"คุณสน" ..ถ้าคิดอย่างนั่น ผมขออนุญาตคิดต่อน่ะครับ..
ทำไม?เราต้องใช้
สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านล่ะครับ?
ทั้งที่ในระบบทะเบียนราษฎร์ เราก็มีข้อมูลอยู่แล้ว
บ้านเรายังไม่ถึงขั้นรูดปรื๊ด...รูดปรี๊ด แล้วโชว์ทุกอย่างบนหน้าจอด้วยข้อมูลทุกอย่าง
ส่วนการออกกฎหมายต้องไปดูย้อนหลังครับว่า สถานะการ์ณ ณ ขณะนั่นคืออะไร?
และเขาคิดอย่างไร? ถึงมีเจตนากำหนดห้าม พวกไม่มีรายได้และอาชีพ
ให้มีใบอนุญาตซื้ออาวุธปืนได้
ถ้ากลัวว่า ตัวเงินในสมุดบัญชีแยอะมากๆ แล้วกลัวคนอื่นจะรู้ว่าเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง..ก็ว่าไปอีกเรื่องหนึ่งครับ...มีวิธีแก้ครับ? ....
หลักฐานว่าเราตัวจริงครับ เคยฟังนายอำเภอเล่าว่า สมัยก่อนบัตรประชาชนนะกว่าจะได้ก็ใช้เวลานานแสนนาน เพราะต้องส่งไปทำที่ส่วนกลาง บางที่รูปกับชื่อเป็นคนละคน แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีมันก้าวหน้าอย่างที่พี่ว่าครับ อำเภอกดปุ๊บ ฐานข้อมูลทะเบียนราฎก็โผลปั๊บ..............บอกหมดว่าหน้าตาเราเป็นยังไง ลายนิ้วมือถูกต้องหรือไม่ ฯลฯ ที่ผมตั้งโจทย์แบบนี้ก็เพราะเคยมีการพูดคุยกันว่า เรื่องรายได้นั้น จริง ๆ แล้วเรามีหลักฐานของทางราชการที่สามารถยืนยันได้ว่า เราคือผู้มีอาชีพ และมีรายได้ ปัญหาคือวิธีปฏิบัติแทนที่จะมองว่า ประชาชนที่ไปยืนขอต้องเตรียมเอกสารไปพิสูจน์เรื่องที่ราชการกำหนดไว้ จริง ๆ ควรไปแค่กรอกคำร้อง พร้อมบัตรประชาชน ส่วนที่เหลือราชการควรเป็นผู้ตรวจเช็คจากฐานข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการระบบสารสนเทศ
เช่น ดูว่าเรามีประวัติติดคุกติดตาราง ข้อหาอะไร ก็ประสานให้ ตร.เช็คข้อมูล ราชทัณฑ์ ศาล เป็นต้น
ดูว่าเรามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือไม่ก็ดูจากฐานทะเบียนราฎ
มาถึงคำถามของผม ว่าอาชีพและรายได้ ก็คือการเสียภาษี ครับถ้าคุณมีรายได้คุณก็ต้องกรอกแบบฟอร์ม ภงด. และภาษีอื่น ๆ อีก(ถ้ามี) ก็บูรณาการสิครับ
ส่วนการรับรองความประพฤติ พวกเราเคยพูดกันหลายรอบแล้วว่า การรับรองว่าบุคคลนั้นมีความประพฤติดี แสดงว่าหน่วยงานราชการมองว่า ประชาชนทั่วไปเลว ต้องผ่านการรับรองจากผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ข้าราชการซี 6 ขึ้นไปถึงจะเป็นคนดีได้ (ส่วนข้าราชการนั้น ผมมองว่าการที่ให้ผู้บังคับบัญชารับรองว่าประพฤติเรียบร้อยนี่เป็นการสมควรครับ)
ส่วนเรื่องพิการหรือทุพพลภาพ นั้นถ้าไม่ขนาดมือขาด 2 ข้าง ผมว่าก็ควรจะไม่เป็นข้อห้ามครับ ผู้พิการไม่มีสิทธิป้องกันตัวหรือครับ
ส่วนเรื่องเป็นคนไร้ความสามารถหรือเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหรือปรากฏว่าเป็นคนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ อันนี้ไม่ง่ายครับ คนจิตฟั่นเฟื่อนไม่สมประกอบนี่ บางที่ก็ไม่แสดงอาการครับ อันนี้ผมออกแนวเห็นใจฝั่งนายทะเบียนด้วยซ้ำ ว่าเวลามีกรณี หงิก ๆ หรือกรณีแรมโบ้บุกโรงพัก แล้วใช้อาวุธปืนคนชอบวิจารย์ว่า อนุญาตให้คนจิตใจแบบนี้ได้ไง เพราะเจอนายทะเบียนที่ไปหลงคุยกันคนสติไม่ดีเคยบอกผมว่า กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่งบ้า
ส่วนเรื่องบรรลุนิติภาวะนี่ ยังเห็นด้วยอยู่ครับ แต่ขอให้แยกปืนอัดลมออกจาก อาวุธปืน เพื่อจะได้ให้เยาวชน (ร่วมถึงผู้ใหญ่หัวใจเด็ก) ได้พัฒนาฝีมือ เอาเป็นแค่ต้องไปขึ้นทะเบียนทั้งคนทั้งปืน ก็พอ แล้วต้องควบคุมเรื่องความเร็วของกระสุนด้วยนะครับ
พี่ถามมาสั่น ๆ แต่ผมตอบซะยาว ไม่รู้ว่าตรงประเด็นหรือเปล่า .....