เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 04:34:17 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความรู้เรื่อง"เครื่องกรองนํ้า"ครับ  (อ่าน 4555 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 924
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9042



« เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 10:13:40 PM »

จะซื้อแต่พอเริ่มหาข้อมูลก็เริ่มงง......หลักๆมีสองระบบคือแบบใช้ยูวี กับ รีเวิร์ส ออสโมซิส....หาข้อมูลมาต่างก็มีข้อโต้แย้งกัน จนผมงงว่าอะไรดีกว่า....

อยากหาข้อมูลครับ.....แบบไหนดี.....ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ..
"ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
ต.แม่สาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 490
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6544



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 10:30:38 PM »

ที่บ้านผมใช้ของ เพียวครับ กรอง เรซิ่น กรองถ่าน กรองเซรามิค หลังจากนั้นผ่านยูวีครับ แต่มีพี่ที่ทำน้ำดี่มเขาบอกยูวีจะให้ฆ่าเชื้อโรคได้จริงต้องเปิดไว้ 30 นาทีครับ แต่เห็นน้ำมันไหลผ่านแบบนั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะตายหรือเปล่าเลยเอามาต้มดื่มอีกทีครับ

ลองเลือกดูครับมีหลายยี่ห้อ ดูที่ราคาอะไหล่ตอนเปลี่ยนฟิลเตอร์ด้วยครับ ของบางยี่ห้อแพงมากครับ
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 234
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1038



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 11:16:02 PM »

ขอข้อมูลเพิ่มหน่อยครับ........
  1. น้ำดิบก่อนที่จะผ่านเครื่องกรองท่านใช้น้ำจากไหนครับ
  2. วัตถุประสงค์ที่จะนำน้ำที่กรองแล้วไปใช้
  3. ปริมาณการใช้ที่ต้องการ (กี่ลิตรต่อนาที,  หรือต่อชั่วโมง  หรือต่อวัน)
เพื่อจะได้จัดได้ใกล้เคียงกับความต้องการครับ......
บันทึกการเข้า

ขอเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 924
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9042



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 07:27:31 AM »

ตอบท่านชอฯนะครับ....

-ใช้น้าประปาครับ
-เอาไปดื่มครับ
-อืมม....สาหรับคน5-6คนครับ ปริมาณการกรองค่อชั่วโมงไม่ได้เน้นครับ....กรองแล้วเก็บไว้ดื่มอย่างเดียวครับ....

เรื่องตอนนี้คือว่าจะเลือกระบบไหนดีน่ะครับระหว่างROกับUV
บันทึกการเข้า

ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ..
"ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 07:54:20 AM »


        เรื่องเครื่องกรองน้ำไม่ทราบครับน้า  .....   แต่อยากทราบว่าไปนู่นเมื่อไหร่รอจนเปรี้ยวปากแล้ว   อิอิ

บันทึกการเข้า

                
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 08:58:35 AM »

การใช้น้ำประปาที่ต่อตรงจากท่อ  ทำให้เครื่องกรองอุดตันง่าย  เพราะเวลาซ่อมท่อน้ำโคลนจะเข้าเครื่อง  ควรใช้น้ำที่พักในถัง  ส่วนเครื่องกรองแบบไหนนั้น  ควรเลือกจากบริษัทที่มีชื่อเสียง  ปัจจุบันนิยมแค่กรองแล้วผ่านรังสียูวี.ก็พอเพราะปัจจุบันน้ำประปาดื่มได้(ถ้ากล้าดื่ม)   ผมเลิกใช้แบบคาร์บอนกับเรซิ่นหลายปีแล้วครับ    สู้เปลี่ยนใส้กรองกับหลอดยูวี.ไม่ได้ดูดีกว่า(แต่แพงกว่า)
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
Earthworm
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 211
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1359


« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 09:20:58 AM »



