เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 23, 2024, 04:13:28 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 5 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าเรื่องยาว : สงครามลับในลาว  (อ่าน 106480 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #105 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 12:52:35 PM »



----------------------------------------------------

ในเวลากลางคืน เอฟ.111 จำนวน 3 ลำ ก็ทิ้งระเบิดได้ในเส้นทางที่เลาะริมเขา ในขณะที่ข้าศึกกำลังลำเลียงเสบียงอาหาร
อาวุธ กระสุน และกำลังพล ข้าศึกเสียหายมากพอสมควร ถนนถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่สกาย นำภาพถ่ายทางอากาศมาให้ดู
หลังจากเครื่องบินทิ้งระเบิดถล่มไปแล้ว เป็นระยะทางยาวและยากที่จะซ่อมแซมคืนจากความเสียหายของถนนที่ปรากฏในภาพ

 
ซึ่งก็เรียกขวัญและกำลังใจของทหารเสือพรานทุกกองพันให้กลับคืนมา และมีความมั่นใจมากขึ้น
บีซี.618 ส่งหน่วยลาดตระเวน ออกไปรอบฐานและมีการจัดหน่วยซุ่มโจมตี (Ambush) หน่วยระวังภัย (Outpost)
ในเวลากลางคืนช่วยสกัดข้าศึก ไม่ให้สามารถเข้ามาเกาะติดฐานได้...............
 

ข่าวเรื่องสัญญาหยุดยิง สงบศึกก็มีมาตลอดเวลา ผู้เขียนได้รับการถ่ายทอดจากหัวหน้า ซี.ไอ.เอ. (เคสออฟฟิสเซอร์)
ว่า เฮนรี่คิสซิงเจอร์ กำลังเจรจาอยู่ที่ฝรั่งเศสกับฝ่ายเวียดนามเหนือ และน่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแน่นอน...........


เพราะฉะนั้น ในช่วงนี้ต้องชิงความได้เปรียบในการยึดพื้นที่เพิ่มเติม และรักษาที่ยึดได้ไว้แล้วให้ได้
เพื่อความได้เปรียบเพราะเมื่อมีสัญญาหยุดยิงแล้ว จะทำได้ลำบากเพราะกำลังสนับสนุนทางอากาศจะน้อยลง
มีได้เท่าที่จำเป็น............

และให้สำรวจเรื่องอาวุธ กระสุนของทุกหน่วย ให้สั่งเพิ่มให้มีปริมาณมากพอที่จะได้ป้องกันตัวเอง
ให้ดำเนินการจัดเก็บกระสุนให้เป็นระเบียบ และปลอดภัยโดยเฉพาะกระสุนปืนใหญ่ 155 และ 105 มม.
ซึ่งมีอย่างละ 2 กระบอกที่ฐานปืน โกลด์ฟิงเกอร์ เพื่อไว้ยิงสนับสนุนในช่วงเวลาที่กำลังทางอากาศยังมาไม่ถึง
หรืออากาศปิด ......


ซึ่งทางฐานปืนใหญ่โกลด์ฟิงเกอร์ ก็ตอบสนองเป็นอย่างดี โดยการจัดเก็บไว้เป็นระเบียบ และปลอดภัย
จึงให้หน่วยทำการยิงทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อทำยอดการเบิกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ................


---------------------------------------------------------------------------------

ในบางระยะการรับฟังข่าว ทางวิทยุเสียงจากปักกิ่ง ซึ่ง “ขบวนการประเทศลาว” ดำเนินการร่วมกับทางจีนและเวียดนามเหนือ
มีการพูดถึงสหาย ภูมี (ภูมี วงศ์วิจิตร) สหายหนูปั๊ก (บ้างหนูฮัก) สหายไกรสอน (ไกรสอน พรมวิหาร) บ่อยครั้งมาก
ในช่วงก่อนจะมีเจ้าสุภานุวงศ์และพันเอกเดือน ที่เป็นฝ่าย “ขบวนการประเทศลาว” และเป็นหัวหน้าเท่านั้น
นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการนำในขบวนการประเทศลาวอย่างเงียบๆ ..........................

ซึ่งทั้งหมดเกิดจากอิทธิพลของทางเวียดนามเหนือ ซึ่งสนับสนุนบุคคลที่มีเชื้อสายเวียดนาม หรือเอนเอียงในทางเวียดนามเหนือ






บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #106 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 12:58:14 PM »



ขวัญและกำลังใจของฝ่ายข้าศึก


------------------------------------------------------------------------


ในพื้นที่ศาลาภูคูณ กำลังฝ่ายข้าศึก ประมาณ 21 กองพันราบ และปืนใหญ่ 1 กองพัน ที่ประจันหน้ากับฝ่ายเรา 1 กรม
(3 กองพันทหารราบ 1 กองร้อยปืนใหญ่)

กำลังส่วนใหญ่ของข้าศึกเป็น ขบวนการประเทศลาว แต่ผู้บังคับกองพัน และรองผู้บังคับกองพัน (ฝ่ายการเมือง)
จะเป็นเวียดนามเหนือ บางกองพันรวมไปถึงผู้บังคับกองร้อย (จากปากคำของเชลยศึก).............


