อ้อ..ผมกำลังจะเขียนถึงรัฐบาลที่บริหารการจัดการเกี่ยวกับน้ำมัน แต่มือมันดันเขียนว่า ปตท เพราะเห็นผู้ว่าฯ ปตท สัมภาษณ์ว่าการขึ้นภาษีน้ำมันจะไม่กระทบต่อราคาขายปลีก แต่ถึงวันนี้แล้วเจอเข้าไป 2 ครั้ง ๆ 60 ตังค์...และผมก็คิดว่าน่าจะต้องขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ
ใหน ๆก็เขียนถึง ปตท แล้วคุณ Jakrit97 พิมพ์คล้าย ๆ กับว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับน้ำมันดี ช่วยสงเคราะห์เล่าให้ฟังหน่อยซิครับว่ามันไม่เกี่ยวกับ ปตท อย่างไรเพราะผมเห็นว่า ปตท มีบทบาทมาตลอดในการกำหนดราคาขายปลีก..
ผมไม่ได้รู้ดีไปกว่าทุกท่านหรอกครับ รู้เฉพาะข่าวที่มีการนำเสนอเท่านั้น ....
ผมคิดเล่น ๆ ว่า ถ้า Shell มันสามารถขายราคาต่ำกว่า ปตท. หรือ บางจาก ได้ มันคงทำไปแล้ว ......
ตลาดขายปลีกน้ำมันเป็นตลาดเสรีครับ ผู้ค้ากำหนดราคาได้เอง ไม่จำเป็นต้อง "เพิ่ม" ให้เท่าเจ้าใหญ่ ....
บางครั้งเราก็เห็น Shell Caltex Esso ขึ้นราคาน้ำมันนำหน้า ปตท./บางจาก เหมือนกันครับ ....
การขึ้นภาษี แล้วไม่กระทบราคาขายปลีก .... เพราะเขาเอาเงินกองทุนน้ำมันมาจ่ายแทนครับ ..... เมื่อเงินกองนี้หมด ก็เตรียมใจรับกับราคาเพิ่มอีกลิตรละ ๒ บาทได้เลยครับ .... เตรียมตัวไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องโอดครวญมากครับ
ขอบคุณครับคุณJakrit97
ผมมีความรู้สึกว่าการหาเงินเข้าคลังแบบง่าย ๆ ก็คือการขึ้นภาษี โดยเฉพาะภาษีน้ำมัน เหล้าและบุหรี่...ไอ้ 2 อย่างหลังน่ะผมเห็นด้วย แต่ไอ้อย่างแรกนี่ผมไม่เห็นด้วยเท่าไรเพราะมันจะกระทบไปซะทุกอย่างเป็นลูกโซ่...มันคล้าย ๆกับว่าทุก ๆ ครั้งที่น้ำมันขึ้น ของอุปโภค บริโภคต่าง ๆ มันก็แอบขึ้นโดยที่เราไม่รู้สึกตัว แรกๆผมน่ะไม่ค่อยรู้สึกตัวเพราะผมเป็นคนหาตังค์อย่างเดียว แต่หลัง ๆผมชักจะรู้สึกเพราะหลังๆ นี่ตังค์ที่หามาชักไม่พอ ไม่ทราบว่ากระทรวงพาณิชย์มัวแต่เก๊กซิมกับเรื่องจำนำข้าวโพดหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็เลยไม่มีเวลาเดินห้าง, ตลาดเพื่อเช็คราคาสินค้าขายปลีก... ไม่รู้ว่าทำไมรัฐฯถึงไม่คิดหาตังค๋เข้าประเทศโดยการส่งสินค้าที่เป็นของไทยจริง ๆ ออกไปขายต่างประเทศแทนการขึ้นภาษีซะที่น๊า....
เห็น รมต เวียตนามไปเจรจาการค้ากับ ยูเออี เป็นมูลค่ามหาศาลแล้วอดย้อมกลับมามอง รมต ของเราด้วยความหดหู่ไม่ได้....