กรณีปืนพังคามือที่เกิดในประเทศไทย ก็เพราะ "ยิงลูกจริงล้างคราบตะกั่ว" นี่แหละครับ
ยิงลูกซ้อมไปห้าหกกล่อง ก็คงเกือบๆ สามร้อยนัด
ตามด้วยลูกจริง นัดเดียว ลำเลื่อนไม่ถอย เพราะหัวกระสุนไม่ขยับจากปลายปลอก ปลอกจึงไม่แตกเพราะรังเพลิงยังหุ้มอยู่รอบ
ลำกล้องก็ไม่บวม แต่ก๊าซที่เกิดในปลอก พ่นย้อนหลังออกมาตามรูจอกชนวน ท้ายลำเลื่อนทะลุเป็นรูกลวงโบ๋ครับ
ถ้าคนยิงไม่ใส่แว่นจะสยองยิ่งกว่านี้
ลำกล้องสกปรก ต้องล้างทำความสะอาดครับ ไม่ใช่เอากระสุนหัวเงาๆ ยิงไล่คราบ
อาจจะสงสัยว่า ทำไม่แต่ก่อนทำได้ ปืนไม่พัง ทำไมมาเริ่มพังเอาสมัยนี้
พออธิบายได้ว่า เกลียวลำกล้องแต่ก่อน ร่องเกลียวลึก ตะกั่วมันมีที่หลบได้บ้าง ปืนไม่แตกแต่ก็จะล้างคราบยากขึ้นอีก
ปืนสมัยใหม่มีทั้ง "เหลี่ยมบิด" และสันเกลียวบางๆ ที่คนรุ่นเก่าส่องดูครั้งแรกอุทานว่า "นี่มันสึกจนไม่เห็นเกลียวแล้ว" ทำนองนี้ครับ
ไม่มีช่องว่างให้คราบมันหลบหัวกระสุนนัดต่อไป
ลำกล้องเหลี่ยมบิดหรือเกลียวตื้นนี้ ทำความสะอาดง่ายกว่าร่องเกลียวลึกครับ
หาเชือกงูติดกระเป๋าไว้ ยิงไปสักสองกล่อง พ่นน้ำมันหนึ่งฟึด ดึงเชือกงูผ่านลำกล้อง ยิงต่อไปสบายใจได้ครับ
ขอบคุณมากครับ ครู ผ.