และการบังคับบัญชา ระเบียบวินัยจะเข้มข้นมาก ถ้าหากทหารคนใดผิดคำสั่ง หรือมีท่าทีที่จะหลบหนีจะถูกสอบ
หากว่าหนีจะถูกยิงทิ้งทันที มีการอบรมทุกเช้าให้เกลียดชัง จักรวรรดินิยม อเมริกา และผู้รับใช้ (หมายถึงทหารไทย)
และทหารลาว ฝ่ายนิยมกษัตริย์ เป็นการล้างสมองอยู่ทุกวัน.........
 

ที่จำเป็นต้องทำเพราะทหารของขบวนการประเทศลาว ตรากตรำกับการรบมาเป็นเวลาหลายปี สุญเสีย บาดเจ็บไปก็มาก
เกิดความเบื่อหน่าย และไม่มีโอกาสไปเยี่ยมครอบครัว หรือรู้ข่าวของครอบครัวเลย ดังนั้นเมื่อมีโอกาส
จะเข้ามอบตัวหรือหนีทัพทันที


ประกอบกับในบางครั้งก็ประสบความอดอยาก เพราะการส่งกำลังบำรุงทำไม่ได้ ทางขบวนการประเทศลาว
ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของฝ่ายเวียดนามเหนือ จึงต้องมีการปลุกขวัญให้เกิดความเกลียดชังศัตรู
และรักชาติ เสียสละเพื่อมวลชน ตามความเชื่อของลัทธิคอมมิวนิสต์


ซึ่งก็ได้ผลส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งซึ่งเบื่อหน่ายสงครามเพราะถูกหลอกก็หาโอกาสที่จะเข้าหาฝ่ายกษัตริย์ โดยเข้าสวามิภักดิ์
มอบตัวกับฝ่ายเราพร้อมอาวุธ หรือปะทะแล้วยอมแพ้ง่ายๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยิงทิ้ง จากพวกเวียดนามเหนือ


----------------------------------------------------------------------------------------


ตรึงกำลัง


ทาง กรม.ร.203 ได้ออกคำสั่งให้ทั้ง 3 กองพัน สั่งหน่วยลาดตระเวนออกรอบฐานในเวลากลางวัน และให้ตั้งจุดซุ่มโจมตี
พร้อมเป็นหน่วยระวังป้องกันไปในตัว เพื่อกันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาเกาะอยู่ใกล้ฐานได้

ซึ่งก็ได้ผลดีเพราะมีการปะทะกัน โดยเฉพาะเมื่อยิ่งใกล้วันทำสัญญาหยุดยิง การปะทะในระหว่างลาดตระเวน
ก็เพิ่มมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างพยายามที่จะรุกคืบหน้า เพื่อยึดพื้นที่ให้มากที่สุดที่จะทำได้ ฝ่ายรักษาที่มั่นก็พยายาม
ผลักดันให้ออกไปนอกพื้นที่ จึงเป็นช่วยเวลาที่ตรึงเครียดทั้งฝ่ายเราและข้าศึก...........
 

ในที่สุด การลงนามในสัญญาหยุดยิง ระหว่างฝ่ายขบวนการประเทศลาว (คอมมิวเนิสต์) และฝ่ายรัฐบาลก็กระทำขึ้น
ที่เมืองเวียงจันทร์ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.16 โดยไม่มีฝ่ายเวียดนามเหนือ และเอมริกันลงนามด้วย เพราะต่างฝ่ายต่าง
ปฏิเสธว่า ไม่เคยมีทหารฝ่ายตนอยู่ในลาว

 
รวมทั้งไทยก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเป็นสาเหตุที่สงครามครั้งนี้ที่จริงแล้ว คือ ทหารไทย (อาสาสมัครทหารเสือพราน)
รบกับทางเวียดนามเหนือโดยตรง ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย และจีน ทั้งอาวุธ กระสุน เสบียงรบ พร้อมที่ปรึกษา

ฝ่ายเรา ก็มีทางอเมริกันเป็นผู้สนับสนุนทั้งเครื่องบินรบ การโจมตีทิ้งระเบิดทางอากาศ ซึ่งมากกว่าในเวียดนามถึง 2 เท่า
(ทิ้งระเบิดในลาวมากกว่า 2 ล้านตัน – ในเวียดนามประมาณ 1 ล้านต้น) ในข้อตกลงเซ็นสัญญานั้นมีบางข้อสำคัญ คือ

