ทองบาทละ 4-5 พันหน่ะมันตอนที่ผมจะซื้อไปมั่นแฟนผมเมื่อปี 2527 ครับ ตอนนั้นบาทละ 4700 บาท
แต่สมัยเปิดห้างไดมารูปี 2507-2508 ตอนนั้นบาทละ 3 ร้อยกว่า ๆ กำลังจะแตะ 400 บาทครับ ถ้าสมัยนั้นมีเงินเท่ากับตอนนี้และซื้อเก็บไว้ซักหนัก 1000 บาท มาขายบาทละ 15000 บาท คงได้ซัก 1.5 ล้านบาท
ช่วงอ่าน ก้องหล้า สุรไกร เบี้ยเลี้ยงออกบิน วันละ 1,000.-บาท มานั่งนึกไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายต่างบ้านต่างเมือง มันจะคุ้มรึ แต่พออ่านไปอ่านมา ช่วงนั้น ทองบาทละ 300.-บาท
เทียบเท่าตอนนี้ วันละ 50,000.-บาท เอาก็เอาว๊ะ

เรื่องค่าของเงิน เมื่อเทียบกับเงินเดือนมันช้ำใจครับพี่ ไม่ต้องอะไรหรอกพี่ พ่อ-แม่ผม บรรจุเป็นข้าราชการชั้นตรี เงินเดือนแค่ไม่กี่ร้อย (300+-400+) ยังมีชีวิตความเป็นอยู่ ซื้อของ เที่ยวเล่นดูหนังฟังเพลง ได้ดีกว่าลูกชายที่บรรจุในตำแหน่งข้าราชการชั้นโท แต่บรรจุหลังพ่อ-แม่ 30-40 ปี ยังต้องขอยืมเงินพ่อ-แม่มาใช้จ่ายเวลาช๊อตเป็นบางครั้งเลยครับ
แม่ทำงาน 3 เดือน เก็บเงินซื้อทอง ได้ 1 บาท
ลูกทำงานมา 3 ปีกว่า ซื้อได้แต่ทองหยิบ ทองหยอด ฝ่อยทอง ทองม้วน (จริง ๆ เน้นท้องม้วน ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองมันแพงกินไม่ค่อยได้)
พ่อทำงาน 1 เดือน สามารถไปทานเหลา หรือในท์คลับประจำจังหวัดได้ อย่างน้อย ๆ อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
ลูกทำงาน 1 เดือน กินแต่ข้าว แกงถุง โน่นกลับบ้านที่พ่อ-แม่ก็ขุน ด้วยอาหารดี ๆ ซักที่ เพื่อจะได้สะสมไว้ในร่างกาย ไปอดต่อ
คิดเล่น ๆ เงินเดือนพ่อกับแม่ผม ถ้าทำงานแล้วไม่ใช้เงินเลย ซื้อทองได้ ประมาณขั่นต่ำ ก็ประมาณ 1 บาท ส่วนผมถ้าไม่ใช้เงินเลยโดยคิดเงินเดือนตอนบรรจุ (ในอัตราปัจจุบัน) ซื้ออย่างมากได้แค่ 2 สลึง แต่ข้าราชการชั้นตรี กับข้าราชการชั้นโท จะมีขั้นต่างกันอย่างน้อย 6 ขั่นเงินเดือน ครับ
หมายความว่าถ้าพ่อ-แม่ เป็นชั่นโท ก็จะซื้อทองได้ขั่นต่ำ 1 บาท 2 สลึง เทียบกับราคาทองแล้ว คิดกลับไปว่าเป็นค่าเงินในสมัยโน่นผมน่าจะได้เงินเดือนอย่างน้อย 22,500 - 25,000 บาท
