เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 13, 2024, 09:23:33 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องแอร์ฟรานซ์ หายจากจอเรดาร์  (อ่าน 14863 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 27 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #30 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2009, 01:09:40 PM »

Ki-jang-aey ถูกต้องหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ผมชอบแนวคิดของท่านครับ บวก  ๑ ครับ  เยี่ยม
บันทึกการเข้า
RouRou_Mel - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 135
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 711


« ตอบ #31 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2009, 09:45:24 PM »

ความเห็นส่วนตัวของผม ในฐานะที่ผมทำงานกับเครื่องบินรุ่นนี้ (A330-200) ผมให้นำหนักกับการโดนวินาศกรรมครับ...ซึ่งผมอาจจะหน้าแตกในภายหลังก็ได้ แต่ขณะนี้ผมเชื่ออย่างนี้เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้ครับ
1. ข่าวที่ว่าโดนฟ้าผ่าแล้วตกนั้น ยากครับ เพราะการบินข้ามบริเวณเส้นศูนย์สูตรแล้วเจอเมฆเยอะๆ น่ะ เป็นเรื่องธรรมดาครับ เหมือนทางแถบเกาะบอร์เนียว, สิงคโปร์, มาเลย์, ฟิลิปปินส์ เป็นต้น  ไม่มีนักบินคนไหนหรอกครับที่เห็นเมฆที่เป็นเมฆแบบอันตรายแล้วจะไม่หลบ หลบเมฆกันทีละ 30-50 ไมล์ ก็ทำกันเป็นประจำครับ ทั้งนักบินและผู้ควบคุมการจราจรของประเทศแถบเขตร้อนคุ้นเคยกันดี ถ้านักบินของแอร์ฟรานซ์ลำดังกล่าว แล้วตั้งใจไม่หลบ กะลุยเต็มที่ (ก็ต้องบ้าแน่ๆ ครับ) มันฝืนความรู้สึกจริงๆ ครับ
2. เครื่องบินโดนฟ้าผ่า ผมว่าก็โดนกันออกบ่อยนะครับ แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ก็นั่นหละครับ  เราโดนกันในระดับที่ถือว่าเป็นหางๆ ของสายฟ้าแล้ว (แบบที่ว่า หลบแล้วนะ)ไอ้ที่จะโดนเต็มๆ แบบกลางก้อนเมฆ ก็ขอให้ย้อนไปอ่านข้อหนึ่งอีกที (ต้องบ้าแน่ะๆ) เพราะเครื่องบินมีระบบ กระจายประจุไฟฟ้าออกไปรอบๆ ตัว เท่าที่ผมเคยโดน ก็จะมีอาการเบลอไปบ้าง ไม่กีวินาที แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้องเสียทั้งหมด
3. เครื่องบินรุ่นนี้ ได้รับการรับรองเรื่องการบินในแบบฉุกเฉิน (เช่น เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง เหลือแค่เครื่องเดียว, ระบบปรับความดันเสีย, ระบบไฟฟ้าเหลือจำกัด, ไฮดรอลิกเหลือ 1 ใน 3 ฯลฯ ) โดยยังสามารถบินต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมงครับ (ย้ำ 3 ชั่วโมง) นั่นคือสามารถบินกับไปหาสนามบินที่ใกล้ที่สุดที่อยู่ในระยะที่ใช้เวลาบินไม่เกิน 3 ชั่วโมง คือคร่าวๆ ประมาณ 2,700 กม. จากจุดที่เกิดเหตุนั้นครับ

(เดี๋ยวมีต่อ)


ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ผมสงสัยเล็กน้อยครงกรณีเครื่องยนต์ดับ เครื่องบินสามารถบินได้ด้วยเครื่องยนต์เดียว 3 ชั่วโมง หรือ 2,700 กม.
เครื่องยนต์ของ A330 มีแรงขับเครื่องละประมาณ 70,000 ปอนด์ (เทียบเท่า 70,000 แรงม้า)
ปกติความเร็วเดินทางประมาณ 900 กม. ต่อ ชั่วโมง
ถ้าเครื่องดับหมายถึงเสียกำลังขับไป 50% เครื่องบินสามารถยังสามารถบินได้ด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือครับ
แล้วมีหลักประกันอะไรไหมที่เครื่องยนต์ที่เหลืออีกหนึ่ง จะ "ไม่" ดับตามเครื่องแรกไป
บันทึกการเข้า

rouroumel.multiply.com
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #32 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2009, 10:12:32 PM »

ตอนฟุตบอลล์โลกเรียกกันว่าฟรองซ์ 98 อยากทราบว่าชื่อสายการบินนี้ทำไมไม่อ่านแอร์ฟรองซ์ ครับ
บันทึกการเข้า
RouRou_Mel - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 135
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 711


« ตอบ #33 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2009, 10:20:26 PM »

ตอนฟุตบอลล์โลกเรียกกันว่าฟรองซ์ 98 อยากทราบว่าชื่อสายการบินนี้ทำไมไม่อ่านแอร์ฟรองซ์ ครับ
สวัสดีครับ
"ฟรานซ์" อ่านตามภาษาอังกฤษ ส่วนฝรั่งเศษเรียก "ฟรองซ์"
ผมเคยงงตอนมาถึง Australia ใหม่ๆ อ่านข่าว Tony Henry ในพรีเมียร์ลีก
ตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน มารู้ทีหลังว่า "เทียรี่ อองรี"
บันทึกการเข้า

rouroumel.multiply.com
SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #34 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 02:23:58 AM »

ไหนว่าเครื่องบินเป็นพาหนะที่ปลอดภัยที่สุดไม่ใช่หรอครับ  อ๋อย
ใช่ครับปลอดภัยที่สุดครับแต่เหตุ แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ครับ ถ้าเทียบกับรถยนต์ แล้วเครื่องบินปลอดภัยกว่า

ถามครับว่าก่อนออกรถ สตาร์ทรถ มีสักกี่คนที่ตรวจเช็ครถ นอกจากจะเดินทางไกล แต่เครื่องบินทำทุกครั้งครับ
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10809



« ตอบ #35 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 05:53:56 AM »

ไหนว่าเครื่องบินเป็นพาหนะที่ปลอดภัยที่สุดไม่ใช่หรอครับ  อ๋อย
ใช่ครับปลอดภัยที่สุดครับแต่เหตุ แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ครับ ถ้าเทียบกับรถยนต์ แล้วเครื่องบินปลอดภัยกว่า

ถามครับว่าก่อนออกรถ สตาร์ทรถ มีสักกี่คนที่ตรวจเช็ครถ นอกจากจะเดินทางไกล แต่เครื่องบินทำทุกครั้งครับ
คนทำมาตอบเอง รุ่นนี้ทราบว่าการบินไทยไม่มีแต่คิดว่าของสายการบินอื่น ท่านคงผ่านมือมาบ้างนะครับ
บันทึกการเข้า

flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2396


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #36 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 07:47:34 AM »

