช้ข้อมูลจากหน่วยข่าวซึ่งจะรายงานพิกัดที่ตั้งของข้าศึกผ่านcase officer ของ ซี.ไอ.เอ.
หรือไม่ก็จากภาพถ่ายทางอากาศของเครื่องบินตรวจการณ์ทางอากาศ(สมัยนั้นดาวเทียวยังไม่ได้รับการพัฒนา)
บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #53 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:27:00 PM »

เครื่องบินA-1E Sky Raider ประจำการอยู่ฐานทัพนครพนม






นักบินจากกองทัพอากาศสหรัฐเตรียมพร้อมที่จะนำเครื่องขึ้นปฏิบัติการทันทีที่ได้รับคำสั่ง



บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #54 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:31:00 PM »

และบางครั้งก็พลาดท่าโดน ปตอ.ข้าศึกต้องลงฉุกเฉินกลางทุ่งไหหิน





เครื่องบิน A-1E Sky Raider จากฐานบินนครพนมพลาดท่าโดนปตอ.ข้าศึกยิงสวนขณะทำการทิ้งระเบิดบริเวณทุ่งไหหิน




บางครั้งก็โดน ปตอ.37มม ซึ่งเป็นกระสุนชนิดแตกอากาศแต่ถ้าไม่โดนจุดสำคัญนักบินก็ยังพอประครองเครื่องกลับฐานได้

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #55 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:39:00 PM »

โชคดีที่สามารถนำเครื่องบินลงฉุกเฉินในเขตยึดครองฝ่ายเรา และมีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของ Air America อยู่ในบริเวณนั้นพอดี
จึงรีบลงไปรับนักบินขึ้นมาทันเหตุการณ์พอดี



หมายเหตุ : นักบินลาวจะใช้"นกกระเต็น"เป็นนามเรียกขาน(call sign)ของเครื่องบินชี้เป้า ส่วนนักบินสหรัฐจะใช้"Raven" เป็นนามเรียกขาน
และ T-28 จะใช้คำว่า"เจ้าผาขาว" ส่วนนามเรียกขานของนายพลวังเปาคือ "ดาวขาว"



เครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดขนาดหนักในสมัยนั้น (2510-2516) Phantom F-4C ถือว่าสุดยอดแล้ว F-4C มีฐานอยู่ที่อุบลฯ
ซึ่งจะรับงานทิ้งระเบิดโจมตีในเวียตนามและเส้นทางโฮจิมินโดยเฉพาะ และอีกแห่งหนึ่งคือที่ฐานทัพอุดรฯ
ซึ่งจะรับงานทิ้งระเบิดโจมตีทั้งในเวียตนามและในลาว













บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
คนแปลกหน้า - รักในหลวง
" ลุกปืน สั่งให้ไปได้แต่สั่งให้หยุดและเรียกกลับไม่ได้ "
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 126
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 956



« ตอบ #56 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 04:58:34 PM »

ต้องยกข้าวมากินหน้าจอเลยครับ
บันทึกการเข้า
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #57 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 06:00:10 PM »

ภาพนกกระเต็น ทำ Low Operation
เวลาตรวจการณ์ เขาจะบินกันต่ำๆ อย่างนี้ละครับ




ภาพนี้เป็นภาพใบปลิว ที่ฝ่ายอเมริกาทิ้งลงไป เพื่อทำ ปจว.

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #58 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 06:05:51 PM »

การทำงานของ"Raven" หรือ "นกกระเต็น"
------------------------------------------------------------------

เมื่อนักบินค้นพบเป้าหมายแล้วก็จะรีบไต่เพดานขึ้นอย่างต่ำ 2-300 ฟิต
เพื่อทำมุมและรีบยิงจรวดควันฟอสฟอรัสขาว(white phosphorus)ไปยังเป้าหมายบนพื้นดิน
เมื่อจรวดที่ยิงลงไปกระทบพื้น ก็จะระเบิดพร้อมกับส่งกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศ
ทำให้เครื่องบินทิ้งระเบิดซึ่งบินวนรออยู่แล้วสามารถมองเห็นเป้าหมาย


ต่อจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของฝูงบินทิ้งระเบิดที่จะรับงานต่อคือผลัดกันดิ่งลงเพื่อทิ้งระเบิดลงบนเป้าหมาย
ส่วนนักบินชี้เป้า Raven ก็จะฉากออกไปคุมเชิงอยู่ห่างๆ หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดเที่ยวสุดท้ายเสร็จภารกิจ
ต่อจากนั้นเจ้า Raven ก็จะบินเข้าไปสำรวจผลงาน
 
