ก่อนจะถ่ายอะไรที่ไม่ใช่ของๆเรา ... ระวังหน่อย
เหตุเพราะคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีเจตนาร้าย คิดว่าสิ่งที่ถ่ายไม่ใช่ความลับใดๆ คิดว่าเจ้าของไม่มีทัศนคติในทางลบ ... คิดไปเองทั้งนั้น หน้าแตกแบบที่โกยกลับมาหลอมใหม่ก็ไม่เหมือนเดิม .... คิดไปเองเออเองทั้งนั้น เป็นอุทาหรณ์ว่าก่อนจะถ่ายอะไรของคนอื่น เพื่อความปลอดภัยของสภาพจิตใจ ขออนุญาตก่อน ....
วันก่อนนำรถไปตรวจสภาพที่ศูนย์ตรวจสภาพรถ(ตรอ.) แห่งหนึ่ง บางท่านอาจทราบแล้วว่าเดี๋ยวนี้มีการติดตั้งเครื่องทดสอบระบบเบรคแล้ว รถทุกคันต้องผ่านการทดสอบนี้ ผมก็ดีใจที่คุณภาพชีวิตเราจะดีขึ้นไปอีกระดับนึง จึงเอามือถือมาถ่ายอุปกรณืดังกล่าวดังที่เห็น ด้วยว่าจะให้เพื่อนฝูงดูหรือนำมาเผยแพร่ในเว็บเรานี้ ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ คิดไปเอง เห็นว่าไม่ใช่เครื่องมือลี้ลับอะไร ทุกตรอ.มีหมด เดินไปส่งก๋วยเตี๋ยวหรือเดินผ่านประตูอู่ก็เห็น อีกทั้งไม่มีป้ายห้ามถ่ายรูป (ซึ่งเราคงเคยเห็นว่าสถานที่ๆเค้าสงวนสิทธิ์จะติดป้ายห้ามไว้) เท่านั้นแหละครับ เถ้าแก่เดินออกมาต่อว่าผมเป็นชุดซะไม่มีดี ยังกะเราเป็นจิ๊กโก๋ข้างถนนเข้าไปปั่นป่วนสถานที่เค้า หาว่าไม่ขออนุญาต ความที่เราก็ผิด(อยากเรียกว่าพลาดมากกว่า อิอิ) แล้วนึกถึงอาการที่แม่ค้าในตลาดว่าลูกค้า ระคนความช๊อคที่ไม่คิดว่าคนทำมาค้าขายจะขนาดนี้กับลูกค้า เลยไม่เถียงแล้วจากมาแต่โดยดี แหม แต่ติดใจนิดนึง แกเล่นใช้คำพูดสุดท้ายว่า “.... เคารพสถานที่หน่อย ใช้มารยาทหน่อย “
อย่างตอนไปต่างประเทศ ผมเห็นจอมอนิเตอร์ภาพจากเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าตอนที่ตรวจค้นผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง ก็อยากถ่ายเก็บมาดูเล่น แต่อันนี้ชัดเจนว่าน่าจะหวงห้าม ก็ได้ถามดูปรากฎว่าห้ามจริงๆ เลยไม่ได้ถ่าย และก่อนวันที่โดนครั้งนี้แค่วันเดียว ผมไปทานข้าวที่ Coffee Bean ราชดำริ สถานที่สุดหรู อย่างกับวังยุโรป ก็ถามว่าถ่ายรูปได้มั๊ย เค้าก็ไม่ห้าม ก็เพิ่งเป็นคนมีมารยาทอยู่หยกๆ ข้ามวันไปเจออู่เก่าๆเรางี้กลายเป็นคนไร้มารยาทไปเฉยเลย อิอิ
จากเหตุการณ์นี้ ผมก็หวนนึกถึงสภาพการณ์ในปัจจุบันที่คล้ายคลึงกันขึ้นมาหลายๆกรณี ทั้งที่ประสบพบมาเอง และ ที่เพื่อนนักถ่ายภาพนำมาเล่าสู่กันฟัง ทำให้สรุปได้ว่า คนเราสมัยนี้ใจคอคับแคบลงมาก เขี้ยวมากขึ้น มีอาการต่อต้านต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น มีความเป็นมิตรต่อกันน้อยลง สังคมตรึงเครียดขึ้น
เพื่อนๆคงจำภาพชุด “Portrait ที่เมืองโบราณ” ได้นะครับ ผมได้เกริ่นไว้นิดนึงไปด้วยว่ามีเจ้าของที่เพ่งเล็ง รายละเอียดก็คือ วันนั้นมีผม เพื่อนอีกคน แล้วก็นางแบบ แค่ 3 คน ความที่เราใช้ Reflect ก็ทำให้เค้าวิตกจริตกันขึ้นมาแล้วว่า เราจะถ่ายไปใช้งานในเชิงพานิชย์หรือเปล่า อ้อ ! ค่าผ่านประตูคนละ 150 บาท ค่านำเราเข้าไปข้างในอีก 300 บาท รวมแล้วคือ 750 บาท พนักงานถึงกับขับรถตามผมไปจุดถ่ายถัดไป