ความเห็นส่วนตัวของผม ในฐานะที่ผมทำงานกับเครื่องบินรุ่นนี้ (A330-200) ผมให้นำหนักกับการโดนวินาศกรรมครับ...ซึ่งผมอาจจะหน้าแตกในภายหลังก็ได้ แต่ขณะนี้ผมเชื่ออย่างนี้เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้ครับ
1. ข่าวที่ว่าโดนฟ้าผ่าแล้วตกนั้น ยากครับ เพราะการบินข้ามบริเวณเส้นศูนย์สูตรแล้วเจอเมฆเยอะๆ น่ะ เป็นเรื่องธรรมดาครับ เหมือนทางแถบเกาะบอร์เนียว, สิงคโปร์, มาเลย์, ฟิลิปปินส์ เป็นต้น  ไม่มีนักบินคนไหนหรอกครับที่เห็นเมฆที่เป็นเมฆแบบอันตรายแล้วจะไม่หลบ หลบเมฆกันทีละ 30-50 ไมล์ ก็ทำกันเป็นประจำครับ ทั้งนักบินและผู้ควบคุมการจราจรของประเทศแถบเขตร้อนคุ้นเคยกันดี ถ้านักบินของแอร์ฟรานซ์ลำดังกล่าว แล้วตั้งใจไม่หลบ กะลุยเต็มที่ (ก็ต้องบ้าแน่ๆ ครับ) มันฝืนความรู้สึกจริงๆ ครับ
2. เครื่องบินโดนฟ้าผ่า ผมว่าก็โดนกันออกบ่อยนะครับ แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ก็นั่นหละครับ  เราโดนกันในระดับที่ถือว่าเป็นหางๆ ของสายฟ้าแล้ว (แบบที่ว่า หลบแล้วนะ)ไอ้ที่จะโดนเต็มๆ แบบกลางก้อนเมฆ ก็ขอให้ย้อนไปอ่านข้อหนึ่งอีกที (ต้องบ้าแน่ะๆ) เพราะเครื่องบินมีระบบ กระจายประจุไฟฟ้าออกไปรอบๆ ตัว เท่าที่ผมเคยโดน ก็จะมีอาการเบลอไปบ้าง ไม่กีวินาที แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้องเสียทั้งหมด
3. เครื่องบินรุ่นนี้ ได้รับการรับรองเรื่องการบินในแบบฉุกเฉิน (เช่น เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง เหลือแค่เครื่องเดียว, ระบบปรับความดันเสีย, ระบบไฟฟ้าเหลือจำกัด, ไฮดรอลิกเหลือ 1 ใน 3 ฯลฯ ) โดยยังสามารถบินต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมงครับ (ย้ำ 3 ชั่วโมง) นั่นคือสามารถบินกับไปหาสนามบินที่ใกล้ที่สุดที่อยู่ในระยะที่ใช้เวลาบินไม่เกิน 3 ชั่วโมง คือคร่าวๆ ประมาณ 2,700 กม. จากจุดที่เกิดเหตุนั้นครับ

(เดี๋ยวมีต่อ)


ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ผมสงสัยเล็กน้อยครงกรณีเครื่องยนต์ดับ เครื่องบินสามารถบินได้ด้วยเครื่องยนต์เดียว 3 ชั่วโมง หรือ 2,700 กม.
เครื่องยนต์ของ A330 มีแรงขับเครื่องละประมาณ 70,000 ปอนด์ (เทียบเท่า 70,000 แรงม้า)
ปกติความเร็วเดินทางประมาณ 900 กม. ต่อ ชั่วโมง
ถ้าเครื่องดับหมายถึงเสียกำลังขับไป 50% เครื่องบินสามารถยังสามารถบินได้ด้วยความเร็วเท่าเดิมหรือครับ
แล้วมีหลักประกันอะไรไหมที่เครื่องยนต์ที่เหลืออีกหนึ่ง จะ "ไม่" ดับตามเครื่องแรกไป


