ช่วงนี้ทิ้งไหล่ขวาเปิดไหล่ซ้าย ใช้กล้ามเนื้อใหญ่เป็นหลักเพื่อสร้างวงใหม่
ผลคือตีดินซะเยอะจนเจ็บหลัง
เลยเอาบทความของพี่papamintในpantipมาฝากพี่ๆเพื่อนๆครับ
http://pusitpw.com/topicstock/S2436793-H.htm โรคปวดหลัง..กับนักกอล์ฟ ก็ตามสัญญาครับ ผมเคยบอกไว้ว่าจะมาเขียนเรื่องโรคปวดหลังให้อ่านกัน พอดีคุณ Tony แกตั้งกระทู้เรื่องปวดหลังมาด้วย ประกอบกับเสร็จธุระเรื่องลูกสาวแล้ว ถือเป็นการตอบแทนพวกเพื่อนๆนะครับ ต้องขอบคุณที่ช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ ถึงมันจะไม่ได้รางวัลอะไร แต่อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ คู่แข่งคนอื่นสวยๆ ทั้งน้าน ขนาดพ่อมันยังเผลอเชียร์เลยครับ
มีความจริงอยู่สองสามอย่างที่เราควรทราบนะครับ
1. คนทุกคนเป็นหรือเคยเป็นโรคปวดหลัง
2. อาการปวดหลังมากกว่า 95% เกิดจากอุปนิสัย บุคคลิก เหมือนกับโรคอ้วน โรคเครียด ถ้าแก้อุปนิสัยไม่ได้อาการเหล่านี้ก็ไม่หมดไปจากคุณแน่ครับ แต่ก็ดีครับ พวกหมอเขาจะได้มีทางทำมาหากิน ถ้าพวกเราสุขภาพดีกันหมด บุคคลิกดีกันหมด ก็ไม่มีใครปวดหลังไปหาหมอ หมอก็ต้องไปหากินเอากับเพื่อนในก๊วน...ช.ม.ด ช่วยไม่ได้
3. กีฬาทุกประเภทจะต้องมีสมรรถนะของร่างกายรองรับเสมอ ถ้าเราแบ่งกีฬาออกเป็น 4 ระดับ ระดับแรกหนักสุด มีการเคลื่อนไหวในทุกอิริยาบท รวมถึงมีการกระแทกด้วย ( เฮ้ย..กลับมาก่อน ผมหมายถึงกีฬากลางแจ้งนะครับ ) เช่น รักบี้ ฟุตบอล พวกนี้สมรรถนะของร่างกายต้องสูงมาก ประมาณ 140% คือคนธรรมดา 100% ยังเล่นไม่ได้ครับ ต้องฟิตตัวเองขึ้นไปก่อนแล้วจึงเล่นได้ ระดับสองคือ ระดับแรกแต่ไม่มีการกระแทก เช่น เทนนิส แบด ระดับสามคือ พวกที่กำหนดการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ เช่น กอล์ฟ วิ่งจ๊อกกิ้ง และพวกระดับสี่คือพวกเบาสุดคือการเดินออกกำลังกาย หมากกระดาน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การแบ่งเพื่อการแข่งขันนะครับ แต่เป็นระดับของการออกกำลังกายเท่านั้น
4. John Hopkin Hospital ทำวิจัยมาว่า การออกกำลังกายโดยการเล่นกอล์ฟมีอัตราการเผาผลาญ oxygen เท่ากับการเดิน หมายถึงการที่คุณออกแรงหวดไม้วันละ 90 ทีโดยประมาณ ไม่ได้ทำให้คุณใช้พลังงานมากขึ้นเท่าไหร่ครับ อันนี้คงต้องยกเว้น พวกที่สวิงสุดแรงใน pre-shot routine สองสามที และมาหมดแรงในตอนตีจริงนะครับ
สำหรับอาการปวดหลังในนักกอล์ฟ คงต้องประเมินด้วยตนเองเป็นอันดับแรก ตอบคำถามเหล่านี้ก่อนครับแล้วมาสรุปกันว่า เราปวดหลังจากอะไร