1. ให้หยุดยิง หรือหยุดรบทันที และประจำอยู่ ณ ที่ตั้งในปัจจุบัน
2. ให้หยุดการทิ้งระเบิดทางอากาศทันที
3. ให้เตรียมตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่

ในทางการเมืองก็เจรจากัน ในสนามรบก็รบกันไป ต่างฝ่ายต่างละเมิดข้อสัญญาหยุดยิง
ประกาศหยุดยิงวันที่ 22 ก.พ.16 วันรุ่งขึ้นข้าศึกก็ปรากฏตัวประกาศการยึดพื้นที่ โดยการชักธงขึ้น
ในจุดตรงกันข้ามกับที่ตั้งฝ่ายเรา ปรากฏตัวให้เห็นเป็นบางส่วน เพราะยังกลัวว่า ฝ่ายเราจะโจมตี







บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #107 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 01:05:47 PM »


เปิดศึกครั้งสุดท้าย

........................................................... ....................................


ในตอนเย็น วันที่ 23 ก.พ.16 เวลาประมาณ 18.30 น. ข้าศึกระดมยิง บีซี.618 ร้อย 1 ฐาน บี.เจ ด้วยปืนใหญ่ 122 มม.
นับได้ 333 นัด ฝ่ายเราเสียชีวิต 1 นาย นอกนั้นปลอดภัย


เราโต้ตอบด้วยปืนใหญ่ 155 มม. แต่ฐานปืนข้าศึกอยู่เกินระยะยิง ฝ่ายเราจึงขอเครื่องบิน “สปุกกี้” ซี-47
ติดปืนกลอากาศออกมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเวลา 20.30 น. ข้าศึกจึงยุติการยิงในเวลา 03.30 น.

วันที่ 24 ก.ย.16 หลังจากเครื่องบินกลับแล้ว ข้าศึกระดมยิง บีซี.626 ที่ฐาน บราโว ปาป้า ปราโววิสกี้
และบราโวอัลฟ่า ด้วย อาร์.พี.จี.50 ลูก พร้อมปืนเล็กแมค-47 (อาริก้า) และปืนกลหนัก

ฝ่ายเราขอปืนใหญ่ 105, 155 มม. จากฐานปืนโกลด์ฟิงเกอร์ ยิงตอบโต้พร้อม ค.42 จนข้าศึกต้องถอนตัวกลับไป
ไม่ทราบความเสียหายของข้าศึก


-----------------------------------------------------------------------------------


ในเวลา 05.00 น. มีข้าศึกประมาณ 1 กองพัน เข้าโจมตี บีซี.618 ฐานบราโว-จูเลียต ภูธาตุ และฐานบราโววิคเตอร์ ภูสูง
ด้วยอาวุธนาๆ ชนิดพร้อมปืนใหญ่ ฝ่ายเราตอบโต้ด้วย ค.42 ปืนใหญ่ 105, 155 มม. อยู่ประมาณ 4-5 นาที ข้าศึกจึงถอนตัว
เข้าไปในหุบเขา ฝ่ายเราปลอดภัย

ในตอนเช้าขอกำลังทางอากาศเข้าสนับสนุนโดยเครื่องบินตรวจการณ์ แอล-19 "นกกระเต็น" เข้ามาในพื้นที่บริเวณ ภูธาตุ
ภูสูง และให้ ที-28 เข้าโจมตีข้าศึกที่เคลื่อนไหวอยู่ในบริเวณนั้น พร้อมส่งกำลังภาคพื้นดินจาก บีซี.618 ออกลาดตระเวน
กวาดล้างข้าศึก


ได้พบคลังอาวุธของข้าศึก รถถังใหญ่ และคลังย่อย อีกหลายแห่งในบริเวณนั้นพบกระสุนปืนใหญ่ 122 มม.
ประมาณ 7 ตัน กระสุนปืน ปตอ.12.7-6 ตัน กระสุนเอเค-47 2 ตัน เคโม 50 ลูก ทีเอ็นที 200 กรัม 20 ลัง
น้ำมันเบ็นซิน 4 ถัง (200 ลิตร) ข้าวสาร 4 กระสอบ รถยนต์บรรทุก 1/2 ตัน 1 คัน และที่พิเศษสุดๆ คือ
จรวด 122 มม. 50 ลูก ซึ่งไม่เคยยึดได้จากที่ใดเลยในสภาพสมบูรณ์ รวมน้ำหนักกระสุนที่ยึดได้กว่า 40 ตัน
ทางหน่วยเหนือสั่งให้ทำลายทิ้ง เพราะจำนวนมากเกินกว่าที่จะนำมาเก็บรักษาไว้ ขนมาแต่ จรวด 122 มม.
ส่งให้ บก.ฉก.วีพี.ที่ล่องแจ้ง เพื่อส่งกลับกองทัพ เพื่อการศึกษาบางส่วน ทางหน่วยเหนือได้มอบรางวัลให้ 10,000.- บาท