ถ้ายังมีข้าศึกหลงเหลืออยู่หรือมีการยิงสวนขึ้นมา นักบินชี้เป้า Raven ก็จะทำการยิงจรวดเพื่อชี้เป้าหมายอีกครั้ง
และเครื่องบินทิ้งระเบิด ก็จะดิ่งลงและยิงจรวดหรือปืนกลอากาศ20มม.ใส่เป้าหมายเพื่อเป็นการเก็บงาน
ตามปกติ นักบินจะไม่ใช้จรวดหรือยิงปืนกล แต่จะเก็บไว้รอผลสำรวจจาก Raven เสียก่อน


ภาพนี้จะเห็นได้ว่าเจ้านกกระเต็นได้เตรียมจรวดควันขาวฟอสฟอรัสบรรจุเต็มอัตราเพื่อออกปฏิบัติการชี้เป้า





นักบิน(นอกเครื่องแบบ)จากกองทัพอากาศเหล่านี้แต่ละคนมีชั่วโมงบินและประสบการสูงมาก
แต่ละวินาทีของนักบินเหล่านี้เสี่ยงกับการถูก"สอย"จากข้าศึกตลอดเวลา

เพราะหน้าที่ของเขาอีกอย่างก็คือ"บินล่อเป้า" เพื่อยั่วยุให้ข้าศึกซึ่งอยู่บนพื้นดินเปิดเผยตำแหน่ง
แต่ข้าศึกมักจะรู้ทันและหดหัวอยู่ในที่กำบัง



บรรดา Raven หรือนักบินเดนตายเหล่านั้น แต่ละคนเหมือนนักบินหลุดโลก
เพราะในภารกิจบ้าระห่ำที่ต้องบินลงต่ำเพื่อพิสูจน์ทราบที่ตั้งข้าศึก จนเป็นการล่อเป้ากลายๆ

เมื่อนักบินไฟท์เตอร์ พบกับนักบินราเวน พวกไฟท์เตอร์มักจะยกนิ้วให้กับราเวน
ว่านี่คือนักรบผู้กล้าตัวจริง ความบ้าระห่ำของพวกราเวน เป็นตำนานเล่าขานมาจนปัจจุบัน

ดูความบ้าระห่ำของพวกเขาอีกภาพนะครับ ใครหน๊อ...มันช่างคิดขึ้นมาจริงๆนะ
ภาพนี้เขาบอกว่า " O-1 Nape " ซึ่ง Napeก็คือเนปาล์ม(ระเบิดเพลิง)

(ภาพของ Raven.org)



เอาเครื่องที่ความเร็วไม่ถึง ๑๖๐ น๊อต มาทิ้งระเบิดเนปาล์มแบบโอท๊อป !
ทั้งคนทำและคนทิ้งคงจะระห่ำสุดขีดเลยจริงๆ

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #59 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2009, 06:11:16 PM »

เครื่องบินทิ้งระเบิด T-28 "เจ้าผาขาว" กำลังบินขึ้นจากสนามบินล่องแจ้ง



ส่วนภาพล่างคือการทำงานของ T-28 ซึ่งเมื่อ "นกกระเต็น" ชี้เป้าให้แล้วก็จะผลัดกันดิ่งลงและปลดลูกระเบิด
ให้ตรงเป้าหมายครั้งละ 2 ลูก และนักบินจะรีบดึงคันบังคับเพื่อเชิดหัวขึ้นและทำการบินวนเพื่อต่อคิว
ในขณะที่เครื่องบินลำถัดไปก็จะดิ่งลงเพื่อปลดลูกระเบิดใส่เป้าหมาย

ทำอย่างนี้จนลูกระเบิดหมดและรอฟังผลการรายงานจากการสำรวจของเจ้า "นกกระเต็น"
ถ้าผลเป็นที่พอใจนั่นคือไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้จากข้าศึก T-28 ทุกลำก็จะบินกลับฐานทันที

แต่ถ้า "นกกระเต็น" ตรวจพบว่ายังมีข้าศึกเคลื่อนไหวอยู่หรือเป้าหมายไม่ได้ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
นักบิน T-28 จะต้องออกอาวุธที่เหลือคือจรวดและปืนกลอากาศ 20มม.ลงสู่เป้าหมายให้หมด
การทิ้งระเบิดของฝูงบิน T-28 ในลาว แม้จะมีผู้บังคับฝูงเป็นนักบินลาวหรือม้งก็ตาม ก
ารปฏิบัติการทิ้งระเบิดก็ยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของนักบิน Raven จากกองทัพอากาศสหรัฐอยู่ดี....


เพราะเมื่อตกเย็นและทุกคนบินกลับฐานอย่างปลอดภัย ลูกพี่(อเมริกัน) ก็จะยกเบียร์เย็นๆ ที่แช่ไว้เป็นลังๆ ออกมาเลี้ยงลูกทีม
(นักบินลาวและม้ง) โดยไม่จำกัด ทำให้ลูกทีมหายเหนื่อยและม่วนซื่นอย่างสุดขีด.....



บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 22 คำสั่ง