มีใครมีหนังเรื่องนี้บ้าง ครับ
อยากดูมากๆ ครับ หาซื้อก็ไม่มีขายแล้ว ครับ
ขออภัยด้วยครับพี่ศักดา ผมไม่มีหนังเรืองนี้ครับ ไม่ใช่แนวที่ผมดู
ช่วงนี้ควักหนังเก่ามาดูซ้ำบ่ิอยๆ เลยอยากแนะนำหนังอีกซักเรื่อง IMDbให้คะแนน8.2 เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
V for Vendetta สร้างจากนิยายภาพที่แต่งโดย อลัน มัวร์ และวาดภาพประกอบโดย เดวิด ลอยด์
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายอมตะอย่าง 1984 ของจอร์จ ออร์เวลล์ และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ๒๕๔๗
ภายใต้การกำกับของ เจมส์ แม็คทีก อย่างไรก็ดี อลัน มัวร์ ไม่ประสงค์มีชื่ออยู่ในเครดิตผู้แต่งบทดั้งเดิม
เนื่องจากตัวเขาไม่เห็นด้วยกับการนำเอางานของเขามาสร้างเป็นภาพยนตร์นับตั้งแต่ความผิดหวังใน
The League of Extraordinary Gentlemen ฉบับภาพยนตร์เมื่อปี ๒๕๔๕ ทำให้เครดิตผู้แต่งบทดั้งเดิมของ V for Vendetta
ปรากฎเพียงชื่อของ เดวิด ลอยด์ เพียงรายเดียว (เช่นเดียวกับ Watchmen ผลงานชิ้นเอกของมัวร์
ที่ในฉบับภาพยนตร์นั้นปรากฎชื่อของ เดฟ กิ๊บบอนส์ ในฐานะผู้แต่งนิยายภาพเพียงคนเดียวเท่านั้น)
เรื่องราวของ V for Vendetta อยู่ในประเทศอังกฤษ ค.ศ 2038 ที่ถูกปกครองโดยฝ่ายขวาจัดนำโดยผู้นำชื่อ อดัม ซัทเลอร์
ซึ่งก้าวสู่อำนาจจากการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย รัฐบาลของซัทเลอร์ทำการจัดระเบียบสังคมอย่างเข้มงวดในเชิงอนุรักษ์นิยม
มีการใช้กำลังกำจัดศัตรูทางการเมือง รวมถึงกลุ่มที่ถูกมองว่า"เป็นภัยต่อศีลธรรมอันดีงาม" มีการควบคุมและบิดเบือนสื่อให้เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล
มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้รับความเคารพจากสังคมเป็นสมาชิกพรรคที่เป็นเสมือนเสาค้ำอำนาจ มีการออกกฎหมายควบคุมพฤติกรรมประชาชนโดยอ้างถึงความ
ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีการบิดเบือนและปิดบังประวัติศาสตร์ และที่เด็ดสุดคือ มีการแขวนรูปของซัทเลอร์ไว้บนผนังของทุกบ้าน
เวลาผ่านเลยไปจนประชาชนเริ่มจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับการเมืองน้ำเน่าจนกระทั่งการปรากฎตัวของ V ผู้สวมหน้ากาก กาย ฟอว์คส์ ที่ออกมาท้าทายอำนาจรัฐ
และจุดดวงไฟแห่งเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนขึ้นมาอีกครั้ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแนวโน้มเอียงไปทางดราม่าปรัชญาการเมืองมากกว่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาต่อสู้แบบขจัดคนพาลอภิบาลคนดี เพราะท่าน V
ผู้นี้หาได้ทำเพื่อคุณธรรมค้ำจุนโลกใดๆไม่ แต่ทำเพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเรียกร้องให้ผู้อื่นได้เบิกตาสำรวจศักดิ์ศรีของตนเอง
การต่อสู้ของ V ถูกรัฐบาลประณามว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ผู้สร้างความแตกแยก ผู้ทำร้ายสังคม ฯลฯ แต่อย่างไรก็ไม่อาจบิดเบือนจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์
ภายในตัวประชาชนไปได้... จุดนี้นี่เองที่ผมคิดว่าเป็นอะไรที่อุดมคติ และเป็นความโชคดีอย่างเหลือแสนจริงๆของ V
ที่มีประชาชนที่"หูตาสว่าง"เป็นอย่างยิ่ง เช่นนี้ และน่าสงสัยเหลือเกินว่าทีมประชาสัมพันธ์ของซัทเลอร์ทำงานกันยังไง
ถึงไม่สามารถนำเอาท่านผู้นำซึ่งดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานและวางรากฐานต่างๆในการยึดเก้าอี้ไว้ได้มากพอสมควรแล้ว เข้าสู่ใจของประชาชนได้
ซึ่งหากคุณลองมองโลกของความเป็นจริงจะพบว่า ผู้นำเผด็จการที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนานของทุกประเทศในโลก
ล้วนทำการประชาสัมพันธ์อย่างแข็งขันจนสามารถครองใจผู้คนได้ "ความจงรักภักดี คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้นำเผด็จการ" จึงเป็นเรื่องน่าสงสัยว่า
ซัทเลอร์ อยู่ในตำแหน่งมานานขนาดนั้นได้อย่างไรเมื่อตนไม่สามารถครองความจงรักภักดีจากประชาชนได้ หนำซ้ำยังกลายเป็นที่ขบขันของชาวบ้านชาวช่อง
เมื่อถูกนำไปล้อเลียนในโทรทัศน์ ซึ่งหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศเผด็จการบนโลกแห่งความจริงล่ะก็ เชื่อว่าจะมีโทรทัศน์ถูกทุบทิ้งนับล้านเครื่อง
และมีการบุกเผาทำลายสถานีโทรทัศน์แห่งนั้นอย่างแน่นอน
ประเด็นการก้าวสู่อำนาจของซัทเลอร์ ด้วยการชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเป็นฐานการสนับสนุนจากประชาชน ด้วยหูตาอันมืดบอดทำให้ไม่อาจมองเห็น
พฤติกรรมอันเป็นเผด็จการที่หนังได้ตีแผ่ออกมาอย่างเสร็จสรรพและเข้าใจง่ายไม่ต้องปีนบันได ราวกับว่าป้อนเข้าปากแล้วแต่ทำเป็นดื้อไม่ยอมกิน
อย่างไรอย่างนั้น จริงอยู่ผู้นำเผด็จการบางรายอาจขึ้นสู่อำนาจได้ด้วยการเลือกตั้ง แต่ประเด็นสำคัญของเผด็จการไม่ได้อยู่ที่การชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย
แต่มันอยู่ที่การอ้างเอาความดีงามทั้งหลายทั้งปวงมาสร้างฐานอำนาจให้ตนเองอยู่เหนือบุคคลทั่วไปจนถึงขั้นไม่อาจแตะต้องได้ ป่าวประกาศความดีงามของตน
เพื่อเรียกร้องความจงรักภักดีจากประชาชนโดยห้ามตั้งข้อสงสัยเป็นเครื่องตอบแทน ใช้สื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ตัวเอง
มีข้อหา"กบฎผู้ไม่จงรักภักดี" ไว้โจมตีฝ่ายตรงข้ามและกันท่าสังคมจากความสงสัยในชนชั้นปกครอง ใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชน
ที่ต้องการเรียกร้องศักดิ์ศรีแล้วบิดเบือนข่าวไปเป็นการยกย่องเจ้าหน้าที่"ผู้ปฏิบัติหน้าที่เยี่ยงวีรบุรุษเพื่อปราบปรามผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง"
รวมถึงบิดเบือนประวัติศาสตร์ด้วยหวังโหมกระพือความดีงามของตนเพื่อเรียกร้องความจงรักภักดีเป็นสิ่งตอบแทน
พร้อมทั้งยังกลบเกลื่อนให้ผู้คนหลงลืมวันแห่งการประกาศอิสรภาพ วันแห่งศักดิ์ศรีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของประชาชนไป
แม้จะมีตัวละครที่ค่อนไปทางแฟนตาซีอย่าง V แต่เขาคือสัญลักษณ์ของทุกสิ่งทุกอย่างที่"ความเป็นเผด็จการผู้อ้างอิงศีลธรรมอันดีงาม"
ได้พรากไปจากสังคม ดังนั้น V for Vendetta จึงเป็นภาพยนตร์ทรงคุณค่าในเชิงการเมือง ไม่ใช่ภาพยนตร์บู๊สนั่นเพื่อความบันเทิงแต่อย่างใดเลย
อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศที่อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทั้งที่รู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้คือบททดสอบความตาสว่างชั้นดี
ว่ายังคงยึดติดกับความดีงามที่ถูกฉาบติดกันไว้ด้วยแรงประชาสัมพันธ์ เพื่อก่อตัวเป็นโล่ห์พรางกายพร้อมทั้งยังเป็นนิทรรศการสำหรับเรียกร้อ
งความจงรักภักดี จนกระทั่งมองภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแค่ 2 ชั่วโมงที่กล่าวถึงเรื่องไกลตัวอันแสนน่าเบื่อ หรืออาจเพียงนำเอาประเด็นยิบย่อย
ไปจับผิดบุคคลตัวเล็กๆที่ไม่นิยม แต่หากว่าดวงตาได้เบิกกว้างและมองเห็นความเป็นมาและความ"ควรจะ"เป็นไปอันแท้จริงแล้ว
ภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta จะเป็นกระจกสะท้อนภาพของเรื่องใกล้ตัวที่พบเห็นทุกเมื่อเชื่อวัน ที่จะทำให้ "ซาบซึ้ง"
และอิจฉาชาวอังกฤษ(ในเรื่อง)ที่พร้อมใจกันตาสว่างอย่างแท้จริง
เขียนโดย I'M JUST A JEALOUS GUY วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552http://just-a-jealous-guy.blogspot.com/2009/07/v-for-vendetta-2005.htmlV for Vendetta