---------------------------------------------------------------------------


ในตอนเย็นเวลา 16.00 น. ชุดลาดตระเวนของ บีซี.618 ได้ปะทะกับข้าศึกที่มาดักซุ่มโจมตี ฝ่ายเราขอปืนใหญ่ยิงสนับสนุน
และต่อสู้ด้วยอาวุธประจำกาย คาดว่าข้าศึกก็ได้รับความเสียหายจึงถอนตัวไป เราปลอดภัย ในวันต่อๆ มา
ก็มีการปะทะและยึดอาวุธกระสุน ได้มากเพิ่มขึ้น กรม.ร.203 ให้ทุกกองทัพออกลาดตระเวนกวาดล้างในพื้นที่รับผิดชอบ
เพื่อกดดันข้าศึกไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ มีทหารขบวนการประเทศลาว เข้ามาสวามิภักดิ์รวม 8 นาย
ส่งตัวให้ทาง ทชล.ภาค 5 และนำส่งที่ ผาขาว 2 คน เพื่อทำการสอบสวนหาข่าว

บีซี.619 นำทีมโดย ฝอ.3 กองพัน นำทหาร 1 หมวด พร้อมเจ้าหน้าที่แฟ็ก ซู๊ ไม่สามารถติดต่อ
ทางวิทยุได้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ จึงได้กลับมาที่ฐาน ท่ามกลางความเป็นห่วงของทางกองพันและกรม
ทุกคนปลอดภัยดี และไม่พบการเคลื่อนไหวของข้าศึกในหุบเขาก็วางใจไปได้ด้านหนึ่ง แต่ไปพบถ้ำซึ่งมี
ความยาวประมาณ 800 เมตร สามารถบรรจุทหารได้ 1 กองพัน เป็นที่ซ่อนอย่างดี พบกระสุนอาร์ก้า
และอาร์พีจีจำนวนหนึ่ง และแคร่นอนไม้ 2 แคร่ มีสายโทรศัพท์วางอยู่หน้าถ้ำ

ข้าศึกปรากฏตัว 2 คน ในขณะนั้นและยิงปืนเล็ก และอาร์พีจีใส่ชุดลาดตระเวน และวิ่งหนีไปหลังจากทาง
ฐานปืนโกลด์ฟิงเกอร์ ยิงปืนใหญ่ 105 และ 155 มม. สนับสนุนตามคำร้องขอจากหน่วยลาดตระเวน
ทาง SKY (ซี.ไอ.เอ.) มีคำสั่งห้าม อเมริกัน เคสออฟฟิชเซอร์ ขึ้นแนวตั้งแต่วันหยุดยิง


และผู้เขียนได้รับเลื่อนขึ้นเป็น ฟิลด์เลียองออฟฟิชเซอร์ ทำหน้าที่แทน รับผิดชอบ กรม.ร.203
ในทุกๆ ด้าน ทั้งการส่งกำลังบำรุง อาวุธ กระสุน การรายงานตรงสู่ บก.ที่ล่องแจ้ง ประสานทาง
กรม ทาง กองทัพ ดูแลทีมแฟ็กทั้ง 6 คน โดยเลื่อนให้ฟลายรอด ขึ้นเป็นผู้ช่วยฝ่ายยุทธการแทนผู้เขียน


---------------------------------------------------------------------



บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #108 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 01:10:32 PM »




-------------------------------------------------------------------------

ทางสกาย (SKY) ก็มีนโยบายลดจำนวน ซี.ไอ.เอ. ลง พร้อมทั้งจำนวนแฟ็ก (FAG ผู้นำการโจมตีทางอากาศ)
ทั้งๆ ที่มนความเป็นจริงการสู้รบก็ยังคงดำเนินเป็นปกติ บางครั้งจะรุนแรงกว่าก่อนมีสัญญาหยุดยิง
กำลังพลของทหารเสือพราน ก็อยู่ในแนวโน้มของการลดลงเช่นกัน ทางด้านภาคใต้ที่ ปากเซ ฝ่ายเวียดนามเหนือ
ก็ยกกำลังพล 1 กองพล พร้อมรถถัง และปืนใหญ่เข้าโจมตีที่ราบสูง โบโลเวนส์ เมืองปากซอง (ปากข่อง)
ในวันที่ 22 ก.พ.16

บีซี.601 และ บีซี.627 ทนการกดดันของข้าศึกไม่ได้ ต้องถอนตัวไปอยู่บ้าริก แสดงให้เห็นเจตนาของข้าศึก
ที่วางแผนการในการยึดพื้นที่ไว้เป็นอย่างดี และทุ่มเทกำลังพลเข้าดำเนินการ และทำสำเร็จตามความมุ่งหมาย
กับเป้าหมายที่วางเอาไว้.....