      คำแนะนำจากคนเป็นนิ่วครับ   ถ้าต้นทาง(เป็นประปา)แล้ว น่าจะอยู่ที่ความชอบครับ ลองชิมดูว่าแบบไหนที่รสชาติถูกใจกว่าก็เลือกแบบนั้น เพราะเท่าที่คุยกับคุณหมอและเพื่อนๆที่ทำแล็ป(ตู้ขายน้ำดื่ม) ส่วนมากแล้วระบบกรองจะสะอาดใกล้เคียงกัน แต่พวกเชื้อโรคมักจะเกิดหลังจากผ่านการกรองแล้วทั้งนั้นครับ เช่นพวก แบคทีเรียต่างๆมักจะเกิดตอนที่น้ำนิ่งๆค้างอยู่ในท่อกรองครับ ถึงได้มีการแนะนำให้เปิดเครื่องทิ้งน้ำก่อนที่จะนำน้ำมาใช้  ส่วนถ้ามีคนในบ้านมีอาการนิ่วแบบผม ก็ขอให้เลือกแบบที่กรองพวกสิ่งแปลกปลอมได้เล็กที่สุดครับ  มิฉะนั้นมันอาจไปจับกับเม็ดที่มีอยู่เพิ่มขนาดได้ครับ ไหว้


               อันนี้เล่าให้ฟังขำๆครับ เมื่อหลายปีก่อนจำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือพิมพ์  มีพวกเซลล์ขายเครื่องกรองแบบเดินเคาะประตูบ้าน มั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องที่ตัวเองขายมาก ขนาดที่ว่าเอายาฆ่าหญ้า(ขอสงวนยี่ห้อนะครับ)ละลายน้ำ แล้วกรองออกมาดื่มโชว์ลูกค้าครับ ผลที่ได้ก็คือ......................................





                     .....................................................ชักตาตั้งครับ หามส่งโรงพยาบาลกันจ้าละหวั่น แต่จำไม่ได้แล้วว่าตายหรือเปล่า ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า
sathu 28
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 165
ออฟไลน์

กระทู้: 480



« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 10:05:11 AM »

กรองชนิดอะไรก็ตามครับ  ต้องหมั่นดูแลรักษา  เปลี่ยนใส้กรอง  ก่อนกำหนด  ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำดิบ  ประปาบ้านเรานี่  น่ากลัวมากครับ  หินปูนเยอะมาก 
Ro reverse osmosis นี่ก็ดีครับ  แต่ไม่รู้ว่าพอเป็นระบบเล็กๆแล้วจะมีประสิทธิภาพจริงหรือเปล่า  แต่ในระบบใหญ่ๆ นี่ไม่มีค่านำไฟฟ้าเลย 
ถ้าจะให้ดีครับลองติดเสร็จแล้วเอาน้ำไปตรวจที่กองวิทยาศาสตร์บริการ เดี๋ยวนี้น่าจะมีที่อื่นอีก  ลองให้เขาตรวจดู

เครื่องกรองน้ำสำคัญที่สุดคือดูแลรักษา  หมั่นตรวจดูคุณภาพน้ำ  มีน้ำยาหยอดตรวจไม่รู้ว่ามีขายทั่วไปหรือเปล่า  สมัยก่อนขายเครื่องกรองน้ำ  ต้องพกน้ำยาไปเทสบ้างเอาตัวอย่างกลับมาตรวจบ้าง

pure  ก็ดีครับเดี๋ยวนี้เห็นมีศูนย์เต็มไปหมด  หาอะไหล่ง่าย  ว่าจะมาขายมั่งอยู่เหมือนกัน
บันทึกการเข้า
wag the dog
Full Member
***

คะแนน 151
ออฟไลน์

กระทู้: 148



« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 12:32:57 PM »


  อันนี้เล่าให้ฟังขำๆครับ เมื่อหลายปีก่อนจำได้ว่าเคยอ่านในหนังสือพิมพ์  มีพวกเซลล์ขายเครื่องกรองแบบเดินเคาะประตูบ้าน มั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องที่ตัวเองขายมาก ขนาดที่ว่าเอายาฆ่าหญ้า(ขอสงวนยี่ห้อนะครับ)ละลายน้ำ แล้วกรองออกมาดื่มโชว์ลูกค้าครับ ผลที่ได้ก็คือ......................................
  .....................................................ชักตาตั้งครับ หามส่งโรงพยาบาลกันจ้าละหวั่น แต่จำไม่ได้แล้วว่าตายหรือเปล่า ตกใจหน้าซีด

ha ha ยาเขาดีขอรับ  แต่เครื่องกรองยี่ห้อนี้ไม่ดี อย่าไปซื้อ 5555
บันทึกการเข้า

ข อ ก รู เ ท่ นิ ด นึ ง (・ω・`)ノ  ปชป.= ปรีดี / ส ป ก / ปรส. / ปลากระป๋อง /  ประปา / ปุ๋ย  ha  ha ชุมชนแพงเพียบ  เหอ เหอ ไอ้เด็กมันโกงกันเอง  โพ้มม่ายเกี่ยว อิอิ
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 234
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1038



« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 02:06:07 PM »

หลักการของเครื่องกรองน้ำทั่วไป (ยกเว้นระบบ RO) คือใช้ตะแกรงขนาดตาเล็กมากๆ ดักอนุภาคที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ  ดังนั้นถ้าสิ่งแปลกปลอมละลายมากับน้ำ  เช่น เกลือ  น้ำตาลทราย  วิสกี้ ฯลฯ  จะกรองไม่ได้
เครื่องกรองระบบ Reverse Osmosis ใช้หลักการกรองเลียนแบบการดูดซึมอาหารของเซลพืช (การกินอาหารของพืชใช้การดูดซึมแร่ธาตุที่ละลายน้ำผ่านเยื่อผนังเซลโดยกักน้ำไว้ด้านนอก  แต่การกรองแบบ R O  ใช้การดูดซึมน้ำผ่านเยื่อกรองโดยกักแร่ธาตุ และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ไว้ด้านนอก) ดังนั้นโดยทฤษฎีแล้ว การกรองโดยระบบ RO จะได้น้ำบริสุทธิ์ 100 %  ดังนั้นสิ่งที่เป็นจุดสังเกตุของระบบนี้ก็คือ  1. จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการกรอง  และ 2. จะต้องมีน้ำส่วนหนึ่ง (ประมาณ 50%) ที่จะต้องปล่อยทิ้งไป
      เท่าที่ผมเคยมีประสบการณ์กับเครื่องกรองน้ำระบบ RO ที่ใช้ในบ้านหลายยี่ห้อ ประสิทธิภาพการกรองเกิน 99.9% ทั้งนั้นแหละครับ  หัวใจของเครื่องกรองระบบ RO ก็คือเยื่อกรอง (Membrane) ซึ่งเท่าที่ผมทราบมีผู้ผลิตแค่ 2 ราย คือ ดูปองท์ กับ ดาวคอรริ่ง  ส่วนที่ใครจะสั่งเมมเบรนมาจากโรงงานใด แล้วมาออกแบบ ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ผลิตขายติดยี่ห้อของตัวเองเข้าไปก็แล้วแต่กึ๋นของแต่ละรายแล้วละครับ.......
      อ้อ...ขอหมายเหตุเพิ่มเติมนะครับ..... เครื่องกรองน้ำบางยี่ห้อก็คล้ายๆ กับวงการค้าปืนเหมือนกันนะครับ...... ไส้กรองผลิตจากดาวพฤหัสฯ  ตัวถังผลิตจากเหล็กดาวอังคาร  หลอดยูวีมาจากใจกลางดวงอาทิตย์........ก็ฟังหู ไว้หู นะครับ.....
บันทึกการเข้า

ขอเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 924
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9042



« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 02:59:33 PM »

