BRIC: Buriram International Circuit[/img]
กลุ่มธุรกิจบุรีรัมย์ทุ่มกว่า 2,000 ล้านสร้างเซอร์กิตใหม่ 1 ปีเปิดใช้งานจริง คาดรองรับผู้ชมไม่ต่ำกว่าปีละล้านคน
กลุ่มธุรกิจบุรีรัมย์ เปิดโครงการยักษ์ บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตมาตรฐานระดับโลก โดย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวถึงเป้าหมายในการทุ่มทุนพัฒนาโครงการ BRIC ว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากความต้องการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวและกีฬาที่ดีที่สุด ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศให้มีแนวคิดที่ว่า 'จะต้องปักหมุดสถานที่ที่ควรมาเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต'
หลังประสบความสำเร็จในการสร้างทีมฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสนามกีฬา ไอ-โมบาย สเตเดียม จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์ไปแล้ว การสร้างสนามแข่ง บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จะทำให้ประเทศไทยมีสนามมอเตอร์สปอร์ตระดับมาตรฐานโลกเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และจะทำให้จังหวัดบุรีรัมย์ไม่ใช่แค่เมืองที่เป็นทางผ่านอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นเมืองหลักที่จะต้องแวะมาเที่ยวสำหรับผู้ที่รักการกีฬา
นายเนวิน มั่นใจว่า BRIC จะเป็นสนามมอเตอร์สปอร์ตที่ดีที่สุดในอาเซียน และเมื่อการก่อสร้างสนามแล้วเสร็จ ยังมีแผนที่จะผลักดันในระดับนานาชาติ ให้ BRIC เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่ใช้ในการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์สำคัญๆ ระดับโลก โดยใช้เงินลงทุนในโครงการนี้กว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ มั่นใจว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ โครงการฯ นี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของบุรีรัมย์ และของประเทศได้ เพราะจากแผนการพัฒนาธุรกิจที่ประมาณการไว้ จะมีผู้เข้าชม หรือใช้สนามไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อปี
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการโครงการฯ เผยรายละเอียดการก่อสร้างสนามว่า "เราได้เซ็นต์สัญญาข้อตกลงในการออกแบบ, พัฒนา และแต่งตั้งที่ปรึกษาการก่อสร้างสนามแล้ว โดยเลือก Mr. Hermann Tilke นักออกแบบจากประเทศเยอรมัน ผู้มีประสบการณ์ด้านการออกแบบสนามแข่งรถทั้ง F1 และ Moto GP อันดับ 1 ของโลก และมีผลงานมาแล้วกว่า 60 สนามทั่วโลก โดย 15 สนามเป็นที่ๆ จัดการแข่งขัน F1 มาแล้ว"
"บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ใช้พื้นที่กว่า 500 ไร่ และจะขยายเพิ่มเติมขึ้นอีกเป็นกว่า 700 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้กับสนามไอ-โมบาย สเตเดียม ระยะทางต่อรอบมากกว่า 4 กิโลเมตร มีโค้งจำนวน 16 โค้ง และสนามสมัยใหม่ในรูปแบบความเร็วสูง เหมาะกับรถแข่งยุคใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้น ผู้ที่ชื่นชอบกีฬามอเตอร์สปอร์ตต้องมาทดสอบความสามารถในสนามนี้ เพราะนี่คือสนามมอเตอร์สปอร์ตมาตรฐานโลก"
"สนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จะเป็นสนามเดียวในประเทศไทยที่ได้การรองรับมาตรฐานระดับ FIA Category 2 จากสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA (Federation International de I'Automobile) ซึ่งหมายถึงตัวสนามจะสามารถรองรับการแข่งขันซีรี่ส์ F3, GT1, GT2 และ GT3 ได้ และจะได้รับการรองรับมาตรฐานระดับ FIM Grade A จากสหพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือ FIM (Federation International de Motocyclisme) ซึ่งสามารถจัดการแข่งขัน Moto GP หรือ Superbike World Championship ได้ด้วย โดยจะพัฒนาสนามต่อเนื่องไปกับ Tilke GmbH & Co. KG นำโดย Mr. Hermann Tilke เพื่อพัฒนาโครงการนี้ให้ถูกจัดเข้าสู่ทัวร์นาเม้นท์สำคัญระดับโลกต่อเนื่องมากที่สุด"
"นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพของสนาม เรายังสามารถรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย และในอนาคต กับกลุ่มอาเซียนแบบครบวงจร เพื่อใช้เป็นสนามทดสอบสมรรถนะรถยนต์, รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณท์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อนการผลิตและจำหน่าย ซึ่งในปัจจุบันยังต้องมีการนำรถออกไปทดสอบยังต่างประเทศ เรามั่นใจว่าจะดึงดูดกลุ่มผู้รักกีฬามอเตอร์สปอร์ต ที่ต้องการสนามที่ได้มาตรฐาน มาทดสอบสมรรถนะของรถ และความสามารถของผู้ขับขี่อีกด้วย"
Mr. Hermann Tilke กล่าวว่า "การออกแบบสนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อยู่ภายใต้แนวคิด 'ใครก็ตามที่ลงมาแข่งในสนามนี้ จะต้องได้รับความสนุกและท้าทายในการขับ' โดยได้ออกแบบให้เป็นทางวิ่งความเร็วสูงในรูปแบบใหม่ รวมทั้งทางโค้งที่เรียกว่าโค้ง Arena รถยนต์สามารถเร่งความเร็วสูงสุดในทางตรงได้ถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อนถึงจุดเข้าโค้ง และสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ จะสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อนถึงจุดเข้าโค้ง"
"ในส่วนของแกรนด์สแตน ที่นั่งสำหรับผู้ชมได้คำนึงถึงทิศทางของแสงแดดและลม ตลอดจนทัศนวิสัยในการชมการแข่งขัน โดย บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จะเป็นเพียงสนามเดียวในโลก ที่มีการวางตำแหน่งที่นั่งสำหรับผู้ชมให้สามารถมองเห็นการแข่งขันในสนาม และในทุกโค้งได้ทั้งหมด 100%"
โครงการ บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี และเริ่มเปิดดำเนินการได้ในเดือนตุลาคม 2557 ด้วยงบลงทุน 2,000 ล้านบาท หรือ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการลงทุนร่วมกันของกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ในจังหวัดบุรีรัมย์ และมีสถาบันการเงินในต่างประเทศให้การสนับสนุน ด้วยข้อเสนอที่ว่า 'เราจะทำสนามที่ได้มาตรฐานระดับโลก' มีความจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน และรองรับผู้เข้าชม/ผู้ใช้สนามได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000,000 คน
ที่มา:
http://www.motortrivia.com/2013/motorsp ... -2013.html