ในระหว่างการรบที่ยังดำเนินไปที่เหมือนหรือหนักกว่าปกติ ทางศาลาภูคูณก็มีหัวหน้า เพชร (พล.ท.ไพฑูรย์ อังคตนุวัฒน์)
ที่ปรึกษาทางทหาของรัฐมนตรีกลาโหม
(จอมพล ถนอม กิติขจร) ได้ขึ้นมาที่ศาลาภูคูณ และประจำอยู่ 3 เดือน
ท่านเป็นนายทหารที่เป็นนักรบเต็มตัว แม้ในขณะนั้นมียศเป็น พลตรี และเป็นที่ปรึกษาของ นายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งความเป็นจริงท่านอยู่ที่ เวียงจันทน์ หรือหลวงพระบาง ได้อย่างสบายๆ แต่ด้วยความเป็นนักรบ
ท่านก็มาอยู่ในแนวหน้า และออกตรวจเยี่ยมทหารในแนวหน้าเป็นประจำ แม้ในขณะที่มีการปะทะหรือข้าศึกยิงปืนใหญ่ถล่มฐานพวกเราอยู่


-----------------------------------------------------------------------


ในบางครั้งท่านจะเป็นคนสั่งปืนใหญ่ให้ยิงโต้ตอบด้วยตนเอง หัวหน้าเพชร ขึ้นไปตรวจแนวหน้า
เห็นเสื้อผ้า รองเท้าทหาร ไม่อยู่ในสภาพที่ดีก็สั่งให้ขอขึ้นไปทางหน่วยเหนือ ตัวท่างเองก็พูดกับ มิสเตอร์แพทเลนดีร์
หัวหน้าสกาย (ซี.ไอ.เอ.) ก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ของทุกอย่างส่งมาตามคำขอ เร็วกว่าปกติตามจำนวนที่ขอไป
ทั้งกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. 105 มม. และปืน ค. กระสุนเอ็ม.16 และทุกชนิดที่ขอก็จะได้รับอนุมัติตามคำขอ
สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทาง กรม.ร.203 และทหารเสือพรานทั้ง 3 กองพันเป็นอย่างมาก ผู้การ กรม.ร.203 หัวหน้าจวน
 (พ.อ.ยง ศรีนพคุณ) ย้ายกลับล่องแจ้ง และให้หัวหน้าพันยง (พ.อ.ยุทธนา รูปขจร) ขึ้นมาทำหน้าที่แทน


ในการปฏิบัติการในลาวซึ่งเป็นโครงการปิดลับ จึงไม่มีการเรียกยศ และชื่อจริงในระดับผู้บัญชาการ ก็จะเรียกว่า "นาย"
ตามด้วยชื่อโค๊ต และ "หัวหน้า" ในระดับเสนาธิการ และผู้บังคับบัญชา ตามด้วยชื่อโค๊ต ฉะนั้นผู้เขียนจึงขอเรียก
(หัวหน้าเพชร) ว่า นายเพชร เพื่อเป็นการให้เกียรติท่าน และตามความเป็นจริงในสนามรบ


----------------------------------------------------
บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #109 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 01:17:22 PM »


ยุติศึกศาลาภูคูณ

--------------------------------------------------------------------------------------

นายเพชร สั่งให้ทาง ฝอ.3 กรม หัวหน้าพันสี เรียนผู้บังคับกองพันเข้ามาประชุมร่วมเพื่อชี้แจง วางแผน ทั้งการรุก และการถอย
ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับทราบ และเห็นการเตรียมการถอนตัว เมื่อสถานการณ์ถูกกดดัน และเห็นว่าไม่สามารถจะรักษาฐานไว้ได้
 
ตลอดมามีแต่การสั่งให้สู้ตาย ห้ามถอน และก็เป็นดังนั้นคือ ตาย และบาดเจ็บ เสียหายยับเยิน นับแต่ทุ่งไหหิน
จนมาถึงยุทธการซำทอง


ในการรุกก็วางแผนให้ทุกกองพันเข้าตีเป้าหมายตามที่กำหนด โดยมีอาวุธหนักประจำกองพันและปืนใหญ่ 155 มม. 2 กระบอก
105 มม.2 กระบอก จากฐานยิงโกลด์ฟิงเกอร์ ยิงสนับสนุนเบิกทาง และให้ทหารราบบุกเข้าตีตามจุดกำหนด
 
คือใช้อำนาจการยิงข่มข้าศึกในขณะที่ภาคพื้นดินรุกเข้าสู่เป้าหมาย ในกรณีนี้ที่ข้าศึกเข้าตีฝ่ายเราด้วยกำลังพลจำนวนมาก
สนับสนุนด้วยอาวุธหนัก จนไม่สามารถต้านรับได้ ให้ถอนตัวไปยังจุดนัดพบที่ 1 รวบรวมปรับกำลังเพื่อกลับเข้าตีโต้
หากข้าศึกรุกไล่ตามตีด้วยกำลังอาวุธที่เหนือกว่า ก็ให้ถอนตัวไปยังจุดนัดพบที่ 2 ที่กำหนดไว้ และรวบรวมปรับกำลังเพื่อตีโต้อีกครั้ง
เพื่อรักษาชีวิตกำลังพลให้มากที่สุด