1. ปวดหลังตอนไหน อันนี้สำคัญที่สุด ถ้าปวดตอนตื่นนอน ให้คิดถึงที่นอนเป็นสำคัญ ที่นอนราคาแพงอาจไม่เหมาะกับกล้ามเนื้อหลังราคาถูกของเราก็ได้นะครับ อย่าเพิ่งครับ อย่าเพิ่งด่วนเปลี่ยนที่นอน บางทีที่นอนอาจทำให้หลังของเราไม่ได้พักเท่าที่ควร โดยปกติแล้ววงจรของกล้ามเนื้อหลังควรจะเป็นว่า สดใสที่สุดตอนตื่นนอนแล้วก็ทำงานร่วมกับเราทั้งวัน ไปหนักสุดตอนเย็นแล้วก็มาได้พักเอาตอนนอน สรุปว่าตื่นมาควรสดใสครับ
ถ้าปวดตอนเย็นหรือบ่าย ให้คิดถึงท่านั่งที่คุณทำงาน ท่านั่งขับรถ หลังต้องตรงนะครับ ถ้าหลังเราไม่ตรงกล้ามเนื้อหลังจะทำงานโดยไม่จำเป็นครับ ท่านั่งที่ถูกสุขลักษณะคือบริเวณกระเบนเหน็บจะต้องชิดกับพนัก เด็กรุ่นใหม่รู้จักกระเบนเหน็บหรือเปล่า เอาเป็นว่าจุดกึ่งกลางระหว่างแนวเข็มขัดกับร่องก้นแล้วกันนะครับ จุดนี้ต้องชิดกับพนักพิงนะครับ บางคนชอบนั่งตามสบายปล่อยให้ก้นเลื่อนไหลมาข้างหน้า เกิดช่องว่างขนาดหัวไม้หนึ่งลอดได้....ยังไงก็ปวดหลังครับ
2. อาการปวด ถ้าปวดบริเวณเอวอย่างเดียวสาเหตุมีได้หลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากกล้ามเนื้อหลังทำงานมากเกินกำลังของมัน ตีความได้ว่า ถ้ามันไม่อ่อนแรงเกินไปก็ทำงานมากเกินไป...หรือทั้งสองอย่าง
ถ้าปวดแล้วมีอาการร้าวลงขา เฮ่อ..เฮ่อ เขาเรียกว่า หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โอกาสโดนผ่าตัด 20% ไปหาหมอซะ ไปเร็วก็มีโอกาสรอดมีดหมอ
ทีนี้มาถึงปวดหลังจากการเล่นกอล์ฟบ้าง จริงๆแล้วอย่างที่คุณบุญหลายแกบอกนะครับ กล้ามเนื้อหลังเราไม่ได้ถูกสร้างมาให้หมุน 180 องศาแบบนักกอล์ฟ แต่อย่างหนึ่งที่อยากบอกไว้ก็คือ การเล่นกีฬาเพื่อความบันเทิงอย่างพวกเรา กับการเล่นกีฬาเพื่อแข่งขันอันจะนำไปสู่อาชีพเป็นคนละเรื่องกัน การฝึกก็คนละแบบกันเลย อันหลังนี่สมรรถนะต้องสูงมากเพราะต้องรีดเอาความสามารถสูงสุดออกมาให้ได้ อันนี้ไม่ขอพูดถึงนะครับ
ถ้าเราดูในการแข่ง PGA จะเห็นว่ามีนักกอล์ฟหลายคนที่ดูวงแล้วไม่ได้แรงอะไรแต่ทำไม 300 หลา up หรือ approach เข้ามามี spin ทั้งๆที่ไม่ได้ออกแรงเลย ตรงนี้น่าจะสอดคล้องกับงานวิจัยของ John Hopkin นะครับ แต่ไม่รวมถึงนักกอล์ฟรุ่นใหม่อย่าง Woods หรือ Norman ที่ " ใส่ " สุดๆ
พวกเรานักกอล์ฟคงต้องมาพิจารณาเรื่องสาเหตุของอาการปวดหลังขณะเล่นกอล์ฟนะครับ
อย่างแรก address การเกร็งของกล้ามเนื้อ เป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งของอาการปวดหลังครับ บางคนเกร็งตั้งแต่ T-off กล้ามแขนงี้ขึ้นเป็นมัดเลย ขนาดพัตต์ยังเกร็งเลย ไม่รู้จะเกร็งไปทำไม บางคนเกร็งยาวไปถึงบ้านเลย
อย่างที่สอง pre-shot routine ทำให้กล้ามเนื้อทำงานมากขึ้นเป็นสองเท่า ( บางคนสามเท่า ) บางคนหวดแรงกว่าตอนตีจริงเสียอีก
