อีกสองวัน จะถึงวันแม่ ขออนุญาต เล่าเรื่องแม่ล่วงหน้า
ตั้งแต่ เกิด มา ชีวิตผมและครอบครัว จัดว่าค่อนข้างสบาย พ่อ รับเหมาก่อสร้างเล็กๆน้อยๆ
แต่ก็ถือว่ารายได้สามารถเลี้ยงครอบครับได้สบาย แม่ปลูกผักกับดูแลลูกอย่างเดียว จนผมอายุ 4 ปี น้องสาว อายุแค่ 3 เดือน
พ่อได้งานเป็นผู้ช่วยหัวหน้าคนงาน ก่อสร้างตึกฟักทอง ใน มอ. หาดใหญ่ จนกระทั่งหัวค่ำของวันหนึ่ง มีญาตที่นับถือกัน มาเรียก
พร้อมกับข่าวร้าย พ่อผมโดนรถขนน้ำมันชนเสียชีวิต ที่หน้าสวนสาธารณะ หาดใหญ่ ขณะกำลังขับ จยย. กลับบ้าน
นั่นคือครั้งแรก ที่ผมจำความได้ที่เห็น น้ำตาจากแม่ หลังงานศพ แม่เล่าว่ามีเงินติดตัว 850 บาท
แต่ก็ต้องสู้ จะทำไงได้ ผมอายุ 4 ปี ยังปล่อยให้เล่นอยู่กับ ยาย กับ ตา ได้ แต่น้องสาว อายุแค่ 3 เดือน ทิ้งนานไม่ได้
ทางเดียวที่จะหาเงินเลี้ยงลูกได้ คือออกไปกรีดยางตั้งแต่ ตีสี่ เพราะน้องสาวยังหลับอยู่ เสร็จก็ 6 โมงกว่า น้องตื่นพอดี
ช่วงบ่ายก็อาศัยปลูกผักข้างบ้าน แต่ที่ก็มีแค่นิดเดียว ทำให้ สถานภาพเรา 3 คนแม่ลูก ยังต้องต่อสู้พอสมควร
พอน้องสาวเริ่มคลาน แม่จึงได้ทางออกใหม่ เลิกกรียาง เพราะตอนนั้นแม่บอกว่า ยางถูกมาก
แม่ไปปลูกผักในที่อีกแปลง ตอนนั้นผักราคาดี แม่หาบสาแหรกข้างหน้า เอาน้องสาวใส่ใว้ ข้างหลังเป็นข้าวของที่ต้องเตรียมไปใช้
ทั้งอุปกรณ์ ปลูกผัก กับข้าว ของใช้ของผมกับน้อง เพราะที่ใหม่ห่างจากบ้านเกือบ 2 กม. โดยมีผมเดินตามหลัง
แม่จะขุดหลุมกว้างยาว ประมาณ 1 เมตร ลึกพอที่จะไม่ห้น้องสาวปีนขึ้นได้ แล้วก็ปล่อยน้องให้เล่นอยู่ในนั้น
แม่ทำงานของแม่ในแปลงผัก ส่วนผมก็เล่นอยู่ไกล้น้องสาว จนกระทั่งน้องสาวเริ่มเดิน ถึงได้ฝากใวบยาย เพราะยายกลัวแม่เผลอ
น้องสาวจะเดินลงบ่อ จนผมอายุถึงเกณ ต้องเข้าโรงเรียน นั่นหมายถึงรายจ่ายของแม่ต้องเพิ่มขึ้น แต่แม่ก็ไม่เคยบ่น
แต่ที่ลูกคนนี้จำได้คือ ลูกของแม่ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ตลอด อุปกรณ์การเรียนครบไม่เคยขาด ขนมที่อร่อยที่สุดและมีมากที่สุดที่ผมได้กิน
คือตอนมีงานทำบุญ เดือนห้า ทำบุญเดือนสิบ งานชักพระ อาหารเสริมที่ดีที่สุดของน้องสาวตอนเล็ก คือน้ำข้าวผสมน้ำตาลทราย
เพราะตอนนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องหุงข้าวเช็ดน้ำ พอน้องสาวเริ่มเข้าโรงเรียน แม่ก็ต้องเหนื่อยขึ้นอีก แต่น้องสาวก็เหมือนผม
คือแม่จะหาของใช้ใหม่ให้เสมอ แต่ทุกอย่าง แม่ไม่เคยเอ่ยปากขอใคร ไม่ว่าจะญาติทางใหน แม่จะขวนขวายมาเองทุกอย่าง
แม่บอกกับทุกคนว่า ถึงมันจะไม่มีพ่อ แต่กูก็ไม่ให้มันอายไคร
เรียนจบ ม.ต้น ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อ ตอนนั้นผมโตพอที่จะรู้ว่า แม่เหนื่อย ขืนเรียนทั้งสองคนพี่น้อง คงจบแน่
แต่จบเห่ เลยให้น้องสาวเรียคนเดียว อย่างน้อย ถ้าน้องได้เรียนสูงๆ จบมามีงานทำ คงเป็นที่พึ่งของแม่ได้
ส่วนผมก็เข้ากรุงเทพมาอยูกับญาติ หาทางเรียนต่อเองที่ผมเล่ามาตั้งแต่ต้น ผมจำได้ แม่เหนื่อย แต่แม่ก็ไม่เคยท้อ
ที่สำคัญที่สุด ผมไม่เคยเห็นน้ำตาแม่ จนกระทั่งผมเห็นน้ำตาแม่คือ วันที่แม่ได้จับชายผ้าเหลืองตอนผมบวช
ทุกวันนี้ ถ้าหากผมกับน้องสาว ได้ยินแม่พูดถึงสิ่ง ไม่ว่าจะของใช้ เสื้อผ้า ว่าสวย น่าใช้ แม้จะแพง เราสองคนจะหาให้แม่ทันที
เสียดายผมหารูปแม่ไม่เจอ ถ้าหาเจอ ผมจะรีบเอามาลง ว่านี่คือหญิงเหล็กในชีวิตจริงของผม นี่คือ แม่ผม
แม่ประไพ จุลมณี ถ่ายเมื่อวันเข้าพรรษา ที่วัดพะโคะ
ที่แปลงนี้ ที่เคยขุดหลุมเพื่อขัง น้องสาว มีคนมาขอซื้อหลายครั้ง แต่แม่ไม่เคยขาย