เป็นข่าวเล็ก ๆ ไปเมื่อวันก่อน แต่นี่น่าจะเป็นข่าวดี-น่าจะเป็นข่าวใหญ่ของผู้ที่ ตกงาน-ว่างงาน
ที่กำลังสนใจอาชีพที่ถือ ว่าเป็นโครงสร้างที่สำคัญของประเทศไทย นั่นก็คือ อาชีพเกษตร กรรม
หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกำลังมีโครงการ ให้ความรู้
ที่สำคัญคือ ให้ที่ดินทำการเกษตร กว่า 3,700 ไร่ !!
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
และกระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรง
งาน ได้มีการลงนามความร่วมมือในโครงการสร้างโอกาสเข้าสู่ที่ดินทำกินรองรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง
และผู้สำเร็จการศึกษาที่หางานทำไม่ได้ ซึ่งโครงการนี้จะเน้นการจัดที่ดินเพื่อการทำอาชีพเกษตรกรรม
ควบคู่กับการสร้างอาชีพในรูปแบบนิคมหรือการรวมตัวกันผลิตโดยเน้นการพึ่งพาตนเองได้ตามหลัก
ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งนี้ ที่มาที่ไปและรายละเอียดโครงการนี้ เฉลิมพร พิรุณสาร เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุว่า... จากสภาวะ
เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ส่งผลให้แรงงานไทยในภาคอุตสาหกรรมและบริการต้องตกงานไม่น้อยกว่า
1.5-1.6 ล้านราย โดยแรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่จะกลับคืนถิ่นฐาน ซึ่งภาคเกษตร กรรมมีศักยภาพใน
การที่จะ รองรับแรงงานคืนถิ่น และผู้สำเร็จการศึกษาที่ว่างงาน ให้มีอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคง
ต่อไปในอนาคตได้
การดำเนินการในเรื่องนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้รับมอบนโยบายจากรัฐบาลให้
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการบ่มเพาะแรงงานคืนถิ่นเขตปฏิรูปที่ดิน ระหว่างปี
2552-2553 โดยมีเป้าหมายสร้างเกษตรกรที่มีภาวะผู้นำ มีความคิดริเริ่ม พร้อมรับเทคโนโลยี
การเกษตรตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ และ คุ้มครอง
พื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ด้วย
จะมีการอบรมให้ผู้เข้าโครงการ โยจะเน้นการสร้างและเพิ่มพูนทักษะด้านเกษตรกรรม ซึ่งขึ้นอยู่กับความ
ต้องการของเกษตรกรเป็น หลัก ทั้งการปลูกพืชผักผลไม้ เลี้ยงสัตว์ และทำประมง ให้เรียนรู้ทั้งภาค
ทฤษฎีและฝึกปฏิบัติจริงที่แปลงเกษตรกรรมในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียง
สำหรับพื้นที่ที่จะถูกจัดสรรให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่กลุ่มนี้ เบื้องต้น มีการกำหนดนำร่องไว้ประมาณ 3,752 ไร่
ใน 23 จังหวัด ประกอบ... เชียงใหม่, เชียงราย, นครสวรรค์, พะเยา, เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์, กาฬสินธุ์,
นครพนม, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, หนองคาย, อุบลราชธานี, สระบุรี, ลพบุรี, ชัยนาท, สุพรรณบุรี,
กาญจนบุรี, ปทุมธานี, จันทบุรี, ระยอง, ฉะเชิงเทรา, สุราษฎร์ธานี
และก็จะมี นิคมเศรษฐกิจพอเพียง ทำการอบรมให้
เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุอีกว่า... ขณะนี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้เริ่มทยอยดำเนินการรับผู้ที่
ตกงานและบัณฑิตจบใหม่ แล้ว โดยหลังจากกรมการจัดหางานได้คัดเลือกและจัดส่งบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการ
คัดเลือกส่งมาให้ ทาง ส.ป.ก.ก็จะนำเข้าสู่กระบวนการอบรมระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้า
สู่อาชีพเกษตร ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินฯประจำจังหวัด
การฝึกอบรมในศูนย์เรียนรู้ใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน ซึ่งระหว่างการอบรมจะได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์การ
ประกอบอาชีพ พร้อมจ่ายเบี้ยเลี้ยงแก่ทุกคนด้วย และเบื้องต้นจะจัดสรรที่ดินให้ผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าทำกิน
รายละประมาณ 3-5 ไร่ แต่ไม่เกิน 10 ไร่ โดยจะอนุญาตให้ทดลองเข้าใช้ประโยชน์ชั่วคราวเป็นเวลา 2 ปี
ก่อนจะประเมิน ให้ทำกินอย่างถาวรต่อไป
เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกงาน-ว่างงาน เป็นวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเลขาธิการ ส.ป.ก.
บอกเพิ่มเติมว่ายังมีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งซึ่งก็สำคัญเช่นกัน กล่าวคือ... นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือบรรเทา
ความเดือดร้อนของผู้ที่ถูกเลิกจ้างหรือผู้ที่เรียนจบแต่ไม่มีงานทำแล้ว ยังเป็นการ ผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่
ที่ผ่านมาจนวันนี้ ภาคเกษตรกรรมมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยมาโดยตลอด เป็นทั้งแหล่ง
รองรับอาชีพของประชากรส่วนใหญ่ ของประเทศ เป็นทั้งแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของประเทศและของโลก
ด้วย ซึ่งถึงแม้จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ทุกภาคการผลิตได้รับผลกระทบ แต่ภาคเกษตรก็ยังเป็นฐานการ
ผลิตที่ช่วยกอบกู้และบรรเทาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศได้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตสถานการณ์อาจไม่เป็น
เช่นนี้
เพราะ...ปัจจุบันผู้ประกอบอาชีพด้านการเกษตรมีจำนวนน้อยลงเหลือเพียงร้อยละ 40 และในอนาคตอันใกล้
อาจจะเหลือเพียงร้อยละ 30 ขณะที่อายุเฉลี่ยของเกษตรกรจะสูงขึ้น คือมากกว่า 53 ปี และนับวันจะยิ่งขาด
แรงงานในครัวเรือนภาคเกษตรวัยหนุ่มสาว ที่หันไปสนใจทำอาชีพในภาคอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาคเกษตร
เกษตรกรรุ่นเก่านับวันจะลดน้อยลงไป ซึ่งโครงการนี้จะช่วยสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ทดแทน และยังมีการอบรม
เพื่ออุดช่องโหว่เรื่องการขาดการพัฒนาความรู้และทักษะ ทำให้ไม่มีการปรับปรุงพัฒนา ไม่มีการบริหารจัดการ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ...เลขาธิการ ส.ป.ก. ระบุ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการภาคเกษตรกรรมในตอนนี้
ผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่ มีวิชา-มีที่ทำกิน
เพื่อจะแก้ปัญหาคนตกงาน-สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่
ประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลจะเป็นเช่นไร ? รอดูกัน.
จาก
Click