อย่างที่สาม Follow through ตรงนี้สำคัญ การตีกอล์ฟที่ไม่มี Follow through ทำให้เสียพลังงานเป็นสองเท่า อันแรกเสียตอน downswing แล้วยังต้องมาเสียตอนไปฝืนมันอีก เหมือนการขับรถที่เร่งแล้วเบรค ๆ ๆ ทำซ้ำๆกันอยู่ เปลืองน้ำมันตายเลย
อย่างที่สี่ การหมุนตัวซ้ำๆกันบ่อยๆ ในขณะเล่นกอล์ฟทำให้กล้ามเนื้อทำงานมาก มีโอกาสได้รับอันตรายถ้ากล้ามเนื้อยังไม่พร้อมและฟิตไม่พอ แต่กระดูกกลับไม่ได้เป็นอะไรมาก กระดูกสันหลังเราหมุนรอบแกนได้ดีครับ แต่เนื่องจากมีกันหลายข้อมาก แต่ละข้อจะหมุนเพียง 2-3 องศาเท่านั้นเอง ไม่มากหรอกครับ
สรุปสาเหตุของอาการปวดหลังสำหรับนักกอล์ฟนะครับ
1. ใช้มากเกินไป ก็ตรงไปตรงมาครับ กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงพอมันก็อักเสบเป็นธรรมดา การตีแต่ละครั้งไม่ได้ใช้แรงมากก็จริง แต่การทำซ้ำๆหลายๆหนก็เหมือนกับเรางอลวดไปมา ลวดก็ขาดได้เหมือนกัน ภาษาเทคนิคเขาเรียก fatique ครับ อันนี้แก้ไม่ยาก แก้มือยังยากกว่า จริงมั้ยน้องฉ่าง หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังเป็นประจำ นอกจากจะทำให้เล่นกอล์ฟได้ดีแล้ว ยังแก้อาการปวดหลังได้ดีนัก
ท่าบริหารสำหรับกล้ามเนื้อหลังนะครับ เอ้า..น้องต้นช่วยมาเป็นนายแบบหน่อย ( ไม่รู้อายุเท่าไหร่ เห็นลงทีไรก็บอกว่าเพิ่งจะออกหัดทุกที )
ท่าที่หนึ่ง นอนราบไม่หนุนหมอน ชันเข่าขึ้นทั้งสองข้าง มือวางข้างตัว จากนั้นก็ยกก้นขึ้น ยกสูงๆ สูงขึ้นอีก เอาให้สุด สุดแล้วก็ค้างไว้ในท่าคล้ายๆ สะพานโค้ง ค้างไว้สัก 10 วินาทีแล้วก็เอาลง อย่างนี้เป็นหนึ่งครั้ง ทำอย่างนี้วันละสามสิบครั้ง
ท่าที่สอง นอนเหมือนท่าแรก เริ่มโดยการงอเข่าเข้ามาชิดหน้าอก ใช้มือสองข้างกอดเข่าดึงเข้าหาตัว จากนั้นก็ยกหัวให้หน้าผากมาชนหัวเข่า ( บอกเขาได้ แต่ผมทำไม่ได้ มันติดพุงง่ะ) นับหนึ่งถึงสิบ แล้วคลายตัว ทำอย่างนี้อีกสามสิบครั้ง
ท่าแรกจะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อหลัง ท่าสองจะยืดกล้ามเนื้อ ทำสลับกันไปก็ได้ครับ...ขอบคุณมากน้องต้น..ไปได้
มาต่อกันดีกว่าเรื่องสาเหตุของการปวดหลังของนักกอล์ฟ
2. กล้ามเนื้ออ่อนแรงเกินไป ลำพังกล้ามเนื้อหลังก็ทำงานมากอยู่แล้ว สมมุตินะครับสมมุติ สมมุติว่ากล้ามเนื้อมีกำลังอยู่ 10 เริ่มวันใหม่มีอยู่ 10 ใช้ไปตลอดวันจาก 10 ก็ลดลงเรื่อยๆ พอมาตอนบ่ายๆ ก็เหลือ 6 เราก็ไปออกรอบกัน ถ้าการเล่นกอล์ฟเป็นการยืดกล้ามเนื้อมันก็ช่วยผ่อนคลายได้บ้าง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็คือการใช้งาน จาก 6 ก็จะลดลงเร็วขึ้น แต่ความที่เรากำลัง มันส์ อยู่ในเกมส์ จึงละเลยเรื่องความเมื่อย อันนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ คุณลองเปรียบเทียบเวลาเดินตามหวานใจไป shopping แผนกเสื้อผ้าสตรีดูซิ เดินเข้าร้าน MNG ( ผมว่ามันมาจากคำว่า Money Now Gone แน่เลย ) ร้านก็ไม่ใหญ่นะ เดินสองรอบ ยังไม่ได้พาร์ 3 หนึ่งหลุมเลยทำไมมันปวดหลังจังก็ไม่รู้ แต่พอขอแยกตัวไปเดิน supersport มันหายปวดหลังแฮะ แถมยังมีแรงเอา twoball มาลองแล้วลองอีกหลายๆหน จนคนขายแทบอยากจะเดินมาบอกว่า " พี่..พี่ พัตเตอร์อันนี้ กริบเป็นร่องมือพี่แล้วนะครับ " มันเป็นเรื่องของจิตใจ กล้ามเนื้อก็ทำงานมากจนเป็น 0 แล้วก็เริ่มติดลบ การอักเสบก็เกิดขึ้น วิธีที่จะทำให้หายก็มีอยู่สองทาง ทางที่หนึ่งก็ตีให้น้อยลง พาร์เยอะๆ เบอร์ดี้มากๆ อีเกิ้ลด้วยเอาอย่าง pepsi มันตีสองทีลงหลุมเลย ครูสะอาดงี้ ตาหลุดออกมานอกเบ้าเลย ฮ่า..ฮ่า เอ้า..ต่อ อีกวิธีก็ตีไม่ครบสิบแปดหลุม..อันนี้ลืมไปได้เลย อีกวิธีก็ทำกล้ามเนื้อให้มันแข็งแรงขึ้น...ก็กลับไปข้อหนึ่งเหมือนเดิมครับ
3. เกร็งมากเกินไป อันนี้ผมหมายถึงตอนจรด address รวมถึงตอนพัตต์ด้วย เกริ่นไปแล้วตอนต้นครับ กล้ามเนื้อทำงานอยู่สามแบบ แบบแรกคือการหดตัวที่ได้ระยะ ( มันไม่มีภาษาไทยนะครับ เขาเรียกว่า isotonic ) อีกแบบคือการเกร็งตัว ( เรียกว่า isometric ) ตามตำรากอล์ฟไม่มีเล่มไหนบอกให้เกร็งเลย ขนาดว่าการจับกริปเขายังเปรียบเทียบว่าเหมือนกำผ้าเปียกแล้วไม่ให้น้ำหยด
การยืน address ท่าพัตต์ ตำราทุกเล่มบอกว่า free style ครับ ไม่มีท่าเฉพาะตัว ดังนั้นนักกอล์ฟบางท่านก็ก้มมากๆ ก้มด้วยเกร็งด้วย กล้ามเนื้อหลังก็ทำงานมากกว่าปกติ มือใหม่ลองเปลี่ยนท่าดูนะครับ ( ป.ล. แต่ถ้าก้มเป็นลง หนึ่งคันธงเป็นขนม...สอนผมด้วยนะ )
ทีนี้มาว่ากันเรื่องการรักษาบ้างนะครับ หลังจากเล่นกอล์ฟ ซ้อมกอล์ฟ แล้วมีอาการปวดหลัง
1. ถ้าเป็นแต่เมื่อยผมแนะนำให้ไปนวดซะ นวดแผนโบราณก็ดีนะครับ อาการนี้จะปวดไม่มากนะครับ มากกว่าเมื่อยจะเป็นการอักเสบ ถ้ากล้ามเนื้ออักเสบการนวดจะทำให้แย่ลงมากๆครับ ปกติจะแยกยากครับว่าอันไหนเมื่อยอันไหนอักเสบ ถ้าอยากรู้ก็ลองไปนวดดูครับ ถ้านวดแล้วดีแสดงว่าเราเมื่อย แต่ถ้านวดแล้วเดี้ยงอันนี้อักเสบ แต่ถ้าไม่อยากเสี่ยง คือไม่อยากพิสูจน์ เอาแค่ให้หาย ผมแนะนำให้พักจะปลอดภัยที่สุดครับ ( มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยไปเล่นที่เชียงใหม่ เล่นกันสามวันติด วันแรก Green Valley วันที่สอง Royal Chiangmai วันที่สาม เชียงใหม่ลำพูน คืนวันที่สองตึงไปทั้งตัว เลยทานยาลดการอักเสบไปหนึ่งเม็ด วันที่สามก็ โอ.เค เลยครับ อันนี้ไม่แนะนำนะครับ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ทานซะ วันนั้นผมทาน Vioxx แต่เข้าใจว่าไม่ว่ายาอะไรในกลุ่มนี้ก็คงได้ผลเหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็น Celebrex,Voltaren,Mobic,Feldene,Synflex,