ขอทำความเข้าใจให้ครับ
ในกรณีที่เครื่องยนต์ดับ..ไฟไหม้..หรือเครื่องยนต์หลุด..หลังจากที่นักบินได้ทำการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว....นักบินจะต้องนำเครื่องบินกลับมาลงยังสนามบินใกล้เคียงให้เร็วที่สุด และตามกฎการบินสำหรับเครื่องบินสองเครื่องยนต์ เครื่องบินจะต้องบินไปยังสนามบินสำรองหรือสนามบินฉุกเฉินในรัศมีไม่เกิน 300 ไมล์ทะเลหรือ 1 ชั่วโมงบินของหนึ่งเครื่องยนต์ที่เหลืออยู่ ทั้งนี้เหตุผลที่ให้มานั้นเนื่องจาก ระบบไฮดรอลิค ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ มีใช้ได้เพียง 70% ของการใช้งานปรกติ ส่วนเครื่องยนต์ที่เหลืออยู่นั้นสามารถประคับประคองไปยังสนามบินสำรองหรือสนามบินฉุกเฉินได้แต่ความเร็วจะลดลงไม่มาก และหากนักบินใช้ความเร็วปรกติที่บินอยู่การบังคับเครื่องบินจะทำได้ยากกว่าเนื่องจาก Aerodynamic ของเครื่องบินนั้นเปลี่ยนไปมาก ดังนั้นจึงต้องลดความเร็วของเครื่องบินลงมาและเป็นการถนอมเครื่องยนต์ที่เหลืออยู่ เพราะหากอีกเครื่องดับไปอีกมันจะไม่เหลืออะไร ร่อนลงอย่างเดียว

และในกรณีที่เครื่องยนต์ดับหมดทั้งสองเครื่องยนต์.....นักบินจะต้องทำการร่อนลงจะลงบนพื้นดิน หรือร่อนลงน้ำก็ตามแต่ นักบินมีเวลามากที่สุดคือสามสิบนาทีที่จะทำการร่อนลงเพราะระบบไฟฟ้าสำรองที่เหลืออยู่คือ Battery ส่วนระยะทางการร่อนลงนั้นขึ้นกับนำหนักของเครื่องบิน จากประสพการณ์การฝึกบินกับเครื่องบินแบบ B767 ใน Simulator เมื่อเครื่องยนต์ดับหมดที่ 63 ไมล์จากสนามบินและระยะสูง 27000 ฟุต จะต้องนำเครื่องกลับมาลงให้ได้...ใครทำไม่ได้ก็ไม่ผ่านครับ ทั้งนี้เนื่องมากจาสาเหตุของสายการบิน Air Canada เครื่องยนต์ดับสาเหตุจากน้ำมันหมดเพราะเติมเชื้อเพลิงผิดจากกิโลกรัมเป็นปอนด์ และไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะทำ

หากจำเป็นจะต้องร่อนลงน้ำ (Ditching) เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะทำที่สุด..เครื่องบินได้ถูกออกแบบมาให้สามารถลอยอยู่บนผิวน้ำไปประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ในทางปฏิบิติแล้วมันขึ้นกับความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินกระแทกน้ำ ซึ่งจะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ที่สหรัฐฯ


บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #37 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 07:55:47 AM »


        ขอบคุณน้ากบครับ

บันทึกการเข้า

                
flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2396


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #38 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 08:17:23 AM »

 ยิ้มีเลศนัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2009, 09:14:07 AM โดย flyingkob » บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #39 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 09:35:45 AM »

เสียใจกับญาติพี่น้อง...

และขอบคุณในความรู้ใหม่จากทุกท่านครับ...
บันทึกการเข้า
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #40 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 12:21:40 PM »

 Grin ใช่กรณีกิบลิไกลดิงหรือเปล่าครับท่านกบ Grin
บันทึกการเข้า

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #41 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 12:41:18 PM »

กรณี เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง จากสองเครื่อง 
ต้องทิ้งสัมภาระที่โหลดทิ้งไปหรือเปล่าครับ เพื่อให้เครื่องยนต์ที่เหลือรับภาระน้อยลง
(เคยเจอแต่ ยางล้อเครื่องบินแตก นักบิน ต้องทิ้งโหลดสัมภาระลงทะเลหมด เพื่อให้เครื่องเบา หนักกว่านั้น
ต้องทิ้งน้ำมันบางส่วนด้วย)
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

NOOM 19 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 495
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3733


อดอย่างเสือ ดีกว่าอิ่มอย่างหมา


« ตอบ #42 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 01:48:36 PM »