จึงเป็นนิมิตรที่ดี ผู้บังคับกองพันทุกคนต่างดีใจ เพราะทุกคนต่างรับทราบและมีประสบการณ์ที่ให้สู้ตาย
ถ้าถอนตัวออกมาอาจโดยขึ้นศาลทหารว่า หนีทัพต่อหน้าอริราชศัตรู ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เพราะเป็นยามศึกสงคราม
ขวัญและกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาจึงดีมาก พร้อมทั้งยุทธปัจจัยต่างๆ ก็ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยเหนืออย่างดี
ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า อาหาร และการรักษาพยาบาล
 

ทั้ง 3 กองพัน ส่งหน่วยลาดตระเวนในเวลากลางวัน ก็ปฏิบัติงานได้ผลมาก ยึดอาวุธ กระสุนของข้าศึกเป็นจำนวนมาก
เท่ากับเป็นการตัดกำลังข้าศึก ในอันที่จะเข้าโจมตีฝ่ายเรา ตามที่ทางข่าวกรองแจ้งมาให้เตรียมพร้อม ข้าศึกมีเป้าหมายที
จะยึดศาลาภูคูณ ยุทธศาสตร์สำคัญของทางแยกที่จะไปสู่หลวงพระบางและเวียงจันทน์


ในตอนกลางคืนก็ส่งหน่วยระวังป้องกัน (Outpost) เป็นหน่วยซุ่มโจมตีในตัวออกปฏิบัติการทำให้การเคลื่อนไหวของข้าศึก
ที่จะมาเกาะติดฐาน หรือสอดแนมความเคลื่อนไหวฝ่ายเราทำได้ยากลำบาก และในตอนกลางคืนยังมีปฏิบัติการทางอากาศ
เข้าโจมตีตามการร้องขอเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของข้าศึกเป็นครั้งคราว ส่วนถนนที่ให้ F-111 โจมตีทำลายเส้นทางนั้น
ข้าศึกซ่อมเสร็จภายใน 2 อาทิตย์เพราะในตอนกลางคืนเห็นแสงไฟรถวิ่งเป็นขบวนในการส่งกำลังบำรุง ความสามารถของ
เวียดนามเหนือ ในการสร้างทางมีขีดความสามารถสูงมาก ผู้เขียนมีประสบการณ์เมื่อตอนอยู่ชำทอง ที่ข้าศึกตัดถนนขึ้นเขา
ให้รถถังมาจ่อยิง บีซี.606 จนเราแตกกระเจิง และรถถังเหล่านั้นก็วิ่งเข้าเหยียบ บีซี.610 จนต้องถอนตัว รถถังข้าศึกลุยต่อถึง
สกายลายน์ ก่อนที่จะโดนทำลาย


เครื่องบินตรวจการณ์ฝ่ายเราพยายามบินเข้าไปตรวจดูตามที่เราแจ้ง แต่ก็ประสบกับการป้องกันอย่างเหนียวแน่น
โดย ปตอ.ขนาด 12.7 กระหน่ำยิงหลายกระบอก ต้องบินในระดังสูง ซึ่งก็ยากที่จะตรวจการณ์ได้ ครั้งหนึ่ง นายเพชร
จะกลับล่องแจ้งเพื่อไปอุดรฯ ผู้เขียนจึงขอเครื่องบินปอร์ตเตอร์มารับ หลังจากบินขึ้น นายเพชรให้นักบิน บินไปทางตะวันออก
ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังข้าศึก ที่บริเวณ นาน่าน ทางนักบินเรียนท่านว่ามี ปตอ.12.7 ของข้าศึกตามที่ได้รับแจ้งก่อนขึ้นบิน


แต่นายเพชรก็ยืนยันให้บินไป จะรับผิดชอบเองและจะพูดกับแพทแลนดีร์ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ปรากฏว่าเมื่อเข้าเขตของข้าศึก
ปตอ.12.7 มม. ก็ระดมยิง โดนปีกเครื่องบินนัดหนึ่งทะลุ ทางใต้ท้องเฉี่ยวอเมริกันเคสออฟฟิชเซอร์ ที่ดูแลพวกม้ง ที่ปีกโดนยิงทะลุ
น้ำมันไหลออก นักเบินจึงบินกลับทันที หลังจากที่แจ้งให้ผู้เขียนทราบว่าโดนยิง แต่ก็กลับถึงล่องแจ้งโดยปลอดภัย เป็นเรื่องเล่าขานกัน
ในหมู่นักบินถึงนายพล สวมหมวกหางกระรอกเหมือนเสือพราน (เดวี คลอกเกร็ต) ในหนังเรื่องความกล้าหาญ ที่เสี่ยงบินเข้าไปในเขตยึดครองของข้าศึก