Naprosyn,Tilcotil ect. อย่าไปทาน Viagra เข้าล่ะ เดี๋ยววงแข็งขึ้นมาจะมาโทษผมไม่ได้นะครับ สรุปว่า ถ้าปวดหลังก็พักซะ ทานยาลดการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ แช่น้ำอุ่น วันรุ่งขึ้นก็ตีต่อได้ครับ
2. ทานยาครับ ยาทาก็ช่วยได้
3. การทำ cyropractor มีคนถามกันมาก ก็ดีนะครับ แต่ขอให้ทำในมือของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจริง ๆ แต่ก่อนไปพบแพทย์ไม่ว่าจะเป็นแพทย์กระดูก เวชศาสตร์ฟื้นฟู หรือ cyropractor ผมแนะนำให้รักษาตัวเองก่อนครับ
มีสูตรสำเร็จของเพื่อนๆ เขาว่า เล่นกอล์ฟเสร็จ ตามด้วยไปแช่น้ำอุ่น แล้วนวดเสร็จสรรพ จะเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ ผมยังไม่ได้ลองนะครับ กลัวว่าจะไปเจอบริการนวดหน้าด้วยฝ่าเท้าที่บ้าน..แหะ..แหะ
บทสุดท้าย มาว่ากันเรื่องการป้องกันนะครับ ผมว่าสำคัญที่สุด
1.เตรียมร่างกายให้พร้อมทุกครั้งก่อนเล่นโดยเฉพาะการซ้อมใน driving range บางคนผมเห็นยังใส่ชุดทำงานอยู่เลย ถ้าซ้อมเพื่อสันทนาการกับเพื่อนฝูงก็แล้วไปครับ แต่ถ้าซ้อมเพื่อพัฒนาฝีมือตนเอง มีชุด มีรองเท้า น่าจะเหมาะนะครับ ก่อนเล่นหรือซ้อมทุกครั้งควรอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารกล้ามเนื้อหลัง ทำ stretching exercise ทุกครั้งอย่าละเลยเป็นอันขาด ถ้าคุณยืดเส้นยืดสายเป็นประจำก่อนเล่น คุณจะไม่มีวันปวดหลังเลยครับ
2.ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ พยายาม relax ให้มากโดยเฉพาะตอน address ตอนซ้อมคุณเกร็งมากแค่ไหน ตอนเล่นจะมากเป็นสองเท่า ตอนแข่งจะมากขึ้นไปอีก นี่อาจเป็นสาเหตุให้การตีเราไม่ดีเหมือนตอนซ้อมก็ได้นะครับ มือใหม่ลองปรึกษาโปร ปรึกษาพี่ๆ ของพันทิพย์ หรือปรึกษาครูสะอาดก็ได้ครับ เรามีคลินิคซ่อมวงทุกวันพฤหัสอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ
3. เสริมกำลังกล้ามเนื้อบ้างครับ กอล์ฟยังไงๆ ก็ยังเป็นกีฬาที่ต้องการสมรรถนะพื้นฐานรองรับ วิ่งออกกำลังกายบ้าง วันละกิโล สองกิโล ( กิโลเมตรนะครับ ไม่ใช่ทุเรียน ) การวิ่งก็สามารถเสริมกำลังกล้ามเนื้อหลังได้บ้างครับ ตามมาด้วยบริหารหลังอีกยี่สิบ สามสิบครั้ง เท่านี้คุณก็เล่นกอล์ฟได้สบายมาก แถมไม่มีอาการวงหลุดในหลุมท้ายๆ ให้เพื่อนๆ ใฝ่ฝันจะ ย.ด.กับคุณแน่ครับ....ขอให้มีความสุขกับเกมส์กอล์ฟของเรานะครับ