“ถ่ายไปทำอะไรเหรอคะ”
ผมก็บอกว่า “ถ่ายไปดูเล่น ถ่ายกันเล่นๆครับ”
“เอาไปลงหนังสืออะไรเหรอคะ”
ถึงตรงนี้ร้องอ๋อในใจเลย คงคิดว่าถ้าเอาไปลงหนังสือ 750 บาทมันน้อยไป
“อ๋อ ไม่ได้เอาไปทำหนังสืออะไรหรอกครับ พวกผมมือสมัครเล่น ถ่ายกันเล่นๆ”
“ แต่ท่าทางจะไม่สมัครเล่นนะ “
หงุดหงิดก็หงุดหงิด ขำก็ขำ อยากจะยกมือไหว้ทั่วหัวขอบคุณเหมือนกันที่เห็นเราเป็นมืออาชีพ เลยควักนามบัตรให้ บอกไปว่า พวกผมทำงานด้านวิศวกรรม ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย ถ่ายรูปน่ะเป็นงานอดิเรก แล้วผมก็ไม่สนแล้ว เดินหน้าถ่ายกันต่อ แต่ก็เอารีเฟลคท์เก็บซะ รำคาญเดี๋ยวจะตามมาอีก แต่ผมก็ยังสังเกตเห็นว่ายังวิทยุแจ้งกันอยู่ ได้ยินคำพูดแว่วๆว่า “เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้เอาไปลงหนังสือ ............” แต่ผมก็ไม่สนใจแล้ว เริ่มประทับใจเข้าแล้ว
วิเคราะห์เหตุการณ์:
กลัวเสียโอกาสที่จะเรียกร้องผลประโยชน์เพิ่มมากกว่าค่าผ่านประตู ในกรณีที่ถ่ายภาพไปใช้ในเชิงพานิชย์ จนหน้ามืดตามัว แยกไม่ออกว่า กลุ่มไหนน่าจะ ใกล้เคียงกับการถ่ายทำเพื่อการพานิชย์ คิดดูนะครับ ง่ายๆเลย ถ้าผมทำหนังสือ ทำไมผมต้องมาถือรีเฟลคท์เอง สลับกับเพื่อน ดูฉุกละหุกเอาด้วยซ้ำ และถึงแม้ผมจะมีเด็กถือรีเฟลค มีอุปกรณ์อลังการกว่านี้ ก็ไม่แน่ว่าจะเอาไปใช้งานเชิงพานิชย์เสมอไป พวกเรานักถ่ายภาพสมัครเล่นก็มีโอกาสทำอย่างนี้ได้ทั้งนั้น
ผมว่าเค้าน่าจะเตรียมตั๋วอีกราคาไว้ด้วยนะครับ คือราคาสำหรับช่างภาพที่จะถ่ายเพื่อนำภาพไปใช้งานเชิงพานิชย์ ถ้าจะไม่ให้เสียโอกาส รักษาผลประโยชน์ให้ถึงที่สุด อาจจะคิดตามจำนวนภาพที่ถ่ายไปเลย หรือขอเงินปันผลจากกำไรที่หนังสือฉบับนั้นๆขายได้ด้วยเลยก็จะรวยเร็วขึ้นนะครับ อิอิ
ตกเย็นไปร้านกล้องแหล่งสุมหัวของพวกผม ก็เล่าสู่กันฟัง เพื่อนพ้องเลยแบ่งปันประสบการณ์กัน
คนนึงบอกว่า เดี๋ยวนี้สวนรถไฟก็ไม่ยอมพี่ ผมขนของออกมาเลย บอกมันว่า ได้ แล้วจะให้เป็นปากต่อปากไป
อีกคนบอก ไปนั่งกินร้านอาหารหรูยอดตึกกลางกรุง ถ้าถ่ายสวนขึ้นไปยอดตึกไม่ว่า แต่พอยกกล้องหันออกไปจะถ่ายวิวกรุงเทพ .... ห้ามครับท่านผู้ชม .... เป็นอะไรกันไปหมดแล้วครับเนี่ย
อีกคนบอก โห ต่อไปถ้าผมจะถ่ายวัดมิต้องไปขอเจ้าอาวาสก่อนเหรอ จะถ่ายตึกไหนต้องขออนุญาตนิติบุคคลอาคารชุด ถ่ายสะพานพุทธต้องไปขอกทม. ฮ่าๆๆๆ
และก็คุ้นๆครับว่าเคยฟังบางคนพูดถึงบางที่ว่าเขี้ยวๆกันแล้วเหมือนกัน เหตุการณ์คล้ายกันนี้มีโอกาสเกิดกับทุกท่าน เช่น เห็นแจกันอันนี้สวย อยากจะถ่ายไปหาซื้อ เดินไปตามถนนเห็นอะไรสวยงามก็อยากถ่าย ดังนั้น จึงน่าจะระวังกันนิดนึงครับ