ฟังดูแล้วเหนื่อยแทนครับ เรื่องมันเกิดขึ้นนานมาตั้ง 4 ปีแล้วนี่สิไม่รู้ด้วยว่าที่โรงพักไหนด้วยสงสัยนิดนะครับว่าโดนจับจริงรึเปล่าเพราะว่าโดนเรื่องปืนมันน่าจะเรื่องยาวนะครับ อย่างน้อยก็ต้องมีการติดต่อจากศาลหรือโงพักแล้ว กลัวแต่ว่าเพื่อนที่พาปืนไปโดนจับนี่จะลูกเล่นมากกว่า คือเอาปืนไปขายแล้วหลอกเพื่อนตัวเอง เพราะดูจากที่ติดต่อไม่ได้นี่ละครับคนเราจะหายไปเฉยๆได้ไง ขนาดที่ไม่ติดต่อบ้านเลยนี่ก็แปลกแล้วครับ
ประเด็นนี้น่าคิดครับ ผมก็ถามรายละเอียดจากน้องดูเหมือนกันว่า ตอนที่น้องเขยได้รับแจ้งจากเพื่อน แล้วได้ติดตามเรื่องเลยหรือเปล่า แล้วมีเอกสาร อะไรบ้างไหม เช่นสำเนาบันทึกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ แล้วตอนนั้นน้องเขยได้พูดหรือ ปรึกษาอะไรบ้างเรื่องนี้ น้องได้แต่บอกว่า น้องเขยบ่นว่าไม่น่า
เลยเกิดเรื่องจนได้ เพราะตอนแรกน้องเขยไม่อยากให้ แต่ก็เป็นห่วงเครื่องมือและอุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ทำงาน บริเวณ site งานไม่มีรั้ว และก็เคยมีของหายมาแล้ว แต่ตัวเองมีความจำเป็นต้องไปติดต่องานที่อื่น ก็เลยให้เพื่อนนอนเฝ้าของ แต่ก็ได้บอกกับเพื่อนแล้วว่าเวลาไปข้างนอก site อย่านำไปให้ฝากไว้กับช่าง หรือซ่อนไว้ในสำนักงานชั่วคราว น้องสาวบอกว่าสามีบ่นให้เพื่อนว่าไม่ควรนำไปเลย และได้ยินว่าต้องหาเงินไปไถ่ปืนคืน หลังจากนั้น
ก็ไม่ทราบอะไรอีกเลย จนกระทั่งสามีเสียชีวิตไป เอกสาร ป 4 ยังอยู่ ผมว่างานนี้แทงจำหน่ายศูนย์ได้เลย แต่ก็แอบมีความหวังนิดหน่อย เท่าที่ฟังท่าน
สมาชิกให้ความเห็น และชี้แนะ ก็ขอขอบคุณทุกท่านครับ สงสัยต้องบอกน้องให้ทำใจลืมมันซะ เพราะระยะทางที่จะไปติดตามก็หลายร้อยกิโลเมตรอยู่
คงไม่สะดวก และอีกอย่างก็ไม่สามารถติดต่อเพื่อนสามีได้ ขอขอบคุณท่านสมาชิกทุกๆ ท่านครับที่เอาใจช่วย และชี้แนะแนวทาง อ้อ เกือบลืมประเด็นสำคัญ ถ้าปืนกระบอกนี้ไปก่อเหตุอะไรขึ้น น้องสาวผมจะโดนผลกระทบอะไรไหมครับ น้องสาวกลัวว่าถ้าเพื่อนสามีคิดไม่ซื่อ โดยสร้างเรื่องขึ้นมาแล้ว
ภายหลัง นำปืนกระบอกนี้ไปก่อเหตุอะไรขึ้นมาจะพลอยเดือนร้อนไปด้วย ขอคำแนะนำครับ