ผู้เขียนต้องติดตามนายเพชร ขึ้นแนวเพื่อตรวจเยี่ยมทหารในแนวหน้าตลอดเวลาที่อยู่ด้วย ในบางครั้งก็ต้องจัดเครื่องบิน
หรือเฮลิปคอปเตอร์ ติดตามไปหลวงพระบาง เพื่อประสานกับทาง ทชล.ภาค 5 และฝ่ายการข่าวของเราที่หลวงพระบาง
ทุกครั้งที่ไปจะซื้อข้าวหมูแดงและกับข้าวใาฝากฝ่ายอำนวยการที่ กรม.ร.203 ทุกครั้ง และนายเพชรจะเป็นคนทำอาหารเอง
และนายจะนั่งร่วมวงอาหารด้วยทุกครั้ง พร้อมเล่าเรื่องต่างๆ ให้พวกเราฟังในเรื่องการรบที่ นาคัง ที่อยู่กับนายพลกองแล
การเข้าตีภูกูดตอนที่อยู่เมืองสุยและเกร็ดสงครามอื่นๆ เพราะนายเพชร เดินทางไปทุกภาคของลาว จึงทราบเรื่องต่างๆ
ด้วยตนเอง เป็นความรู้ทั่วไปให้กับพวกเราที่ได้รับฟังในระหว่างทานอาหาร และหลังอาหาร


กรม.ร.203 ยึดพื้นที่ ศาลาภูคูณ จนถึงเดือน ธันวาคม 2516 จึงได้รับคำสั่งให้มอบพื้นที่ให้กองกำลัง ทชล. และม้ง
ของนายวังเปาดูแลรับผิดชอบรักษรพื้นที่ต่อไป


ในบางระยะเวลาที่ยึดครองพื้นที่ศาลาภูคูณ ได้ทำหน้าที่และมีผลงาน
ในการกวาดล้าง ยึดอาวุธ ยุทธโธปกรณ์ ทำลายข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก มีทหารฝ่ายขบวนการประเทศลาวเข้าสวามิภักดิ์จำนวน 8 คน

ซึ่งทาง กรม.ร.203 ส่งมอบให้ทาง ทชล.ภาค 5 เพื่อกรรมวิธีในการไต่สวนหาข้อมูลจากเฉลยศึก นับได้ว่า กรม.ร.203
ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จสมบูรณ์ ได้รับคำชมเชยจากทุกฝ่าย อันประกอบด้วย ซี.ไอ.เอ. ทาง ทชล.ภาค 5 และนายพลวังเปา
ผู้เขียนเองขอเทิดเกียรติของท่านนายทหารทั้งฝ่ายอำนวยการกรม และทางกองพันเท่าที่มีอยู่ในบันทึกไว้ ณ ที่นี้

หน.พันยง ผบ.กรม.ร.203 (พล.ต.ยุทธนา รูปขจร)
หน.ธงทอง รอง ผบ.กรม.ร.203 (พ.อ.สนั่น เทียนทอง)
หน.พันสี ฝอ.3 กรอม.ร.203 (พล.อ.ประเสริฐ พรรคเจริญ)
หน.เขียม ฝอ.2 กรม.ร.203 (พล.ท.พิทยา ศิลากร)

และ ผบ.พัน บีซี.618, บีซี.619, บีซี.626
บีซี.618 ผบ.พัน หน.ฉัตรไชย (ร.อ.ทรัพย์ ศรีจันทร์)
บีซี.618 เอ ผบ.พัน หน.ชินวุธ (พ.ต.มงคล วงศ์เกรียงไกร)
ฝอ. หน.ชัยพร (พล.ต.ทศพร นิยมค้า)
บีซี.619 ผบ.พัน หน.ธนะเดช (พล.ร.อ.สุพันธ์ ศุภสมุทร)
รอง ผบ.พัน ฉัตรแก้ว (ร.อ.บรรจง สุวรรณกาสี)
ฝอ.3 (น.ต.ศิรินาก จันทร์เรืองฤทธิ์)
บีซี.626 ผบ.พัน หน.มรรค (พ.ต.ประสิทธิ์ เขมะรุจิ)
รอง ผบ.พัน. หน.มณพก (ร.อ.หาญ ติยะโคตร)
ปืนใหญ่ ฐานโกลด์ฟิงเกอร์ (Gold Finger) BA.636

FAG ประจำ กรม ร.203 ประกอบด้วย
Spotlight ประจำ ทก.กรม (Field Liaison Officer)
Flyrod ประจำ ทก.กรม (Operation Assistant)
Popcorn ประจำ บก.พัน
Applepie ประจำ บก.พัน
Supperstud ประจำ บก.พัน
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทั้ง 3 กองพัน
Sunburn ประจำ บก.พัน
Subway ประจำ บก.พัน