กรณี เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง จากสองเครื่อง 
ต้องทิ้งสัมภาระที่โหลดทิ้งไปหรือเปล่าครับ เพื่อให้เครื่องยนต์ที่เหลือรับภาระน้อยลง
(เคยเจอแต่ ยางล้อเครื่องบินแตก นักบิน ต้องทิ้งโหลดสัมภาระลงทะเลหมด เพื่อให้เครื่องเบา หนักกว่านั้น
ต้องทิ้งน้ำมันบางส่วนด้วย)

...แล้วใครลงไปใต้ท้องเครื่องเพื่อเอาสัมภาระทิ้งครับ....
บันทึกการเข้า

"นี้ไรเฟิลของฉัน"
"มีเหมือนกันหลายกระบอก,แต่กระบอกนี้เป็นของฉัน"
"ถ้าไม่มีไรเฟิล.ฉันก็ไม่มีอะไร"
"ถ้าไม่มีฉัน.ไรเฟิลก็ไม่มีค่าอะไร"

เสียตังค์ทำรถ ..ดีกว่าหมดกับโคโยตี
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 02:09:13 PM »

กรณี เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง จากสองเครื่อง 
ต้องทิ้งสัมภาระที่โหลดทิ้งไปหรือเปล่าครับ เพื่อให้เครื่องยนต์ที่เหลือรับภาระน้อยลง
(เคยเจอแต่ ยางล้อเครื่องบินแตก นักบิน ต้องทิ้งโหลดสัมภาระลงทะเลหมด เพื่อให้เครื่องเบา หนักกว่านั้น
ต้องทิ้งน้ำมันบางส่วนด้วย)

...แล้วใครลงไปใต้ท้องเครื่องเพื่อเอาสัมภาระทิ้งครับ....
กรณี เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง จากสองเครื่อง 
ต้องทิ้งสัมภาระที่โหลดทิ้งไปหรือเปล่าครับ เพื่อให้เครื่องยนต์ที่เหลือรับภาระน้อยลง
(เคยเจอแต่ ยางล้อเครื่องบินแตก นักบิน ต้องทิ้งโหลดสัมภาระลงทะเลหมด เพื่อให้เครื่องเบา หนักกว่านั้น
ต้องทิ้งน้ำมันบางส่วนด้วย)

...แล้วใครลงไปใต้ท้องเครื่องเพื่อเอาสัมภาระทิ้งครับ....

อิ อิ เปิดประตูท้องเครื่องด้านข้าง (ถ้าเปิดได้) แล้วบินเขย่าๆ ตัวเครื่องให้คอนเทนเนอร์หลุดออกมามั๊งครับ

...เวลาอ่านเรื่องสมัย WWII เครื่่องทิ้งระเบินจากอังกฤษไปบอร์มเป้าหมายในยุโรป ถูกยิงเสียหายเครื่องดับจะบินกลับอังกฤษ เขามักโยนของทิ้ง บอร์มเบอร์เมกันเครื่องหนึ่ง ปลดของโยนทิ้งน้ำหมด ปืน .50 และกระสุน แจกเกตกันสะเก็ดระเบิด ปืนพก 1911 เครื่องแบบพลประจำเครื่อง ฯลฯ แบบว่าพอลงสนามบินได้ก็ล้อนจ้อนทั้งเครื่องบินทั้งลูกเรือ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2396


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #44 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2009, 03:30:05 PM »