หลักการของเครื่องกรองน้ำทั่วไป (ยกเว้นระบบ RO) คือใช้ตะแกรงขนาดตาเล็กมากๆ ดักอนุภาคที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ  ดังนั้นถ้าสิ่งแปลกปลอมละลายมากับน้ำ  เช่น เกลือ  น้ำตาลทราย  วิสกี้ ฯลฯ  จะกรองไม่ได้
เครื่องกรองระบบ Reverse Osmosis ใช้หลักการกรองเลียนแบบการดูดซึมอาหารของเซลพืช (การกินอาหารของพืชใช้การดูดซึมแร่ธาตุที่ละลายน้ำผ่านเยื่อผนังเซลโดยกักน้ำไว้ด้านนอก  แต่การกรองแบบ R O  ใช้การดูดซึมน้ำผ่านเยื่อกรองโดยกักแร่ธาตุ และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ไว้ด้านนอก) ดังนั้นโดยทฤษฎีแล้ว การกรองโดยระบบ RO จะได้น้ำบริสุทธิ์ 100 %  ดังนั้นสิ่งที่เป็นจุดสังเกตุของระบบนี้ก็คือ  1. จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการกรอง  และ 2. จะต้องมีน้ำส่วนหนึ่ง (ประมาณ 50%) ที่จะต้องปล่อยทิ้งไป
      เท่าที่ผมเคยมีประสบการณ์กับเครื่องกรองน้ำระบบ RO ที่ใช้ในบ้านหลายยี่ห้อ ประสิทธิภาพการกรองเกิน 99.9% ทั้งนั้นแหละครับ  หัวใจของเครื่องกรองระบบ RO ก็คือเยื่อกรอง (Membrane) ซึ่งเท่าที่ผมทราบมีผู้ผลิตแค่ 2 ราย คือ ดูปองท์ กับ ดาวคอรริ่ง  ส่วนที่ใครจะสั่งเมมเบรนมาจากโรงงานใด แล้วมาออกแบบ ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ผลิตขายติดยี่ห้อของตัวเองเข้าไปก็แล้วแต่กึ๋นของแต่ละรายแล้วละครับ.......
      อ้อ...ขอหมายเหตุเพิ่มเติมนะครับ..... เครื่องกรองน้ำบางยี่ห้อก็คล้ายๆ กับวงการค้าปืนเหมือนกันนะครับ...... ไส้กรองผลิตจากดาวพฤหัสฯ  ตัวถังผลิตจากเหล็กดาวอังคาร  หลอดยูวีมาจากใจกลางดวงอาทิตย์........ก็ฟังหู ไว้หู นะครับ.....


ขอบคุณมากครับท่านชอฯและท่านอื่นๆ....

ผมเจอยี่ห้อหนึ่งสามหมื่นกว่าๆ......แต่ดูไปดูมาก็ไม่ต่างจากหมื่นกว่าๆ......
บันทึกการเข้า

ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ..
"ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 234
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1038



« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 18, 2009, 03:16:20 PM »

มีเรื่องเล่าให้ฟัง....ขำ ขำ นะครับ....
     ผมอยู่ที่ต่างจังหวัด ก็เคยมีเซลขายเครื่องกรองน้ำตามบ้านมาเสนอขายถึงบ้านเหมือนกัน.... บังเอิญว่าเขามาถึงบ้านผมตอนมันเลยแดดร่ม....ลมตก...ไปแล้วนะซิครับ......
     เขาก็มั่นใจในคุณภาพสินค้าของเขามาก...... เพื่อน(ร่วมวง)ของผมก็เลยเสนอว่าให้ทดสอบผลิตภัณฑ์......คนขายก็ตกลง........
     เพื่อนผมก็จัดแจงยกกระติกน้ำแข็งใบใหญ่ที่มีก๊อกเปิดน้ำมาวาง.......ใส่น้ำแข็งเต็มกระติก......เทวิสกี้(เรียกให้หรูไปงั้นแหละ.....ยี่ห้อแม่โขง.....อายุ 10 กว่าปี) ลงไป เทโซดาผสม  ต่อท่อยางจากกระติกผ่านเครื่องกรอง....แล้วเราก็เปิดผ่านเครื่องกรองลงแก้ว.....คนขายก็ต้องทดลองสินค้าตัวเองด้วย.........
     ผล.....กลิ่น....รสชาด....เจือจางลงจริง  แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ไม่ลดหรอกครับ...... เพราะน้องคนขายน่ะหลับอยู่ข้างเครื่องของเขานั่นแหละครับ..........
     หมายเหตุ.....เครื่องกรองแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบ RO นะครับ
บันทึกการเข้า

ขอเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป
ลุงโย
Full Member
***

คะแนน 14
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 121



« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2009, 07:10:10 PM »