------------------------------------------------------------------------------


บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #110 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 01:20:46 PM »

เอาไว้มาต่อเรื่อง

ปฏิบัติการนักรบนิรนาม 333 (2504-2517)
เขียนโดย สปอทไล้ท์


---------------------------------------------
บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
krajong
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2875



« ตอบ #111 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 02:00:51 PM »

พี่ครับ FAG มันย่อมาจากอะไรครับ เห็นมาตั่งแต่ยุค สยุมภู ทศพล แล้วครับ
บันทึกการเข้า

ความจริงไม่มีวันตาย แต่คนพูดความจริงตายไปหลายแล้ว
สีอำพัน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 258
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4432



« ตอบ #112 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 03:18:29 PM »

 
เอาไว้มาต่อเรื่อง

ปฏิบัติการนักรบนิรนาม 333 (2504-2517)
เขียนโดย สปอทไล้ท์


แหมพี่ก็มี กั๊ก ด้วย 
ขอเป็น กลม ไม่ได้เหรอครับ
---------------------------------------------

บันทึกการเข้า

อันวันใดไม่สำคัญเท่าวันนี้ เป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
อันวันนี้สำคัญกว่าวันใด  วันไหนไหนไม่สำคัญเท่าวันนี้
hare
Hero Member
*****

คะแนน 1785
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13043


มีแล้วไม่ต้องใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี


« ตอบ #113 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 03:44:00 PM »

+1 ครับ  Grin
บันทึกการเข้า

birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #114 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 03:51:57 PM »

อ่านจบแล้วครับ +ให้อีก ๑ เลยครับ
บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #115 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 03:57:50 PM »

 คนกลางในภาพคือท่าน FAG Spotlight  สมัยปัจจุบัน.......
 
  เครดิต ตาทุ้ย แห่งเวบ ตี๋น้อย........   ไหว้

   
           
 
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
JC
...พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว...
Sr. Member
****

คะแนน 12
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 590



« ตอบ #116 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 11:01:33 PM »

คนกลางในภาพคือท่าน FAG Spotlight  สมัยปัจจุบัน.......
 
  เครดิต ตาทุ้ย แห่งเวบ ตี๋น้อย........   ไหว้

  
           
 

โคตรเท่เลยครับ ด้วยความเคารพ....

อยากให้ท่านมานั่งเล่าด้วยตัวท่านเองเลย และถ้ายิ่งมีโอกาสได้ซักถามด้วยตัวเอง คงต้องใช้เวลาซักวันนึงมั้งครับ
บันทึกการเข้า

ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ....JC
at75
Hero Member
*****

คะแนน 99
ออฟไลน์

กระทู้: 3511



« ตอบ #117 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 02:12:53 AM »

คำว่า FAG  ที่ถูกต้อง น่าจะเรียก ว่า FAC ที่มาจากชื่อเต็มว่า forward air control  นะครับ แปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้นำอากาศยานหน้า

 ฐานบินที่นครพนม

http://www.nkpcommandos.com/Laos.html

http://www.nkpcommandos.com/NKPRTAFB.html

http://video.aol.com/video-detail/general-vang-pao-and-the-hmong-army/555881446

http://www.talkingproud.us/HistoryBirddog.html

http://www.talkingproud.us/HistoryBirddog13.html
บันทึกการเข้า
C.J. - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 314
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5383


ขอ...นัดเดียว


เว็บไซต์
« ตอบ #118 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 10:33:33 AM »

คำว่า FAG  ที่ถูกต้อง น่าจะเรียก ว่า FAC ที่มาจากชื่อเต็มว่า forward air control  นะครับ แปลเป็นภาษาไทยว่า ผู้นำอากาศยานหน้า

http://www.talkingproud.us/HistoryBirddog13.html

Cheesy


==> http://www.angelfire.com/in/Laos/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2009, 10:47:27 AM โดย JongRakN » บันทึกการเข้า

ธรรมของสัตบุรุษ

๑. ธัมมัญญุตา - รู้จักเหตุ ๒. อัตตัญญุตา - รู้จักผล ๓. อัตตัญญุตา - รู้จักตน ๔. มัตตัญญุตา - รู้ประมาณ ๕. กาลัญญุตา - รู้จักกาล ๖. ปริสัญญญุตา - รู้จักประชุมชน ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา - รู้จักเลือกบุคคล

http://www.dopaservice.com/eservice/content.do?ctm_id=gun&function=document&gro
krajong
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2875



« ตอบ #119 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 11:03:33 AM »

ข้อมูลชัดเจนอย่างยิ่งครับ ขอบพระคุณครับ
บันทึกการเข้า

ความจริงไม่มีวันตาย แต่คนพูดความจริงตายไปหลายแล้ว
หน้า: 1 ... 5 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 22 คำสั่ง