ยุทธวิธีการรบของทหารเวียตนาม
--------------------------------------------------------------
จากการที่ผมเคยสอบปากคำเชลยที่จับได้ระหว่างการสู้รบที่ทุ่งไหหิน ทำให้รู้ว่าทหารเวียตนามจะฝึกหน่วยกล้าตายขึ้นมาหน่วยหนึ่ง
ซึ่งเรียกว่า "ดั๊กกง" (duc conc) โดยหน่วยนี้จะใช้กำลังเพียง 5-10 คนต่อชุดปฏิบัติการ มีความสามารถในการกู้กับระเบิด
และบุกจู่โจมต่อที่มั่นข้าศึก
แต่ในความเป็นจริงทหารม้งหรือทหารลาวรวมทั้งทหารอาสาสมัครไทยฯ จะวางกับระเบิดบุคคล
โดยโยงสายสะดุด (trip wire) ไว้ลอยๆ ซึ่งง่ายต่อการเก็บกู้โดยข้าศึก
ดังนั้นหน่วยดั๊กกงจึงสามารถกู้กับระเบิดได้อย่างง่ายดายเพราะดั๊กกงไม่สวมรองเท้า แต่จะนุ่งกางกางขาสั้น
พร้อมอาวุธประจำกาย และที่ดั๊กกงแต่ละคนจะต้องพกติดตัวก็คือดินระเบิดคล้ายๆ TNT คนละ 8-10 ก้อน
ก้อนละประมาณครึ่งปอนด์พร้อมเชื้อปะทุถ่วงเวลาประมาณ 3 วินาทีติดตัวทุกคน
ในคืนที่เกิดเหตุ ทหารเวียตนามได้ระดมยิงปืนใหญ่ขึ้นมาเพื่อกดหัวฝ่ายเราไว้ (pin down) และทำลายขวัญ
ทันทีที่เสียงปืนใหญ่สงบลง ดั๊กกงจำนวน 30-40 คนได้บุกขึ้นหน้าผาด้านทิศใต้ของที่ตั้งอุปก่รณ์นำร่อง
ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.ซัวย่า การเกาะฐานก็คือเฝ้าตรวจ สังเกตุการเคลื่อนไหวของฝ่ายเรา
ดังนั้นเมื่อทหารเวียตนามได้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกำลังพลบนภูผาทีแล้ว จึงได้สั่งการให้ดั๊กกงบุกขึ้นไป
โดยยิงปืนใหญ่นำร่อง และสามารถสังหารอเมริกันได้ถึง 11 นายโดยมีการปะทะกับทหารม้งและทหารไทยเพียงเล็กน้อย
เนื่องจากดั๊กกงได้ใช้ความเร็ว และคล่องตัวกว่าจู่โจมเข้าถึงที่พักและห้องปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เทคนิคอเมริกัน
ได้อย่างรวดเร็ว และได้ใช้ดินระเบิดโยนเข้าใส่ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็รีบถอนตัวภายในคืนนั้นเลย...
จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาเช้าไม่ปรากฎว่ามีทหารเวียตนามหลงเหลือให้เห็นอยู่บนฐานที่ตั้งอุปกรณ์นำร่องแม้แต่คนเดียว
ภูผาทีมองจากเครื่องบินกองทัพอากาศสหรัฐ