ผมลองให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับเครื่องกรองน้ำที่เห็นขายสำหรับใช้ตามบ้านนะครับ
1.) ความหมายของศัพท์เท่าที่นึกออกก่อนก็แล้วกันครับ
    UV = Ultra Violet ก็คือแสงยูวีสำหรับฆ่าเชื้อครับ ไม่เกี่ยวกับการกรอง
    Ozone = โอโซน นี่ก็ใช้ฆ่าเชื้ออย่างเดียวเหมือนกัน
    Carbon = คาร์บอนหรือถ่านนั่นเอง มีหน้าที่ดูดพวกสารปนเปื้อนในน้ำเช่น คอรีน กลิ่น หรือสี ที่ปนมาในน้ำ
    RO = Reverse Osmosis ซึ่งเป็นวิธีทำให้น้ำบริสุทธิ์ขึ้นโดยใช้ไส้กรองRO (หมายความว่าดีขึ้นกว่าก่อนกรองนะครับ ซึ่งRO สามารถทำน้ำให้ดีได้จนถึงผลิตยาฉีด
              ก็มีครับขึ้นอยู่กับระบบและชนิดไส้กรองRO)
    Resin = เรซิน ปกติจะเป็นชนิด cation คือทำให้น้ำหายกระด้างเท่านั้นครับ (จับพวกประจุ+  ดังนั้นมันจึงไม่จับคลอรีนในน้ำประปานะครับ(ไม่มีประจุ))
    Ceramic = เป็นไส้กรองอีกชนืดหนึ่งซึ่งมีรูพรุนเล็กมาก ขนาดเป็นไมครอน กรองเชื้อได้(1ไมครอน ก็ประมาณ 1 มม. แบ่งเป็น 1พันส่วนแหละครับ )

2.) ดังนั้นถ้าเริ่มต้นด้วยน้ำประปา ถ้าจะใช้เครื่องกรองก็ต้องใช้แบบมีไส้กรองคาร์บอน (คลอรีนในน้ำประปาถ้าเอามาต้นหรือทำกับข้าวที่ต้องใช้ความร้อน
ทำให้เกิดมะเร็งได้ครับ) ซึ่งคาร์บอนที่ใช้ก็มีหลายแบบครับ บางชนิดอัดแน่นสามารถกรองสารที่แขวนลอยในน้าได้ด้วย แต่บางชนิดเป็นเกล็ดหรือเม็ดอย่างนี้ได้แค่
ดูดจับคลอรีนหรือสีหรือกลิ่นเท่านั้น ส่วนเรซินสำหรับน้ำประปาที่สะอาดจริงๆไม่จำเป็นเท่าไหร่ครับ เพราะข้อกำหนดของไอออนของการประปาอยู่ในเกณฑ์ที่ดื่มได้อยู่แล้ว
แต่สุดท้ายต้องมีการกำจัดเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำหรือฝังตัวแล้วเติบโตอยู่ที่ผิวของคาร์บอนหรือเรซินเอง     ซึ่งจะใช้ UV หรือ RO หรือ Ceramic ก็แล้วแต่จะเลือกครับ
ยังไงก็ดูที่น่าเชื่อถือหน่อยก็ดีครับ

3.) ถ้าเป็นน้ำบาดาล อันนี้ยากครับ เพราะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีแร่ธาตุตัวไหนเจือปนอยู่บ้าง มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้เลือกสารกรองที่เหมาะสม (ขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ
แต่ถ้าบ้านใครเป็นน้ำบาดาล เครื่องกรองที่ขายใช้ตามบ้าน ซื้อไปใช้เลยไม่ได้นะครับ น้ำผ่านแค่ครั้งเดียว ทั้ง คาร์บอน เรซิน RO อาจหมดสภาพไปเลยก็ได้)
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2009, 07:27:38 PM »

เรื่องอะไหลก็สำคัญครับ เช่น พวกหลอด UV หรือใส่กรองต่าง ๆ  ดูอายุการใช้งานและค่าอะไหล่ด้วยครับ  Wink
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 234
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1038



« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2009, 01:10:18 AM »

