อาจจะมีบ้างไหมครับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสำนวนสอบสวนจากการสอบพยานหลักฐานทั้งหมด แล้วฟังว่าเป็นป้องกันตัว จึงสั่งไม่ฟ้อง
รวมถึงกรณีของพนักงานอัยการด้วย
ทำให้เรื่องไม่ต้องถึงศาลยุติธรรม.
ในส่วนการทำงานของพนักงานสอบสวนนะครับ สมมติมีเหตุยิงกันตายแม้ฝ่ายคนยิงจะเป็นการยิงเพื่อ
ป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายก็ตาม ( ซึ่งการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายมีเงื่อนไขที่ต้องนำมา
พิจารณาหลายประการ แต่ในกรณีขอตัดตอนไปก่อนโดยฟังว่าเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายนะครับ )
พนักงานสอบสวนก็จะตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน ซึ่งอาจมีการจับกุมตัวไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่
กับเงื่อนไขทางกฎหมายบางประการครับ ( ขออนุญาตไม่อธิบายนะครับเดี๋ยวจะยาว ) จากนั้นพนักงานสอบสวน
ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงในคดีแล้วสรุปสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการพร้อมกับความเห็นว่าควร
สั่งฟ้องหรือไม่ ( ขอย้ำว่าความเห็นเท่านั้น ) หลังจากนั้นเมื่อพนักงานอัยการได้รับสำนวนแล้วก็จะพิจารณาพยาน
หลักฐานในคดีว่าเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากเห็นว่าเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย
พนักงานอัยการก็จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง ( เป็นคำสั่งแล้วนะครับ ต่างกับพนักงานสอบสวนที่แค่มีความเห็น ) แล้วเสนอคำสั่ง
ไม่ฟ้องไปยัง ผบ.ตร. ( กรณีคดีเกิดในกรุงเทพมหานคร ) หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ( กรณีคดีเกิดในต่างจังหวัด ) เพื่อ
เห็นชอบ หาก ผบ.ตร. หรือ ผู้ว่าราชการ เห็นชอบคำสั่งนั้นก็เป็นที่สุด หากไม่เห็นชอบก็ต้องเสนออัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาด
ความเห็นแย้งต่อไป คำสั่งของอัยการสูงสุดให้เป็นที่สุดครับ ซึ่งในกรณีที่มีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดแล้วเนี่ยคดีก็จบที่ชั้น
พนักงานอัยการโดยไม่ต้องฟ้องศาลครับ
ซึ่งในทางปฏิบัติของพนักงานอัยการ ตอนที่ผมเคยรับราชการอยู่ที่จังหวัดปัตตานีเคยมีกรณีคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านอาสาสมัคร
ทหารพรานประมาณ ๓ - ๔ คน ซึ่งหลักฐานในที่เกิดเหตุพบมีด และขวดน้ำมันเบนซินอุดปากขวดด้วยผ้าชุ่มน้ำมัน คนร้ายงัด
ประตูบ้านเข้ามา เจ้าของบ้านก็เลยใช้ปืนอาก้าประจำตัวยิงคนร้ายตายไป ๑ คน เจ็บสาหัสอีก ๑ คน อีก ๒ คนหนีไปได้
( พ่อของเจ้าของบ้านเคยถูกคนร้ายบุกเข้ามาฆ่าและจุดไฟเผาด้วยครับ แต่เป็นบ้านคนละหลังกัน ) ผมก็เลยสั่งไม่ฟ้องไป ซึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เห็นชอบครับ นอกจากคดีนี้แล้วก็มีคดีอื่นที่ใช้อาวุธปืนยิงป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งพนักงานอัยการ
ก็สั่งไม่ฟ้องเช่นกันครับ
สำหรับสุจริตที่มีปืนไว้เพื่อป้องกันตัวภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด กฎหมายย่อมให้ความยุติธรรมอยู่แล้วครับ ยังไงก็ขอให้สบายใจได้นะครับ