Grin ใช่กรณีกิบลิไกลดิงหรือเปล่าครับท่านกบ Grin

ใช่ครับเป็นกรณีศึกษาที่ดีกรณีหนึ่งครับ เป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของสายการบินแอร์แคนาดา เปลี่ยนระบบชั่งตวงวัดใหม่ นักบินสั่งน้ำมันเป็นกิโล ช่างเติมน้ำมันเป็นปอนด์ ผลออกมา.....น้ำมันหายไปกว่าครึ่งครับ บินๆอยู่ดีๆน้ำมันหมดกลางอากาศ โชคดีที่กัปตันเคยบินลงสนามบินแห่งนี้..แต่ก็ความบังเอิญอีกครับที่วันนั้นสนามบินนี้พึ่งจะเสร็จสิ้นการแข่งรถไปไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา และสนามบินนี้ได้ยกเลิกการบินมานานแล้ว.... เครื่อง 767 ลำนั้นเลยได้ถูกตั้งชื่อว่า กิปลิ ครับตามชื่อสนามบิน
ยังมีกรณีศึกษาของเลาด้าร์แอร์ด้วยครับที่ระเบิดกลางอากาศที่สุพรรณบุรีด้วย...ตัว Thrust Reverser มันตีมือแทบพังเลยครับ..ตบแทบไม่ทัน..ไม่งั้นเครื่องยนต์ระเบิดครับ


กรณี เครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง จากสองเครื่อง 
ต้องทิ้งสัมภาระที่โหลดทิ้งไปหรือเปล่าครับ เพื่อให้เครื่องยนต์ที่เหลือรับภาระน้อยลง
(เคยเจอแต่ ยางล้อเครื่องบินแตก นักบิน ต้องทิ้งโหลดสัมภาระลงทะเลหมด เพื่อให้เครื่องเบา หนักกว่านั้น
ต้องทิ้งน้ำมันบางส่วนด้วย)

ในปัจจุบันนี้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินและจะต้องนำเครื่องบินกลับมาลงให้เร็วที่สุด และน้ำหนักสูงสุดที่จะทำการร่อนลงนั้นเกินกว่าน้ำหนักที่ให้ไว้ มีสามกรณีที่จะต้องตัดสินใจคือ
1. บินไปทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิง จะมีเฉพาะเครื่องบินบางแบบเช่น B747 All serries, MD-11 ส่วนเครื่องบินพิสัยกลางและพิสัยใกล้จะไม่มีการทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิงกลางอากาศ การทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิงทางอากาศ สายการบินจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายตามมาคือการรักษาสภาพแวดล้อมที่เสียไป ในแต่ละสนามบินจะมีพื้นที่และความสูงที่ให้เครื่องบินบินไปทิ้งน้ำมันเชื้อเพลิง
2. บินวนเวียนจนกว่าน้ำหนักจะลดลงมาเท่ากับน้ำหนักสูงสุดที่สามารถร่อนลงได้ นานจนน่าเบื่อ
3. ลงมันทั้งอย่างนั้น (ภาษาชาวบ้านครับ) (Over weight landing) ซึ่งเครื่องบินแต่ละแบบจะมีข้อกำหนดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เช่นลดอัตราร่อนในระยะ 500 ฟุตสุดท้ายให้เหลือต่ำกว่า 300 Ft/min เป็นต้น ซึ่งอัตราร่อนนี้จะใช้ระยะทางในการร่อนมากกว่าปรกติ และอาจจะกินระยะทางของทางวิ่งลงไปบ้าง.... แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าจะร่อนลงด้วยอัตราเท่าไหร่.......ความปลอดภัยต้องมาก่อน หลังจากเครื่องลงถึงพื้นเรียบร้อย...เป็นหน้าที่ของกัปตันที่จะสั่งให้อพยบฉุกเฉิน (Emergency Evacuation Procedure) หรือไม่ เพราะหากสั่งให้มีการอพยพความโกลาหลย่อมเกิดขึ้นอาจจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างสายการบิน Qantas B747-300 หลุดออกนอกทางวิ่งที่ดอนเมืองเนื่องจากลงตามลมและไมาสามารถหยุดเครื่องบินได้ ล้อหน้าไปจมในสนามกอล์ฟ แต่กัปตันตัดสินใจให้รถบันไดมารับผู้โดยสาร..จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บมาก ทุกอย่างขึ้นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นครับ

บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.082 วินาที กับ 22 คำสั่ง