     ผมจะเปรียบเทียบแบบง่ายๆ นะครับ (อาจจะไม่ถูกต้องนัก แต่ก็พอให้เห็นภาพได้)
     คุณภาพน้ำที่ได้จากเครื่องกรองน้ำแบบทั่วไป เราอาจจะคิดเป็นเปอร์เซนต์ว่าจะลดความสกปรกลงไปได้เป็นกี่เปอร์เซนต์ เช่นกรองได้ถึง 95%.....ถ้าใช้น้ำประปา(โดยเฉพาะประปานครหลวงซึ่งสะอาดมาก)เป็นต้นทาง  น้ำกรองที่ได้ก็สะอาดปลอดภัยแน่นอน....แต่ถ้าเราใช้น้ำสกปรก เช่น น้ำโคลน  น้ำในคลองข้างทำเนียบฯ  หรือ น้ำทะเล เป็นต้นทาง  น้ำกรองที่ได้โคลนหายไป 95%แต่สีก็ยังขุ่นอยู่  สีดำๆกลิ่นเหม็นๆลดไป 95% แต่ก็ยังมีกลิ่นอยู่  ถือว่ายังคงไม่สะอาด ไม่ปลอดภัย  แล้วก็ยังเค็มอยู่ 100% เพราะกรองไม่ได้.......แล้วก็น้ำต้นทาง 10 ลิตร เราก็จะได้น้ำกรอง 10 ลิตร
      ส่วนคุณภาพน้ำที่ได้จากเครื่องกรองน้ำระบบ RO นั้น  ไม่ว่าน้ำต้นทางจะเป็นอย่างไร  น้ำกรองที่ได้จะเป็นน้ำจืด สะอาดมากๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำโคลน  น้ำเน่า  หรือน้ำทะเล  ก็จะได้น้ำกรองที่สะอาด บริสุทธิ์เกือบ 100 % เท่ากันหมด  ส่วนที่แตกต่างก็คือ ถ้าน้ำต้นทางเป็นน้ำประปา  เมมเบรนที่ใช้กรองก็จะมีอายุการใช้งานยาวนาน  น้ำต้นทาง 10 ลิตร อาจจะได้น้ำกรองถึง 7 - 8 ลิตร  แต่ถ้าน้ำต้นทางเป็นน้ำสกปรก เมมเบรนก็จะอายุสั้น (แพงมากๆ ด้วย)  แล้วน้ำต้นทาง 10 ลิตร อาจจะได้น้ำกรองแค่ 1 ลิตร.............
      แล้วที่ท่านไดเมียว บอกว่าเครื่องราคาต่างกันเกือบ 3 เท่า แต่ดูหน่วยก้านใกล้เคียงกันนั้น.......ลองถามราคาอะไหล่เมมเบรนดูสิครับ.......ผมเคยเจอ  2 ยี่ห้อ ราคาเครื่อง และอะไหล่ต่างกัน 4 เท่า แต่เหมือนกันเปี๊ยบ แถมใช้แทนกันได้ด้วย  เอาเมมเบรนของตัวแพงไปใส่ตัวถูก เอาของตัวถูกไปใส่ตัวแพง ผลที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิมคือกรองได้สะอาดเท่ากัน.......แล้วก็ยังมีแบบราคาเครื่องต่างกันประมาณ 2.5 เท่า แต่ราคาอะไหล่เมมเบรนเท่ากันก็มี.........ที่ให้เน้นราคาเมมเบรนเป็นหลักก็เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดนะครับ  ส่วนอะไหล่ตัวอื่นๆนั้นไม่น่ากลัวครับ ถึงไม่มีขาย แต่ช่างไทยทำได้สบายมากครับ.......
      ดังนั้นความเห็นของผมก็คือ เลือกระบบ RO ครับ.......ใช้ชนิดราคาถูกที่สุด(ไม่ต้องมี UV  ไม่ต้องมีโอโซน ไม่ต้องมีไส้กรองเรซิน  คาร์บอน หรืออื่นๆ ให้รกรุงรัง)  แล้วก็ราคาเมมเบรนอะไหล่ถูก  หาซื้อได้ง่าย และมีขายตลอดไป (กลัวตรงที่ไม่มีเปลี่ยนนี่แหละครับ  เพราะว่าถึงแม้ว่าจะใช้น้ำประปาเป็นต้นทาง ก็จะต้องเปลี่ยนเมมเบรนทุก 1.5 - 2 ปี ตามกำหนดของผู้ผลิตนะครับ) ........ขอให้โชคดีในการเลือกครับ.........
บันทึกการเข้า

ขอเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 22 คำสั่ง