ตำรวจเขาไม่ฟังเราหรอกครับ...
หากจะพูดว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่ฟังแม้จะอ้างป้องกันคงไม่ได้ครับ
ในกรณีใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายนั้น เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องดำเนินคดีกับเราทุกกรณี
ส่วนเหตุที่กระทำไปเพราะป้องกันนั้น เป็นเหตุตามกฏหมายที่ให้สิทธิผู้กระทำความผิด ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาล แสดงเหตุที่ยิงนั้นเพราะป้องกันจำเป็น หรือบันดาลโทสะ เพื่อให้ศาลยุติธรรมวินิจฉัยว่าการยิงคนร้ายหรือคนอื่นนั้น ไม่เป็นความผิด หรือเป็นความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ หรือต้องรับโทษน้อยกว่าที่กฏหมายกำหนด
ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่ใช่ผู้วินิจฉัยในส่วนนี้ และไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่าผู้ป้องกัน ป้องกันจริงหรือไม่ เกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะเป็นอำนาจของศาลยุติธรรมโดยเฉพาะ
แต่ในกรณีนี้ พนักวานสอบสวนจะทำการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมถึงเหตุการณ์ เพื่อประกอบสำนวนคดี
ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจะสอบคำให้การจากเรา ซึ่งเราสามารถชี้แจงเหตุแห่งการยิง และสามารถนำพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนได้ เพื่อประกอบในการต่อสู้คดีต่อศาลต่อไป
หากการกระทำของท่านเป็นป้องกันจริงๆ ผมเชื่อว่าพนักงานสอบสวน จะทำการสอบพยานทั้งหมด และสอบคำให้การของท่านในฐานะสุจริตชนอย่างเต็มที่ครับ
ส่งผลให้ท่าน ไม่ต้องเหนื่อยในการต่อสู้คดีในชั้นศาลมากกว่าครับ
ก่อนอื่นขอให้ท่านไปอ่านกระทู้ที่ปักหมุดไว้ก่อนเรื่องป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นความรู้ไว้ก่อน
ถ้าข้อเท็จจริงในการรวบรวมพยานหลักฐานฟังได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รวบรวมพยานหลักฐาน มีอำนาจสั่งไม่ฟ้อง นะครับ
ไม่ใช่สักแต่ว่า ฟ้อง ๆๆๆๆ
แต่ในขั้นต้น ต้องแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น ไว้ก่อน
แต่ถ้าสอบสวนได้ความว่าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ก็สั่งไม่ฟ้องไป